1247 - เข้าสู่เหมืองโบราณต้นกำเนิด
1247 - เข้าสู่เหมืองโบราณต้นกำเนิด
เหมืองโบราณต้นกำเนิดนั้นรกร้างและไร้ชีวิตชีวาเป็นเขตต้องห้ามแห่งชีวิตที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ และมีเพียงไม่กี่คนที่กล้าก้าวไปที่นั่น
ไม่มีใครรู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างในเหมืองโบราณต้นกำเนิด แม้กระทั่งในยุคที่จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์โบราณปกครองโลก พวกเขาก็ยังปฏิบัติต่อสิ่งที่อยู่ในเหมืองโบราณต้นกำเนิดอย่างนอบน้อม
ตอนนี้ถนนสีทองทอดยาวไปข้างหน้าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ว่าพื้นที่จะบิดเบี้ยวแค่ไหน ทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกบดขยี้ภายใต้อำนาจของถนนสีทองนี้
ร่างสีทองแวววาวยืนอยู่ด้านหน้าถนนสีทอง รอบตัวเขาคืออสูรศักดิ์สิทธิ์เก้าชนิด
ดูเหมือนว่าจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่จะตระหนักดีถึงความน่ากลัวของเหมืองโบราณต้นกำเนิด ดังนั้นเขาจึงพิจารณาเล็กน้อยก่อนที่จะเดินเข้าไปข้างใน
เวลาผ่านไปนานนับล้านปีและไม่มีสิ่งมีชีวิตใดได้ย่างก้าวเข้ามายังสถานที่แห่งนี้ ที่นี่คือหนึ่งในพื้นที่ต้องห้ามที่น่ากลัวที่สุดในโลก แม้ว่ามันจะเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์โบราณแต่ก็ยังมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่กล้าเข้าไปข้างใน!
“จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ต้องการทำลายเหมืองโบราณหรือไม่?” เสียงเย็นชาดังออกมาจากเหมืองโบราณต้นกำเนิด
ผู้ที่กล่าวคำพูดนี้คือสิ่งมีชีวิตที่นอนหลับไหลมาหลายหมื่นปีเสียงของเขาสั่นสะเทือนทั้งสวรรค์พิภพ สิ่งมีชีวิตโบราณและมนุษย์ที่เกิดความสงสัยว่าเจ้าของร่างสีทองนี้เป็นจักรพรรดิโบราณหรือไม่ต่างสิ้นความสงสัยทันที
ในอดีต เย่ฟ่านและบุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชดช่วงเคยเดินมาที่ปากทางเข้าของเหมืองโบราณต้นกำเนิดโดยบังเอิญ ในตอนนั้นพวกเขาทำได้เพียงมองที่แห่งนี้จากระยะไกล
สภาพแวดล้อมมืดมิดไม่มีแม้แต่แสงดาวสาดส่องลงมา ท้องฟ้าเต็มไปด้วยความสยดสยอง นับตั้งแต่เหมืองโบราณต้นกำเนิดเกิดขึ้น ดูเหมือนจะมีเพียงจักรพรรดิเหิงอวี้เท่านั้นที่กล้าบุกเข้าไปข้างในโดยปราศจากความกลัว
ในที่สุดจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ก็ก้าวไปข้างหน้า มังกร กิเลน เฟิ่งหวง รวมทั้งอสูรศักดิ์สิทธิ์ทุกชนิดที่โอบล้อมอยู่รอบตัวของเขาต่างก็วิ่งเข้าไปข้างในอย่างกระตือรือร้น
น่าเสียดายที่หลังจากจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ก้าวเข้าไปในเหมืองโบราณต้นกำเนิดก็ไม่มีใครมองเห็นความเคลื่อนไหวของเขาอีก
ที่ด้านหน้าเหมืองโบราณฮั่วฉีจื่อตกตะลึงอย่างถึงที่สุด เขาพยายามกระตุ้นดวงตาสวรรค์ด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้มองเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในดินแดนต้องห้ามนี้
แน่นอนว่ายังมีเสมือนจักรพรรดิอีกหลายคนที่กระตุ้นดวงตาศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองเพื่อให้มองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายในถ้ำ พวกเขามองเห็นร่างพร่ามัวของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้น
“เขาเข้าไปแล้ว... จักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้เข้าไปในเหมืองโบราณต้นกำเนิด!”
“สวรรค์ เขาเข้าไปข้างในเพื่อต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตอมตะที่แท้จริงหรือไม่?”
ทันใดนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็มืดมิดลง และท้องฟ้าเบื้องบนก็ถูกปกคลุมไปด้วยหมู่เมฆ กฎแห่งเต๋าของสวรรค์พิภพเข้าปกคลุมทุกอย่างทำให้ไม่มีใครสามารถมองเห็นร่างของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ได้อีก
เหมืองโบราณต้นกำเนิดกลืนกินแสงและปราณแห่งสวรรค์พิภพอย่างตะกะตะกาม แม้ว่าตอนนี้จะเป็นช่วงเวลากลางวันแสกๆ แต่บริเวณของเหมืองโบราณต้นกำเนิดกลับถูกปกคลุมด้วยความมืดมิด
“บูม”
ดวงดาวนับพันล้านดวงรวมตัวกัน ท้องฟ้าสีขาวอันกว้างใหญ่มีพลังแห่งความโกลาหลปกคลุมอย่างแน่นหนา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ราชาโบราณทุกคนสูดลมหายใจอย่างหนาวเหน็บ
ภายในเหมืองโบราณต้นกำเนิดมีสิ่งมีชีวิตผู้แข็งแกร่งมากมายตื่นขึ้นจากการหลับไหล ลักษณะของพวกเขาไม่แตกต่างอะไรจากซากศพที่ลุกขึ้นมาจากใต้ดิน
“จักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์เจ้าต้องการทำสงครามกับเราชาวเหมืองโบราณต้นกำเนิดหรือไม่?”
เสียงที่แก่ชรานั้นดังก้องสวรรค์พิภพเขย่าโลกทั้งใบให้สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
“เมื่อหลายแสนปีก่อนมีการสู้รบครั้งใหญ่นอกเหมืองโบราณต้นกำเนิด น่าเสียดายที่ข้าไม่เคยเข้ามาข้างในนี้ ตอนนี้ข้าถือได้ว่าทำตามความฝันของตัวเองแล้ว สถานที่แห่งนี้ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ”
เสียงของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์เต็มไปด้วยความนุ่มนวลแต่สะท้อนไปทั่วทุกมุมของเหมืองโบราณต้นกำเนิด และทำให้สีหน้าของสิ่งมีชีวิตที่อยู่ข้างในเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
เจ้าบุกเข้ามาที่นี่เพียงเพราะต้องการสานฝันของตัวเองเท่านั้น?
“แม้ว่าเจ้าจะเป็นจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ เจ้าก็ไม่สามารถทำตัวหยาบคายเช่นนี้ได้ เมื่อเข้ามาในเหมืองโบราณของต้นกำเนิด หรือว่าเจ้าต้องการทำสงครามกับเราจริงๆ?”
เสียงโบราณเย็นชาและโหดเหี้ยม เห็นได้ชัดว่าเกิดความโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก
“ให้เขาผ่านไปโดยไม่ต้องต่อสู้ เขาไม่ใช่คนมีชีวิตและจะอยู่ได้ไม่นาน การต่อสู้กับเขารังแต่จะทำให้เราสูญเสียโดยไม่จำเป็น”
เสียงโบราณอีกเสียงดังออกมาราวกับเพิ่งตื่นจากการหลับไหล น้ำเสียงของเขาปราศจากอารมณ์ใดๆ และทำให้เหมืองโบราณต้นกำเนิดกลับสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง
ในเวลาต่อมาจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ได้เดินสำรวจทุกซอกทุกมุมของเหมืองโบราณ จากนั้นเขาก็กลับมาที่ตำแหน่งเดิมและกวาดสายตาไปรอบๆ
“พวกเจ้าไม่มีใครอยากสู้กับข้าเลยหรือ?”
จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่กระซิบเบาๆ เขามองเข้าไปในห้องกว้างซึ่งมีสิ่งมีชีวิตผู้ยิ่งใหญ่นอนหลับไหลอยู่ภายในเหมือง
อย่างไรก็ตามดวงตาที่โหดเหี้ยมเหล่านั้นเพียงจ้องมองอย่างเย็นชาและไม่มีใครตอบสนองกลับมา
“ปล่อยคนตายนี้เพ้อเจ้อไป อย่ายุ่งเกี่ยวกับเขาอีก!” อีกเสียงหนึ่งกล่าว
นอกเหมืองโบราณต้นกำเนิด ชนเผ่าโบราณทั้งหมดตกตะลึง
จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์เดินเข้าไปในเหมืองโบราณต้นกำเนิด แต่เขาก็กลับออกมาด้วยความปลอดภัยโดยไม่ระงับอันตรายแม้แต่น้อย
หลังจากที่ จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ออกมาข้างนอกเขาก็ก้าวขึ้นไปบนท้องฟ้าและพยักหน้าเบาๆ คล้ายกับตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่าง
ในเวลาต่อมาถนนสีทองใต้เท้าของเขาปรากฏขึ้นอีกครั้งและทอดยาวออกจากเหมืองโบราณต้นกำเนิด จุดหมายปลายทางของมันคือเมืองศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์
ตลอดทั้งวันนั้นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ได้ไปเยี่ยมเยือนดินแดนศักดิ์สิทธิ์รวมทั้งราชวงศ์โบราณทั้งหมดของเผ่าพันธุ์มนุษย์โดยไม่พูดอะไร
สิ่งมีชีวิตจากเผ่าพันธุ์โบราณเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ไม่มีใครกล้าต่อต้าน ความแข็งแกร่งที่แท้จริงคืออะไรพวกเขาเพิ่งตระหนักถึงในตอนนี้
ความเคลื่อนไหวของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เต็มไปด้วยความแปลกประหลาด แม้แต่เผ่าพันธุ์มนุษย์ด้วยกันเองก็ยังเกิดความหวาดกลัวต่อท่าทีของเขา
ในอดีตเผ่าพันธุ์โบราณมีความดูถูกเหยียดหยามต่อมนุษย์อย่างมาก แม้กระทั่งในงานชุมนุมที่จัดขึ้นในทะเลสาบหยกพวกเขาก็ยังมีท่าทีแข็งกร้าวอย่างยิ่ง
ตอนนี้จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ยืนอยู่เหนือเมืองศักดิ์สิทธิ์โดยไม่มีผู้ใดปฏิเสธตัวตนของเขาได้ รัศมีพลังอันน่าสะพรึงกลัวกวาดออกไปรอบทิศทางสร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วโลก
“จักรพรรดิโบราณยังมีชีวิตอยู่ เขาคือใคร?” สิ่งมีชีวิตโบราณจำนวนมากร่างกายสั่นสะท้าน
“เขาเข้าไปในเหมืองโบราณต้นกำเนิดและยังรอดชีวิตกลับออกมาอย่างปลอดภัย หากเราเข้าไปสอบถามผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่ในเหมืองพวกเขาจะต้องให้คำตอบอย่างแน่นอน”
น่าเสียดายที่ไม่มีใครเต็มใจเข้าไปในเหมืองโบราณต้นกำเนิด มีเพียงฮั่วฉีจื่อเพียงคนเดียวที่ฝึกฝนอยู่ด้านหน้าเหมืองโบราณโดยไม่หวั่นเกรงความตายเหมือนผู้อื่น
“ทุกสิ่งทุกอย่างมีเหตุผลในการดำรงอยู่ของมัน”
จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่กระซิบกับตัวเอง จากนั้นพลังศักดิ์สิทธิ์ของเขาระเบิดไปทั่วท้องฟ้าเพื่อสร้างความหวาดกลัวให้กับสิ่งมีชีวิตโบราณเป็นครั้งสุดท้าย
ทุกสิ่งที่เย่ฟ่านและราชาสวรรค์เคยทำมาก่อนได้ถูกจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ทำขึ้นอีกครั้ง อย่างไรก็ตามพลังของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ที่แท้จริงนี้ต่อให้คัมภีร์สถาปนาเทพสิบเล่มก็ไม่มีทางเปรียบเทียบได้!
ภายใต้แสงสีทองที่ยิงขึ้นเหนือเมืองศักดิ์สิทธิ์ จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ก็เดินทางสู่ภาคใต้ในลมหายใจเดียวเท่านั้น
“นี่เป็นวิธีการแบบไหน? เขาสามารถเดินทางไปทั่วโลกด้วยการเคลื่อนไหวเพียงไม่กี่ครั้ง พลังศักดิ์สิทธิ์ประเภทนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหตุใดจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่จึงเป็นสิ่งมีชีวิตประเภทเดียวที่สามารถข้ามทะเลดวงดาวอันไม่สิ้นสุดได้”
ในเวลานี้แม้แต่เซียนแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ก็ยังอดที่จะหวาดกลัวไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเผ่าพันธุ์โบราณมากมายนับไม่ถ้วน
การปรากฏตัวของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เผ่าพันธุ์มนุษย์ทำให้ทัศนคติของสิ่งมีชีวิตจากเผ่าพันธุ์โบราณมีความอ่อนโยนลงเป็นอย่างมาก
สถานที่สุดท้ายที่จักรพรรดิ์ผู้ยิ่งใหญ่เผ่าพันธุ์มนุษย์ปรากฏตัวขึ้นคือดินแดนต้องห้ามแห่งชีวิตในภาคใต้ เขาสำรวจบริเวณที่มังกรเก้าตัวลากโลงศพตกลงมาและพึมพำกับตัวเองเบาๆ
ไม่มีใครรู้ว่าเขามาที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ทั้งเก้าเพียงลำพัง ลึกเข้าไปในเทือกเขานี้ มีเนินดินบางเนินที่เตี้ยกว่าภูเขามาก หากมองดูใกล้ๆ จะเห็นว่าเนินดินเหล่านี้ล้วนมีสุสานโบราณซุกซ่อนอยู่
สีหน้าของจักรพรรดิ์ผู้ยิ่งใหญ่เต็มไปด้วยความเศร้าโศกและกล่าวว่า
“ข้ากลับมาแล้ว” เขายืนอยู่หน้าเนินเขาที่พังทลายแล้วพึมพำกับตัวเองว่า “ข้าสามารถคว้าดวงดาวและดวงจันทร์ไว้ในมือได้อย่างง่ายดายแต่กลับไม่สามารถรักษาชีวิตของเจ้าได้”
เขายืนเงียบๆ เป็นเวลานาน สุสานนี้มีหลุมศพมากมายนับไม่ถ้วน ทุกร่างที่ถูกฝังอยู่ภายในล้วนเป็นสหายร่วมรบของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ในตอนที่เขายังเด็ก
คนเหล่านี้ล้วนเป็นคนรัก เป็นพี่น้อง และเป็นญาติมิตรของเขา
“ข้ากลับมาแล้ว เราจะไม่แยกจากกันอีกต่อไป ข้าจะอยู่กับเจ้าตลอดกาล...”
ในที่สุดร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณแห่งต้าเฉิงก็กลายเป็นแสงสีทองจมหายเข้าไปในหลุมศพแห่งหนึ่งและร่องรอยการปรากฏตัวของเขาก็หายไปจากโลกโดยสิ้นเชิง
………….