ตอนที่ 6 ออกเดินทางสู่อีสต์บลู
ไม่กี่วันหลังจากการต่อสู้กับลุจจิ ไป๋ซานและอาคาอินุยังคงทำหน้าขอวตัวเองตามเดิม ไม่มีใครพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
หลังจากนั้นไม่กี่วัน จากการช่วยเหลือจากอาคาอินุที่ช่วยฝึกฝน ไป๋ซานก็สามารถฝึกฝนทักษะ6รูปแบบได้ครบทุกท่าจนได้
“เพราะโฮสต์มีทักษะก้าวพริบตาและเดินชมจันทร์ในเวลาเดียวกัน เดินชมจันทร์ถูกบัพมืดครั้งแรกและได้รับบุคุจุตสึ”
เทคนิคการเหาะจากดราก้อนบอล!
เดินชมจันทร์โดยปกติแล้วมันทำได้แค่ก้าวขึ้นไปบนฟ้า ไม่สามารถลอยตัวหรือเคลื่อนที่ไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระ
แต่ด้วยบุคุจุตสึ การเคลื่อนไหวในอากาศก็เหมือนกับปลาว่ายน้ำในน้ำ เคลื่อนไหวได้ดั่งใจ
"เนื่องจากโฮสต์มีทักษะลมปราณและกายากระดาษในเวลาเดียวกัน กายากระดาษถูกบัพมืดครั้งแรกและได้รับทักษะสุดยอดวิชาตัวเบา"
สุดยอดวิชาตัวเบาจากโลกของศิลปะการต่อสู้!
ก้าวเพียงก้าวเดียวก็ไปได้ไกลหลายเท่า ท่าทางอันสง่างาม เคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียวก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้หลายร้อยรูปแบบ...
ตอนนี้เมื่อต่อสู้กับเคนอีกครั้ง เคนจะไม่สามารถแตะได้แม้แต่ชายเสื้อของไป๋ซาน
ไป๋ซานไม่จำเป็นต้องพุ่งหลบ เขาเพียงแค่ต้องเคลื่อนไหวเบาๆเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีในพื้นที่เล็กๆโดยไม่ต้องเปลืองแรง
แต่สิ่งที่ทำให้ไป๋ซานดีใจมากที่สุดคือตอนนี้เขามีท่าโจมตีใหม่นอกเหนือจากใช้นิ้วแล้ว
เพราะตอนนี้เขามีท่า "เท้า"
"เนื่องจากโฮสต์มีทักษะบุคุจุตสึและเท้าวายุ เท้าวายุได้ถูกบัพมืดเป็นครั้งแรกและได้รับทักษะปืนใหญ่เวหา"
ทักษะนี้ทำให้ไป๋ซานยืนใช้ท่าเท้าวายุบนอากาศได้แบบ 360 องศาโดยไม่มีจุดบอด กลายร่างเป็นป้อมปืนมนุษย์ไปในทันที
เมื่อทักษะที่เขามีเหล่านี้ได้รับการอัพเกรดทั้งหมดแล้ว เขาก็ขอฝึกพิเศษจากอาคาอินุในทันที
หลังจากได้รับอนุมัติจากกองบัญชาการกองทัพเรือแล้ว ตอนนี้ไป๋ซานสามารถใช้ที่ถ่วงน้ำหนักที่ทำจากโลหะชนิดพิเศษเพื่อการฝึกฝนได้
โลหะนี้มีความหนาแน่นสูงมาก ดูภายนอกเหมือนเป็นแค่โลหะชิ้นเล็กๆ แต่หนักเกือบตัน
ในขณะนี้ ไป๋ซานมีสองชิ้นแขนและขา และทั้งหมดสิบชิ้นสำหรับลำตัวและเอวของเขา
ด้วยน้ำหนักรวม18,000กิโลกรัม เขายังคงเดินสบายๆราวกับเหาะโดยที่ไม่ทิ้งรอยเท้าหนักๆไว้เลย!
ถ้าเขาไม่ได้ว่ายน้ำต่อหน้าอาคาอินุตอนฝึกหายใจใต้น้ำ
อาคาอินุคงจะคิดว่าไป๋ซานเป็นผู้ใช้พลังผลปีศาจ
อาคาอินุเคยเห็นสมรรถภาพทางกายที่น่าทึ่งแบบนี้จากบางเผ่าพันธ์เท่านั้น
ผ่านไปไม่กี่วัน ในที่สุดไป๋ซานก็สามารถเชี่ยวชาญในทุกทักษะที่ตัวเองมีจนได้
ความแข็งแกร่งของเขาอาจจะไม่ถึงขั้นว่าแข็งแกร่งมาก แต่บอกได้เลยว่าพวกกองทัพเรือในรุ่นราวคราวเดียวกับเขา ไม่มีสู้เขาได้
ตอนนี้ ต่อให้เขาต้องสู้กับลุจจิอีกรอบ เขาก็กล้าตบอกรับประกันเลยว่าเขามีโอกาสชนะอย่างน้อย80เปอร์เซนต์
อาคาอินุยังตระหนักด้วยว่ามีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างความแข็งแกร่งของฮาคุซังกับกองทัพเรืออื่นๆ
วันหนึ่ง อาคาอินุให้กองทัพเรือที่ฝึกกับเขาทั้งหมดขึ้นมาบนเวที
“พวกคุณได้ผ่านการฝึกฝนมาอย่างยาวนานจนกระทั่งตอนนี้”
“ในบรรดากองทัพเรือทั้งหมดที่อยู่รุ่นเดียวกับคุณ พวกคุณถือเป็นหัวกะทิ!”
“วันนี้ฉันจะให้บททดสอบเพื่อประเมินแก่พวกนายทุกคน”
หลังจากเงียบไปสักพัก อาคาอินุก็พูดต่อว่า
"หลังจากการตายราชาโจรสลัด โกล โรเจอร์ บนท้องทะเลแห่งนี้ก็เต็มไปด้วยโจรสลัดที่ก่อความวุ่นวาย ในเดือนหน้า วพวกนายจะได้รับมอบหมายให้ติดตามเหล่านาวาโท เชื่อฟังคำสั่งของพวกเขา และทำลายโจรสลัดให้สิ้นซาก"
"ฉันหวังว่าพวกนายจะกลับมาหาฉันพร้อมกับหัวของพวกโจรสลัดนะ!”
"รับทราบครับ! นายพลอาคาอินุ! ผมจะทำตามความคาดหวังของคุณ! ทำงานหนักเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ!"
ไป๋ชานรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินในตอนแรก จากนั้นเขาก็รู้สึกดีใจมาก
การประเมินแบบนี้เป็นเหมือนเค้กชิ้นหนึ่งสำหรับเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
ตอนนี้เขาคงยังเรียนรู้อะไรเพิ่มที่กองทัพเรือไม่ได้ เพราะงั้นการไปเปิดหูเปิดตาข้างนอกบ้างก็ดีเหมือนกัน
เมื่อคิดแบบนี้ อยู่ดีๆไป๋ซานก็ยกมือขึ้นและพูด
"ขอออนุญาติครับท่านนายพลอาคาอินุ!"
"พูดมา!"
"ผมคิดว่าในฐานะกองทัพเรือที่ต้องเติบโตอย่างแข็งแกร่งนั้น การมีนาวาโทไปด้วยจะไม่สามารถวัดผลอะไรได้ครับ! ดังนั้นผมจึงอยากขอแยกไปประเมินคนเดียว! ผมขอแค่เรือลำเล็กแค่ลำเดียวจากครูฝึก แล้วผมจะกลับมาพร้อมกับค่าหัวของโจรสลัดไม่ต่ำกว่า5ล้านอย่างแน่นอน!”
กองทัพเรือคนอื่นๆพูดอะไรไม่ออกเพราะมีพลเรือเอกอยู่ข้างหน้าเขา แต่ทุกคนคิดเหมือนกัน
ผู้ชายคนนี้กล้าขนาดนั้นเลยเหรอ?
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นหัวกะทิกันทั้งหมด แต่ก็ไม่เคยเห็นเลือดหรือฆ่าใครมาก่อน และเป็นเพียงทหารที่ได้รับการฝึกที่กองบัญชาการกองทัพเรือ
ตอนนี้เมื่อเขาจะต้องเผชิญหน้ากับโจรสลัดจริงๆ เขายังคงมีความกลัวอยู่เล็กน้อย
ในขณะที่ไป๋ซานเลือกที่จะละทิ้งความช่วยเหลือของนาวาโทและไปล่าโจรสลัดคนเดียว?
และโจรสลัดค่าหัว5บ้านเบรีนั้นถือว่าเป็นโจรสลัดที่แจ็งแกร่งพอสมควร
อาคาอินุยิ้มเล็กน้อย และเขารู้ว่าไป๋ซานนั้นแข็งแกร่งมากแน่นอน
ในเมื่อไป๋ซานขอมาแบบนี้ ก็จัดให้ตามคำขอเลยแล้วกัน
"ฉันอนุญาติ ฉันจะเตรียมเรือและแผนที่นำทางสำหรับนายไว้ให้!"
ด้วยความกังวลว่าไป๋ซานจะหลงทางเพราะเดินทางเพียงลำพัง อาคาอินุจึงจัดแผนภูมิการนำทางสำหรับไป๋ซาน
หลังจากนั้นเพียงไม่นาน ไป๋ซานก็ได้รับสิ่งของจำเป็นสำหรับการเดินทาง
"ลาก่อน คุณการ์ปและครูฝึก ผมจะกลับมาให้เร็วที่สุด"
ไป๋ซานนั่งบนเรือโบกมือและเริ่มพายเรือออกจากมารีนฟอร์ด
“ปล่อยให้เขาออกไปคนเดียวจะดีเหรอ?”
หลังจากที่ไป๋ซานออกไป ใบหน้าของการ์ปก็แสดงความกังวลเล็กน้อย
“หืม ไม่ต้องกังวลหรอก ผมเตรียมการเอาไว้แล้ว”
เขาได้ส่งคนไปติดตามอยู่ห่างๆอย่างลับๆแล้ว ถ้าหากว่ามีเหตุฉุกเฉินอะไรเกิดขึ้นกับไป๋ซาน ไม่เพียงแต่คนที่ติดตามเขาอยู่เท่านั้น แต่พวกซีพีจากทุกหนทุกแห่งในบริเวณนั้นๆก็จะช่วยเหลือเขาด้วย
การ์ปยังคงมีความกังวลอยู่เล็กน้อย เขาเดินหันหลังกลับห้องของเขาไป และพูดอะไรบางอย่างกับผู้ช่วยของเขา
ผู้ช่วยพยักหน้าแล้วรีบลงไปเตรียมการ
แน่นอนว่า ไป๋ซานไม่รู้เกี่ยวกับความช่วยเหลืออย่างลับๆเหล่านี้
ในขณะนี้ เขากำลังพายเรือลำเล็กแล่นไปทางฝั่งทะเลอีสต์บลู
เขาตัดสินใจไปดูทะเลอีสต์บลูซึ่งเป็นจุดกำเนิดของราชาโจรสลัดก่อน
โรเจอร์, ลูฟี่, โซโล, นามิ, การ์ป,ดราก้อน...
มีคนบอกว่าทะเลอีสต์บลูนั้นอ่อนแอที่สุด จริงๆ แล้วเป็นเพราะการ์ปมักจะกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดของเขาบ่อยๆ
โจรสลัดที่ต้องการยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งขึ้นในทะเลจีนตะวันออกมีเพียงสองทางเลือกเท่านั้น
คือหนึ่ง คุณมีความเกี่ยวข้องกับการ์ป เช่นเอสหรือลูฟี่ สองคือมีความแข็งแกร่งจนการ์ปทำอะไรเขาไม่ได้
ไป๋ซานเคลื่อนตัวไปทางทะเลอีสต์บลูด้วยความคาดหวังอย่างแรงกล้า
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา หลังโดนแดดเผาจนตัวแทบไหม้มานาน ในที่สุดเขาก็นึกอะไรบางอย่างออก
ให้ตายสิ
เขานึกถึงลูฟี่อยู่ในถังไวน์แล้วลอยไปเรื่อยๆตามกระแสน้ำ ทำให้ฉันคิดว่าตัวเองก็คงทำแบบนั้นได้เหมือนกัน
แต่ผลปรากฏว่าตอนนี้เขาอยู่ส่วนไหนของโลกก็ไม่รู้แล้ว
ฉันคงไม่มาตายกลางทะเลหรอกใช่ไหม?
เมื่อไป๋ซานกำลังขมวดคิ้วอย่างเคร่งเครียด ระบบบัพมืดก็ออกมาทำคุณประโยชน์ให้เขาอีกครั้ง
“โฮสต์ได้หลงทางในขณะที่ครอบครองแผนที่นำทางทางทะเล ความสามารถในการเดินเรือและความสามารถในการดูแผนที่นำทางได้ถูกบัพมืดเป็นครั้งแรก โฮสต์ได้เชี่ยวชาญความสามารถในการระบุทิศทางด้วยการความรู้สึกเมื่ออยู่บนทะเล และสามารถขับเรือทุกลำได้อย่างง่ายดาย ได้รับทักษะสุดยอดการเดินเรือ พร้อมรับมือทุกสถานการณ์อันตรายบนท้องทะเล”
“โฮสต์ได้ขาดน้ำและตากแดดเป็นเวลานาน ความสามารถในการต่อต้านสถานะผิดปกติได้ถูกบัพมืดเป็นครั้งแรก สถานะผิดปกติส่งผลต่อโฮสต์ลดลงอย่างมาก และเพิ่มภูมิคุ้มกันต่อสถานะผิดปกติอย่างมาก”
โอ้ โอเค ฉัน ไป๋ซาน มาแว้วววววววววววว!