บทที่ 130 : คุณค่าและความไร้ค่า (4-2)
บทที่ 130 : คุณค่าและความไร้ค่า (4-2)
ฉันชี้ดาบของฉันไปที่ตรงเท้าของซิตัน ไม่มีใครสนใจดาบที่ฉันผลักไปข้างหน้า
“ตัดแขนข้างหนึ่งของนายออกด้วยดาบนี้ แล้วฉันจะลองคุยกับนายท่านให้”
"อะไรนะ?!"
“ฉันไม่ได้บอกนายก่อนหน้านี้เหรอ? ราคานายต้องจ่ายนั้นมันถูกมากเลยนะ”
ถ้าเขาทำจริง ฉันอาจจะคุยกับนายท่านให้เขาก็ได้
ชายคนนั้นอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ
“บ้าไปแล้วเหรอ! ให้ฉันตัดแขนของตัวเองแบบนั้นเนี่ยนะ?”
"แล้วยังไง…"
พวกเขาสร้างปัญหาแล้ว เพื่อนาคตที่ดีขึ้น ฉันจะปล่อยพวกเขาไปเฉยๆ ไม่ได้
อย่างไรก็ตาม หากมีคนบ้าพอที่จะตัดแขนของตัวเองออก ถึงมันจะดูบ้ามาก แต่มันก็คงจะดีกว่าที่จะสังเคราะห์พวกเขาแน่นอน เพราะการตัดส่วนต่างๆ ของร่างกายออกไปไม่ใช่เรื่องง่าย
ดูเหมือนชายคนหนึ่งจะตัดสินใจและกำลังจะตัดแขนของเขาออกเมื่อเขากรีดร้องและขว้างดาบออกไปทันที เลือดหนึ่งเส้นปรากฏบนแขนของเขา ชายคนนั้นได้แต่สะอื้นออกมา
“มันไม่มากเกินไปเหรอ… มันไม่ใช่นิ้ว มันคือแขนเลยนะ!”
“นายพูดว่าพร้อมเอาชีวิตของตนมาเสี่ยงไม่ใช่งั้นเหรอ?”
“ถ้างั้น ช่วยตัดมันให้ฉันได้ไหม? ฉันทำไม่ได้”
“ฉันทำแบบนั้นให้ไม่ได้หรอก”
“หรือนายกำลังบอกให้พวกเราทุกคนไปตายกันหมดเหรอ?”
“แบบนั้นก็ไม่แย่นะ”
อีกสองสามคนพยายามตัดแขนของตนออก แต่ก็ไม่มีใครทำสำเร็จ
หากต้องการตัดแขนออกในจังหวะเดียว จำเป็นต้องมีทักษะการใช้ดาบหรือค่าความแข็งแกร่งสูง มิฉะนั้นคงจะได้แค่แผลเท่านั้น ทว่าในสายตาของฉัน คงไม่มีใครบ้าพอสำหรับเรื่องนั้น พวกเขาพยายามซ้ำแล้วซ้ำอีก จนยอมแพ้แล้วเข้าห้องสังเคราะห์
ตอนนี้เหลือเพียงคนเดียวเท่านั้น
ที่เป็นต้นตอของเหตุการณ์นี้
[ฮาน ซิตัน!]
"อื้อ"
ฉันเดินเข้าไปในห้องสังเคราะห์
เมื่อห้องรอกลายเป็นชั้นสอง โครงสร้างของห้องสังเคราะห์ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ที่ชั้นหนึ่งเป็นห้องเลื่อนระดับ และชั้นสองเป็นห้องสังเคราะห์ หลังจากนั้นไม่นานซิตันก็ถูกลากเข้าไปในห้องสังเคราะห์อย่างไม่เต็มใจด้วยสายตาที่หวากกลัว เมื่อประตูปิดลงวงกลมเวทมนตร์ก็เริ่มเรืองแสง
“จะ จะเกิดอะไรขึ้นกับฉัน?”
"ไม่ต้องกังวล มันจะไม่เจ็บขนาดนั้น”
“เราก็แค่…”
ซิตันที่กำลังจะพูดต่อ แต่เขาก็สลายเป็นอนุภาคเปล่งแสงไปทุกทิศทุกทาง
อนุภาคแสงซึมเข้าสู่ร่างกายของฉัน พร้อมกับมีข้อความปรากฏขึ้นระบุว่าการสังเคราะห์เสร็จสมบูรณ์
[การสังเคราะห์เสร็จสมบูรณ์!]
['ซิตัน (★)' กลายเป็นแสงสว่างและหายไป]
['ฮาน (★★)' ได้รับคะแนนประสบการณ์เพิ่มขึ้น!]
พลังงานแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของฉัน
ระดับความแตกต่างระหว่างเป้าหมายและตัวสังเคราะห์นั้นมีความแตกต่างกันอยู่
ฉันได้รับคะแนนประสบการณ์จำนวนหนึ่งเท่านั้น เลเวลของฉันไม่เพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ
เมื่อออกจากห้องสังเคราะห์ คนสามสิบคนก็ลดลงเกือบครึ่งหนึ่ง มีคนสิบคนเสียชีวิตเนื่องจากการสังเคราะห์ มันเป็นเพียงเรื่องธรรมดา ฉันเก็บดาบที่ร่วงหล่นห้อยไว้กับเข็มขัด
ฉันสำรวจรอบๆ จัตุรัส
ทุกคนนิ่งเหมือนถูกแช่แข็ง แม้ว่าฉันจะไม่ได้อธิบายกระบวนการสังเคราะห์ แต่พวกเขาก็เข้าใจว่าพวกเขาไม่สามารถกลับมาได้ หากถูกสังเคราะห์แล้ว
'ครั้งต่อไปจะทำอะไรก็ช่วยศึกษาเพิ่มเติมอีกสักหน่อยเถอะ'
การปฏิเสธการเข้าร่วมเป็นวิธีการที่เสี่ยง แม้กระทั่งสำหรับฉันเอง
สำหรับพวกเขาที่เป็นเพียงฮีโร่ระดับ 1 ดาวทั่วไปจากการอัญเชิญฟรี การลงเอยเช่นนี้ถือเป็นปลายทางสุดท้าย มันเป็นผลจากการยอมรับเอาแต่ความสะดวกสบายโดยไม่เข้าใจเหตุและผลอย่างถูกต้อง
ไม่ว่าในกรณีใด พวกเขาก็คงกลายเป็นสื่อการสอนที่ดีให้กับคนอื่นๆ
ผู้ที่รอดชีวิตต่างก็คงตระหนักแล้วว่ามีช่องว่างระหว่างนายท่านและฮีโร่ สิทธิ์ในการปฏิเสธเป็นเพียงแค่เหมือนการประท้วงเท่านั้น ดังนั้นในความเป็นจริง มันก็คือการฆ่าตัวตาย
“สรุปว่าตอนนี้เหลืออยู่ 25 คน”
ฉันเดินผ่านใจกลางจัตุรัส
มันจบแล้ว ฉันตั้งใจที่จะตรวจสอบสิ่งอำนวยความสะดวก ที่พักและศูนย์ฝึกอบรมตอนนี้อยู่ที่ชั้น 3 และมีโรงอาบน้ำและห้องนั่งเล่นเพิ่มเข้ามา ผู้คนแหวกเส้นทางให้ฉันในขณะที่ฉันเดินผ่านไป
“พวกคุณมันบ้าไปแล้ว! พวกตัวประหลาด!”
ฉันหยุดเดิน
คนที่ตะโกนถูกซ่อนอยู่ในฝูงชน และมองไม่เห็นใบหน้าของพวกเขา
"ว่าไงนะ?"
เวคิสลุกขึ้นจากที่นั่ง
เขาชักดาบออกจากฝักไปแล้วครึ่งหนึ่ง
"หยุด"
“เราแสดงตัวอย่างให้พวกเขาเห็นเรียบร้อยแล้วเหรอ? ดูเหมือนว่าจะมีแต่พวกเหลือขอที่เอเห่านะ”
“ฉันไม่รู้สึกอะไรเลย แล้วทำไมนายถึงต้องทำตัวอยากมีปัญหาทั้งๆ ที่ฉันก็บอกแล้วว่าไม่มีอะไร?”
“ดูใจเย็นจังนะ ถ้าเป็นผม ผมคงจะขยี้พวกมันไปแล้ว”
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของเวคิส
"ผมไปก่อนนะ ไว้เจอกันที่ชั้นสอง”
เวคิสเข้าไปที่ชั้นหนึ่ง
เขามุ่งตรงไปยังศูนย์ฝึก ดูเหมือนเขาจะทดสอบพลังและทักษะที่เขาได้รับจากการสังเคราะห์ คนอื่นๆ ก็เริ่มเคลื่อนไหวเช่นกัน ในไม่ช้าฮีโร่ในห้องรอก็แบ่งออกเป็นชั้น1และชั้น2อย่างชัดเจน
ผู้มีคุณค่าทั้งหลาย
และพวกไร้ค่า
“นายท่านเริ่มการอัญเชิญติดต่อกัน 10 ครั้ง ตื่นเต้นจังว่าฮีโร่คนไหนจะออกมา!”
และมีข้อความแจ้งการอัญเชิญปรากฏขึ้น
*ตึกตึก ดูรูรูรู*
*แท้นนน!*
*ทั่วไป!*
*นายท่าน 'ไรก็ได้'…*
ฉันมองลงไปที่ชั้นแรกผ่านพื้นโปร่งใส
แท่นอัญเชิญบนชั้นหนึ่งเปิดออก แสงสีขาวส่องออกมาจากประตู เขากำลังอัญเชิญฮีโร่เพิ่มหลังจากผ่านการสังเคราะห์เมื่อกี้
จากนี้ไปพวกเขาจะถูกส่งไปตามระดับ
ฮีโร่อัญเชิญมาฟรีอยู่ที่ชั้นหนึ่ง ฮีโร่ที่เสียเงินอัญเชิญจะอยู่ชั้นสอง
ชายคนหนึ่งที่เพิ่งถูกอัญเชิญมาก้าวเข้าสู่ลานจัตุรัส
ใบหน้าของเขามีสีหน้างุนงงซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของฮีโร่ระดับ 1 ดาว มีหญิงสาวเดินตามหลังชายคนนั้น ดูเหมือนเธอกำลังตะโกนอะไรบางอย่าง แต่ฉันไม่ได้ยินเสียงนั้น
เอี๊ยด
รอยแยกของมิติและเวลาเปิดออก
อย่างน้อยสองคนที่มาใหม่ก็อาจจะตายทันที
ดูเหมือนว่าจะมีการมอบหมายงานหลังจากการกวาดล้างครั้งใหญ่เมื่อกี้ ไอเซลล์ปรากฏตัวขึ้นและต้อนพวกมาใหม่เข้าไปในรอยแยก มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถขึ้นไปชั้นสองได้
'เขาบอกว่าฉันบ้าเหรอ?'
ฉันยิ้ม
สามัญสำนึกของโลกความเป็นจริงใช้ไม่ได้ที่นี่
เรากลืนกินกันและกันผ่านการสังเคราะห์ ต่อสู้เพื่อชีวิตของเรากับพวกสัตว์ประหลาดที่พยายามจะฆ่าเรา หากการปรับตัวเข้ากับกฎเหล่านั้นหมายถึงการเป็นคนบ้า นั่นแหละคือสิ่งที่เราต้องทำ
“อย่าได้ใจไปนะ เธอก็สามารถลงไปที่ชั้น 1ได้ตลอดเวลา”
“เป็นแบบนั้นเหรอ?”
เจนน่าหัวเราะพลางเกาแก้มของเธอ
อารอนเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า
“ถ้ามีชั้นสองได้ ก็หมายความว่าชั้นสามคงจะถูกสร้างด้วยเช่นกัน”
“จำนวนชั้นจะเพิ่มขึ้นสินะ”
“ระดับชั้นก็จะแตกต่างกันด้วย”
อีดิสกล่าว
ฉันพยักหน้า ห้องรับรองปัจจุบันถูกแบ่งออกเป็นชั้นบนและชั้นล่าง แต่สุดท้ายมันก็จะกลายเป็นโครงสร้างพีระมิด เช่นเดียวกับนิฟม์เฮม แม้ว่าสถานที่นั้นจะใช้ระบบขั้นสูงกว่าที่นี่มาก แต่แก่นหลักก็คล้ายกัน
ฉันมองไปที่ประตูหน้าจัตุรัสชั้นสอง
แผ่นป้ายที่มีคำว่า “รอยแยกของมิติแและเวลา” เขียนไว้ติดอยู่กับประตูที่ปิดอย่างแน่นหนา
ฉันมุ่งหน้าไปยังที่พักของฉัน