ตอนที่แล้วบทที่ 135
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 137

บทที่ 136


“นายคิดว่าฉันจะเชื่อเหรอ”

“นายจะเชื่อหรือไม่เชื่อมีประโยชน์อะไร” หลินอันหลานหมดคำจะพูด “นายไม่ใช่แฟนของเขาสักหน่อย นายไม่ใช่แม้แต่เพื่อนของเขาด้วยซ้ำ นายไม่เชื่อเขาจะเสียหายอะไรเหรอ”

"ฉันเชื่อก็พอแล้ว" เขากล่าว

“นายเชื่อจริงๆ เหรอ” เจี่ยงซวี่กล่าวอย่างโกรธเคือง

หลินอันหลานพยักหน้า “เชื่อสิ เขาเป็นแฟนของฉัน ไม่ให้ฉันเชื่อเขาจะให้ฉันเชื่อนายหรือไง แค่คำอธิษฐานวันเกิดของฉันนายยังทำให้ไม่ได้เลย ฉันจะเชื่อนายไปทำไม”

เจี่ยงซวี่ "..."

เจี่ยงซวี่รินเครื่องดื่มให้ตัวเองหนึ่งแก้ว และดื่มอย่างจนปัญญา

หลินอันหลานกล่าวต่อ "ไหนๆ วันนี้ก็มีเวลา ฉันจะขอพูดให้ชัดเจนแล้วกัน เจี่ยงซวี่ ฉันไม่สนใจว่าทำไมนายถึงไม่ชอบเฉิงอวี้ แต่ว่าตอนนี้ ฉันอยากให้นายจับมือปรองดองกับเขา ต่างคนก็โตเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว มีความขัดแย้งอะไรที่แก้ไขไม่ได้เหรอ นายเกลียดอะไรเขา นายพูดออกมา พวกเรามาร่วมกันแก้ไข โอเคไหม”

เจี่ยงซวี่วางแก้วลง กัดฟันกล่าว "ฉันเกลียดที่เป็นเขา"

“แต่นั่นจะให้ไปเกิดใหม่เพื่อนายก็ไม่ได้นี่ เพราะงั้นอันนี้จนปัญญา”

“ถ้าอย่างนั้นฉันก็จนปัญญาเหมือนกัน”

“นายจงใจจะไม่ให้ความร่วมมือใช่ไหม” หลินอันหลานถามเขา

“เสี่ยวหลาน นายก็รู้ความสัมพันธ์ระหว่างเรา ความขัดแย้งระหว่างเรานายก็รู้ว่าอยู่ตรงไหน นายคิดว่าเราจะคลี่คลายได้เหรอ พวกเราเกิดมาไม่ได้เพื่อจับมือปรองดองกัน! วันนี้เป็นวันเกิดของนาย ฉันก็ไม่อยากจะคุยเรื่องพวกนี้กับนาย กินข้าวกันเถอะ กับข้าวเย็นหมดแล้ว”

เขาคีบเนื้อชิ้นหนึ่งและใส่ลงในถ้วยของหลินอันหลาน

หลินอันหลานเห็นเขาเป็นแบบนี้ ก็รู้ว่าพูดต่อไปคงไม่มีความหมาย จึงก้มหน้ารับประทานอาหาร

เจี่ยงซวี่ไม่อยากปรองดอง เขาก็ไม่สามารถกดหัวของเจี่ยงซวี่เพื่อให้เขามาปรองดองได้ แต่ไม่เป็นไร ถ้าเขาเป็นแบบนี้ตลอด เขาก็จะรักษาท่าทีที่ห่างเหินกับเจี่ยงซวี่ไปตลอดเหมือนกัน

เฉิงอวี้ไม่ผิด ไม่ว่าเจี่ยงซวี่จะเป็นอย่างไร เฉิงอวี้ยินดีที่จะคลี่คลายปัญหาเสมอ เพราะงั้นถึงแม้จะไม่รู้ว่ารายละเอียดความขัดแย้งของพวกเขานั้นคืออะไร หลินอันหลานก็รู้สึกว่าไม่ใช่ความผิดของเฉิงอวี้

เจี่ยงซวี่ทำผิดเอง ซ้ำยังไม่อยากแก้ไขอีก เขาช่างดื้อรั้นจริงๆ

เขาคีบซี่โครงใส่ลงในถ้วยของเฉิงอวี้ชิ้นหนึ่ง "นายกินนะ"

“อร่อยไหม” เฉิงอวี้ถามเขา

หลินอันหลานกำลังจะบอกว่าอร่อย แต่นึกขึ้นได้ว่านี่เป็นฝีมือของเจี่ยงซวี่ ก็เลยกล่าวขึ้น "อร่อยสู้นายทำไม่ได้หรอก"

เฉิงอวี้ยิ้มเบาๆ

เจี่ยงซวี่ยิ้มเยาะ "นี่ฉันเรียนมาจากป้าหลินกับลุงหลินเลยนะ"

เขามองไปทางหลินอันหลาน "นายลืมไปแล้วเหรอ มะเขือผัดถั่วฝักยาวนี่เป็นอาหารจานโปรดและจานถนัดที่สุดของป้าหลิน หมาล่าปลาเป็นอาหารจานโปรดและจานถนัดที่สุดของลุงหลิน หมูผัดเปรี้ยวหวานและซี่โครงหมูผัดซีอิ๊วไฟแดงเป็นอาหารจานโปรดของนาย เมนูเหล่านี้ ฉันล้วนเรียนทำกับพ่อแม่ของนายมาโดยเฉพาะ ตอนนั้นนายยังชมฉันอยู่เลยว่า รสชาติเหมือนกับที่พ่อแม่ของนายทำเป๊ะ ตอนนี้กลับกลายเป็น 'อร่อยสู้นายทำไม่ได้หรอก' แล้วเหรอ"

เจี่ยงซวี่มองเฉิงอวี้อย่างถากถางครู่หนึ่ง "นายคิดว่านายคู่ควรเหรอ"

เฉิงอวี้หัวเราะเบาๆ "ฉันไม่คู่ควร"

“แต่ว่าไม่ใช่ไม่คู่ควรกับฝีมือของนายนะ แค่ไม่คู่ควรจะไปเปรียบเทียบกับลุงหลินและป้าหลิน นายคงไม่ได้คิดหรอกนะว่าทำได้เหมือนลุงหลินและป้าหลินจริงๆ” เฉิงอวี้กล่าวกระแนะกระแหน “ไม่มั้ง คงไม่มีคนคิดแบบนี้จริงๆ หรอกมั้ง”

"ใครทำอาหารแล้วไปเทียบกับพ่อแม่กันล่ะ"

เขากล่าวจบ ก็ก้มหน้าทานข้าว ทิ้งเจี่ยงซวี่กัดฟันด้วยความโกรธและหมดคำที่จะพูดไว้คนเดียว

เป็นมื้ออาหารที่ทานอย่างไม่อภิรมณ์มากๆ เจี่ยงซวี่เต็มไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว หลินอันหลานกับเฉิงอวี้ยังดีหน่อย อย่างน้อยก็ทานอิ่ม

เจี่ยงซวี่ทำอาหารเสร็จก็ปฏิเสธที่จะล้างหม้อล้างกระทะ เชิดคางขึ้นแล้วกล่าวกับเฉิงอวี้ว่า "นายไปล้างเลย"

เฉิงอวี้ก็ไม่เกี่ยง ลุกยืนขึ้นและเดินไปที่ห้องครัว หลินอันหลานเห็นเขาขยับตัว ก็ได้เดินตามเขาไปด้วย

เจี่ยงซวี่รั้งเขาไว้อย่างรวดเร็ว "ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย"

“อีกแล้วเหรอ” หลินอันหลานไม่อยากจะคุยกับเขาแล้ว“พักสักแป๊บเถอะ ฉันเหนื่อยแล้ว”

เขาเดินอ้อมเจี่ยงซวี่และเข้าไปในครัวพร้อมกับเฉิงอวี้ เตรียมจะช่วยเฉิงอวี้ล้างจาน

เจี่ยงซวี่เห็นดังนั้น เดินเข้าไปแล้วคว้าข้อมือของเขาไว้ "มีอย่างที่ไหนให้เจ้าของวันเกิดล้างจาน ฉันเอง"

หลินอันหลานก็ไม่ปฏิเสธ เอาจานให้เขา พลางพูดคุยกับเฉิงอวี้ พลางมองดูเขาล้างหม้อล้างกระทะ

เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น หลินอันหลานจึงมองดูนาฬิกา สามทุ่มครึ่งแล้ว

เจี่ยงซวี่สังเกตเห็นนาฬิกาบนข้อมือของเขา จึงโน้มไปดูใกล้ๆ เห็นดอกทิวลิปบนตัวเรือน ทันใดนั้นก็ขมวดคิ้วทันที "อันอัน ฉันก็เตรียมของขวัญไว้ให้นายด้วย"

"อะไร"

เจี่ยงซวี่ยื่นถุงกระดาษให้เขาถุงหนึ่ง "นาฬิกาข้อมือ"

“เหรอ” หลินอันหลานรับมาโดยไม่แม้แต่จะมองด้วยซ้ำ เห็นได้ชัดว่าไม่มีความสนใจ

“นายเปิดดูสิ” เจี่ยงซวี่เร่งเร้า

“ช่างเถอะ ฉันควรจะกลับได้แล้ว”

"ใช้เวลาไม่นานสักหน่อย"

"ขี้เกียจเหนื่อย"

เจี่ยงซวี่ไม่ยอม ทำการเปิดกล่องด้วยตัวเอง หยิบนาฬิกาออกมาแล้วยื่นมาที่ด้านหน้าของเขา "สวยไหม นี่คือนาฬิกาข้อมือรุ่นล่าสุดจากแบรนด์ R ยังไม่ได้เริ่มเปิดขายในตลาดเลยนะ"

หลินอันหลานไม่สนใจของพวกนี้จริงๆ ดังนั้นก็เลยพยักหน้าขอไปที "เก็บใส่ไว้ในถุงเถอะ"

"นายสวมซะสิ"

ขณะที่กำลังพูด ก็ต้องการที่จะไปถอดนาฬิกาบนแขนของหลินอันหลาน เฉิงอวี้ยังไม่ทันจะห้าม หลินอันหลานก็กดนาฬิกาของตัวเองไว้ก่อนแล้ว "นายจะทำอะไร"

หลินอันหลานโกรธเล็กน้อย "ฉันจะใส่อะไรไม่ใส่อะไร ฉันตัดสินใจเองไม่ได้ว่างั้น นายมาเปลี่ยนให้ฉันโดยไม่คิดจะถามฉันสักคำ ฉันตอบตกลงแล้วเหรอ"

เมื่อเห็นว่าเขาโกรธแล้ว เจี่ยงซวี่ก็ไม่กล้าถือวิสาสะอีก และกล่าวเบาๆ "ฉันก็แค่อยากช่วยนายเปลี่ยน"

“ไม่ต้อง ฉันเปล่าไม่มีนาฬิกาสักหน่อย”

"แต่ว่าเรือนของฉันเห็นได้ชัดว่าดีกว่า และแพงกว่าด้วย"

หลินอันหลานยิ้มหยัน "รู้ไหมว่าอะไรคือของล้ำค่า"

เขาส่ายนาฬิกาบนข้อมือของตัวเอง “นี่ไง”

หลินอันหลานกล่าวจบ จูงเฉิงอวี้เตรียมพร้อมจะจากไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด