นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 442 - สวนสมุนไพรล้ำค่า
ดูเหมือนว่าหญิงสาวที่ชื่อเฉียวเฟินซึ่งปกปิดใบหน้าอยู่ จะมีความสามารถพิเศษในการมองเห็นสนามพลังงานได้ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ การจัดการกับม่านพลังครั้งนี้ก็พอจะมีความหวังแล้ว การโจมตีเข้าไปที่จุดอ่อนด้วยความรุนแรงอย่างต่อเนื่องตรงรอยแยกที่มีอยู่ก่อน จะช่วยลดระยะเวลาและพลังงานในการจู่โจมได้อย่างมากมายมหาศาลเลย
“ตรงนั้น!” ดวงตาที่ปิดสนิทอยู่ชั่วครู่ของเฉียวเฟินเปิดขึ้นมาอย่างฉับพลัน มือของเธอนั้นชี้ไปยังจุดหนึ่งกลางอากาศด้วยท่าทางมั่นใจเป็นอย่างยิ่ง
ดาบบิน 5 เล่มพุ่งตรงเข้าไปตามตำแหน่งที่ถูกระบุอย่างรวดเร็วและรุนแรง ทุกคนรวมทั้งเดวิดโจมตีไปที่ตำแหน่งเดิมซ้ำ ๆ อย่างต่อเนื่อง มีเพียงเฉียวเฟินเท่านั้นที่หยุดยืนนิ่งอยู่ ดูเหมือนว่าเธอกำลังจะทำการมองสำรวจม่านพลังอยู่อย่างพิจารณา
เดวิด!? เขาจับฟลินท์วางเกาะเอาไว้บนไหล่อย่างมั่นคง และลงมืออย่างเต็มกำลังตามความคาดหวังของคนทั้ง 5 นั้น การโจมตีที่ทั้งเชื่องช้าและและไม่รุนแรงมากนัก เรียกสายตาที่เหยียดหยามให้มองจ้องมาที่เดวิดได้เป็นระยะ แต่ก็ไม่มีใครเปิดปากพูดอะไร ดูเหมือนว่าพวกเขาต้องการทำลายม่านพลังแห่งนี้ให้ได้เร็วที่สุด ไม่มีใครยอมเสียเวลามมาสนใจคนอ่อนแอมากนักเลย
ตูม!! ตูม!! ตูม!! ตูม!! ตูม!! ตูม!! ตูม!! ตูม!! ตูม!! ตูม!! ตูม!! ตูม!! ตูม!!
แว้ง!! ครืน!! แคร๊ก!!!
เสียงการโจมตีระเบิดดังออกมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อถึงจุดหนึ่งความพยายามของพวกเขาก็เริ่มเห็นผล ม่านพลังก่อตัวปรากฏให้เห็นเป็นรูปร่าง ก่อนจะมันจะสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และเริ่มมีรอยแตกร้าวออกมาให้เห็น แต่น่าเสียดาย! มันฟื้นฟูตัวเองได้ และในอัตราที่ค่อนข้างจะรวดเร็วเสียด้วย
“เฉียวเฟิน! เธอยังเห็นรอยแยกอื่นอีกมั้ย ม่านพลังฟื้นฟูตัวเองได้แบบนี้ การโจมตีที่จะเดียวไม่น่าจะทำลายมันได้ทันการณ์แน่ หารอยแยกที่เชื่อมโยงกันให้ที” เหยียนหงกล่าวออกมาอย่างอดรนทนไม่ได้ แต่ยังไม่มีเสียงตอบกลับมาจากเฉียวเฟิน ดวงตาเธอยังปิดสนิทอยู่ ดูเหมือนว่ากำลังใช้ความสามารถพิเศษของตัวเองอย่างเต็มที่
“อย่าเพิ่งเร่งไปเหยียนหง! เชื่อใจคุณหนูเฉียวเถอะ นายใจเย็นและโจมตีต่อไปก่อน ฉันเชื่อว่าเธอต้องหารอยแยกได้อีกแน่” เสียงของหลงจือดังปรามออกมาเรียบ ๆ และลงมือโจมตีให้ดูเป็นตัวอย่างต่อไป
นั่นทำให้ไม่มีใครกล่าวอะไรออกมาอีก พวกเขาส่งดาบบินที่หนักหน่วงรุนแรงไปขยายรอยแยกให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ทุกคนต่างมีสีหน้าเคร่งเครียดจริงจัง ทำราวกับว่าตัวเองทุ่มพลังทั้งหมดที่มีออกไปอย่างเต็มที่แล้ว แน่นอน! หน้าผากของเดวิดเริ่มมีเหงื่อไหล สีหน้าเริ่มซีดขาวเหมือนกับใช้คลื่นสมองออกไปจนเกือบจะถึงขีดสุดแล้วเช่นกัน
ดูเหมือนว่าทุกคนจะคิดเหมือนกัน ต่างคนต่างเก็บงำความแข็งแกร่งที่แท้จริงของตนเองเอาไว้ ไม่มีใครยอม ‘ทุ่มเท’ อย่างสุดตัวเหมือนกับเดวิดเลยแม้แต่คนเดียว
“เจอแล้ว! อยู่ตรงนั้น!” เฉียวเฟินลืมตาขึ้นมาพร้อมกับชี้มือออกไปยังจุดหนึ่งบนม่านพลังในที่สุด
“เหยียนหง! นายกับฉันย้ายไปโจมตีที่จุดใหม่ ส่วนอีก 2 คนที่เหลือกับเจ้าหนูนี่พยายามทำให้รอยแตกนี่ขยายขนาดให้ได้มากที่สุดต่อไป!” หลงจือออกคำสั่งอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครเอ่ยปากโต้แย้งอะไรออกมาทั้งสิ้น เขาเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของคนกลุ่มนี้แล้ว ยกเว้นก็แต่ว่าเฉียวเฟินจะซ่อนความลึกลับอะไรมากกว่าความสามารถพิเศษที่แสดงออกมาให้เห็นในตอนนี้
เวลาผ่านไปอีกเกือบ 10 นาที รอยแยกที่ 2 แตกตัวใหญ่ขึ้นพอประมาณ เฉียวเฟินลืมตาขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับระบุรอยแยกตามธรรมชาติจุดที่ 3 ออกมา คราวนี้หลงจือเรียกหงไฉให้ไปลงมือช่วยเขาโจมตียังจุดไม่อย่างไม่ลังเล
“เยี่ยม! รอยแตกขยายตัวจนเกือบเชื่อมต่อกันแล้ว เพิ่มพลังการโจมตีเข้าไปอีก!” เสียงที่ตะโกนออกมาของแต่ละคนนั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ดาบบินของพวกเขารวดเร็วและรุนแรงขึ้นอีกระดับในพริบตา
มีเพียงเฉียวเฟินเท่านั้นที่ไม่ได้ลงมือ เธอทรุดตัวลงนั่งขัดสมาธิอยู่ที่พื้นด้วยสีหน้าที่ซีดเซียวเล็กน้อย เหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดออกมาให้เห็นบนหน้าผาก ดูเหมือนว่าการใช้ความสามารถพิเศษจะทำให้เปลืองพลังคลื่นสมองไปมากว่าที่คิด หรืออาจจะเป็นเพียงแค่การเสแสร้งแกล้งทำ!? ไม่มีใครรู้ได้เลย
แคร๊ก!! ครืด!! ครืน!!
ตูม!!!
ในที่สุดความพยายามของพวกเขาก็สำเร็จลงได้ รอยแตกตามธรรมชาติทั้ง 3 จุดของม่านพลังเชื่อมต่อกัน ก่อนที่มันจะขยายตัวจนระเบิดออกเป็นชิ้น ๆ คลื่นพลังกระเพื่อมทำให้อากาศรอบบริเวณสั่นไหวอย่างรุนแรง เมื่อทุกอย่างสงบลง ปากถ้ำขนาดใหญ่ก็เผยโฉมออกมาให้เห็น
โดยไม่ต้องให้มีใครเอ่ยปากเตือนออกมา คนทั้ง 6 พุ่งเข้าไปในถ้ำด้วยความเร็วสูงสุดของตัวเองทันที แน่นอน! เหยียนหงเป็นคนที่ออกตัวไปก่อนเพื่อน ความเร็วของเขาน่าเหลือเชื่อเกินไปจริง ๆ
หลงจือเองก็ไม่ได้อ่อนด้อยเลย เขาขยับมือเปลี่ยนท่วงท่าราวกับจักรผัน ดาบบินลอยกลับมาอยู่ใต้เท้า มันช่วยเสริมความเร็วจนตามเหยียนหงทันในเวลาไม่นานนัก หงไฉกับเหรินเหลียงก็ขยับอย่างไม่ช้าเช่นกัน ควบคุมดาบบินให้เพิ่มความเร็วไล่ไปแบบติด ๆ
ที่น่าแปลกใจที่สุดคือเฉียวเฟิน ร่างของเธอพุ่งออกไปโดยไม่ได้ใช้ดาบบินช่วย แต่เพียงแค่พริบตาเดียวก็สามารถแซงหน้าหลงจือและเหยียนหงไปได้ คลื่นสมองถูกปลดปล่อยออกมาครอบคลุมอยู่ทั่วร่างกาย ดูเหมือนว่าสาวน้อยคนนี้จะมีทักษะการเคลื่อนไหวที่ยอดเยี่ยมอยู่ในครอบครอง
เดวิดวิ่งตามไปด้วยดวงตาที่เบิกกว้างอย่างอิจฉา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นคนใช้คลื่นสมองเสริมความสามารถของร่างกายกับตา ในคู่มือการฝึกฝนทักษะที่จดจำเอาไว้ในหัว มีหลายทักษะที่มีหลักการคล้ายกัน ‘หมัดดาวตก’ ที่เดวิดสนใจจะฝึกฝนก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ส่วนใหญ่แล้วมันใช้ในการต่อสู้ระยะประชิด ไม่มีทักษะไหนช่วยเรื่องการเคลื่อนไหวให้รวดเร็วขึ้นได้เลย ต่อให้มี! เขาก็คงยังไม่คิดที่จะฝึกฝนมัน ใครจะไปรู้ล่วงหน้าว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ใช้พลังพันธุกรรมไม่ได้แบบนี้กันล่ะ?
“ให้ตายสิ! ทำไมถึงได้เร็วกันขนาดนี้นะ!” ความอิจฉาเปลี่ยนเป็นความโมโห เดวิดสบถคำหยาบคายออกมาไม่น้อย ก่อนที่จะเร่งฝีเท้าของตัวเองขึ้นอีก โชคดีที่ความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขาสูงกว่าคนทั้งหมดอยู่ไม่น้อย มันทำให้ไม่ได้ถูกทิ้งห่างไปมากนัก
ถ้ำนี้ลึกและด้านในมีขนาดที่กว้างขวางใหญ่โตกว่าที่คิด หลังจากวิ่งเข้ามาได้ไม่ถึง 1 นาที เดวิดก็ต้องหยุดชะงักฝีเท้าของตัวเองลง ตรงหน้าของเขาคือห้องโถงใหญ่ที่เป็นสวนสมุนไพร คลื่นพลังบริเวณนี้รุนแรงที่สุดในถ้ำ นี่น่าจะเป็นสิ่งที่ม่านพลังปกป้องและปกปิดเอาไว้
ในตอนแรก เดวิดขมวดคิ้วเล็กน้อยแบบผิดหวัง สมุนไพร!? มันจะเอาไปใช้ทำอะไรได้? เขาไม่รู้เกี่ยวกับพวกมันมากนักเลย แต่หลังจากที่เห็นท่าทางที่ตื่นเต้นดีใจราวกับพบสมบัติล้ำค้าของอีก 5 คนที่เหลือ เดวิดก็สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และเริ่มเก็บเกี่ยวทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าทันที อย่างน้อย ๆ มันต้องนำไปขายเปลี่ยนเป็นเหรียญทองจำนวนมหาศาลได้แน่
เขาเข้าใจไม่ผิดเลย! สมุนไพรที่อยู่ในสวนแห่งนี้สวนใหญ่แล้วเป็นสมุนไพรระดับ 2 แต่สิ่งที่ทำให้อีก 5 คนที่เหลือตาวาวขึ้นมา คือมันมีสมุนไพรระดับ 3 ปะปนอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว มีกระทั่งที่คุณภาพดีจนสามารถเรียกได้ว่าเทียบเท่ากับสมุนไพรระดับ 4 อยู่หลายต้น เหล่าผู้ก่อพลังชั้นสมบูรณ์ทั้งหลายต่างพากันแยกย้ายไปถอนเก็บเข้าแหวนเก็บของกันอย่างจ้าละหวั่น ปริมาณสมุนไพรนั้นมากพอจนไม่มีการถกเถียงแก่งแย่งกันเลยด้วยซ้ำ
เนื่องจากไม่รู้ว่าสมุนไพรแต่ละชนิดอยู่ระดับไหนหรือมีสรรพคุณอย่างไร? เดวิดถอนทุกต้นที่ขวางหน้าเข้าแหวนเก็บของไปอย่างรวดเร็ว ในเวลาแค่ไม่กี่นาที แหวนเก็บของวงแรกก็เต็มแน่นจนไม่เหลือที่ว่างให้ยัดอะไรเข้าไปอีกแล้ว ไม่มีปัญหา! เดวิดนำแหวนวงที่ 2 ออกมาทำหน้าที่แทนอย่างรวดเร็ว
9 วง! เดวิดนำแหวนเก็บของติดตัวมาด้วยทั้งหมด 9 วง นอกจากวงที่เขาได้รับมาจากศาสตราจารย์ใหญ่ที่เต็มแน่นไปด้วยเหรียญทองและดาบยักษ์แล้ว อีก 8 วงที่เหลือเรียกได้ว่าเกือบจะว่างเปล่า กลุ่มของฟงเทียนทั้ง 7 คนนั้นไม่ได้เก็บอะไรไว้ในแหวนมากนักเลย รวมถึงวงล่าสุดที่ได้มาจากหยางเฟินก็มีที่ว่างอยู่เหลือเฟือ มันทำให้เดวิดไม่ต้องคิดมากอะไรเลย เขาเก็บเกี่ยวสมุนไพรทุกชนิดอย่างมีความสุข หลังจากแหวนวงที่ 2 เต็ม แหวนวงที่ 3 วงที่ 4 ก็ทยอยถูกนำขึ้นมาใช้งานอย่างต่อเนื่องทันที
สิ่งที่เดวิดดูเหมือนจะลืมสังเกต หรืออาจบางทีเป็นเพราะเขาไม่สนใจเลยก็คือ คนอื่น ๆ ที่เหลือมีแหวนเก็บของติดตัวมากันแค่คนละวงเท่านั้น! ดูเหมือนว่าการเก็บแหวนของศัตรูเป็นของสะสมแบบเดวิดจะไม่เป็นที่นิยมนักในเขตการปกครองนี้ เหล่ายอดฝีมือที่นี่หยิ่งเกินไปที่จะค้นศพหรือยึดทรัพย์ของศัตรูมาเป็นของตัวเอง หรือถ้าทำแบบนั้น หลังจากรื้อค้นของมีค่าในแหวนออกมาจนหมดแล้ว พวกเขาก็จะโยนแหวนทิ้งเอาไว้อย่างไม่ใยดี ไม่มีใครบ้าพกมันติดตัวมากมายเหมือนกับเดวิดเลย ไม่มีใครคิดว่าจะต้องเจอกับสถานการณ์ที่มีของมีค่าให้เก็บมากถึงขนาดนี้
คนทั้ง 5 พยายามเลือกเก็บเฉพาะสมุนไพรระดับ 3 ที่มีคุณภาพดีเท่านั้น ในขณะที่เดวิดกวาดทุกอย่างเข้าไปจนหมด เมื่อรวม ๆ กันแล้ว มูลค่าของสมุนไพรที่เขาเก็บเข้าไปสูงกว่าคนอื่นหลายเท่าตัวนัก…