MDB ตอนที่ 378 อสูรถูกจองจำ
เสียงกรีดร้องอันโหยหวนดังขึ้นทั่วบริเวณ โดยที่เส้นทางตรงหน้าถูกขวางโดยหยางฉิงซื่อซึ่งมาพร้อมกบัสัตว์เลี้ยงของเขา มันทำให้สันหลังของท่านโจวสั่นเทาด้วยความกลัว
เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าสถานการณ์ที่เขากำลังเผชิญนั้นร้ายแรงเพียงใด
เมื่อหยางฉิงซื่อมาขอความช่วยเหลือ เขาก็ให้การช่วยเหลืออีกฝ่ายโดยไม่คิดอะไรมาก ใครจะรู้ว่าเขาได้ชักนำภัยอันตรายมาสู่ตนเอง
ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเอาตัวรอด เขาจะต้องแสร้งทำว่าญาติดีกับเขาอยู่ เพราะหากเขาตั้งตัวเป็นศัตรูกับหยางฉิงซื่อในตอนนี้ มันจะต้องเกิดการปะทะกันอย่างแน่นอน และเขาก็ไม่มั่นใจว่าตัวเองจะสู้กับอีกฝ่ายไหว
“ผู้ประเมินหยาง ทะ… ท่านจะทำอะไร?”
ด้วยความเป็นขุนนาง เขาสามารถรักษาสีหน้านิ่งเอาไว้ได้ แม้ขาของเขาจะสั่นเทาก็ตาม
ใบหน้าของคนรับใช้ที่อยู่ข้างหลังเขาซีดราวกับกระดาษ ส่วนขาของเขาก็เริ่มสั่นอย่างหนัก
มีไม่กี่คนที่เป็นยอดฝีมือที่มีสัตว์เลี้ยงระดับสาม แถมออร่าที่เล็ดลอดออกมาจากหยางฉิงซื่อและสัตว์เลี้ยงของเขาก็ได้ครอบงำพวกเขาอย่างไร้ทางต้านทาน
เสือร้ายของเขามีเลือดสดไหลออกมาจากปาก แสงที่ออกมาจากดวงตาสีแดงเข้มของมันคือออร่าแห่งการสังหาร ความแข็งแกร่งของมันต้องเกินกว่าระดับสามทั่วไปแน่นอน
ในความเป็นจริง พวกเขาสันนิษฐานตั้งแต่เริ่มต้นว่ามันอาจเป็นสัตว์วิเศษระดับสี่ด้วยซ้ำ
รอยยิ้มอันชั่วร้ายปรากฏบนใบหน้าอันร้ายกาจของหยางฉิงซื่อ
“ท่านโจว เรามาคุยกันอย่างตรงไปตรงมาจะดีกว่า ท่านคงรู้อยู่แล้วว่าเมืองหลวงทั้งหมดกำลังตามล่าหาข้า ข้าคิดว่าด้วยความสัมพันธ์ของเรา ท่านจะยื่นมือมาด้วยข้าให้ยามยากเช่นนี้ ข้าจึงเสียใจมากเมื่อได้ยินว่าท่านโจวตั้งใจแจ้งให้ทางการมาจับข้า”
ขณะที่เขาพูด หยางฉิงซื่อก็เดินลงบันไดหินโดยมีสัตว์เลี้ยงของเขาตามมาข้างหลัง ทุกย่างก้าวที่เข้ามา คนอื่น ๆ ก็จะก้าวถอยหลังด้วยความกลัว
“ท่านโจว ท่านกลัวข้างั้นหรือ?” หยางฉิงซื่อถามด้วยรอยยิ้ม
ท่านโจวกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เขามีแผนในใจแล้ว ดังนั้นหลังจากหายใจเข้าลึก ๆ เขาก็ยืดหลังแล้วตอบว่า
"หยางฉิงซื่อ ข้าให้การช่วยเหลือเจ้าเพราะมิตรภาพของเรา อย่างไรก็ตาม หากเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง ท่านก็สมควรได้รับโทษจากสิ่งที่ท่านก่อไว้ ข้าจึงขอให้ท่านยอมมอบตัวในขณะที่ท่านยังสามารถทำได้ ไม่อย่างนั้น บาปจะติดตัวท่านนับ…”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ หยางฉิงซื่อก็ปล่อยเสียงหัวเราะที่แปลกประหลาดออกมา และเสือเขี้ยวดาบของเขาก็กระโจนเข้าใส่ท่านโจวทันที
ท่านโจวก็มีสัตว์วิเศษระดับสามด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม สัตว์เลี้ยงของเขาไม่สามารถเปรียบเทียบกับเสือของหยางฉิงซื่อได้ ก่อนที่พวกมันจะสู้กัน คอของมันก็ถูกฉีกออกจากกัน ทำให้ท่านโจวและคนรับใช้ของเขาตื่นตกใจ ถัดจากนั้นเพียงชั่วอึดใจ เสือก็กระโจนอย่างว่องไวและฉีกศีรษะของท่านโจวออกจากลำตัวของเขา
เลือดสาดกระเซ็นออกมาจากร่างที่ไม่มีศีรษะราวกับน้ำพุ ก่อนที่มันจะตกลงสู่พื้นเหมือนกระสอบมันฝรั่งหนัก ๆ การตัดหัวนั้นรวดเร็วมากจนร่างกายยังคงชักกระตุกอย่างน่าพิศวงอยู่บนพื้น
การตายของท่านโจวทำให้คนที่เหลือสติแตกทันที บางคนหลบหนีในขณะที่บางคนโจมตี แม้จะไม่สามารถทำอะไรหยางฉิงซื่อได้เลยก็ตาม
“เจ้าพวกโง่! คิดว่าข้าจะอยู่เฉย ๆ โดยไม่เตรียมการอะไรงั้นเหรอ!? ด้วยเคล็ดวิชาต้องห้าม ข้าสามารถยกระดับสัตว์เลี้ยงของข้าให้ขึ้นสู่ระดับสี่ชั่วคราวได้อย่างง่ายดาย ช่วยบอกข้าทีสิว่ามีใครในคฤหาสน์ของเจ้าที่สามารถต่อสู้กับสัตว์วิเศษระดับสี่ได้!?”
หยางฉิงซื่อกล่าวพร้อมกับหัวเราะเยาะอย่างบ้าคลั่ง
ในขณะที่เขาหัวเราะ ชายคนนั้นก็เพลิดเพลินกับการฆ่า
ไม่สำคัญว่าพวกเขากำลังพยายามต่อสู้กลับหรือพยายามหลบหนี ทุกคนถูกกรงเล็บตะปบอย่างไร้ความปรานี หยางฉิงซื่อวางแผนที่จะสังหารหมู่พวกเขาทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อที่เขาจะได้มั่นใจในความปลอดภัยของที่ซ่อนของเขา และซื้อเวลาให้เขาเพื่อวางแผนขั้นต่อไป
สาเหตุที่เรื่องมันบานปลายขนาดนี้ เพราะเขาไม่คิดว่าหลินจินจะลงมือ เร็วขนาดนี้
ตลอดเวลานี้ เขาได้ร่วมมือกับผู้ประเมินมารอย่างลับ ๆ โดยควบคุมทุกสิ่งจากความมืด หยางฉิงซื่อมีความระมัดระวังมากจนเขาสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงได้แม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม
แม้ว่าสิ่งนี้จะถูกเปิดเผยอย่างสมบูรณ์ในการไปเยือนคฤหาสน์ตระกูลตู้ครั้งแรกของหลินจิน
ทันทีที่เขาก้าวเข้าไปในห้องของเธอ เขาก็รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
แม้จะมีข่าวลือในวงกว้างว่าการเลื่อนตำแหน่งของหลินจินเป็นผลมาจากความสัมพันธ์ส่วนตัวของเขา แต่หยางฉิงซื่อเป็นเพียงไม่กี่คนที่ไม่คิดแบบนั้น เพราะครั้งหนึ่งเขาเคยเจอรายงานการประเมินผลของหลินจิน ตอนที่เขาไปหาตันซุน
คงไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่าในบรรดาคนที่ทำงานในสำนักงานใหญ่ นอกจากตันซุนแล้ว ก็มีหยางฉิงซื่อที่รู้ถึงความสามารถของหลินจินดีที่สุด
มีเพียงหยางฉิงซื่อเท่านั้นที่ตระหนักถึงความรู้อันกว้างใหญ่และไม่มีที่สิ้นสุดของหลินจิน เขานั้นเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง
ด้วยเหตุผลเดียวกันนี้ หยางฉิงซื่อจึงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับการที่หลินจินไปเยี่ยมคฤหาสน์ตู้ในทันที ด้วยเหตุนั้นเอง หยางฉิงซื่อจึงเริ่มต้นวางแผนการหลบหนีของเขา
อย่างไรก็ตาม หยางฉิงซื่อกลับทะนงตนมากเกินไป เขาคิดว่าหลินจินคงไม่รู้ว่าเขาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เมื่อเขารู้ว่าหลินจินกำลังจะไปที่กรงมืด หยางฉิงซื่อก็แอบเข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลตู้ทันที เพื่อนำตัวอ่อนของอสรพิษแปดหัวออกมาจากท้องของตู้เหลียนซื่อ แผนขึ้นต่อไปของเขาคือการหลบหนีออกจากเมือง
แน่นอนว่า ด้วยเวลาที่มีอย่างจำกัด เขาพยายามรวบรวมของมีค่าให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ อย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยคิดเลยว่าความล่าช้าเล็กน้อยจะทำให้หลินจินมีโอกาสโต้กลับ
ในตอนนั้น หยางฉิงซื่อมาถึงประตูเมืองแล้ว แต่ทันใดนั้น เขาพบว่ามันถูกปิดโดยทหารรักษาเมืองอย่างน้อยสองร้อยคน
หยางฉิงซื่อไม่ได้ฝ่าพวกทหารไปเพราะเขามีแผนสำรอง
ดังนั้น เขาจึงหันกลับมาและมาที่คฤหาสน์ตระกูลโจว
การออกจากเมืองในช่วงเวลาดังกล่าวคงเป็นเรื่องยาก แต่สิ่งที่ทำให้แผนการของหยางฉิงซื่อต้องหยุดชะงักก็คือ เขาไม่คาดคิดว่าหลินจินจะมีอิทธิพลมากพอที่จะส่งกองทหารองครักษ์นับพันมาไล่ล่าหาตัวเขา
สิ่งนี้ไม่ได้อยู่ในแผนเริ่มแรกของเขา
นอกเหนือจากความจริงที่ว่าท่านโจวตั้งใจที่จะส่งเขาให้เจ้าหน้าที่ อีกเหตุผลที่เขาทำการสังหารหมู่ก็เพื่อดำเนินแผนการขั้นต่อไปของเขา
เขาตระหนักดีว่าเขาไม่สามารถหลบหนีได้ด้วยกำลังของเขาเพียงลำพัง แม้ว่าเขาจะยังคงพึ่งพาคาถาซึ่งทำให้สัตว์วิเศษของเขาแข็งแกร่งขึ้น แต่เขาก็ยังไม่สามารถหลบหนีได้
ทางเลือกเดียวของเขาที่เหลืออยู่คือการขอความช่วยเหลือ
ถึงตอนนี้ ทุกคนในคฤหาสน์ตระกูลโจวตายหมดแล้ว ซากศพเกลื่อนสถานที่และกลิ่นเหม็นของเลือดก็ลอยไปในอากาศ
หยางฉิงซื่อยืนอยู่กลางลานกว้างใหญ่ มองขึ้นไปที่ดวงจันทร์บนฟากฟ้า
“ข้า หยางฉิงซื่อ ข้าสามารถหลอกลวงสำนักงานใหญ่ของสมาคมประเมินสัตว์วิเศษให้มาอยู่ในฝ่ามือของข้าได้ คนโง่เหล่านั้นเป็นเพียงมดที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของข้า แต่เพราะชายคนนั้น ข้าจึงตกอยู่ในสภาพจนตรอกเช่นนี้ แต่แล้วยังไง!? สำนักงานใหญ่ของสมาคมประเมินสัตว์วิเศษของประเทศกระจอก ๆ อย่างนี้จะหยุดข้างั้นเหรอ!? ไม่มีทาง!!!”
หยางฉิงซื่อยังคงเย่อหยิ่ง แม้ว่าเขากำลังจนตรอก แต่เขาก็ยังมั่นใจว่าเขาจะหนีรอดไปอย่างปลอดภัย
เขาสั่งให้สัตว์เลี้ยงของเขาโยนศพทั้งหมดในคฤหาสน์ตระกูลโจวลงในสระน้ำเล็ก ๆ ที่ด้านหลังของคฤหาสน์ ศพทุกศพมีรอยกัดลึก แต่แขนขาทั้งหมดยังไม่ถูกฉีกขาด เมื่อรวมทั้งสาวใช้และคนรับใช้ทั้งหมดแล้ว มีศพผู้เสียชีวิตทั้งหมดสามสิบเจ็ดศพถูกโยนลงไปในสระน้ำ
น้ำในสระที่ใสดั่งแก้วผลึก บัดนี้กลายเป็นสีแดงฉาน
“พระจันทร์ในค่ำคืนนี้ช่างสวยงามยิ่งนัก อันที่จริง สิ่งต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องลงเอยมาถึงจุดนี้ แต่ในเมื่อเจ้าบังคับข้า ก็อย่าโทษข้าที่ทำให้เมืองหลวงต้องนองเลือดในค่ำคืนนี้”
หยางฉิงซื่อคำรามด้วยเสียงหัวเราะ ก่อนจะหันไปหาสัตว์ร้ายของเขาซึ่งเป็นเสือระดับสี่ชั่วคราว
“แกก็ลงไปในนั้นด้วย หลังจากอยู่กับข้ามานาน นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่แกจะรับใช้ข้า”
เมื่อพูดจบ หยางฉิงซื่อก็ร่ายคาถา เสือตัวนั้นคำรามก่อนจะกระโจนลงสระน้ำแล้วจมหายไปอย่างรวดเร็ว
ฉากนั้นไม่มีอะไรนอกจากความพิศวงดและน่าสะพรึงกลัว
หยางฉิงซื่อหยิบขวดกระเบื้องเคลือบออกมา เครื่องรางสีเหลืองบนขวดนี้ดูเก่าราวกับว่ามันเป็นสิ่งประดิษฐ์โบราณ
“ท่านอาจารย์ ข้าทำให้ท่านต้องผิดหวัง แม้แต่แผนการที่วางไว้ดีที่สุดก็ยังผิดพลาด และข้าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากขอความช่วยเหลือจากท่าน...”
จากนั้น หยางฉิงซื่อเปิดขวดแล้วเทเลือดอันเหนียวหนืดหยดลงในสระน้ำ