ตอนที่แล้วตอนที่ 262 ตู้เย็น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 264 ชานมไข่มุก

ตอนที่ 263 สวนต้นไม้กับความงามล้มเมือง(ฟรี)


(วันนี้ตอนเดียวนะครับ ผมต้องออกไปทำธุรตอนเย็นเลยแปลไม่ทัน)

ก็อกๆ

ที่ตำหนักเจ้าเมือง มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นที่ห้องทำงานของมู่เหลียง

นั่นคือหยู่ฉินหลานก่อนที่เธอจะเปิดประตูเข้ามาเองและเดินด้วยท่าทางราวกับพญาหงส์ไปทางโต๊ะทำงานของมู่เหลียง

มู่เหลียงตอนนั้นกำลังหมกมุ่นกับการเขียนแบบแผน และวาดแปลนต่างๆ ลงในกระดาษ

หยู่ฉินหลานเดินอย่างแผ่วเบา เข้าไปยืนข้างๆ มู่เหลียง และชะเง้อมองดูว่าสิ่งที่มู่เหลียงเขียนอยู่คืออะไร

“มันคือแผนผังของเมือง ถ้าอยากดูขอฉันก็ได้”

มู่เหลียงวางดินสอลง และส่งแผ่นกระดาษให้

หยู่ฉินหลานรับมาด้วยท่าทางประหลาดใจเล็กน้อย และดูอย่างระมัดระวัง

ในแผ่นกระดาษเป็นแผ่นที่เมืองเต่าทมิฬ และมันได้ถูกแบ่งจัดสรรพื้นที่ไว้แล้วทั้งพื้นที่การเกษตร พื้นที่อยู่อาศัย พื้นที่อุตสาหกรรม รวมไปถึงสวนผลไม้

“ว้าว มีสวนผลไม้อยู่ที่หลังเนินสูงด้วยงั้นหรอ”

หยู่ฉินหลานอุทานออกมาอย่างประหลาดใจ

“ใช่ ที่นั้นจะมีสวนผลไม้ด้วย”

มู่เหลียงพยักหน้า

เมืองเต่าทมิฬตอนนี้มีขนาดพอๆ กับเมืองเล็กได้แล้ว ถึงเวลาที่จะมีไร่สวนสักที

แต่ก็ต้องขอบคุณต้นชาเขียวประกายที่ทำให้ต้นอ่อนมากมายเติบโตขึ้นอย่างแข็งแรงและรวดเร็ว ทำให้แผนการทำสวนผลไม้นั้นเร็วขึ้น

หยู่ฉินหลานฟังและพยักหน้าช้าๆ

“นั้นสินะ ที่ตรงนั้นมันว่างมาตลอดเลย”

นับตั้งแต่ปรับปรุงเมืองครั้งที่สามมา พื้นที่รอบเนินสูงกว้างมากขึ้นหลายเท่า

“พื้นที่สวนผลไม้ทั้งหมดจะให้หมาป่าจันทราคอยดูแลในอนาคต”

มู่เหลียงพูดและยืนขึ้น

“จะไปไหนงั้นหรอ?”

หยู่ฉินหลานเห็นมู่เหลียงยืนขึ้นจึงถาม และวางแผ่นกระดาษลง

“ไปปลูกต้นไม้”

มู่เหลียงยิ้มมุมปาก ก่อนที่จะถามด้วยน้ำเสียงขี้เล่น

“ไปด้วยกันไหม?”

“แน่นอน”

หยู่ฉินหลานเชิดคางขึ้นด้วยความยินดี จนเผยให้เห็นคอที่ยาวเป็นระหงส์ของเธอ

ทั้งสองเดินออกจากตำหนักเจ้าเมืองพร้อมกัน และมู่เหลียงก็ได้กุมมือของหยู่ฉินหลานเอาไว้ พร้อมกับกระโดดออกไปเบาๆ ทั้งคู่ลอยขึ้นไปบนอากาศ ก่อนที่จะลอยไปตกตรงที่ด้านหลังของเนินสูง

พื้นที่ตรงนี้นั้นโล่งเตียนไม่มีสิ่งใด เตรียมพร้อมสำหรับการสร้างหรือทำสิ่งต่างๆ

“เต่าทมิฬน้อย! ขอดินให้ฉันหน่อย”

มู่เหลียงส่งกระแสจิตไปหาเต่าทมิฬ และเปิดโดมแก้วออกเหมือนกับดอกไม้บาน

แอร๊!!

เต่าทมิฬเมื่อได้ยินคำสั่งมันก็เดินหน้าไปพร้อมกับระเบิดพื้นดิน ก่อนที่จะควบแน่นดินทั้งหมดให้กลายเป็นเสา และไหลขึ้นมาบนด้านหลังของเนินสูง

“....”

หยู่ฉินหลานมองด้วยปากที่อ้าค้างด้วยความตกใจ

ถึงจะเคยเห็นฉากแบบนี้มาแล้วก็ตาม แต่เห็นกี่ครั้งเธอก็ยังตกตะลึงอยู่ดี

มู่เหลียงยื่นมือออกไปและใช้พลังของเขา ควบคุมดินทั้งหมดให้ถมพื้นที่หลังเนินสูง

ห้านาทีต่อมาโดมแก้วก็ปิดกลับเข้ามาเหมือนเดิม และพื้นที่หลังเนินสูงก็เต็มไปด้วยดิน

ด้วยความคิดของมู่เหลียงต้นอ่อนมากมาย ได้ถูกถอนออกมาจากสวนหลังตำหนัก ลอยขึ้นกลางอากาศก่อนที่จะตรงดิ่งมาหาทั้งสองคน

จากนั้นสิ่งที่หยู่ฉินหลานเห็นคือต้นอ่อนและต้นไม้เล็กๆ มากมาย ถูกฝั่งลงในดินอย่างเป็นระเบียบ

ในเวลาไม่ถึงห้านาที ต้นอ่อนกว่าหลายร้อยต้นก็ถูกปลูกใหม่จนเสร็จ

“ทีนี้ก็รดน้ำ”

มู่เหลียงพูดอย่างสบายๆ

แล้วในอากาศตอนนั้นเองก็มีความชื้นมากขึ้น  ก่อนที่จะเกิดเป็นมวลน้ำหยดลงมาและรดลงบนต้นอ่อนทั้งหมด

“เปิดใช้อาณาเขตแสงดาว”

แววตาของมู่เหลียงที่เป็นสีดำได้เกิดเป็นประกายแสงสีขาวขึ้น

ต้นชาเขียวประกายอยู่ๆ ก็ส่งเสียงออกมา พร้อมกับใช้อาณาเขตแสงดาว จนสว่างไปทั่วเมืองเต่าทมิฬ

ต้นอ่อนที่พึ่งปลูกเมื่อครู่ เติบโตด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ และเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ด้วยตาเปล่า

-ตอนแรกต้นอ่อนพวกนี้สูงเพียงครึ่งเมตรเท่านั้น -แต่ด้วยพลังของอาณาเขตแสงดาว เพียงพริบตาเดียวต้นอ่อนก็สูงใหญ่ถึงสองเมตร และลำต้นใหญ่เท่ากับหนึ่งคนโอบ

“เร็วมาก!”

หยู่ฉินหลานถึงกับตกตะลึง

ตอนนี้ต้นไม้ได้สูงถึงสามเมตร และเริ่มเปลี่ยนแปลงช้าลง

พร้อมกับแตกผลออกดอกเต็มสวน และส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ออกมา

“มู่เหลียง ผลไม้พวกนี้คืออะไร”

หยู่ฉินหลานถามเบาๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“ส่วนมากก็เป็นแอปเปิ้ล ส้ม แล้วมีต้นแพร์อีกสองสามต้น”

มู่เหลียงพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน

บี้สๆ

ทันได้ฝูงผึ้งก็ได้บินมาที่สวนผลไม้ และเริ่มเก็บน้ำหวานพร้อมกับผสมเกสร

มู่เหลียงเงยหน้าขึ้นมองไปยังต้นชาเขียวประกาย ก่อนที่จะถอนหายใจเล็กน้อย

“อีกสิบวัน เราน่าจะเก็บเกี่ยวได้”

ตอนนี้ดอกผลมันออกมาแล้ว และเมื่ออยู่ใต้อาณาเขตแสงดาว เพียงสิบวันก็เก็บเกี่ยวได้ทันที

“สิบวัน….นั่นมันเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่พวกเราเดินทางไปถึงเมืองหมื่นอสูร”

หยู่ฉินหลานทำท่านับก่อนที่จะพูดขึ้น

“ใช่แล้ว มันฉิวเฉียดพอดี”

มู่เหลียงพยักหน้า

ก่อนที่เขาจะจับมือหยู่ฉินหลานและกระโดดไปบนกำแพงเมือง และมองดูสวนผลไม้ทั้งหมด

“มันงดงามจริงๆ”

หยู่ฉินหลานพูดออกมาด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย

ตอนนี้พื้นที่หลายพันตารางเมตรได้กลายเป็นป่าสีเขียวไปหมด ยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกสบายใจ

แต่เมื่อเธอลองมอบดูรอบๆ ก็เห็นว่าเมืองเต่าทมิฬเต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียวที่ไม่สามารถหาดูที่เมืองไหนได้

“เราต้องทำรั้วล้อมสวนผลไม้เอาไว้”

มู่เหลียงพูดขึ้น

ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นมา และสร้างกำแพงหินสูงขึ้นมาสี่เมตรจากพื้นดิน ปิดล้อมรอบสวนผลไม้เอาไว้

“มู่เหลียง เราต้องการคนงานอีกมาก”

หยู่ฉินหลานกล่าวด้วยสีหน้าหนักใจ

“อย่าได้กังวลไป ผลไม้ชุดแรกที่จะออกผลนั้น เราจะเก็บตอนที่ถึงเมืองหมื่นอสูรแล้ว”

มู่เหลียงพูดด้วยควาหนักใจเหมือนกัน

“ถ้างั้นนี้ก็คือทั้งหมดที่เราทำได้ในตอนนี้”

หยู่ฉินหลานเองก็ถอนหายใจอีกครั้ง

มู่เหลียงมองไปที่สวนผลไม้ พร้อมกับความคิดที่จะพัฒนาต่อไปในอนาคต

“ลงไปกันเถอะ”

มู่เหลียงจับมือหยู่ฉินหลานก่อนที่จะกระโดดลงมาจากกำแพงเมือง และลงถึงพื้นอย่างนุ่มนวล

หยู่ฉินหลานจัดผมเล็กน้อยเมื่อลงมาถึงพื้น

“ถ้างั้นตามฉันมาที่ห้องทดลองก่อนสิ”

จู่ๆ มู่เหลียงก็คิดอะไรได้ และพูดขึ้น

หยู่ฉินหลานจึงถามขึ้นอย่างสงสัย

“ให้ไปทำอะไรงั้นหรอ?”

“เอาน่า ฉันมีอะไรจะให้”

มู่เหลียงอมยิ้มมันดูมีเลศนัยอย่างมาก ก่อนที่จะดึงตัวของหยู่ฉินหลานและกระโดดกลับไปที่ตำหนักเจ้าเมืองทันที

“อะไรของนายเนี้ย มู่เหลียง!”

หยู่ฉินหลานถูกลากตัวไปมา พร้อมกับความคิดต่างๆ นาๆ ที่ฟุ่งซ่านในหัว

เมื่อทั้งสองกลับมาถึงก็เจอกับเว่ยหยูหลันกำลังเดินถือถาดน้ำชามาส่งที่ห้อง

“ท่านมู่เหลียง ท่านหยู่ ต้องการรับน้ำชาไหมค่ะ”

เว่ยหยูหลันถามเบาๆ

“ไม่ล่ะ เอาไปให้โหย่วเฟ่ยเถอะ”

มู่เหลียงโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ ด้วยท่าทางสบายๆ

“ค่ะ”

เว่ยหยูหลันขานรับ ก่อนที่จะเดินจากไป

ปัง!

มู่เหลียงผลักประตูห้องทดลองเข้ามาอย่างรวดเร็ว

“ลองใส่นี้ดู”

เขาเดินมาที่โต๊ะและหยิบชุดกี่เพ้าสีฟ้าอ่อนขึ้นมา

“สำหรับฉันงั้นหรอ?”

แววตาของหยู่ฉินหลานเบิกกว้างพร้อมกับขนตาที่สั่นไหว

“ใช่”

มู่เหลียงยิ้มและพยักหน้าให้

เขาทำชุดกี่เพ้าเมื่อคืน โดยใช้เกล็ดจากปลาอัญมณีเป็นส่วนประกอบ และเย็บด้วยใยแมงมุม

“มันสวยมากเลย”

นัยน์ตาสีฟ้าของหยู่ฉินหลานเป็นประกาย นี้เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นชุดกระโปรงยาวที่สวยแบบนี้

หัวใจของเธอกำลังเต้นรัวด้วยความดีใจ เพราะสัมผัสของเธอบอกว่ามันคือยุทธภัณฑ์วิญญาณระดับสูง เหมือนกับเกราะหงส์เพลิง

“เร็วลองใส่ดูสิ”

มู่เหลียงพูดด้วยน้ำเสียงที่กระตือรือร้น

ใบหน้าอันทรงเสน่ห์ของหยู่ฉินหลานแดงขึ้น และมองด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย

“....”

มู่เหลียงเมื่อคิดได้ เขาก็ตกใจและรีบหันหน้าไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเสื้อผ้าที่ถูกถอดออก และเสียงเคลื่อนไหวเบาๆ ที่ฟังดูน่าหลงไหลแปลกๆ

“เสร็จแล้ว”

เสียงที่ดูเขินอายของหยู่ฉินหลานดังขึ้น

มู่เหลียงหันกลับไปดูและถึงกับตาค้าง

ชุดกี่เพ้าเมื่อถูกสวมสีของตัวชุดมันไล่ระดับความอ่อนเข้มของสี -ช่วงบนเป็นสีขาวบริสุทธิ์ตั้งแต่ไหล่ไปถึงเอว และที่ปลายกี่เพ้าเป็นสีฟ้าอ่อน

ที่ช่วงเอวถูกประดับด้วยเกล็ดของปลาอัญมณี

เกล็ดพวกนี้ถูกมู่เหลียงขัดเกลาเรียบร้อยแล้ว จนมันได้กลายเป็นเกล็ดสีขาวที่ดูบริสุทธิ์

“ดูเป็นไงบ้าง”

หยู่ฉินหลานถามด้วยท่าทางเขินอาย

ชุดนี้ทำให้หยู่ฉินหลานดูทรงเสน่ห์มากขึ้น และงดงามมากกว่าเก่า

“สวยมากเลย”

มู่เหลียงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และตอบออกมา

“สวยมากสวยระดับล้มบ้านล้มเมืองได้เลย”

มู่เหลียงเอ่ยปากชมอย่างจริงใจ ทำให้สีหน้าของหยู่ฉินหลานแดงขึ้นและมุ่ยเล็กน้อย

แต่เธอก็รู้สึกชอบใจไม่น้อย

ใครกันล่ะจะไม่ชอบถูกชม โดยเฉพาะหญิงสาวที่สนใจในรูปร่างหน้าตาของตัวเอง

“ยังไม่ได้บรรลุวิญญาณใช่ไหม”

มู่เหลียงถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน

“จะให้ฉันจริงๆ งั้นหรอ”

หัวใจของหยู่ฉินหลานกำลังเต้นรัวด้วยความยินดี

“ใช่”

มู่เหลียงยิ้มและพยักหน้า

“เธอเป็นผู้ตื่นพลังวารีเพียงคนเดียวในเมืองเต่าทมิฬ ชุดนี้สร้างขึ้นมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ”

“ขอบคุณนะ”

หัวใจของหยู่ฉินหลานกำลังละลาย และห้ามใจไม่อยู่ที่จะเข้าไปกอดมู่เหลียง

มู่เหลียงเองก็ใช้จังหวะนั้นสวมกอดคืน และขยับมือลูบไปมาเบาๆ

ก่อนที่หยู่ฉินหลานจะรู้ตัวและผลักตัวออกมา

มู่เหลียงได้แต่ยิ้มเจือนๆ เวลาแห่งความสุขมักสั้นเสมอ

หยู่ฉินหลานหัวเราะอย่างเขินๆ เล็กน้อย ก่อนที่เธอจะเจาะเลือดจากนิ้ว และหยดใส่ผลึกสัตว์อสูรที่อยู่บนชุด

เกิดแสงจ้าขึ้นแสดงว่าการบรรลุวิญญาณสำเร็จแล้ว

“มันเบามาก เหมือนกับไม่ได้สวมอะไรอยู่เลย”

หยู่ฉินหลานหมุนตัวเป็นวงกลม และกระโปรงมันก็กระพือขึ้นมาเล็กน้อย เผยให้เห็นขาอ่อนที่เรียวยาว

“ขอแค่ฉินหลานชอบมันก็พอ”

มู่เหลียงยิ้มและพูดขึ้น

เมื่อเห็นสิ่งนี้เขาก็รู้สึกว่ามันคุ้มค่ามากที่นั่งทำทั้งคืน

“ใช่ฉันชอบมันมาก”

หยู่ฉินหลานฉีกยิ้มออกมาราวกับดอกไม้ที่สดใส

หากลูกสาวของเธอเห็นเข้าจะอิจฉาเธอรึป่าวนะ

5 1 โหวต
Article Rating
2 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด