ตอนที่แล้ว1253 - เจรจาผลประโยชน์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป1255 - อมิตาภะ 

1254 - ลาก่อนเพื่อนเก่า


1254 - ลาก่อนเพื่อนเก่า

เมฆฝนก่อตัวภายในจงโจว และทันทีที่วิหารบรรพชนปรากฏออกมาก็ทำให้โลกสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ความวุ่นวายกวาดไปทั่วทิศทางไม่มีใครยอมให้เรื่องนี้จบลงง่ายๆ

ผู้บ่มเพาะจำนวนมากตอบสนองอย่างแข็งขันและพร้อมที่จะเดินเข้าไปในวิหารได้ตลอดเวลา แม้ว่าราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่และดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงยังคงหารือกับทุกฝ่ายและยังไม่มีใครถูกกำหนดตัวว่าจะเข้าไปข้างในได้

“ถ้าเจ้าไม่สู้ เจ้าจะไม่มีวันได้รับอะไร”

จักรพรรดิดำได้รวบรวมวัสดุล้ำค่าจำนวนมากเพื่อจารึกค่ายกลระดับจักรพรรดิเพื่อสนองความต้องการของตัวเอง

ต้วนเต๋อเชื่อว่าต้องมีบางสิ่งที่พิเศษในสถานที่นั้น ท้ายที่สุด มันเป็นถึงเส้นเลือดมังกรที่ใหญ่ที่สุดในจงโจว

ในตอนที่เย่ฟ่านวางกับดักเพื่อฆ่าศัตรูทั้งหมดพวกเขาได้ระดมซื้อวัสดุที่แข็งแกร่งมากมายในราคาสูงลิ่ว ดังนั้นค่ายกลที่จักรพรรดิดำสร้างขึ้นมาจึงยังเต็มไปด้วยประสิทธิภาพและแสดงให้เห็นถึงพลังของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ได้อย่างเต็มที่

เมื่อเย่ฟ่านต้วนเต๋อและคนอื่นๆ ปรากฏตัวขึ้นก็ทำให้เกิดเสียงอึกทึกทันที หลายคนยังคงตกตะลึงต่อเหตุการณ์ที่สั่นสะเทือนโลกทั้งใบภายในภูเขาเทียนต้วน

ภายใต้โลหิตที่ไหลนองเป็นท้องธารไม่มีผู้ใดไม่หวาดกลัว การเชื่อมต่อกับจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ยิ่งทำให้สถานะของเย่ฟ่านทรงพลังมากยิ่งขึ้นในสายตาของผู้คนทั่วโลก

แม้แต่เผ่าโบราณที่มีความเกลียดชังต่อเย่ฟ่านอย่างลึกล้ำยังไม่กล้าพูดอะไรเมื่อพวกเขาปรากฏตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีเทียนหวงจื่อไม่กล้าพูดอะไรคนอื่นๆ ยิ่งไม่ต้องการตอแยเย่ฟ่าน

หยวนกู่คืออัจฉริยะรุ่นเยาว์ที่มีพรสวรรค์สูงส่งที่สุดในโลก ไม่ต้องกล่าวถึงเผ่าพันธุ์มนุษย์ แม้แต่ชนเผ่าโบราณก็ยังเชื่อว่าเขาจะกลายเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ได้เป็นคนแรกในยุคนี้

แต่สุดท้ายทายาทของจักรพรรดิหยวนที่ได้ชื่อว่ามีพรสวรรค์มากที่สุดกลับต้องตายอยู่ในมือของเย่ฟ่านภายใต้สายตาของผู้คนนับแสน

“นี่คือ ร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณ แม้ว่าข้าจะไม่มีโอกาสมองเห็นการต่อสู้ภายในภูเขาเทียนต้วน และไม่รู้ว่าเขาใช้อะไรกำจัดผู้คนมากมายแบบนั้น แต่สิ่งนี้ยังคงยืนยันได้ว่าเขาคือหนึ่งในอัจฉริยะที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกอย่างแน่นอน!”

ชื่อเสียงของเย่ฟ่านถูกสร้างขึ้นจากการฆ่าฟัน ไม่มีผู้ใดยินดีที่จะเป็นศัตรูกับคนเช่นนี้

“นี่คือร่างอันศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์หรือ? เขาไม่ได้มีสามหัวหัวแขนเหตุใดผู้คนจึงกลัวเขาถึงขนาดนั้น?” หญิงสาวผู้บอบบางของเผ่าพันธุ์โบราณกล่าวอย่างเย็นชา

“แม้แต่เสมือนจักรพรรดิหุนโถวก็ยังให้ความสำคัญกับเขาเป็นอย่างมาก เด็กน้อยคนนี้ได้ชื่อว่าเป็นอัจฉริยะผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของสวรรค์พิภพอย่างแน่นอน” อีกคนกระซิบด้วยความกลัว

“นับตั้งแต่เขาถือกำเนิดขึ้นมายังไม่เคยต่อสู้พ่ายแพ้แม้แต่ครั้งเดียว คนเช่นนี้เจ้ายังมองว่าเขาอ่อนแออีกหรือ” ชายหนุ่มคนหนึ่งกล่าวด้วยสายตาเข้มงวด

เย่ฟ่านและคนอื่นๆ ต่างก็เชื่อในความสามารถของเขา ดังนั้นพวกเขาจึงใช้ทุกวิถีทางเพื่อส่งเสริมความพร้อมของกลุ่มและเตรียมที่จะเข้าไปข้างในโดยไม่สนใจวิธีการ

“ยังมีวัสดุอีกมากที่จำเป็น ข้ากังวลว่าสิ่งมีชีวิตแปลกๆ จะปรากฏตัวขึ้น เราจำเป็นต้องเตรียมพร้อมมากกว่านี้” ต้วนเต๋อกล่าว

“เรามีต้นกำเนิดสวรรค์มากมายเราสามารถซื้อทุกสิ่งทุกอย่างที่เราต้องการ!” เย่ฟ่านกล่าว และเขาเริ่มรวบรวมวัสดุเหล่านี้ผ่านการเชื่อมต่อต่างๆ

จากนั้นเขาและผังป๋อเริ่มไปเยี่ยมเพื่อนเก่าหลายคนโดยการข้ามความว่างเปล่าอย่างไม่หยุดหย่อน

ทุกคนรู้ดีว่ามีแท่นบูชาห้าสีซุกซ่อนอยู่ในวิหารบรรพชนแห่งจงโจว ดังนั้นพวกเขาอาจจะข้ามความว่างเปล่ากลับบ้านในเวลาใดก็ได้

“ข้าควรจะไปเที่ยวทะเลทรายตะวันตกสักรอบ แต่มันไกลเกินไป และข้าอาจหานางไม่เจอ”

เย่ฟ่านกล่าวกับตัวเอง จากนั้นจึงตัดสินใจจัดการกับบางสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาก่อน

เย่ฟ่านเริ่มแบ่งสมบัติโดยแขวนอาวุธมากมายไว้บนหน้าผาหิน และปล่อยให้ตงตง เสี่ยวเช่อเอ๋อ และทารกวิญญาณทั้งสองเลือกก่อนออกเดินทาง

“ช่างหรูหราจริงๆ!” แม้แต่ต้วนเต๋อและจักรพรรดิดำก็ยังอิจฉา

ไม่มีสิ่งใดที่เย่ฟ่านทิ้งไว้ข้างหลังจะเป็นสมบัติที่อ่อนแอ พวกมันล้วนเป็นสมบัติล้ำค่า หากปล่อยออกสู่โลกภายนอกอาจทำให้เกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่ได้

สิ่งที่น่าสนใจที่สุดย่อมหนีไม่พ้นรถศึกของหวังเถิง สิ่งนี้เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุดที่อยู่ไม่ไกลจากอาวุธครึ่งก้าวเต๋าสุดขั้ว

กู่เฟยและกู่หลินสองพี่น้องเป็นคนที่มีความเฉลียวฉลาดอย่างมาก รถคันนี้ได้ตกเป็นของพวกเขาเพราะทั้งสองคนมีพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งสามารถควบคุมมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ยังมีอาวุธศักดิ์สิทธิ์หลายชุดเช่นเกาทัณฑ์ว่านชางซึ่งเย่ฟ่านมอบให้วานรศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นเขาก็หยิบค้อนทองคำม่วงซึ่งเป็นอาวุธครึ่งก้าวเต๋าสุดขั้วอีกชิ้นเพื่อมอบให้หลี่เหอสุ่ย

“ในเมื่อเจ้าเป็นคนดีขนาดนี้เหตุใดไม่มอบทองเหลืองให้ข้าสักชิ้น” ต้วนเต๋อลูบมือด้วยความตื่นเต้น

“ยังไม่ถึงโอกาสที่เหมาะสม!”

เย่ฟ่านไม่ได้มอบหม้อปราณปฐพีต้นกำเนิดให้กับใคร เพราะของสิ่งนี้เป็นอาวุธแห่งชีวิตของเขา แม้จะกลับบ้านไปแล้วแต่เขาก็ไม่ได้มีความตั้งใจจะล้มเลิกการบ่มเพาะ

เขามอบสมบัติมากมายให้กับเพื่อนเก่าทุกคน แต่เก็บธงสีดำของปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์ทั้งแปดสิบเอ็ดชิ้นไว้กับตัว

ไม่มีใครบอกได้ว่าธงเหล่านี้แข็งแกร่งแค่ไหน! ฉีลั่วและจักรพรรดิดำคาดว่าหากใช้อย่างเต็มกำลังครั้งสุดท้ายมันเพียงพอที่จะทำลายดินแดนศักดิ์สิทธิ์บางแห่งได้เลย

ผังป๋อมีสมบัติหายากไม่มากนักและเพียงคืนอาวุธศักดิ์สิทธิ์ทั้งเก้าชิ้นให้กับต้วนเต๋อ ส่วนตะปูที่ใช้ตอกโลงศพของจักรพรรดิอมตะเขายังคงเก็บไว้

เย่ฟ่านหยิบแผนภาพอมตะที่ได้รับจากรังหมื่นมังกรออกมาและมอบให้กับวานรศักดิ์สิทธิ์ ในอดีตสมบัติชิ้นนี้เคยเป็นสมบัติประจำตัวของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์โต้วจ้านและคนที่น่าจะมีโอกาสทำความเข้าใจมันมากที่สุดก็คือวานรศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง

อย่างไรก็ตามวานรศักดิ์สิทธิ์กล่าวว่านี่เป็นแผนที่ของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว

เมื่อเป็นเช่นนั้นทุกคนจึงร่วมกันวิเคราะห์แผนภาพร่วมกันฉีลั่ว ต้วนเต๋อและจักรพรรดิดำวิเคราะห์ว่าสิ่งที่ถูกขีดเขียนอยู่ในภาพวาดนี้น่าจะเป็นเส้นทางของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวที่จักรพรรดิโบราณใช้เดินทางกลับสู่โลกใบนี้ ดังนั้นเย่ฟ่านควรเก็บไว้ในกรณีที่หลงทางอยู่ในจักรวาลอันมืดมิด

“บางทีเจ้าอาจจะได้ใช้มันค้นหาเส้นทางกลับ” ทุกคนกล่าวด้วยความเศร้าเล็กน้อย

หลังจากนั้นไม่นานทุกคนก็ข้ามไปที่เป่ยหยวนเพื่อล้มล้างตระกูลจินสิ่งมีชีวิตโบราณที่ปลอมตัวเป็นมนุษย์มาอย่างยาวนานหลายแสนปี

ในอดีตจินฉีเซียวลอบสังหารเย่ฟ่านอยู่หลายครั้ง บางทีการเดินทางครั้งนี้เขาอาจจะไม่มีโอกาสกลับมาอีก ดังนั้นเย่ฟ่านจะต้องชำระความแค้นครั้งนี้ให้เสร็จสิ้นลง

“น้องเย่มันเป็นความเข้าใจผิดเท่านั้น พวกเรายินดีชดใช้ทุกอย่างเพื่อให้น้องเย่ยกโทษให้”

ผู้นำของตระกูลจินปรากฏตัวขึ้น และเมื่อเขาเห็นเย่ฟ่านกับองค์ชายศักดิ์สิทธิ์ปรากฏตัวออกมาร่างกายของเขาก็สั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว

ตอนนี้ศักดิ์ศรีของร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณแพร่กระจายไปทั่วโลก เขากล้าเป็นศัตรูกับราชวงศ์โบราณอันยิ่งใหญ่ด้วยซ้ำ นับประสาอะไรกับตระกูลจินที่มีเซียนเทียมขั้นสามคอยปกป้องตระกูลอยู่เพียงคนเดียว

ในระหว่างการสู้รบในเทือกเขาเทียนต้วนได้แสดงความแข็งแกร่งออกมาแล้ว เขาสังหารยอดฝีมือนับหมื่นคนโดยที่ตัวเองไม่ได้รับบาดเจ็บด้วยซ้ำ สิ่งนี้จะไม่ทำให้ผู้คนหวาดกลัวได้อย่างไร

เย่ฟ่านไม่ต้องการเริ่มสงครามที่แท้จริง หลังจากที่อีกฝ่ายยินยอมมอบระฆังศักดิ์สิทธิ์เก้าสวรรค์ออกมาเป็นเครื่องไถ่โทษเย่ฟ่านก็ยอมยกเลิกความแค้นครั้งนี้

ระฆังนี้เป็นที่รู้จักในฐานะอาวุธครึ่งก้าวเต๋าสุดขั้วชิ้นแรกของโลก มันถูกทิ้งไว้โดยราชาปี้หลัวแห่งจงโจวและยังมีคราบเลือดของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ติดอยู่

ต่อมาตระกูลจินแห่งเป่ยหยวนยอมจ่ายเป็นจำนวนมากเพื่อต้องการล้างโลหิตนี้ออกจากระฆังและฟื้นฟูพลังของมันกลับคืนสู่ระดับครึ่งก้าวเต๋าสุดขั้วอีกครั้ง

เมื่อเสี่ยวเช่อเอ๋อเห็นระฆังใบนี้นางก็โยนขวดนมของตัวเองทิ้งไปและกอดระฆังสีทองไว้อย่างมีความสุข

ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าผังป๋อและเย่ฟ่านเริ่มเก็บกวาดหนี้สินที่ผู้คนเคยติดค้างพวกเขาอยู่ หากผู้ใดไม่ยินยอมจ่ายออกมาทั้งสองคนจะลงมือทำลายตระกูลเหล่านั้นทันที

ในกระบวนการนี้ เย่ฟ่านยังคงตามหาหนานหนานเด็กหญิงผู้น่าสงสารคนนั้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เขาจะไม่มีวันปล่อยให้นางได้รับความเดือดร้อนได้

“ข้าจะพานางไปด้วย ข้าจะไม่มีวันปล่อยให้นางต้องเผชิญกับสิ่งเลวร้ายในชีวิตอีกต่อไป”

ในท้ายที่สุดเย่ฟ่านก็มุ่งหน้าไปยังทะเลทรายตะวันตก อย่างน้อยก่อนออกเดินทางครั้งนี้เขาก็ต้องร่ำลาอันเหมียวอี้เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เหมือนเช่นเมื่อสองปีก่อน

วานรศักดิ์สิทธิ์ก็ติดตามไปด้วย เขาอยากจะไปที่เขาพระสุเมรุเพื่อพบกับอาของเขาอีกครั้ง

………….

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด