1250 - ชีวิตวัยเด็กของจักรพรรดินีผู้โหดเหี้ยม
1250 - ชีวิตวัยเด็กของจักรพรรดินีผู้โหดเหี้ยม
แม้แต่ฉีลั่วก็ยังตื่นตระหนกและรีบวิ่งเข้ามาด้วยความตื่นเต้น ในขณะที่เอี๋ยนอี้ซี หลี่เหอสุ่ยและคนอื่นๆ ก็ล้อมรอบพวกเขาอย่างรวดเร็ว ทุกคนเกิดความประหลาดใจอย่างถึงที่สุด
ต้วนเต๋อกลืนน้ำลายอย่างยากลำบากแล้วกล่าวว่า “นี่คือชิ้นส่วนร่างกายของจักรพรรดิแห่งความว่างเปล่าหรือไม่?”
“ไม่” จี้จื่อเยว่ย่นจมูกของนางและมองตาขวาง
หม้ออสูรกลืนสวรรค์ของต้วนเต๋อกระตุกแล้วบินออกไปเอง มันลอยอยู่กลางท้องฟ้าและปลดปล่อยแสงสว่างจ้าออกมาอย่างไม่รู้จบ
“มันเป็นเนื้อหนังของจักรพรรดิโบราณอย่างแน่นอน แม้ว่าแก่นแท้ทั้งหมดที่มีอยู่ในนั้นจะสูญหายไปโดยสิ้นเชิง แต่ก็ยังกระตุ้นหม้ออสูรกลืนสวรรค์ได้ หรือว่านี่จะเป็นเนื้อหนังของชายผู้โหดเหี้ยม!” ต้วนเต๋อตกใจมาก
“มันเป็นสิ่งที่บรรพชนของข้านำออกมาจากวังทองแดงเมื่อหลายปีก่อน” จี้จื่อเยว่กล่าวอย่างจริงจัง
ทุกคนหัวใจเต้นแรงด้วยความหวาดกลัว ของขวัญของตระกูลจี้นี้น่าหวาดหวั่นอย่างถึงที่สุด แม้ว่าจะเป็นเพียงเนื้อชิ้นเล็กๆ แต่มูลค่าของมันเทียบได้กับอาวุธครึ่งก้าวเต๋าสุดขั้วอย่างแน่นอน
นั่นก็เพราะชิ้นส่วนของร่างกายจักรพรรดิผู้โหดเหี้ยมนั้นไม่เพียงถูกนำมาสร้างหม้ออสูรกลืนสวรรค์ แต่ยังใช้ในการฝึกฝนได้อีกด้วย สิ่งล้ำค่าที่สุดก็คือเต๋าที่ซ่อนอยู่ภายใน หากทำความเข้าใจได้มันจะเป็นประโยชน์อย่างไม่รู้จบ!
พลังของจักรพรรดิที่บรรจุอยู่ภายในนั้นได้สลายไปโดยธรรมชาติเมื่อเวลาผ่านไปหลายปี มิฉะนั้นต่อให้บรรพชนตระกูลจี้จะแข็งแกร่งมากเพียงใดก็ไม่สามารถสัมผัสชิ้นเนื้อนี้ได้
วังทองแดงถูกปกคลุมไปด้วยรัศมีลึกลับซึ่งปรากฏเพียงครั้งเดียวในรอบหมื่นปี มันท่องไปทั่วโลกและไม่เคยปรากฏขึ้นที่ตำแหน่งเดิมสักครั้ง
ตามตำนานเล่าขานว่าภายในวังทองแดงนั้นมีความลับแห่งความเป็นอมตะซ่อนอยู่ ทุกยุคทุกสมัยผู้คนต่างค้นหาวังทองแดงนี้เพื่อเปิดประตูสู่ความเป็นอมตะให้ได้
เย่ฟ่านและจี้จื่อเยว่โชคดีมากที่ได้รับโอกาสที่ดีในการเข้าไปข้างใน ด้วยความช่วยเหลือของวังทองแดงมันทำให้พวกเขารวบรวมปราณปฐพีต้นกำเนิดได้เป็นจำนวนมาก ทั้งยังหลบหนีออกมาได้สำเร็จอีกด้วย
หนานกงเจิ้งอัจฉริยะผู้ยิ่งใหญ่แห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์รอดชีวิตกลับมาอย่างหวุดหวิด เขาเป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตไม่กี่คนนับตั้งแต่ยุคโบราณที่รอดชีวิตกลับมาได้ มิหนำซ้ำในปัจจุบันเขายังประสบความสำเร็จในการทะลวงเข้าสู่อาณาจักรเซียนได้อีกด้วย
ในตอนที่เขากลับออกมาข้างนอกนั้นเขาได้เก็บชิ้นส่วนเนื้อของจักรพรรดิผู้โหดเหี้ยมกลับมาไม่น้อย ผลการเก็บเกี่ยวของเขาต้องบอกว่าน่าอัศจรรย์อย่างแท้จริง
น่าเสียดายที่ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถสัมผัสศพของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ได้ แม้ว่าเขาจะทะลวงเข้าสู่อาณาจักรเซียนได้สำเร็จแต่เขากลับต้องประสบกับคำสาปชั่วร้ายที่ทำให้พลังชีวิตของเขาถูกทำลายไปอย่างรวดเร็ว
ในปัจจุบันเขากลายเป็นเพียงชายชราที่รอความตายอย่างเงียบๆเท่านั้น
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทุกคนที่อยู่ในโลกต่างตระหนักเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามดินแดนศักดิ์สิทธิ์หลายแห่งของตงหวงยังคงมีส่วนร่วมในการแบ่งเนื้อหนังของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ออกเป็นหลายส่วนอยู่ดี
“ในอดีตบรรพชนของข้าปฏิเสธอย่างเด็ดขาดว่านี่เป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น แต่ในที่สุดพวกเขาก็บอกความจริงกับข้าแล้ว ทุกอย่างเป็นเรื่องจริง” จี้จื่อเยว่กล่าว
ตระกูลจี้โชคดีที่สุด พวกเขาพบแหวนวงหนึ่งที่ติดมากับเนื้อด้วย แหวนนี้ไม่ได้มีลักษณะพิเศษอะไร มันถูกทำขึ้นจากทองแดงและไม่มีพลังศักดิ์สิทธิ์อยู่ภายในแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตามหลังจากที่มันอาบรัศมีแห่งความเป็นอมตะของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่มานานนับหมื่นปี มันก็แข็งแกร่งยิ่งกว่าโลหะใดๆ ทั้งสิ้น
ตระกูลจี้สันนิษฐานว่า เดิมทีนี่คือทองแดงธรรมดา แต่มันเป็นวัตถุที่จักรพรรดิผู้โหดเหี้ยมชอบมากที่สุด เขาสวมใส่อยู่ที่นิ้วตัวเองเป็นเวลาหลายปีจนกระทั่งมันกลายเป็นสมบัติศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา
มีเพียงจักรพรรดิโบราณเท่านั้นที่มีวิธีการเปลี่ยนชิ้นส่วนทองแดงของมนุษย์ให้กลายเป็นแหวนเซียนและมีพลังแห่งความเป็นอมตะซุกซ่อนอยู่!
มือของจี้จื่อเยว่เปล่งประกายแวววาว และแหวนโบราณก็ปรากฏขึ้น มันเป็นแหวนที่ถูกทำขึ้นแบบหยาบๆ และไม่มีความงดงามใดๆ คล้ายกับถูกสร้างขึ้นมาจากมือของเด็กน้อยเท่านั้น
แหวนวงนี้เดิมสูญหายไปจากตระกูลเมื่อตอนที่จี้จื่อเยว่ยังเด็ก นางพบมันที่มุมหนึ่งของสวนนางเล่นมันในมือและทำให้มีแสงเซียนอันแข็งแกร่งถูกปลดปล่อยออกมา
สิ่งนี้ทำให้ผู้คนในตระกูลจี้เกิดความหวาดกลัวอย่างมาก อย่างไรก็ตามภายใต้อำนาจของแหวนวงนี้มันทำให้ร่างศักดิ์สิทธิ์ของจี้จื่อเยว่ตื่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว
เมื่อเป็นเช่นนี้ผู้อาวุโสตระกูลจี้จึงคาดคำนวณว่าจักรพรรดิผู้โหดเหี้ยมค่อนข้างชื่นชอบในตัวจี้จื่อเยว่พวกเขาจึงมอบแหวนวงนี้ให้นางเก็บรักษาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน
หม้ออสูรกลืนสวรรค์คล้ายกับจะตื่นขึ้นมา พลังศักดิ์สิทธิ์อันท่วมท้นเขย่าโลกทั้งใบให้สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ต้วนเต๋อหดศีรษะลงด้วยความกลัว
ในเวลาต่อมาหม้ออสูรกลืนสวรรค์ก็ลอยเข้าไปในฝ่ามือของจี้จื่อเยว่
ทุกคนตกตะลึง แต่สิ่งนี้เป็นเครื่องยืนยันได้แล้วว่าหม้ออสูรกลืนสวรรค์จะไม่ทำร้ายใครแม้ว่ามันจะตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์แล้วก็ตาม
“คนที่อยู่วังทองแดงคือจักรพรรดิผู้โหดเหี้ยมจริงหรือ?” ทุกคนต่างประหลาดใจ
“เขา…” ต้วนเต๋อตัวสั่น และกล่าวสิ่งที่น่าประหลาดใจออกมา นับตั้งแต่เขาได้รับหม้ออสูรกลืนสวรรค์ เขาก็ฝันร้ายอยู่เสมอ เขามองเห็นแหวนทองแดงวงนี้พร้อมกับใบหน้าปีศาจที่แปลกประหลาดอย่างยิ่ง
บัดนี้เมื่อเห็นแหวนทองแดงปรากฏขึ้นอีกครั้ง เส้นผมของเขาก็ตั้งตรงและกรีดร้องด้วยความกลัว
“แหวนของจักรพรรดิผู้โหดเหี้ยม…” เมื่อทุกคนทราบเรื่องนี้ ต่างก็ตกตะลึง นี่เป็นสมบัติอมตะจริงๆ!
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าชีวิตของจักรพรรดิผู้โหดเหี้ยมนับเป็นหนึ่งในเรื่องที่น่ามหัศจรรย์ที่สุดในโลก เขาเกิดและตายอยู่ถึงสี่ชีวิต นี่คือจักรพรรดิผู้มีชีวิตยืนยาวมากที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
“จักรพรรดิสวรรค์แห่งหนานหลิงและจักรพรรดิแห่งความโกลาหล(หลวนกู่)ก็คือจักรพรรดิผู้โหดเหี้ยมเช่นกัน?” ผังป๋อกล่าว
“บางทีเขาอาจจะเป็นจักรพรรดิ์สวรรค์แห่งหนานหลิง แต่ไม่ใช่จักรพรรดิแห่งความโกลาหลแน่นอน นั่นก็เพราะบรรพชนแห่งวังสวรรค์ของเราเคยเข้าเฝ้าจักรพรรดิแห่งความโกลาหลมาแล้ว” ฉีลั่วส่ายหน้า
มีความลับมากมายเกี่ยวกับชายผู้โหดเหี้ยมนี้ และบางคนถึงกับสงสัยว่าเขายังไม่ตายด้วยซ้ำ นี่คือจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ที่มีชีวิตมาก่อนยุคของจักรพรรดิอู่ซือ แต่เขากลับได้รับการเกิดใหม่อย่างไม่รู้จบ บางทีแม้กระทั่งในยุคปัจจุบันเขาก็ยังอาจจะมีชีวิตอยู่ก็ได้
“ข้ามักจะพบกับความรู้สึกโดดเดี่ยวในความฝัน บางครั้งข้าก็เห็นภาพที่พร่ามัว เด็กหญิงผมเปียตัวน้อยร้องไห้ขณะที่นางส่งเด็กชายและผู้คนจำนวนมากออกเดินทางด้วยแท่นบูชาห้าสี”
จี้จื่อเยว่กล่าวด้วยความกังวล นับตั้งแต่ที่นางได้พบกับแหวนวงนี้มันทำให้นางมองเห็นฉากที่ไม่สามารถสงบใจได้ แต่สุดท้ายเมื่อรู้ว่าเย่ฟ่านจะจากไป นางก็อดไม่ได้ที่จะบอกความลับของ แท่นบูชาห้าสีให้เขาทราบ
ในความฝันของจี้จื่อเยว่มันเป็นหมู่บ้านบนภูเขาที่ห่างไกลมาก
เด็กหญิงตัวเล็กๆ มาจากครอบครัวที่ยากจน เสื้อผ้าชิ้นเล็กๆ ของมีรอยปะรอยชุนอยู่เต็มไปหมด และแม้แต่รองเท้าเล็กๆ ของนางก็ยังมีรูที่นิ้วเท้าซึ่งทำให้นางดูน่าสงสารอย่างยิ่ง
เด็กชายคนนั้นคือพี่ชายของเด็กหญิงตัวน้อยและเป็นญาติเพียงคนเดียวของนาง พวกเขาก็พึ่งพาซึ่งกันและกันตั้งแต่เกิด หน้ากากหน้าตาบูดบึ้งเป็นของเล่นชิ้นเดียวของพวกเขา
เพื่อทำให้เด็กหญิงตัวน้อยมีความสุข เด็กชายจึงทำแหวนทองแดงวงนี้ให้กับนาง แม้ว่ามันจะหยาบมาก แต่เด็กหญิงตัวน้อยก็มองว่ามันเป็นสมบัติที่ล้ำค่าที่สุด
ต่อมามีคนกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวขึ้น พวกเขารู้ว่าเด็กชายผู้นี้มีพรสวรรค์อันยิ่งใหญ่จึงพาตัวเขาจากไป ส่วนเด็กหญิงตัวน้อยนั้นไม่ได้มีพรสวรรค์อะไรเลย นางจึงถูกทิ้งไว้บนเขาเพียงลำพัง
เด็กหญิงตัวน้อยร้องไห้อย่างเศร้าโศกและวิ่งตามกลุ่มคนเหล่านั้นไปพร้อมกับรองเท้าที่ขาดรุ่งริ่ง เด็กชายก็ร้องไห้และขอให้น้องสาวของเขามีโอกาสติดตามไปถึงแท่นบูชาห้าสี
เมื่อพวกเขามาถึงแท่นบูชาห้าสีเด็กชายและคนกลุ่มใหญ่ก็ออกเดินทางโดยไม่ลังเล พวกเขาทอดทิ้งให้เด็กหญิงตัวน้อยร้องไห้อย่างเศร้าโศกอยู่เพียงผู้เดียว
ก่อนออกเดินทางเด็กชายคนนั้นได้หยิบหน้ากากปีศาจและแหวนทองแดงออกมามอบให้เด็กหญิงตัวน้อยพร้อมกับโบกมือให้นางเป็นครั้งสุดท้าย
ไม่กี่ปีต่อมา เด็กหญิงตัวน้อยเติบโตขึ้นมาพร้อมกับความยากจน นางไม่ได้ย้ายไปที่ไหนและยังคงเฝ้าแท่นบูชาอยู่เป็นเวลาหลายปี
วันหนึ่งเมื่อนางเห็นคนจำนวนมากกลับมา นางก็วิ่งไปที่แท่นบูชาด้วยความดีใจ แต่สิ่งที่นางได้รับกลับมีเพียงเถ้ากระดูกของพี่ชายเท่านั้น สิ่งสุดท้ายที่จี้จื่อเยว่มองเห็นคือเด็กสาวคนหนึ่งที่กำลังกรีดร้องราวกับจะขาดใจ
และภาพทั้งหมดหยุดอยู่เพียงเท่านี้และไม่เคยปรากฏขึ้นอีกครั้ง อย่างไรก็ตามจี้จื่อเยว่ได้ดูแลแหวนวงนี้เป็นอย่างดีโดยไม่เคยปล่อยให้มันห่างจากตัวแม้แต่ครั้งเดียว
“สาวน้อยคนนั้นคือจักรพรรดิผู้โหดเหี้ยมในหรือเปล่า?” หัวใจของพวกเขาเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน
“เหตุการณ์ร้ายในตอนนั้นทำให้สาวน้อยผู้น่าสงสารกลายเป็นจักรพรรดินีผู้โหดเหี้ยมที่ทำให้โลกทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคตสั่นสะเทือน!”
เมื่อรู้ความจริงข้อนี้ทุกคนไม่เพียงไม่รู้สึกหวาดกลัวเท่านั้น แต่พวกเขากลับรู้สึกเศร้าโศกอย่างอธิบายไม่ได้
แท้ที่จริงแล้วใบหน้าที่อยู่บนหม้ออสูรกลืนสวรรค์มันก็คือหน้ากากที่สองคนพี่น้องนั้นหวงแหนมากที่สุด มันเป็นใบหน้าของปีศาจที่ไม่รู้ว่ากำลังยิ้มหรือร้องไห้กันแน่
หลายคนคาดเดาว่านี่เป็นประสบการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือนของจักรพรรดินีผู้โหดเหี้ยม มันเป็นความทรงจำที่มีทั้งรอยยิ้มและความเศร้าโศก แต่พวกเขาไม่เคยคิดว่าจะมีความลับเช่นนี้ซุกซ่อนอยู่
สำหรับบุคคลภายนอก นั่นอาจเป็นเหตุการณ์ในอดีตที่แสนจะธรรมดา แต่สำหรับเด็กหญิงตัวน้อยคนหนึ่งที่เฝ้ารอการกลับมาของญาติเพียงคนเดียวมันคือความเศร้าโศกอย่างที่ไม่อาจลบเลือนได้
ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนางหลังจากนั้น แต่เหตุการณ์นี้จะต้องเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความรุ่งโรจน์ของนางอย่างไม่ต้องสงสัย
นางคือผู้อยู่ยงคงกระพันของเก้าสวรรค์สิบภพ อย่างน้อยในสายตาคนนอกนางก็คือจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ที่แข็งแกร่งและชั่วร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์!
จี้จื่อเยว่มองไปที่เย่ฟ่านและกล่าวเบาๆ “ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังจะจากไป ไม่นานมานี้ข้าตรวจสอบแผนที่ทางภูมิศาสตร์และค้นพบที่อยู่ของแท่นบูชาห้าสีภายในฝันแล้ว”
………………….