ตอนที่ 1455 มีคนผลักคุณ?

คำพูดของ หลินฟาน ทำให้ โทนี่ สมิธ รู้สึกแปลกๆ มันราวกับว่า ..หลินฟาน สามารถควบคุมการยิงจากคนของเขาได้ และชี้เป้าไปที่ทุกที่ที่เขาต้องการได้

แต่แล้ว.. มันเป็นไปได้ยังไง?

โทนี่ สมิธ ส่ายศีรษะพยายามบังคับตัวเองให้ใจเย็นๆ ลง หลินฟาน เก่ง ในเรื่องนี้เขารู้ แต่ไม่ว่าจะเก่งแค่ไหน.. เขาก็ไม่ใช่พระเจ้า แน่นอนว่าเขาจะควบคุมการยิงจากคนของเขาไปได้อย่างไร

อย่างไรก็ตาม เมื่อความคิดนี้เกิดขึ้นแล้ว แม้ว่าตัวเขาเองจะรู้สึกว่ามันไร้สาระมาก แต่ โทนี่ สมิธ ก็ยังเกิดความกังวลอยู่ลึกๆ

เขาคิดทุกเรื่องที่ว่า เผื่อไว้… เผื่อไว้ที่ว่ามันจะเกิดขึ้นจริง?

แล้วพอยิ่งคิดว่า.. จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากครั้งต่อไปสไนเปอร์ ยิงมาที่เขาจริงๆ ขึ้นมา?

แน่นอน.. เขาไม่กล้าคิดที่จะเอาชีวิตของตัวเองไปเดิมพัน

“เป็นอะไรไป.. คุณสมิธ ถ้าคุณไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว ผมจะได้ขอตัวออกไป” หลินฟาน พูดด้วยรอยยิ้ม

สมิธ ที่หน้าผากของเขาได้มีเหงื่อเย็นๆ ไหลตกลงมา และเขาไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะถูกควบคุมไปโดย ..ชายหนุ่มคนหนึ่ง อีกทั้งคนคนนี้ถึงขนาดที่ว่าทำให้เขาไม่กล้าคิดทําอะไรบุ่มบ่ามได้ด้วยซ้ำ

แต่ถ้าเขาปล่อยให้ หลินฟาน ออกไปแบบนี้.. นั่นก็หมายความว่าเขาไม่มีทางรู้เลยว่าบุคคลเป้าหมายคือใคร ส่วนลูกชายของเขาที่ต้องเดินทางไปขึ้นศาลในวันพรุ่งนี้ ก็จะถูกบุคคลเป้าหมายเข้าให้การในชั้นศาล…

สิ่งเดียวที่เขารู้สึกว่าโชคดีได้ก็คืออังกฤษ ไม่มีโทษประหารชีวิต ..และในที่สุดลูกชายของเขาอาจจะถูกพิจารณาโทษให้จําคุกตลอดชีวิต และทิ้งชีวิตที่เหลือเอาไว้!

นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถรับได้ เขาคาดหวังกับ บรูคลิน ลูกชายของเขาเอาไว้มาก เพราะบรูคลินเป็นลูกชายคนโตของครอบครัว และได้รับการปลูกฝังเลี้ยงดูมาในฐานะทายาทของตระกูลสมิธมาตั้งแต่เด็ก เขายอมรับไม่ได้ที่จะให้ลูกชายของเขาต้องกลายเป็นนักโทษ

ซึ่งสิ่งนี้มันจะส่งผลให้ บรูคลิน ต้องสูญเสียตำแหน่งทายาทของครอบครัวไปอย่าง ..หลีกเลี่ยงไม่ได้

“ฉันจะไม่เชื่อเรื่องบ้าๆ นี่อีกอีกต่อไป!”

โทนี่ สมิธ กัดฟัน เขาตัดสินใจที่จะให้บทเรียนกับ หลินฟาน และเขาจะต้องฆ่า หลี่ จื่อเสีย!

เมื่อ โทนี่ สมิธ กำลังจะออกคำสั่งให้ มือปืนสไนเปอร์ของเขายิง หลี่ จื่อเสีย..

ประตูโบสถ์ ก็ได้ถูกผลักเปิดออกอย่างกะทันหัน

มีตํารวจกลุ่มหนึ่งได้กรูกันเข้ามา

ผู้ที่นำทีมเข้ามาคือ ตำรวจสาวสวยผมบลอนด์

“ตํารวจลอนดอน ทุกคนหยุดอย่าขยับ!” ตํารวจสาวสวยผมบลอนด์ได้แสดงตราตํารวจ และตะโกนเสียงดังออกไป

โทนี่ สมิธ มีสีหน้าเปลี่ยนไป และจ้องมองไปที่ หลินฟาน : “คุณ.. เรียกตํารวจมา?”

หลินฟาน กล่าวว่า : “เปล่าเลย..”

โทนี่ สมิธ ลุกยืนขึ้น และหันไปเผชิญหน้ากับตํารวจสาวสวยผมบลอนด์ : “คุณตํารวจ มีเหตุใหญ่อะไรขึ้นที่นี่กัน แล้วทำไมคุณถึงได้นำพากำลังเข้ามามากขนาดนี้? ฉันโทนี่ สมิธ”

ตํารวจสาวสวยผมบลอนด์ มองไปที่ โทนี่ สมิธ และพูดว่า : “ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อคุณสมิธ”

หลังจากพูดไปอย่างนั้น ตํารวจสาวสวยผมบลอนด์ก็เดินตรงเข้าไปหา หลินฟาน มอง หลินฟาน แล้วถามไปว่า : “คุณต้องเป็น ..คุณหลิน หลินฟาน แน่ๆ ถูกต้องมั้ย?”

หลินฟาน กล่าวว่า : “ใช่.. เป็นผม”

จู่ๆ สายตาของตํารวจสาวสวยผมบลอนด์ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ในทันทีสายตานี้ของเธอมันเหมือนสายตาที่กำลังชื่นชม ชื่นชอบในบางอย่าง และมันเหมือนกับกลุ่มแฟนๆ ที่ได้ไปพบเจอเข้ากับ ‘ไอดอล’ ของตัวเอง แต่ตํารวจสาวสวยผมบลอนด์คนนี้ก็ยังควบคุมอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ได้ดีมาก เธอรีบพูดไปว่า : “คุณหลิน ฉันเป็นตํารวจลอนดอน ฉันมีชื่อว่า อลิซ เกาส์ กําลังสืบสวนคดีเกี่ยวกับแก๊งอาร์ดวูล์ฟ และทางเราต้องขอเชิญ คุณหลิน และคุณหลี่ กลับไปที่สถานีตํารวจพร้อมๆ กับฉัน”

หลินฟาน ร้องโอ้ออกมา.. เป็นเรื่องของแก๊งอาร์ดวูล์ฟ แล้วตำรวจลอนดอนตามหาตัวเขาเจอได้ยังไง?

เขาสังเกตสีหน้าของ ตํารวจหญิงผมบลอนด์คนนี้ และพบว่าเธอดูเหมือนจะมีปิดบังอะไรบางอย่างเอาไว้

“ได้.. ผมจะไปกับคุณ แต่ต้องถามกับ คุณสมิธ ก่อนว่าเขาจะปล่อยคุณไปหรือเปล่า คุณสมิธ คุณยังคงคิดจะสั่งให้คนของคุณ ..ยิงพวกเราอยู่อีกไหม?” หลินฟาน มองไปที่ โทนี่ สมิธ

โทนี่ สมิธ พูดพร้อมกับหัวเราะไปว่า : “คุณหลิน อย่าได้มาล้อเล่นเช่นนี้ ในเมื่อมีเจ้าหน้าที่ตํารวจมาขอเรียกตัว คุณหลิน งั้น คุณหลิน ก็เชิญจัดการเรื่องของคุณต่อได้เลย”

หลินฟาน หันหน้าไปพูดกับ หลี่ จื่อเสีย ว่า : “พวกเราไปกันเถอะ”

ขณะนี้ หลินฟาน ก็ได้ติดตามตํารวจลอนดอนออกไปด้านนอกโบสถ์

โทนี่ สมิธ มองไปที่ด้านหลังพวกเขาอย่างไม่เต็มใจ และในที่สุดเขาก็เลือกที่จะอดกลั้นความไม่พอใจนี้ไว้ และพูดขึ้นว่า : “ละทิ้งเป้าหมาย ทุกคน มาหาฉันเดี๋ยวนี้!”

