ตอนที่ 7
เขาสังเกตเห็นโมลิเทียหันหน้าไปทางด้านข้างด้วยความเขินอาย.
เขามีรอยยิ้มเล็กๆ บนใบหน้าเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าปลายหูของนางแดงระเรื่อขณะที่เขาคว้าต้นขาของนาง.
"ข้าบอกเจ้าแล้ว; เจ้าควรเลิกเกร็งเสีย” (ชายคนนั้น)
เขามีสีหน้าตึงเครียดเมื่อมองดูนาง โมลิเทียตกใจเมื่อเขายื่นตัวเข้ามาใกล้ทางเข้าของนาง.
"ข้าประหลาดใจนัก. ผู้หญิงที่มีความมั่นใจที่ขอร่วมรักก่อนหน้านี้หายไปไหนแล้วล่ะ?” (ชายคนนั้น)
“ข้าบอกให้…อื้มมม” (โมลิเทีย)
คำพูดของนางขาดไปพร้อมกับเสียงคราง. แกนกลางของนางร้อนขึ้นมา และร่างกายของนางก็ตื่นเต้นอีกครั้ง.
เมื่อเขารู้สึกว่านางเปียกเพียงพอสำหรับเขาแล้ว เขาก็คว้าต้นขาของนางแล้วจับมันแยกออกจากกัน โมลิเทียพยายามต่อสู้กับการกระทำที่กะทันหันของเขา แต่เขาก็ดันเข้าไปหานางในคราวเดียว.
“ฮึ่ก!” (โมลิเทีย)
“อึ่กก” (ชายคนนั้น)
เขาคิดว่ามันคงจะดีกว่าถ้ารู้สึกเจ็บปวดทั้งหมดในคราวเดียวมากกว่าที่จะออกแรงช้าๆ แต่ภายในช่องอันแคบของนางนั้นเกินกว่าที่จะจินตนาการได้ เขาเกือบหักเป็นสองชิ้นเพราะความแน่นของนาง.
บ้าเอ๊ย! เขากัดริมฝีปากตัวเอง แล้วกลืนคำสบถที่กำลังจะหลุดออกจากปากของเขา. ข้าเกือบจะแสดงด้านที่น่าเกลียดของข้าให้นางเห็นแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาเกือบจะปล่อยออกมาทันทีที่เขาใส่มันเข้าไป ร่างกายของนางอร่อยจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้.
เขาเอื้อมมือไปยังจุดที่พวกเขารวมกันแล้วสัมผัสเนื้อที่บวมเปล่งนั้น.
“ฮู… ค่อยๆ ผ่อนคลาย หายใจเข้าออกทีละน้อย” (ชายคนนั้น)
น้ำตาไหลอาบดวงตาของโมลิเทียขณะที่นางหายใจเข้าออกช้าๆ ตามคำแนะนำของชายคนนั้น.
คำพูดของเขาเป็นราวกับเวทมนตร์ โมลิเทียรู้สึกได้ว่าตัวเองผ่อนคลายอย่างช้าๆ ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของเขา. วัตถุแปลกปลอมที่เข้ามาในตัวนางยังคงเชื่อมต่อกับนางในช่องท้องส่วนล่างของนาง แต่นางก็ค่อยๆชินกับมัน.
เขาเปิดต้นขาของนางให้กว้างขึ้นเพื่อเคลื่อนลึกเข้าไปในกำแพงที่คับแคบของนาง.
“ยังเจ็บอยู่มั้ย?” (ชายคนนั้น)
หัวของนางส่ายเล็กน้อย แสดงให้เห็นว่านางไม่เป็นอะไร. ทว่า ยังคงเป็นที่น่าสงสัยว่าพวกเขาจะสามารถทำสิ่งนี้ได้อย่างถูกต้องหรือไม่.
ตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาสบตานาง เขาก็รู้แล้วว่าร่างกายของนางบอบบางเกินกว่าจะยอมรับเขาได้อย่างสมบูรณ์.
ถึงกระนั้น เขาก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองและความปรารถนาของเขาที่มีต่อนางได้. ผนังด้านในของนางรัดแน่นรอบของของเขาไปหมด พยายามทำให้เขาลืมตัว. เขาแค่อยากจะขยับเข้าออกจากตัวนางด้วยแรงทั้งหมดที่เขามี.
ขณะที่เขากำลังจะสูญเสียเหตุผลทั้งหมด โมลิเทียก็โอบแขนบางๆ ของนางไว้รอบคอของเขา. นางกระซิบข้างหูของเขาก่อนที่เขาจะทำตามความปรารถนาของตัวเอง เขาประหลาดใจกับสิ่งที่นางเพิ่งพูดไป จึงใช้มือลูบไล้นางอย่างอ่อนโยน.
“ขะ...ขยับได้เลย.” (โมลิเทีย)
"ว่าไงนะ? มันจะทำให้เจ้าเจ็บนะ" (ชายคนนั้น)
“ข้าทนได้. ไม่เจ็บมาก…” (โมลิเทีย)
เสียงของนางค่อยๆจางหายไปเพราะนางละอายใจ. ดยุคหัวเราะกับท่าทีที่นางแสดงออกมาอย่างเขินอาย แล้วปัดผมที่ติดแก้มนางออกไปอย่างอ่อนโยน.
“หากต้องการให้ข้าหยุด ก็บอกนะ” (ชายคนนั้น)
ดวงตาของโมลิเทียเบิกกว้างด้วยความตกใจ. นี่เป็นครั้งแรกที่เขาบอกนางว่านางสามารถบอกเขาให้หยุดได้เมื่อมันรู้สึกเจ็บปวด .นางจับเขาไว้แน่นยิ่งขึ้น นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนพูดถ้อยคำดีๆ เช่นนี้กับนาง.
"ตกลง." (โมลิเทีย)
เขาขยับเอวอย่างระมัดระวัง โดยเคลื่อนเข้าและออกจากนางอย่างช้าๆ ขณะที่ก้านอันร้อนแรงของเขาเคลื่อนเข้าและออกจากนาง โมลิเทียก็พยายามกลืนเสียงครวญครางของนางเอาไว้.
มันเป็นความรู้สึกที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงเมื่อเขาขยับเข้าและออกจากนาง ความรู้สึกซ่านที่ไม่มีอะไรเทียบได้แล่นไปทั่วร่างกายของนางราวกับกระแสไฟฟ้า ทันใดนั้นนางก็ลืมความเจ็บปวดทั้งหมดและกอดติดกับเขา.
เมื่อเขาสังเกตเห็นว่าโมลิเทียกำลังเพลิดเพลินกับมันอย่างช้าๆ เขาก็เริ่มเคลื่อนไหวเร็วขึ้น แม้ว่าเขาจะบอกนางว่าให้หยุดเมื่อนางเจ็บปวด แต่เขาก็ไม่มั่นใจว่าจะหยุดตัวเองได้.
ร่างกายของเขาเข้าควบคุมจิตใจในขณะที่ขยับเข้าออก. แม้ว่าเขาจะไม่มีกลเม็ดในการเคลื่อนไหวของเขา แต่เขาก็สามารถลิ้มรสความสุขได้อย่างง่ายดายเพียงแค่ขยับเข้าและออกจากกำแพงอันแน่นหนาของนาง.
มือของเขาที่อยู่บนต้นขาของโมลิเทียขยับขึ้นทันทีที่เขาจับเอวของนางไว้อย่างแน่น. ชายผู้นั้นสูญเสียเหตุผลไปทั้งหมดแล้ว ขณะที่ร่างเล็กๆ ของนางกระชับขึ้นทุกครั้งที่เขาแทงเข้าไปในตัวนาง.