บทที่ 128 : คุณค่าและความไร้ค่า (3-2)
บทที่ 128 : คุณค่าและความไร้ค่า (3-2)
[แกกำลังทำอะไรอยู่?]
“ตราบใดที่ไม่ฆ่ามันก็ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
เวคิสมองไปที่ชายที่ดิ้นอยู่บนพื้นใต้ฝ่าเท้าของเขาแล้วพูดขึ้น
“เอาแขนกลับไปต่อเองล่ะกันนะ ถ้าแกถือมันไว้ให้ติดกัน มันก็อาจจะเชื่อมกันได้เองมั้ง ฉันก็ไม่เคยแขนขาดซะด้วยสิ คงจะช่วยอะไรไม่ได้เท่าไร”
คนในจัตุรัสก็ยืนตัวแข็งอยู่ครู่หนึ่ง
เลือดได้ไหลออกมาจากดาบที่เวคิสถืออยู่ในมือขวาของเขา
“ดูเหมือนจะมีเรื่องที่น่าสนใจเกิดขึ้นในตอนที่ฉันไม่อยู่สินะ น่าสนใจจริงๆ ฉันเองก็กำลังเบื่อพอดี มีใครสนใจเล่นกับฉันอีกไหม?”
“ไอ้โรคจิต!”
ใครบางคนที่ซ่อนอยู่ในฝูงชนตะโกน
“ยังดีกว่าพวกน่าเบื่อ ไร้ประโยชน์แบบพวกแกแล้วกัน คิดแบบนั้นไหม?”
เวคิสมองมาที่ฉันแล้วยิ้ม
ฉันขมวดคิ้ว
“ทำไมนายต้องทำแบบนั้น?”
"ผมขอโทษที พอดีมันน่าขยะแขยงมากจนมือของผมขยับไปเองโดยไม่รู้ตัว”
เวคิสเช็ดเลือดแล้วใส่ดาบกลับเข้าไปในฝัก
จากนั้นเขาก็เดินไปที่กำแพงตรงมุมหนึ่งของลานกว้างและพิงกำแพงนั้น
ชายคนนั้นคลานไปยังแขนที่ขาดของเขา
'ไอ้หมอนั้นโชคดีไป'
หากเวคิสไม่ก้าวเข้ามา มือของไอเซลล์คงบดขยี้กะโหลกของเขาไปแล้ว
ไอเซลล์ทะยานขึ้นไปในอากาศ จากนั้นหันมองไปยังบุคคลที่สามที่เพิ่งเข้าร่วมลานกว้าง
[ไอ้คนมาใหม่ พวกนายรู้เรื่องทั้งหมดแล้วใช่ไหม?]
“หมายถึงเรื่องการแบ่งชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 นะเหรอ? ชั้นที่ 1 ห่วยแตกแบบต้องนอนในโคลนและชั้นที่ 2 ได้รับการดูแลอย่างดีเหมือนกับนอนในพระราชวัง”
[ถูกต้อง และพวกนายก็อยู่ที่ชั้น 1 เหมือนกัน]
"ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวเราจะได้ขึ้นไปชั้น 2 เร็วๆ นี้”
เวคิสชี้มาที่ฉัน
เนเรสซ่าหรี่ตายืนอยู่ข้างเขา
[ฉันจะสรุปอีกครั้งสำหรับไอ้โง่ที่ยังไม่เข้าใจ จากสมาชิกทั้งหมด 35 คน มี 13 คนอยู่บนชั้น 2 ที่เหลืออีก 22 คนอยู่ชั้นที่ 1 คนที่อยู่บนชั้นที่ 2 สามารถใช้สิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดในห้องรอได้ แต่พวกชั้นที่ 1 ถ้าขึ้นไปชั้น 2 แล้วโดนจับได้ ฉันฆ่าแน่!]
ไอเซลล์กำหมัดแน่นเผยท่าทีข่มขู่
[แต่หากอยากขึ้นไปที่ชั้น 2 ล่ะก็ ให้พัฒนาความสามารถของตนเองซะ ทุกคนจงตั้งใจฟัง ดูตัวอย่างได้จากท่านผู้นี้!]
ไอเซลล์ชี้มาที่ฉันแล้วเชิดจมูกขึ้น
[ไม่มีอะไรที่เขาทำไม่ได้ ฮีโร่หมายเลข 1 ของเรา คุณฮาน ! พวกแกเคยเห็นสิ่งที่เขาทำบนชั้น 15 แล้วใช่ไหม? พวกแกเห็นมันไหม? พวกแกคงนึกไม่ถึงเลยสินะ นั่นน่ะคือกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดอย่างแท้จริงและ... อ๊ะ อ๊ะ อ๊ายยย!]
ฉันดึงแก้มไอเซลล์
แต่ความสนใจทุกคนยามนี้ได้มุ่งไปที่ฉัน
'ต้องทำแบบนี้อีกแล้วเหรอ?'
ครั้งหนึ่ง ฉันเคยพูดสิ่งที่คล้ายกันนี้มาก่อน
ฉันหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดกับทุกคนว่า
“ถ้าพวกนายต้องการได้รับการปฏิบัติเหมือนมนุษย์ พวกนายก็ต้องแสดงความสามารถออกมา ไม่ว่าจะในการต่อสู้หรืออะไรก็ตาม นายท่านกำลังเฝ้าดูทุกคนอยู่ หากเขาเห็นว่าพวกนายมีความสามารถเพียงพอแล้ว แม้ว่าพวกนายจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม นายท่านก็จะส่งพวกนายไปที่ชั้น 2 เอง”
“ถึงอย่างนั้น แบบนี้มันก็ไม่เกินไปหน่อยเหรอครับ? เราถูกพามาที่นี่โดยไม่รู้อะไรเลย และตอนนี้เรากำลังถูกบังคับให้ใช้ชีวิตแบบนั้น”
ชายคนหนึ่งถึงกับหลั่งน้ำตา
เวคิสแยกตัวออกจากกำแพง มือขวาของเขาอยู่บนฝักดาบ
ฉันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“อย่าสอด”
เวคิสถอยหลังกลับไปอย่างเงียบๆ
ฉันพูดต่อ
“เราก็เหมือนกับพวกนาย เราถูกลากมาที่นี่โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้าและไม่เต็มใจ ไม่สิ สถานการณ์ของพวกเรามันโหดร้ายยิ่งกว่านั้นอีก ใช่ไหมเจนน่า?”
“จริง ตอนนั้นเราไม่มีอะไรจะกินด้วยซ้ำ เราเกือนจะถูกสังเคราะห์ได้ตลอดเวลาถ้าเราทำผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ”
“เราฝึกซ้อมทั้งวันเหมือนคนโง่ พวกนายคิดว่าเราอยากทำงั้นเหรอ?”
“นั่นหมายความว่า…คุณกำลังบอกให้เราสู้เหมือนคุณเหรอครับ?”
“ก็แบบนั้นแหละ”
ตอนนี้เรายังไม่ต้องการฮีโร่สายสนับสนุนมากนัก
คนที่อยู่ในสายการต่อสู้ส่วนใหญ่ในหมู่พวกเขา มีเพียงไม่กี่คนที่จะสามารถไปที่ชั้น 2 ได้
ชายคนนั้นก้มหัวลง
‘ฝ่ายหนึ่งยอมรับและอีกฝ่ายไม่ยอมรับ ความเห็นแบ่งออกเป็นครึ่งต่อครึ่งแล้ว'
บางคนมีความคิดลึกซึ้งมากกว่านั้น
นอกจากนี้ก็ยังมีคนที่ลงไปที่ชั้น 1 เพราะความรู้สึกสิ้นหวัง
แต่ก็ยังมีผู้ที่แสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจน
มันเป็นการตอบสนองทางจิตวิทยาที่เรียบง่าย
พวกเขาถูกแย่งชิงสิ่งอำนวยตวามสะดวกไปในทันที พวกเขาคงจะไม่พอใจมาก ส่วนนี้เป็นความผิดพลาดของนายท่านไรก็ได้
หากต้องการเปลี่ยนระบบ ก็ไม่ควรจะใช้การสุ่มฟรีแล้วค่อยๆดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ พูดง่ายๆ ก็คือ ด้วยการที่นำระบบใหม่มาปรับใช้งานอย่างรวดเร็วเช่นนี้ มันอาจทำให้เกิดการตอบโต้จากฮีโร่ทั้งหลายได้
“ไร้สาระ!”
ก็อะไรแบบนี้ไงล่ะ
ชายวัยกลางคนอ้วนท้วนเช็ดหน้าผากแล้วพูดเสียงดัง
“เราจะไม่ยอมรับสิ่งนี้หรอก เราถูกปฏิบัติเหมือนขยะยังและถูกบอกให้ไปต่อสู้งั้นเหรอ? มันถูกต้องที่ไหน!”
“ไอ้สารเลวนั้น ตอนกินไม่เห็นพูดเสียงดังแบบนี้เลย”
เพราะเหตุนั้น
ชายคนนั้นก็ไม่ถอยกลับและตะโกนต่อไปเรื่อยๆ
“ใช่ไหมพวกเรา?”
"ใช่ เราจะทวงสิทธิ์อันชอบธรรมของเราคืน!”
เกือบสิบคนรวมตัวกันประท้วงทันที
ชายตัวอ้วนยิ้มอย่างพึงพอใจ
“แกคิดว่าเราจะไม่รู้เรื่องความลับที่แกซ่อนไว้เหรอ?”
"ความลับ?"
“วิธีบังคับให้นายท่านเปลี่ยนความคิดของเขาไง เรารู้ว่ายัยสัตว์ประหลาดตัวน้อยนั้นควบคุมเราไม่ได้ แกเลยพยายามซ่อนมันไว้ แต่เราทุกคนก็รู้แล้ว ใช่ไหมทุกคน? ถ้าเราอยากจะได้รับการปฏิบัติเหมือนมนุษย์ ทำไมเราต้องเสี่ยงชีวิตต่อสู้กับสัตว์ประหลาด? นี่มันไม่บ้าไปหน่อยเหรอ?”
"ใช่!"
“จากนี้ไป เราขอประท้วงและปฏิเสธการเข้าร่วม!”
ชายร่างอ้วนที่อยู่ตรงกลางฝูงชน ชูกำปั้นขึ้น
ข้อความของระบบก็เด้งขึ้นมาพร้อมกับเสียงแจ้งเตือน
['ซิตัน (★)' ปฏิเสธที่จะเข้าร่วม!]
['ปาร์ตี้ที่ 4' ไม่สามารถใช้งานได้]
['ปาร์ตี้ที่ 5' ไม่สามารถใช้งานได้]
[สถานการณ์การประท้วงครั้งใหญ่!]
[ฮีโร่กำลังก่อการจลาจล!]
ฉันหัวเราะเบาๆ
“พวกนายเล่นอะไรโดยไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงสินะ”
ฉันหยิบดาบออกจากเข็มขัดแล้ววางไว้ใต้เท้า
ฉันกดเท้าลง และดาบก็หมุนไปบนพื้นจัตุรัสแล้วเลื่อนไปทางกลุ่มผู้ประท้วง
“ตัดแขนข้างหนึ่งของนายออกด้วยดาบเล่มนี้ เหมือนกับผู้ชายคนนั้นแล้วฉันจะไว้ชีวิตนาย”
ฉันชี้ไปที่ชายผู้พยายามอย่างยิ่งที่จะติดแขนที่ขาดของเขากลับเข้าที่
ชายอ้วนพูดราวกับว่าเขากำลังมองคนบ้า
“ฮ่าๆๆ บ้าไปแล้วเหรอ?”
“ช่วยไม่ได้นะ ถ้าพูดดีๆ แล้วไม่ได้ผล เดี๋ยวพวกนายจะได้บทเรียนกันแน่”
['นายท่าน การสังเคราะห์กำลังเริ่มต้นขึ้น!']
ชิ้ง
ประตูห้องสังเคราะห์ถูกเปิดออก