ตอนที่แล้วบทที่ 134
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 136

บทที่ 135


หลินอันหลานปล่อยเจี่ยงซวี่เข้ามาในบ้าน เจี่ยงซวี่ยังคงหวาดระแวง และก็ไม่กล้าพูดอะไร กล่าวเพียง "ฉันไปทำอาหาร"

"เฉิงอวี้กำลังทำอยู่"

เจี่ยงซวี่ "..."

“ฉันทำเถอะ” เจี่ยงซวี่กล่าวอย่างไม่พอใจ

หลินอันหลานก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ มีคนอยากแย่งทำอาหาร เขายินดีเปิดทาง

เขาเดินเข้าไปในครัว บอกกับเฉิงอวี้ แล้วก็ได้ยกห้องครัวให้กับเจี่ยงซวี่

เจี่ยงซวี่เห็นทั้งคู่อยู่ด้วยกันอีกครั้ง ก็ยิ่งกังวลใจ เขาอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เหมือนหลินอันหลานจะรู้ทัน จึงเขม็งตาใส่เขาทีหนึ่ง เขาจึงไม่กล้าพูดอะไรอีก และเดินเข้าไปในห้องครัวอย่างหงอยเหงา

“เชื่อฟังจัง” เฉิงอวี้ถอนใจ

“เมื่อกี้ดูเหมือนฉันจะทำให้เขาตกใจ”

หลินอันหลานเล่าบทสนทนาที่ตัวเองคุยกับเจี่ยงซวี่หน้าประตูให้กับเฉิงอวี้ฟังอีกครั้ง มือเท้าคางแล้วกล่าวขึ้น "ฉันแค่พูดไร้สาระ ตามการแสดงของเขา ก็ไม่รู้เขาเกิดอะไรขึ้น ท่าทางถึงได้ดูตกใจแบบนี้ เขาคงไม่ได้อินไปกับบทด้วยหรอกนะ”

เฉิงอวี้หัวเราะเบาๆ "ใครจะไปรู้ล่ะ"

เขารู้สึกว่าหลินอันหลานเก่งมากจริงๆ ไม่ว่าจะก่อนหรือหลังความจำเสื่อมก็ตาม

ก่อนความจำเสื่อม เขาเป็นคนที่มีความคิดเป็นของตัวเอง และหลังความจำเสื่อม เขาก็เป็นเหมือนเดิม

เขารู้สึกจากก้นบึ้งของหัวใจ ว่าตัวเองไม่สามารถหลอกลวงความรู้สึกของคนอื่นได้ ดังนั้นไม่ว่าเจี่ยงซวี่จะพูดอะไร หรือเจี่ยงซวี่จะมีท่าทีอย่างไร เขาก็ไม่มีทางคำนึงถึงความเป็นไปได้ของเรื่องนี้

เขามีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ทั้งๆ ที่ได้ลืมเรื่องราวต่างๆ ไปมากมายแล้ว แต่ก็ยังไม่ถูกคนอื่นควบคุมได้ง่ายๆ

คนแบบนี้มีน้อยและพบได้ยาก

ดังนั้นเจี่ยงซวี่ถูกลิขิตให้เสียใจ เขาแค่ได้ยินคำพูดแบบนั้นของหลินอันหลาน ก็ตกใจแทบแย่ รอเมื่อเขารู้ว่าหลินอันหลานไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิด แต่เป็นการสูญเสียความทรงจำ และอยู่กับเขาอย่างจริงๆ จังๆ หวานแหววในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เกรงว่าเจี่ยงซวี่คงจะเสียใจมากจนแทบอยากจะย้อนเวลากลับไปเริ่มใหม่

เพราะถึงอย่างไร สำหรับเจี่ยงซวี่ ความสุขของพวกเขา ถูกกำหนดให้ขนานกัน

เฉิงอวี้เปิดเครื่องดื่มและรินให้หลินอันหลานกับตัวเองคนละแก้ว "ดื่มเครื่องดื่มสักหน่อยเถอะ เดี๋ยวก็ได้เวลากินข้าวแล้ว"

เจี่ยงซวี่ทำอาหารค่อนข้างรวดเร็ว หลักๆ เพราะอาหารเหล่านี้ทำไม่ยาก

อาหารสี่จานสำหรับสามคน พร้อมเค้กอีกหนึ่งก้อน ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว

เจี่ยงซวี่เปิดกล่องเค้ก แล้วหยิบเค้กออกมา ปักเทียน ช่วยหลินอันหลานจุดเทียน แล้วกล่าวกับเขาว่า "สุขสันต์วันเกิด"

เฉิงอวี้ก็กล่าวอวยพรเช่นกัน "สุขสันต์วันเกิด"

หลินอันหลานสิบนิ้วพนมมือ แล้วกล่าวอธิษฐาน "คำอธิษฐานของฉันในปีนี้ ขอให้เจี่ยงซวี่ยอมรับความรักของฉันกับเฉิงอวี้ หยุดว่าร้ายเฉิงอวี้ และเลิกคิดหาวิธีแยกพวกเราออกจากกัน"

เขามองไปทางเจี่ยงซวี่ "คำอธิษฐานของฉันเป็นจริงได้ไหม"

เจี่ยงซวี่ "..."

เจี่ยงซวี่กล่าวด้วยความเซ็ง "นายเปลี่ยนคำอธิษฐานอื่น"

“คำอธิษฐานจะเปลี่ยนได้ยังไง ฉันอยากจะให้คำอธิษฐานนี้เป็นจริง นายทำได้ไหมล่ะ”

เจี่ยงซวี่เม้มปาก ไม่พูดอะไร

เขาทำไม่ได้ เขาจะทำได้อย่างไร

เสี่ยวหลานรู้ทั้งรู้ว่าเขาทำไม่ได้ ทำไมยังพูดแบบนี้อีก ยังจะเอามาเป็นคำอธิษฐานอีก!

หลินอันหลานถอนหายใจ "เจี่ยงซวี่ นายบอกว่านายเป็นเพื่อนสนิทของฉัน เพื่อนที่ดีที่สุด แต่มิตรภาพที่นายมีต่อฉันมันก็แค่นี้เอง"

“เสี่ยวหลานฉัน...”

“เฉิงอวี้ยังทำได้เลย” หลินอันหลานขัดจังหวะเขา “เขาไม่เคยพูดให้ร้ายนาย ไม่ห้ามให้ฉันไปมาหาสู่กับนาย ไม่ทำลายมิตรภาพของเรา”

“เขามีสิทธิ์อะไร!” เจี่ยงซวี่กล่าวด้วยความโกรธ “เขาเป็นใคร!”

“เขาเป็นแฟนของฉัน” หลินอันหลานกล่าวอย่างใจเย็น

ฉับพลันเจี่ยงซวี่ก็หงุดหงิดขึ้นอีก

“เขาไม่คู่ควร!”

“คู่ควรหรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับนาย ฉันว่านะ เขาคู่ควรมาก อย่างน้อยเขาชอบฉันมากกว่านาย และก็เอาใจใส่ฉันมากกว่าด้วย”

“ฉันก็เอาใจใส่นายได้เหมือนกัน” เจี่ยงซวี่รีบกล่าว “อาหารในวันนี้ฉันก็เป็นคนทำด้วย”

“แล้วอาหารที่ฉันกินในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เฉิงอวี้เป็นคนทำนะ” หลินอันหลานโต้กลับ

“วันๆ นายเอาแต่คิดแยกพวกเราออกจากกัน ทะเลาะกับเขาต่อหน้าฉัน ทะเลาะแพ้ก็จะลงไม้ลงมือ แต่เขาล่ะ เขาไม่เคยหาเรื่องทะเลาะกับนายก่อน ไม่เคยลงไม้ลงมือกับนายก่อนเลยมั้ง”

"นั่น..."

“นั่นเป็นเพราะนายไม่แคร์” หลินอันหลานกล่าว “นายไม่แคร์ความรู้สึกของคนที่คั่นอยู่ตรงกลางอย่างฉัน และนายก็ไม่แคร์ว่าฉันจะโกรธหรือไม่ นายแค่ระบายตามอารมณ์ของนายเท่านั้น ความรู้สึกของฉันจะเป็นยังไง นายไม่เคยคิดใส่ใจด้วยซ้ำ”

"แต่เฉิงอวี้คิดใส่ใจ ดังนั้นเขาไม่เคยห้ามให้ฉันเจอกับนาย และก็ไม่เคยว่าร้ายนายลับหลัง เพราะว่านายเป็นเพื่อนของฉัน เขากลัวว่าฉันจะเสียใจ"

เจี่ยงซวี่ยิ้มเยาะและเหลือบมองเฉิงอวี้ที่อยู่ข้างๆ ครู่หนึ่ง "นี่ก็คือจุดประสงค์ของนายใช่ไหม วันๆ แสร้งทำเป็นไม่สนใจ เพื่อให้เขาเกิดการเปรียบเทียบ เจ้าเล่ห์มาก นายตอแหลเก่งเหมือนกันนี่"

เฉิงอวี้ "???"

เฉิงอวี้รู้สึกว่าตัวเองอยู่เฉยๆ ก็โดนแซะ

เขาไม่ว่าร้ายเจี่ยงซวี่ ไม่ห้ามหลินอันหลานกับเจี่ยงซวี่เจอกัน เพียงเพราะไม่กล้าทำผิดซ้ำๆ กลัวว่าหลังจากที่หลินอันหลานฟื้นคืนความทรงจำแล้ว จะยิ่งทำให้เขาเกลียดเขาด้วยเรื่องเหล่านี้

สำหรับการเปรียบเทียบนี้ ไม่เคยอยู่ในสมองของเขาเลย

แต่ว่า ผลลัพธ์นี้ก็ไม่เลว

"ฉันเปล่า" เฉิงอวี้ยิ้มเบาๆ "ฉันแค่เคารพความต้องการของเขา ถ้าเขาต้องการพบนาย ฉันย่อมไม่ขัดขวาง ถ้าเขาไม่อยากเจอนาย ฉันก็จะไม่ปล่อยให้เขามา"

เจี่ยงซวี่มองดูรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา รู้สึกเพียงขยะแขยง "จอมปลอม"

"นี่เป็นเรื่องจริง"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด