ตอนที่แล้วบทที่ 102 จดหมายถึงซานต้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 104 เอาคุณเปลี่ยนเป็นศพผู้ชายก่อน

บทที่ 103 คุณหล่อ เอาตามที่คุณพูดแล้วกัน!


สายตาและน้ำเสียงซุกซนสามส่วนรู้สึกผิดเจ็ดส่วนแบบนี้ทำหร่วนหลิวเจิงอดขำไม่ได้

หัวเราะเช่นนี้ทำให้ความรู้สึกแปลกหน้าหายไปได้ไม่น้อย เซวียเหว่ยหลินยื่นมือออกไป "คุณหมอหร่วน ให้ผมช่วยคุณเถอะครับ"

"ได้ค่ะ งั้นก็ขอบคุณค่ะ" หร่วนหลิวเจิงไม่ปฏิเสธเขาอีกต่อไป

"ขอโทษจริงๆ นะครับ หากผมไม่ทำรถคุณเสีย คุณคงไม่ต้องลำบากแบบนี้" หลังจากขึ้นรถ เซวียเหว่ยหลินก็ขอโทษอีกครั้งด้วยความจริงใจ

"ไม่เป็นไรค่ะ ที่จริงฉันเองก็เดินบ่อยๆ!" เธอรู้สึกว่าการที่รถพวกเขาสองคนชนกันนั้นน่าสนใจเหมือนกัน คนอื่นเถียงกันไปมาจนกลายเป็นศัตรู ฉันอย่างนั้นเธออย่างนี้ แต่พวกเขาสองคนกลับดี เข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อ คิดดูแล้วเธอก็โชคดีที่ได้เจอคนที่มีความรับผิดชอบ

หลังจากขับรถเข้าหมู่บ้าน เซวียเหว่ยหลินชี้วิลล่าเดี่ยวของเขาให้เธอดูซึ่งอยู่ห่างจากบ้านเธอแค่ซอยเดียว

"ตอนนี้คุณก็รู้แล้วว่าบ้านผมอยู่ไหน ไม่ต้องกลัวว่าผมจะหนีแล้ว!" เขายิ้มและพูด

เธออดหัวเราะเบาๆ ไม่ได้ "หรือว่าคุณไม่ใช่เซวียเหว่ยหลินคะ?"

เขาอึ้งไป จากนั้นก็หัวเราะร่วน ผู้หญิงคนนี้ตอบสนองเร็วมาก ในเมื่อเขาคือไม่ใช่เซวียเหว่ยหลินไม่ผิดแน่ ย่อมไม่กลัวว่าเขาจะหนี...

"คุณหมอหร่วนอยู่หลังไหนครับ?" เขายิ้มและถาม

รถจอดอยู่แถวบ้านเธอ เธอชี้ไปที่บ้านตัวเอง "ถึงแล้วค่ะ ลงรถก่อนนะคะ ขอบคุณค่ะ"

"ผมไปส่งที่หน้าประตูนะครับ คุณมีของเยอะมาก" เขาหมุนพพวงมาลัยและขับไปทางบ้านเธอ

ขับจนถึงประตูบ้านเธอ เธอรีบพูดขึ้น "ถึงแล้วค่ะ ที่นี่แหละ"

เซวียเหว่ยหลินหยุดรถและมองไปข้างนอก "หลังนี้เหรอครับ?"

"ใช่ค่ะ" เธอลงจากรถ "ขอบคุณค่ะ"

เซวียเหว่ยหลินลงจากรถเช่นกันและช่วยเธอถือของ "หมอหร่วนครับ ถ้าช่วงนี้ต้องการใช้รถโทรหาผมนะครับ"

"ขอบคุณค่ะ ไม่ต้องหรอก! เดินก็ดี" เธอรับของมา

"คุณหมอหร่วนไม่ต้องเกรงใจ ผมเป็นคนก่อเรื่องเองทำให้คุณหมอร่วนต้องลำบาก ผมขอโทษจริงๆ" เขาก้มหน้าอย่างนอบน้อมดูจริงใจมาก

"ไม่จำเป็นจริงๆ ค่ะ คุณเกรงใจเกินไปแล้วค่ะ..."

เซวียเหว่ยหลินหัวเราะร่วนอีกครั้ง "ผมจะบอกคุณหมอหร่วนว่าเราสองคนไม่ต้องมัวแต่เกรงใจกันไปมาจนสุดท้ายจะไม่เหมือนว่ารถเราชนกันแล้ว? ทำไมผมถึงรู้สึกเหมือนเลี้ยงข้าวกันเลยนะ?"

หร่วนหลิวเจิงอดหัวเราะไม่ได้ "คุณเซวียนั่นแหละค่ะที่เอาแต่เกรงใจ ฉันยังไม่เคยเห็นผู้กระทำความผิดแบบคุณมาก่อนเลยจนรู้สึกเหมือนฉันจะเป็นฝ่ายแบล็กเมล์คุณเสียอีก"

"งั้นผมก็ไม่เคยเห็นผู้เสียหายอย่างคุณเหมือนกัน! เชิญคุณแบล็กเมล์ผมเลย!"

ทั้งสองคนหัวเราะออกมา

"คุณหมอหร่วน ไม่ต่อยตีก็ไม่รู้จัก อย่างพวกเราก็ถือว่าทะเลาะกันมาแล้ว ถึงแม้จะเป็นรถของเราที่ทะเลาะกัน ครั้งหน้าเจอกันอีกก็เป็นเพื่อนกันแล้ว ไม่ต้องเกรงใจแบบนี้แล้ว" เซวียเหว่ยหลินพูดและยิ้ม

"ค่ะ!" พูดถึงจุดนี้แล้ว หร่วนหลิวเจิงจะยื้อต่อไปคงจะไม่สบายใจนักจึบรีบรับปากไป

"งั้นแล้วเจอกันครับ" เซวียเหว่ยหลินพูด

"แล้วเจอกันค่ะ" หร่วนหลิวเจิงถือของและเดินเข้าสนามหน้าบ้านและยิ้มที่มุมปาก

เซวียเหว่ยหลินเห็นเธอเดินเข้าบ้านแล้วจึงไปและมีแต่รอยยิ้มอยู่ตลอด

พอเธอเข้าประตูบ้านเผยซู่เฟินก็เข้ามารับของในมือเธอและบอกเธออย่างมีความสุข "คุยแล้วนะๆ"

"คุยอะไรแล้วคะ?" เธอคิดไม่ออก

"ก็อาจารย์มหาวิทยาลัยคนนั้นไง! ตกลงแล้วนะว่าไปกินข้าวกลางวันวันคริสต์มาส จากนั้นตอนบ่ายจะไปเดินเล่นดูหนังด้วยกันก็ได้!" เผยซู่เฟินรับของจากมือเธอไป

เธอจึงนึกขึ้นได้ถึงเรื่องดูตัวที่รับปากไปก่อนหน้านี้

วันคริสต์มาสอีฟบนท้องถนนเต็มไปด้วยบรรยากาศวันคริสต์มาส แต่ที่แผนกยังคงเหมือนเดิม ยังคงยุ่งเหมือนเดิม เทศกาลของทางตะวันตกเช่นนี้ดูเหมือนจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกเขาเลย

หนิงจื้อเชียนยุ่งเสร็จก็กลับไปที่โต๊ะทำงานและเปิดลิ้นชักแล้วพบกับกล่องของขวัญกล่องหนึ่งในนั้น

เขาอึ้งไปและปิดลิ้นชัก

"เตรียมราวด์วอร์ด" เขาพูดเสียงดังและนำคนกลุ่มหนึ่งไปราวด์วอร์ด

จากนั้นก็เข้าห้องผ่าตัด หลังจากผ่าตัดเสร็จ ก็ตรวจรายงานสรุปที่เขียนโดยหร่วนหลิวเจิงและติงอี้ย่วนจึงจะได้พัก

หร่วนหลิวเจิงและติงอี้ย่วนไปห้องน้ำพร้อมกันและหมอคนอื่นในออฟฟิศก็ยุ่งอยู่ เหลือเพียงเขาแค่คนเดียว เขาจึงเปิดลิ้นชักแล้วแกะกล่องของขวัญ

เมื่อเปิดออกก็พบว่าเป็นนาฬิกาข้อมือเรือนหนึ่ง

เขาขมวดคิ้วและปิดมัน

ไม่นาน หร่วนหลิวเจิงและติงอี้ย่วนก็กลับมาพร้อมกัน เขาเดินออกไปและเรียกเธอไว้ "หมอหร่วน มานี่"

"มาแล้วค่ะ!" เธอรีบตามไป "อาจารย์หนิงมีอะไรคะ?"

"ไปเยี่ยมคุณเลี่ยว" เขาพูด

"อ้อ!"

หลังจากไปที่วอร์ดแล้ว เขาก็เดินอยู่ข้างเธอที่โถงทางเดินและพูดเบาๆ "หลิวเจิง ฉันอยากได้อะไรฉันซื้อเองได้"

"ฮะ?" หร่วนหลิวเจิงไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงพูดแบบนี้

"เธออย่าใช้เงินฟุ่มเฟือย" เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

"อ้อ..." ถึงแม้เธอจะไม่ได้ใช้เงินฟุ่มเฟือย และยิ่งไม่เข้าใจว่าเขาจะชี้ให้เห็นถึงอะไร แต่เธอก็ยังตอบรับเสียงอ่อย

"เธอเก็บเงินไว้ใช้เถอะ"

เธอยิ่งสับสน "ค่ะ..."

"อือ"

"..." จากนั้นบทสนทนาก็จบลง

จนพูดจบหร่วนหลิวเจิงก็ยังไม่เข้าใจว่าเขาพูดถึงอะไรอยู่ เธอขมวดคิ้วอยู่ด้านหลังเขาพร้อมความคิดยุ่งเหยิง เธอเดินช้าลงและค่อยๆ ทิ้งระยะห่างจากขายาวของเขา

ดังนั้นติงอี้ย่วนที่อยู่ในออฟฟิศจึงเห็นหนิงจื้อเชียนเดินเข้ามาเองคนเดียวพร้อมแววตาชื่นชมและเขินอายไม่น้อยแม้แต่น้ำเสียงที่เร่งรีบยังอ่อนลงไปด้วย "อาจารย์หนิง..."

หนิงจื้อเชียนมองเธอด้วยสายตาแปลกประหลาด "มีอะไร?"

"อืม...ชอบนาฬิกาข้อมือไหมคะ?" ติงอี้ย่วนหน้าแดง

หนิงจื้อเชียนนิ่ง หน้าซีดเล็กน้อย "คุณเป็นคนเอามาให้ผมเหรอ?"

"อืม..." ติงอี้ย่วนหน้าแดงและพยักหน้า

เขาเปิดลิ้นชักและหยิบกล่องนาฬิกาข้อมือออกมาและยื่นกลับไปตรงหน้าเธอ "ขอบคุณสำหรับความหวังดี รับไม่ได้"

"อาจารย์หนิง..." ติงอี้ย่วนทั้งอายและน้อยใจในทันใด "ฉัน...ฉันชอบคุณค่ะ ชอบมานานแล้ว นี่เป็นขวัญคริสต์มาสให้คุณค่ะ"

"ผมมีนาฬิกาข้อมือ" สีหน้าของเขาเย็นชา

"แต่ว่า...ฉันมอบมันให้คุณแทนความรู้สึกในใจ..." ติงอี้ย่วนรู้สึกอายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

เขากลับยิ่งเย็นชา "ผมไม่ต้องการความในใจ ต้องการแต่นักเรียนที่ยินดีจะเรียนรู้พัฒนาต่อไป หากคุณอยากจะเรียนกับผม ผมยินดี ถ้าคุณยังคิดเป็นอื่นอีก เชิญหาคนที่มีคุณสมบัติมากกว่าผมดีกว่า"

"..." ติงอี้ย่วนนั้นหยิ่งในศักิ์ศรีมาตลอดต่อให้มากกว่านี้ แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เธอสารภาพรักต่อหน้าผู้ชายคนหนึ่ง เมื่อเจอปฏิเสธต่อหน้าตรงๆ เช่นนี้จึงหันหลังวิ่งออกไป

ขณะนั้นเองหร่วนหลิวเจิงก็เข้ามาพอดี หัวของติงอี้ย่วนชนตัวเธอ

เสียงของหนิงจื้อเชียนลองตามมา "เอานาฬิกาข้อมือไปด้วย!"

ติงอี้ย่วนงุ่นง่านและหันกลับมาหยิบนาฬิกาข้อมือแล้ววิ่งหนีไปเพื่อไปหาพ่อของเธอรองผู้อำนวยการโรงพยาบาล

หร่วนหลิวเจิงมองดูฉากนี้อย่างงุนงง "นี่มันอะไรกัน?"

หนิงจื้อเชียนนิ่งและไม่พูดอะไร

ลิ้นชักยังคงเปิดอยู่และมีการ์ดเล็กๆ ใบหนึ่งอยู่ที่กล่องนาฬิกาข้อมือก่อนหน้านั้นเขาไม่เห็นมัน บนการ์ดเขียนว่า: อาจารย์หนิง รักแรกพบ สุขสันต์วันคริสต์มาส หวังว่าพรุ่งนี้จะได้ใช้วันคริสต์มาสร่วมกับคุณ ติงอี้ย่วน

เขากุมหว่างคิ้วด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย ทำไมถึงไม่เห็นการ์ดใบนี้ก่อนหน้านี้

หร่วนหลิวเจิงเดินมาข้างๆ เขาแล้วและเห็นการ์ดที่มุมหางตา "นี่มันอะไรคะ?"

เขาปิดลิ้นชักอย่างรวดเร็ว "ไม่มีอะไร เมื่อคืนจัดการข้อมูลเสร็จรึยัง? เอามาให้ฉันดู"

"อ้อ..." เธอรู้สึกว่าวันนี้หนิงจื้อเชียนแปลกๆ...

เธอเพิ่งส่งโน๊ตบุ๊คให้เขา เขาพูดอีก "ไปที่ห้องจ่ายยา ไปเอายาพวกนี้มา"

ยื่นใบสั่งยาให้เธอ

"..." เบิกยาเป็นเรื่องของพยาบาลมาตลอด...

แต่ว่า อาจารย์สั่งใครจะกล้าขัด?

เธอกุลีกุจอไปที่ห้องจ่ายยาและเอายาให้เขา

พอวางลงยังไม่ทันได้หายใจ เขาก็มีภารกิจใหม่มาอีก "ผล CT กับ MRI ของคุณเลี่ยวน่าจะออกแล้วเธอไปเอามา"

"..." เธอวิ่งจนเหงื่อออกในฤดูหนาว... "แต่ว่าไม่ได้มีคนส่งมาที่วอร์ดเหรอคะ?"

"ฉันอยากจะดูตอนนี้ รอผลส่งมาก็ไม่ทันแล้ว"

"..." ก็ได้คุณเป็นอาจารย์ก็ต้องทำตามที่นายพูด...

เธอถอนหายใจและวิ่งอีกครั้งเพื่อไปเอาผลตรวจที่เขาต้องการ เมื่อคิดว่าจะสามารถนั่งพักได้แล้ว อีกฝ่ายก็พูดขึ้น "ไปเชิญผอ. สวี่ที่ประสาทวิทยามาหน่อย"

"..." เธอแทบล้มและรู้สึกว่านี่เขาอารมณ์ไม่ดีอยู่หรือเปล่า? "คือว่า...โทรไปไม่ได้เหรอคะ?"

"เขาอยู่ที่คลินิก โทรไม่ติด ไปดูที"

"..." ต้องไปที่คลินิกอีกรอบ!

เอาเถอะ คุณเป็นอาจารย์ก็ต้องทำตามที่คุณพูด!

เธอกุลีกุจออีกครั้งอย่างไม่มีทางเลือก หายใจเหนื่อยหอบและแอบรู้สึกว่าติงอี้ย่วนทำเขาโมโหแล้วมาลงที่เธอ? ติงอี้ย่วน! เธอทำอะไรไว้นะ!

ในที่สุดก็เชิญตัวได้ เธอมาพร้อมกับผอ. สวี่ ในขณะที่ทั้งสองกำลังปรึกษากันอยู่นั้น เธอรู้สึกว่าคงจะลืมเธอไปแล้ว ก็ดีเธอไม่จำเป็นต้องวิ่งอีกแล้ว...

อย่างไรเสีย จากนั้นเขาก็พูดขึ้นอีก "หมอหร่วน ไปเอาของที่ผอ. สวี่ต้องการที่คลินิกประสาทวิทยา..."

"ไม่ต้องๆ ผมโทรไปให้คนเอามาให้ก็ได้" ผอ. สวี่พูด

"ไม่เป็นไรครับ ลูกศิษย์ก็ต้องวิ่งให้เยอะเพื่อเรียนรู้สิ่งต่างๆ!"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด