นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 448 - ฟลินท์! คายออกมาเดี๋ยวนี้!!
“ฉันบอกว่า ขอปฏิเสธ!! ได้ยินชัดหรือยัง?” เดวิดกล่าวตอบเสียงดังฟังชัด
มันเป็นคำตอบที่ทำให้สีหน้าของเฉียวเฟินบิดเบี้ยวไปทันที เธอร้อยไม่คิดพันไม่คิดว่าตัวเองจะได้ยินการปฏิเสธแบบนี้เลย “เดวิด! นายแน่ใจแล้วอย่างนั้นใช่มั้ย? นายรู้ตัวใช่มั้ยว่ากำลังพูดอะไรออกมา? ถ้าหลงจือมีชีวิตรอดไปจนจบงานเทศกาลล่าสัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้ได้ เรื่องยุ่งยากและอันตรายมากมายจะพุ่งเข้านายทันที นี่มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับชีวิตของนายเชียวนะ!” สาวน้อยในผ้าคลุมสับสนจริง ๆ เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเดวิดปฏิเสธ การทำตามข้อเสนอจะทำให้ชีวิตในภายภาคหน้าสงบสุขขึ้นอีกไม่น้อยแท้ ๆ
“ฉันแน่ใจและมีสติดีอยู่! ฉันแค่ไม่สนใจเท่านั้น ไม่ว่าจะความยุ่งยากหรือนักล่ามือสังหารอะไร ถ้าอยากมาก็ให้พวกมันมา ถึงเวลาแล้วฉันจะรับมือกับมันด้วยตัวเอง ไม่ต้องให้เธอมายุ่งยากกังวลสนใจเลย เรื่องที่ยากจะพูดมีแค่นี้ใช่มั้ย? ฉันจะได้ขอตัวไปก่อน อ้อ! ขอบคุณสำหรับคำเตือน” เดวิดกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเล็กน้อย แต่เขายังฝืนยิ้มให้เธอ ก่อนจะเดินผ่านออกมานอกปากถ้ำและมุ่งหน้าเข้าไปในป่าทันที
ใบหน้าของเฉียวเฟินดำคล้ำ ดวงตาทอประกายอันเกรี้ยวกราดออกมา คลื่นสมองที่รุนแรงก่อตัวขึ้นจนอากาศรอบตัวเคลื่อนไหวอย่างปั่นป่วนราวกับมีลมพายุพัดกรรโชกแรง ก่อนที่แรงกดดันทั้งหมดจะหมุนวนอยู่รบตัวเธอจนกลายเป็นพายุหมุนที่โหมกระหน่ำ
เดวิดเดินออกมาจากปากถ้ำได้เกือบ 50 เมตร เขาชะงักเท้าลงพร้อมกับรอยยิ้มกว้างที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้า “เยี่ยม! เร็วเลย! รีบโจมตีเร็ว ๆ เลย!”
ด้วยสีหน้าที่ลุ้นระทึก เดวิดลอบเตรียมตัวให้พร้อมรับการโจมตีเอาไว้อย่างพร้อมสรรพ เขาต้องการจะรู้ว่าจริง ๆ แล้วสาวน้อยคนนี้มีความแข็งแกร่งอยู่ระดับไหนกันแน่ บางทีอาจจะมีโอกาสกำจัดเธอทิ้งไปในคราวนี้เลยก็ได้ หลังจากนั้นว่าง ๆ ค่อยไปตามฆ่าหลงจือเพื่อป้องกันความยุ่งยากในภายหลังอีกที ถ้าทำได้อย่างนี้! ตอนที่กลับไปถึงสำนักแล้วชีวิตจะได้ไม่ยุ่งยากมากเกินไปนัก แต่ถ้าไม่ได้ก็ช่างมัน!
ตรงข้ามกับความคาดหวังของเดวิด แรงกดดันจากด้านหลังเริ่มลดลงและสลายตัวไปในที่สุด เฉียวเฟินพุ่งตัวจากไปอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ก่อนที่จะทิ้งเสียงคำรามเอาไว้เป็นประโยคสุดท้าย “แล้วนายจะต้องเสียใจที่ปฏิเสธฉัน!!”
เดวิดถอนหายใจยาวออกมาแบบผิดหวัง เขาหันหลังกลับมามองตามร่างของเฉียวเฟินที่พุ่งลับหายไปในป่า ส่ายหัวเล็กน้อยพร้อมกับพึมพำเบา ๆ อย่างไม่เข้าใจ “เฮ้อ! ทำไมผู้หญิงสวย ๆ ถึงได้ใจร้ายนิสัยเสียไปหมดอย่างนี้นะ!? ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ น่าปวดหัว!”
หลังจากยืนบ่นกับตัวเองจบ เขาก็ขมวดคิ้วครุ่นคิดเล็กน้อย คลื่นสมองที่เขาสัมผัสได้นั้นมีความแข็งแกร่งยิ่งกว่าหลงจือเสียอีก มันเทียบเท่าได้กับเจ้าโจรโชคร้ายผู้ก่อปฐพีคนนั้นเลยด้วยซ้ำ แต่ระดับพลังของเฉียวเฟินไม่ใช่สิ่งเดียวที่เดวิดกำลังคิดถึงอยู่ เพราะต่อให้แข็งแกร่งกว่านี้เขาก็มีวิธีจัดการได้อยู่ดี
“เธอหาฉันเจอได้ยังไง?” ดวงตาของเดวิดเปลี่ยนเป็นสีแดงและสีทองในทันที ก่อนที่มันจะถูกใช้มองสำรวจไปทั่วร่างกายอย่างละเอียด ด้วยระดับการมองเห็นของดวงตาแวมไพร์และมนุษย์หมาป่าพร้อมกัน มันไม่ควรจะมีสิ่งผิดปกติใดเล็ดรอดสายตาไปได้ แต่! เขาก็ไม่พบสิ่งที่น่าสงสัยเลยแม้แต่น้อย
เดวิดขมวดคิ้วแน่นขึ้น ก่อนจะคว้าตัวของฟลินท์ที่กำลังกัดหูของเขาลงมาถือเอาไว้ตรงหน้า เจ้าตัวน้อยส่งเสียงคำรามและบิดตัวดิ้นรนอย่างไม่ชอบใจ จนเมื่อมองเห็นดวงตาสีแดงและสีทองกำลังจ้องเขม็งมาที่ตัวเอง เจ้าเสือดำจอมดื้อก็ทำตัวเรียบร้อยขึ้นมาทันที มันหุบปากเงียบและก้มหน้าราวกับเป็นลูกแมวเชื่อง ๆ ตัวหนึ่งในทันที เดวิดส่ายหน้าอย่างปลง ๆ ก่อนจะไล่มองดูตามร่างกายของเจ้าตัวน้อยอย่างละเอียดทันที
ไม่ผิดจากที่เขาคาดเอาไว้ บนลำตัวของมันมีอะไรบางอย่างสีเหลืองจาง ๆ ติดอยู่ ทีแรกเดวิดไม่ได้ติดใจสงสัยมากนัก เพราะมันไม่มีกลิ่นอะไรออกมาแม้แต่น้อย แต่เมื่อคิดถึงความสามารถพิเศษทางด้านการมองเห็นของอีกฝ่ายแล้ว เขาก็ไม่คิดจะปล่อยผ่านไป
เดวิดหยิบขวดน้ำออกมาจากแหวนเก็บของและเทมันลงบนตัวฟลินท์เพื่อทำความสะอาดทันที เจ้าเสือดำน้อยผู้เกลียดน้ำสะดุ้งและเริ่มดิ้นรนออกมาอีกครั้ง แต่เมื่อเดวิดถลึงตาดุเข้าใส่ ฟลินท์ผู้น่าสงสารก็หลุบหูก้มหน้าลงไปอย่างจำยอม
“แม่สาวคนนี้เจ้าเล่ห์กว่าที่ฉันคิดเอาไว้เสียแล้ว” เดวิดพึมพำออกมาเมื่อคราบสีเหลืองนั้นไม่สามารถล้างออกได้เลยแม้แต่นิดเดียว มันเป็นสิ่งที่ทำให้เฉียวเฟินสามารถหาเขาเจอได้ในคราวนี้อย่างแน่นอน แต่ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถกำจัดร่องรอยนี้ออกไปได้ เดวิดก็ไม่เป็นกังวลอะไรอีกต่อไปแล้ว มันกลายเป็นเรื่องดีไปเสียด้วยซ้ำ เขาไม่ต้องออกไปตามหาอีกฝ่ายให้เหนื่อยเลย
หลังจากที่จับตัวฟลินท์ถูกกับแขนเสื้อของตัวเองจนตัวเจ้าเสือดำแห้งสนิท เดวิดก็เงยหน้ามองไปรอบ ๆ ก่อนจะเลือกมุ่งหน้าเข้าไปในป่าที่ดูทึบที่สุด เขาไม่คิดจะอยู่ในถ้ำเล็ก ๆ แห่งนี้อีก และคิดจะซ่อนตัวอยู่ในป่าทึบเป็นการชั่วคราว พยายามใช้สมุนไพรที่เก็บมาได้ยกระดับตัวเองให้ขึ้นไปเป็นผู้ก่อพลังชั้นสมบูรณ์ให้เร็วที่สุด แม้ว่าเดวิดจะไม่ได้กลัวเฉียวเฟินเลยแม้แต่นิดเดียว แต่การเตรียมตัวให้พร้อมเอาไว้ดูจะเป็นเรื่องที่ฉลาดกว่า บางทีคุณหนูเจ้าเล่ห์คนนี้อาจจะมีสมบัติวิเศษอะไรติดตัวอยู่ก็ได้ หรืออาจบางที! เธออาจจะเป็นยายแก่ยอดฝีมือที่กดระดับพลังของตัวเองเอาไว้แล้วลอบเข้ามาในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เพื่อตามหาสมบัติ!
“อืม! มันก็เป็นไปได้อยู่นะ นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอไม่กล้าลงมือด้วยตัวเอง กลัวว่าจะกดระดับพลังเอาไว้ไม่อยู่! อืม!? มีเหตุผล ๆ ฉันนี่มันฉลาดจริง ๆ” เดวิดเดินไปพึมพำยกยอตัวเองไป เขาทึ่งกับความคิดอันบรรเจิดเพ้อเจ้อของตัวเองอยู่ไม่น้อย โดยที่ไม่รู้เลยว่าสิ่งที่คาดเดาเอาไว้ใกล้เคียงกับความจริงเป็นอย่างมาก
......
ในที่สุดเดวิดก็หาตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับการเก็บตัวเพื่อยกระดับได้ เขาเลือกต้นไม้ใหญ่ขนาด 10 คนโอบที่ตั้งอยู่ในป่าทึบต้นหนึ่ง เจาะให้มันเป็นโพรงขนาดย่อม ๆ พอให้คน 2-3 คนเข้าไปนั่งอยู่พร้อมกันได้ หลังจากที่ยกหินก้อนใหญ่มาปิดบังสายตาจากคนภายนอกเอาไว้เรียบร้อย เดวิดก็เข้าไปนั่งขัดสมาธิอย่างเตรียมพร้อมทันที
หลังจากทำสมาธิผ่อนคลายตัวเองจนรู้สึกเข้าที่ เขาก็หยิบผลไม้สีม่วงดำออกมาจากแหวนเก็บของ 5 ลูก กลิ่นหอมลอยฟุ้งออกมาอย่างยั่วยวน แค่ได้กลิ่นก็สามารถทำให้สติและสมองของเดวิดแจ่มใสขึ้นได้อย่างมากแล้ว สาเหตุที่เขาเลือกหยิบสมุนไพรชนิดนี้ออกมา เป็นเพราะรู้สรรพคุณว่านี่คือของล้ำค่าที่สามารถยกระดับความเข้มข้นของคลื่นสมองได้โดยไม่ทิ้งผลข้างเคียงเอาไว้เลยแม้แต่นิดเดียว
แน่นอน! แม้มันจะไม่มีผลเสียต่อร่างกายที่ร้ายแรง แต่ผู้ฝึกฝนส่วนใหญ่จะใช้มันแค่ลูกเดียวเท่านั้น การยกระดับความแข็งแกร่งของคลื่นสมองอย่างก้าวกระโดดเกินไปในครั้งเดียว อาจส่งผลให้พื้นฐานการฝึกฝนเสียหายได้ หลังจากที่กินผลไม้ชนิดนี้เข้าไปแล้ว แต่ละคนจะต้องใช้เวลาพอสมควรในการทำให้ระดับคลื่นสมองคงที่และเสถียรจนถึงสภาวะที่รับได้ก่อน ถึงจะลองกินผลที่ 2 ต่อไป
เดวิดยกมันขึ้นมาดูใกล้ ๆ อย่างครุ่นคิด ก่อนที่ตัดสินใจจะกินมันทีละลูกจนกว่าจะยกระดับตัวเองขึ้นไปเป็นผู้ก่อพลังชั้นสมบูรณ์ได้ เขาคิดว่าพื้นฐานและระดับพลังในตอนนี้มั่นคงพอที่จะฝืนกินมันไปได้สัก 2-3 ลูกโดยไม่ส่งผลเสียอะไรมากนัก เดวิดหลับตาเพื่อสูดลมหายใจเข้าไปลึก ๆ อีกครั้ง ก่อนจะลืมตาขึ้นมาพบว่าผลไม้ในมือเหลือเพียงแค่ 3 ลูกเท่านั้น!!
มันถูกขโมยไป! ที่มุมด้านหนึ่งของโพรงไม้แห่งนี้ เจ้าเสือดำตัวน้อยกำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อกลืนผลไม้ทั้ง 2 ลูกในปากลงท้องไป ปากเล็ก ๆ ของมันขยับไปมาอย่างน่าขัน ขนาดของผลไม้นี้ใหญ่เกินไปที่ฟลินท์จะกินไปพร้อมกันทีละ 2 ลูกได้ แต่มันก็ไม่คิดจะคายออกมาแม้แต่น้อย
ดวงตาของเดวิดกระตุก ใบหน้าบิดเบี้ยวจนดูไม่ได้ เขาคิดที่จะเก็บผลไม้พวกนี้สำรองเอาไว้ใช้เพิ่มระดับความเข้มข้นของสมองให้แตะขีดจำกัดชั้นสมบูรณ์ในอนาคต เจ้าตัวแสบนี่โลภมากเกินไป ถ้าจะลองกันสักลูกจากจำนวนทั้งหมด 5 ลูก เดวิดอาจจะไม่คิดอะไร แต่ขโมยไปทีเดียวพร้อมกัน 2 ลูกแบบนี้ มันเป็นเรื่องที่รับไม่ได้!!
“ฟลินท์! หยุดเดี๋ยวนี้เลย! คายมันออกมาก่อน!” เสียงตวาดที่ดังขึ้นทำให้เสือดำตัวน้อยชะงักลงไป มันเงยหน้าขึ้นจ้องตาเดวิดเขม็ง
“ดีมากเจ้าเหมียวน้อย! อย่างนั้นแหละ อย่าเพิ่งกลืนลงไป เดี๋ยวติดคอแย่ คายมันออกมาก่อน” เขาปลอบออกไปด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน ก่อนจะค่อย ๆ ยื่นมือออกไปช้า ๆ เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายตกใจ และดูเหมือนว่าจะได้ผล ฟลินท์กระพริบตาถี่ แต่ไม่ได้ถอยหนีหรือแสดงท่าทีขัดขืนเลย
“ใช่แล้ว! เด็กดี อยู่นิ่ง ๆ อย่างนั้นก่อน” เดวิดปลอบต่ออย่างโล่งใจที่เจ้าเสือน้อยเชื่อฟังคำสั่ง แต่! เขาเข้าใจผิด
อึก!
ฟลินท์กลืนผลไม้ทั้ง 2 ลูกลงท้องไปได้สำเร็จในวินาทีที่มือกำลังจะแตะตัวมันได้พอดี ทิ้งให้มือนั้นลอยค้างอยู่กลางอากาศ ดวงตาของเดวิดกระพริบถี่อย่างประมวลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ทันอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจยาวออกมา และมือนั้นเปลี่ยนเป็นลูบหัวของเจ้าฟลินท์ที่จ้องมองมาตาแป๋วแบบเบา ๆ แทน
ทำอะไรไม่ได้! ใครใช้ให้เขาเลือกที่จะเก็บเจ้านี่มาเป็นสัตว์เลี้ยง? แล้วกันไปเถอะ! เดวิดเฝ้าสังเกตอาการของเสือดำเกล็ดมังกรอีกครู่หนึ่งจนมั่นใจว่ามันไม่เป็นอันตราย นอกจากอาการเซื่องซึมกว่าปกติ และหมอบนอนลงไปอยู่กับพื้น เขาก็ดึงมือของตัวเองกลับมาเพื่อจัดการกับเรื่องของตัวเองต่อ...