มือสไนเปอร์ทั้งสามคนได้มาถึงด้านหน้า โทนี่ สมิธ

โทนี่ สมิธ พูดอย่างไม่พอใจไปว่า : “เมื่อกี้ฉันบอกให้พวกคุณยิงผู้หญิงคนนั้น แล้วพวกคุณมันกําลังทําบ้าอะไร ทําไมถึงได้ยิงพลาดไปหมด?!”

มือปืนทั้งสามคนที่รับผิดชอบในการเล็งเป้าไปที่ หลี่ จื่อเสีย พวกเขาทั้งสามในเวลานี้กลับมีสีหน้าแปลกๆ และพากันมองหน้ากัน แน่นอนพวกเขาไม่รู้ ..ไม่รู้ว่าจะอธิบายมันออกไปอย่างไร

โทนี่ สมิธ พูดไปว่า : “พวกคุณมันเป็นใบ้กันหมดหรือยังไง ฉันถามพวกคุณก็รีบพูดๆ มันออกมาเร็วๆ!”

มือปืนคนหนึ่งพูดว่า : “คุณสมิธ ผมสาบานได้ ผมเล็งไปที่หัวของเธอแล้ว ตามหลักแล้ว มันไม่น่ามีอะไรผิดพลาดได้ แต่ในวินาทีที่ผมกำลังจะเหนี่ยวไก ผมรู้สึกเหมือนถูกผลัก เลย.. ยิงพลาดเป้าไป”

โทนี่ สมิธ ถามว่า : “มีคนผลักคุณ?”

มือปืนคนนั้นพูดว่า : “คือ.. ไม่มี ผมแบบหมายถึง เหมือนถูกคนผลัก คือ มันแปลกมาก ซึ่งผมเองก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายมันออกไปยังไง”

มือปืนอีกสองคนตอบว่า : “ใช่ครับ คุณสมิธ ทางผมก็เป็นไปในกรณีแบบนี้เหมือนกัน”

“ผมก็เหมือนกัน ..มันแปลกมาก”

โทนี่ สมิธ ตกตะลึง มือปืนทั้งสามคนนี้กระจายอยู่ในตําแหน่งที่แตกต่างกัน และในเวลาเดียวกัน พวกเขาทั้งหมดรู้สึกเหมือนกับว่า ..ถูกผลัก และสิ่งที่แปลกที่สุดคือ พวกเขา ..ทั้งหมดยิงไปที่ เรย์มอนด์ กรีน!

จะหาคำอธิบายเรื่องนี้ยังไง?

นอกจากอธิบายว่านี่.. เป็นฝีมือของ ปีศาจร้าย แต่คำอธิบายนี้มันไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด!

หรือว่า หลินฟาน มีพลังพิเศษอะไรพวกนั้นจริงๆ?

เหมือนอย่างในภาพยนตร์ มาร์เวล(Marvel) ที่ซูเปอร์ฮีโร่เหล่านั้น มีพลังพิเศษ?

แบบควบคุมจิตใจ?

หรือไม่ก็แบบสามารถโจมตีในอากาศได้?

หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ งั้นคําพูดของ หลินฟาน ก่อนหน้านี้ที่พูดว่า “เชื่อหรือไม่ว่าครั้งต่อไปที่พวกเขายิง กระสุนทั้งหมดจะไปถูกโดนตัวคุณ” นั่นก็หมายความว่า เขา.. สามารถทํามันได้จริงๆ?

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ โทนี่ สมิธ ก็อดไม่ได้ที่จะมีเหงื่อเย็นๆ ไหลตกลงมา

จากมุมมองนี้ การมาถึงของตํารวจลอนดอน ที่ ..ดูเหมือนจะเป็นการช่วยชีวิต หลี่ จื่อเสีย เอาไว้ แต่.. ในความเป็นจริงนั้น มันกลับดูเป็นการช่วยชีวิตของ โทนี่ สมิธ!

โทนี่ สมิธ รู้สึกหวาดกลัวมากขึ้นมาในทันที…

การคาดคะเนนี้ แม้ว่าจะไม่มีมูลความจริง แต่ก็สอดคล้องกับข้อเท็จจริง และหากลองคิดดูอีกครั้ง ทําไม หลินฟาน ถึงสามารถแก้ไขวิกฤตการจี้เที่ยวบินในครั้งนั้นมาได้ ..เพียงลำพังได้?

ถ้า หลินฟาน มีพลังพิเศษจริงๆ นั้นมันก็จะ ..อธิบายได้ง่ายมาก

และทันใดนั้น โทนี่ สมิธ ก็รู้สึกราวกับว่าโลกทัศน์ของเขาได้เปลี่ยนไปแล้ว ..ในโลกแห่งความเป็นจริงนี้ มันมีพลังพิเศษอยู่จริงๆ นะเหรอ?

แล้วหากเป็นจริง.. เขาจะต่อสู้กับคนแบบนี้อย่างไร?

“บอส ตอนนี้เราควรทําอย่างไร? หรือว่าเราจะปล่อยไอ้เด็กคนนี้ไปแบบนี้?”

ชายชาวจีนที่เคยติดต่อกับ หลินฟาน มาก่อนหน้านี้ ได้เดินเข้ามา และพูดอย่างไม่เต็มใจ

โทนี่ สมิธ ได้ขมวดคิ้ว

ชายชาวจีนคนนี้พูดขึ้นอีกครั้งว่า : “ผู้ชายคนนี้เพิ่งพูดว่าเขาได้บันทึกการสนทนาทั้งหมดไป นั้นแสดงว่าเขามีหลักฐาน แล้วถ้าเผื่อว่า…”

โทนี่ สมิธ หัวเราะ และพูดเสียงเย็นออกไปว่า : “เขา.. มีหลักฐานแล้วมันยังไง เขาไม่มีทางทำอะไรกับฉันได้หรอก และในอังกฤษ มันก็ไม่มีใครมาทําอะไรฉันได้!”

ชายชาวจีน รีบพูดไปว่า : “ใช่ ด้วยอํานาจของ บอส…”

โทนี่ สมิธ กล่าวว่า : “เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน ในตอนแรก ฉันไม่อยากที่จะใช้ความสัมพันธ์กับราชวงศ์ แต่เพื่อเห็นแก่ลูกชายของฉัน ดูเหมือนว่าครั้งนี้ฉันจะต้องทำมันแล้ว”

แม้ว่า หลินฟาน จะมีพลังพิเศษ แล้วยังไง?

ท้ายที่สุดแล้ว.. อีกฝ่ายก็แค่ตัวคนเดียว และเขาจะต่อสู้กับอังกฤษทั้งหมดด้วยตัวคนเดียวได้หรือ?

ตราบใดที่ หลินฟาน ยังคงอยู่ในประเทศอังกฤษ แม้ว่าเขาจะเป็น ธานอส(Thanos) ผู้ทําลายล้าง โทนี่ สมิธ ก็มีวิธีการที่จะปราบ หลินฟาน ลงได้! หลินฟาน ดูถูกเขาเกินไป เขาดูถูกตระกูลสมิธของเขามากเกินไป!

ครอบครัวสมิธ ได้เติบโตขึ้นในสหราชอาณาจักรมาเป็นเวลาหลายร้อยปีแล้ว ธุรกิจของครอบครัวสมิธ มีส่วนเกี่ยวข้องกับสมาชิกภายในราชวงศ์ และด้วยความสัมพันธ์นี้ครอบครัวสมิธจึงสามารถสร้างความแตกต่าง ซึ่งพวกเขาสามารถเรียกลมเรียกฝนภายในเมืองลอนดอนได้

แน่นอนว่า.. โทนี่ สมิธ ไม่เต็มใจที่จะใช้ความสัมพันธ์นี้ เพื่อแก้ไขปัญหาของลูกชายของเขา เว้นเสียแต่มันจะจำเป็นจริงๆ

แต่สถานการณ์ปัจจุบัน มันบังคับให้ โทนี่ สมิธ ต้องทําเช่นนี้ไปโดยไม่มีทางเลือก…