ตอนที่แล้วบทที่ 130 : คุณค่าและความไร้ค่า (4-2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 132 : ดันเจี้ยนสำรวจ (1-2)

บทที่ 131 : ดันเจี้ยนสำรวจ (1-1)


บทที่ 131 : ดันเจี้ยนสำรวจ (1-1)

วันรุ่งขึ้น

หลังจากทำกิจวัตรยามเช้าเสร็จ ฉันก็ก้าวออกไปที่ห้องนั่งเล่น

ห้องนั่งเล่นซึ่งได้รับการปรับปรุงใหม่ มีความหรูหราพอที่จะทำให้นึกถึงโรงแรมระดับห้าดาว

ฉันเดินผ่านทางเดินไปยังพื้นที่รับประทานอาหาร

พื้นที่รับประทานอาหารชั้นสองก็เรียบร้อยและเป็นระเบียบเช่นกัน มีโต๊ะยาวพร้อมผ้าปูโต๊ะสีขาวอยู่ตรงกลาง และที่นั่น เจนน่ากำลังรับประทานอาหารเช้าอยู่

“เฮ้ ฮานตื่นแล้วเหรอ?”

เจนน่าโบกมือขณะมองมาที่ฉัน

ขณะที่โบกมือ เธอก็พึมพำออกมา ด้านหน้าของเธอมีขนมปัง เบคอน และสตูว์เนื้อ

“น่าแปลกมากที่อาหารเช้าวันนี้อร่อยจริงๆ ฉันกินอิ่มมาเลย”

เจนน่าหยิบเบคอนเข้าปากเธอ

ดวงตาของเธอดูเปล่งประกายด้วยความดีใจ

"แน่สิ เพราะเราต้องทำอาหารให้คนน้อยลงยังไงล่ะ”

ฉันดึงเก้าอี้ข้างๆ เจนน่าออกมาแล้วนั่งลง

เมื่อวานนี้มีเนื้อเพียงชิ้นเดียวในสตูว์ เบคอนก็แข็งเป็นหิน ขนมปังเองก็แข็งและแห้ง นอกเหนือจากส่วนผสมที่ไม่เพียงพอแล้วแล้ว เวลาทำอาหารก็ไม่พอเช่นกัน ต้องเตรียมอาหารสำหรับ 35 คน แต่มีแม่ครัวเพียงสองคนเท่านั้น

ตอนนี้จำนวนคนลดลงมากกว่าครึ่ง วัตถุดิบจึงเพิ่มขึ้นอย่างมาก และมีเวลาเตรียมการมากขึ้น แม่ครัวที่ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยโดยไม่ได้พักผ่อนได้หายไปแล้ว

ฮีโร่ที่ชั้น 1 อาจจะกำลังปอกเปลือกมันฝรั่งอยู่ตอนนี้

เจนน่ายังคงฮัมเพลงขณะที่เธอกินต่อไป

เหตุผลที่ผิวของเจนน่าดูกระจ่างใสผิดปกติอาจเป็นเพราะเธอใช้เวลาทั้งคืนในโรงอาบน้ำ ฉันเองก็ได้อาหารเยอะมากกกว่าปกติเช่นกัน

หลังกินข้าวเสร็จ ฉันกับเจนน่ามุ่งหน้าไปที่จัตุรัส

จัตุรัสชั้นสองว่างเปล่า คนอื่นๆพวกเขากำลังนอนหลับหรือไปที่สิ่งอำนวยความสะดวกหรือสนามฝึกซ้อมแล้ว

ฉันเปิดประตูสู่สนามฝึกซ้อม

สิ่งที่เห็นนั่นคืออารอนกำลังแทงหอกเข้าไปในหุ่นไม้

เจ้าเด็กหนุ่มคนนี้อยู่ที่สนามฝึกซ้อมเป็นคนสุดท้ายเมื่อวานนี้ และเป็นคนแรกสุดในวันนี้ เรานึกว่าเรามาเร็วที่สุดแล้วเสียอีก

“พี่มาแล้วเหรอครับ?”

อารอนทักทายขณะวางหอกลง

ฉันถอนหายใจและพูด

“นายนอนถึง 4 ชั่วโมงหรือเปล่า?”

“ประมาณ 3 ชั่วโมงครับ ผมคิดว่าประมาณนั้น”

“บ้ามาก”

ด้วยการเคลื่อนไหวที่แม่นยำ ปลายหอกก็แทงเข้าไปในหุ่นไม้

หลังจากเสร็จสิ้นกิจวัตรประจำวันของเขาแล้ว อารอนก็เข้ามาหาเราและเช่นเคย การฝึกทางกายภาพขั้นพื้นฐานก็เริ่มต้นขึ้น

การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดในสนามฝึกซ้อมระดับ 3 คือการเพิ่มห้องฝึกซ้อมส่วนตัวและพื้นที่ซ้อม

ห้องฝึกซ้อมแต่ละห้องถูกแบ่งด้วยผนังและสามารถล็อคได้จากด้านใน ตอนนี้เราสามารถฝึกฝนเชิงรุกได้เฉพาะตอนรุ่งสางโดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกตาของผู้อื่นแอบมอง

พื้นที่ซ้อมหมายถึงแท่นสูงตรงกลางสนามฝึกซ้อมชั้นสอง

ใครๆ ก็ขึ้นไปได้โดยใช้บันได และมันถูกล้อมรอบด้วยลูกกรงเหล็ก ลักษณะที่แตกต่างจากพื้นที่อื่นคือ การฟื้นฟูโดยใช้คุณสมบัติของห้องรอไม่ได้ผลที่นี่ หมายความว่าการซ้อมข้างในจะเหมือนกับการต่อสู้จริง แน่นอนหากได้รับบาดเจ็บสาหัส จะต้องออกมาจากที่นั้นอย่างรวดเร็ว

หลังจากนั้นประมาณ 30 นาที ออลก้า ก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมหาวออกมา

ออลก้าเหลือบมองที่เราวิ่งบนสนามราวกับว่าไม่สนใจแล้วเดินเข้าไปในห้องโถงเวทมนตร์ การพักฝึกของออลก้าดำเนินมาเรื่อยๆ จนถึงทุกวันนี้ อย่างไรก็ตามนั่นไม่ได้หมายความว่าเธอกำลังทำตัวไร้สาระ เมื่อออลก้า ไม่ได้รับการฝึกร่างกาย เธอจะตั้งใจฝึกเวทมนตร์ในห้องโถงเวทย์มนตร์

หลังจากนั้นไม่นาน กลุ่มปาร์ตี้ที่สองก็เข้าร่วมกับเรา ทำให้เรามีบุคลากรเพียงพอสำหรับการซ้อมวันนี้แล้ว

และเช่นเคย วันคืนที่แสนวุ่นวายก็เริ่มต้นขึ้นแล้ว ระหว่างพักฝึกซ้อมฉันลงมาที่จัตุรัสชั้นหนึ่งเพื่อสังเกต ที่สนามไม่เหมือนเมื่อไม่กี่วันก่อนที่คนน้อยและกระจัดกระจาย ตอนนี้ฮีโร่ส่วนใหญ่อยู่ในสนามฝึกซ้อมหรือไม่ก็กำลังเรียนรู้ทักษะจากฮีโร่สายสนับสนุน

“สองคนนั้นดูเข้าท่าดี”

ฉันมองเข้าไปข้างในผ่านประตูที่เปิดอยู่ของสนามฝึกชั้นหนึ่ง

ในสนามฝึกซ้อมชั้นหนึ่ง เวคิสกำลังซ้อมตัวต่อตัวกับฮีโร่คนอื่นๆ แม้ว่าจะเป็นแค่เบื้องต้น แต่พวกเขาก็ถือดาบจริงในการซ้อม นี้มันอาจเป็นความคิดของเวคิส เวคิสคงเป็นเพียงคนเดียวที่ใช้ดาบจริงระหว่างการซ้อม

“บุคลิกก้าวร้าว กล้าหาญ ไร้ความกลัว”

ความสามารรถของเขาอยู่สูงกว่าค่าเฉลี่ย เช่น ทักษะ “สัญชาตญาณสัตว์ป่า” ที่เขาได้รับมาเมื่อวันก่อนเป็นความสามารถที่หายาก มันมีอัตราการได้รับน้อยกว่า 1% มันแตกต่างจากความสงบหรือความบ้าคลั่ง สัญชาตญาณสัตว์ป่าคือทักษะติดตัวที่จะเปลี่ยนสถานะของฮีโร่ เช่น ความกลัวหรือความโกรธเป็นพลังการต่อสู้ เพราะฉะนั้นมันจึงสามารถทำงานร่วมกับทักษะอื่นๆ ของผู้ใช้ได้ดี

ฉันเบือนสายตาไปทางอื่น

ผู้หญิงผมสั้นสีดำและท่าทางเย็นชาโจมตีตุ๊กตาไม้อย่างดุเดือดด้วยดาบเรียวยาวของเธอ เนเรสซ่า ไลเยอร์เธอเป็นผู้ใช้ดาบคู่ที่สลับระหว่างดาบยาวและดาบสั้น

พลังการต่อสู้ของเธอนั้นต่ำกว่าของเวคิส แต่บุคลิกของเธอนั้นสงบและเย็นชามาก นอกจากนี้ เธอยังช่างสังเกตและเธอมีความชำนาญอื่นๆ เช่น การซ่อนตัว การซุ่มโจมตี และการรวบรวมข้อมูลข่าวกรอง ถ้าได้รับการฝึกฝนที่เหมาะสม เธอจะพัฒนาเป็นฮีโร่ประเภทโจรที่เก่งกาจอย่างแน่นอน

'ส่วนที่เหลือไม่มีประโยชน์'

เมื่อใดก็ตามที่ดาบของเวคิส เหวี่ยงไปมา จะมีคนสะดุ้งทุกครั้ง

แม้ว่าทั้งสองคนจะร่วมมือกัน แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะได้เลย เนเรสซ่าดูจะเหนือกว่า ดูท่าความแตกต่างระหว่างพวกเขาจะชัดเจนยิ่ง

เวคิสเอาชนะฮีโร่สามคนลงบนพื้น พลางมองมาที่ฉันและยิ้มให้

แม้ว่าฉันจะไม่ได้ยินเสียง แต่ฉันก็สามารถเข้าใจความหมายได้

'จะลองมาสู้กันไหม?'

“ไอ้เวรนี้”

ฉันหัวเราะและชักดาบออกมา

จากนั้นฉันก็เดินเข้าสู่สนามฝึกชั้นหนึ่ง

อย่างที่คิด เวคิสไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน

หลังจากวุ่นวายไปบ้าง สิ่งต่างๆ ก็สงบลงชั่วขณะหนึ่ง เป็นเรื่องน่าชื่นชมที่เขาอดทนต่อความเจ็บปวดได้ แม้ในสถานการณ์ที่ทั้งร่างกายของเขาจะถูกฉันกระหน่ำโจมตี

หลังจากฝึกจนถึงเย็น นายท่านก็เข้าสู่ระบบ

หลังจากส่งฮีโร่ระดับต่ำที่เขาสุ่มได้มาเมื่อวานไปทำภารกิจอื่น นายท่านก็เริ่มออกไปค้นหาวัตถุดิบในดันเจี้ยนรายวัน เพราะสิ่งอำนวยความสะดวกระดับ 4 จำเป็นต้องใช้วัสดุหลากหลาย เช่น แร่ ไม้ และหนัง ดูท่าคงจะต้องมีฮีโร่มาประจำในการฟาร์มหาสิ่งของแล้ว

จากนั้น

[กลุ่มปาร์ตี้ที่ 1 มานี้หน่อย!]

สามวันแล้วที่ไอเซลล์เรียกหาเรา

หลังจากเสร็จสิ้นตารางการฝึก ฉันก็ลุกขึ้นจากที่นั่ง ซึ่งฉันได้วิเคราะห์สภาพห้องรอจากห้องของฉันบนชั้นสองหลังจากจัดระเบียบข้อมูลแล้ว ฉันก็ออกมาที่จัตุรัส สมาชิกปาร์ตี้ 1 ก็รวมตัวกันที่จัตุรัสเรียบร้อยแล้ว

[อ่า การบินขึ้นลงบ่อยๆ มันเหนื่อยมากเลย ฉันแก่แล้วเหรอเนี่ย?]

ไอเซลล์หน้ามุ่ยขณะบีบไหล่ของเธอ

ออลก้าขัดจังหวะไอเซลล์ที่กำลังบ่นโดยไม่สนใจ

"ต้องการอะไร? จะให้เราปีนหอคอยเหรอ?”

“ยังหรอก สมาชิกเราขาดไปหนึ่งคน”

ฉันพูดต่อ

สมาชิกคนสุดท้ายของกลุ่มปาร์ตี้ 1 และกลุ่มปาร์ตี้ 2 ยังไม่ครบ

สถานการณ์ตอนนี้มันแตกต่างจากชั้น 15

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด