นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 432 - ใส่ความแบบหน้าด้าน ๆ
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
เสียงเคาะประตูที่ดังสนั่นทำให้หูของเจ้าฟลินท์กระดิกไหวไปมา ส่วนเดวิดนั้นลืมตาขึ้นมาอย่างหงุดหงิด เขาระบายลมหายใจออกมาอย่างช้า ๆ มีเรื่องอะไรกันอีกอย่างนั้นหรือ? ทำไมสำนักแห่งนี้ถึงได้วุ่นวายไม่รู้จักจบสิ้นเสียที?
“ใคร!?” เดวิดกล่าวถามเสียงดังระหว่างที่เดินออกไปเปิดประตู และก็พบว่าผู้ที่มาหาเขาในคราวนี้มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 คน ท่วงท่าอากัปกิริยานั้นโอ่อ่าเปิดเผย คลื่นสมองที่เปล่งออกมาจนสัมผัสได้บ่งบอกว่าแต่ละคนอยู่ในระดับผู้ก่อพลังชั้นสมบูรณ์ และน่าที่จะกำลังเตรียมตัวเพื่อยกระดับขึ้นไปเป็นชั้นก่อปฐพีในไม่ช้า
“พวกคุณเป็นใคร?” เดวิดถามซ้ำออกไปอย่างสงสัย ในใจเริ่มมีความสังหรณ์แล้วว่านี่ไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน ท่าทางของคนกลุ่มนี้ไม่ดุร้ายอะไรมากนัก แค่เคร่งเครียดเคร่งขรึมเป็นอย่างยิ่ง
“พวกเราเป็นคนของหอวินัย! ได้รับคำสั่งมาให้นำตัวนายไปรับฟังและแก้ต่างข้อกล่าวหา ทางหอวินัยได้รับแจ้งมาว่านายละเมิดกฎของสำนักหลายข้อ ให้ความร่วมมือตามไปที่หอวินัยเพื่อทำการสอบสวนด้วย” คำอธิบายด้วยน้ำเสียงราบเรียบดังออกมา มันไม่มีแววของการข่มขู่เลยแม้แต่นิดเดียว คนพวกนี้เป็นมืออาชีพ และน่าจะได้รับคำสั่งมาจริง ๆ
มันทำให้เดวิดขมวดคิ้วแน่นขึ้นทันที ‘ผิดกฎ!? ข้อไหน? เมื่อไหร่?’ ความคิดของเขากำลังทบทวนสิ่งที่ตัวเองทำมาอย่างหนัก เดวิดไม่รู้จริง ๆ ว่าตัวเองพลาดทำผิดกฎของสำนักแห่งนี้ตั้งแต่เมื่อไร?
“โอ้! ได้สิ! ขอเวลาแต่งตัวแป๊บนะ ไม่นานหรอก!” แม้ว่าจะยังสับสน แต่น้ำเสียงที่ตอบกลับไปนั่นใสซื่อราบเรียบ ไม่มีอาการตื่นตระหนกเลยแม้แต่นิดเดียว
“ไม่ต้องหรอก! นี่คือการสอบสวนของหอวินัย ไม่มีใครสนใจหรอกว่านายจะแต่งตัวแย่แค่ไหน? รีบไปกันเถอะ” ศิษย์หญิงคนเดียวในกลุ่มเอ่ยขึ้นมา พร้อมกับเหลือบตามองเดวิดตั้งแต่หัวจรดเท้า
เดวิดหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนจะตอบกลับง่าย ๆ “โอ้! ได้สิ! ไป ๆ ๆ”
เขาก้าวออกมาจากห้อง และหันหลังกลับไปเพื่อปิดประตูเอาไว้ให้แน่นหนา เดวิดไม่อยากนำพาเจ้าฟลินท์ไปโชว์ตัวด้วยในตอนนี้ จึงคิดที่จะขังมันเอาไว้ในห้อง แต่ดูเหมือนว่าเขาจะช้าไป เงาร่างสีดำพุ่งออกมาราวกับสายฟ้าแลบแล้ว
หมับ! เคร้ง!!
ปฏิกิริยาตอบสนองเกิดขึ้นอย่างฉับพลันจากคน 2 คน เดวิดยื่นมือออกไปจับตัวเจ้าฟลินท์เอาไว้ได้กลางอากาศ แต่หลังมือของเขาก็ถูกมีดบินพุ่งเข้าใส่อย่างจัง ก่อนที่จะกระเด็นกลับไปแบบไม่ได้ทิ้งร่องรอยเอาไว้ที่หลังมือขวาของเดวิดแม้แต่นิดเดียว
ศิษย์หญิงคนนั้นลงมือได้อย่างรวดเร็วและโหดเหี้ยมเป็นอย่างมาก ทันทีที่เธอเห็นเงาร่างพุ่งเข้าใส่ตัวเอง มีดบินก็ลอยสวนออกไปตามสัญชาตญาณทันที โชคดีที่มือของเดวิดนั้นเร็วกว่ามีดบินอยู่เล็กน้อย ไม่อย่างนั้นเจ้าฟลินท์คงไม่รอดแน่!
สีหน้าของเขากลายเป็นเย็นชา ดวงตาทอประกายที่แข็งกร้าวออกมา เดวิดหันไปจ้องหน้าศิษย์ของวินัยคนนั้นแล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน “เธอกล้าดียังไง?”
คำถามของเขาทำให้บรรยากาศนั้นตึงเครียดขึ้นมาทันที
“ก-ก็! ก็มันจะโจมตีฉันก่อนนี่!” หญิงสาวตอบกับมาด้วยเสียงที่แหลมสูงกว่าปกติเล็กน้อย คำพูดตะกุกตะกัก ไม่แน่ใจว่าเธอกลัวท่าทางอันดุดันของเดวิด หรือตกใจที่มีดบินของตัวเองไร้ผลอย่างสิ้นเชิง
“ไม่! มันไม่ได้ทำ! มันแค่กระโจนมาหาฉันเท่านั้น!! ส่วนเธอ! เธอโจมตีฉันอย่างไม่มีสาเหตุ! นี่มันผิดกฎข้อห้ามของสำนักชัด ๆ ใครอนุญาตให้เธอโจมตีลูกศิษย์ตามใจชอบแบบนี้!!” เสียงของเดวิดดังลั่น ดวงตานั่นทอประกายเจ้าเล่ห์ชั่วร้าย โอกาสดี ๆ แบบนี้เขาไม่ปล่อยไปอย่างแน่นอน
“แล้วอีกอย่าง! มีใครเป็นพยานได้มั้ยว่าสัตว์เลี้ยงของฉันจะทำร้ายเธอ มันพุ่งเข้ามาหามือของฉันชัด ๆ! เจ้าตัวน้อยที่น่าสงสารนี่คงจะแค่ตื่นเต้นที่ได้ยินเสียงคน และตั้งใจออกมาต้อนรับเท่านั้น! แต่เธอกลับลงมือจู่โจมฉันอย่างโหดเหี้ยม ทำไม? อิจฉา? หรือว่าอาฆาตแค้นอะไร? ไม่ได้แล้ว! ฉันต้องถามเรื่องนี้กับหอวินัยให้ชัดเจน ทำไมเจ้าหน้าที่ของพวกเขาถึงได้เป็นคนไร้เหตุผลถืออำนาจบาตรใหญ่แบบนี้ ไม่เห็นกฎของทางสำนักอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย” เสียงของเขาดังขึ้นทุกที ข้อกล่าวหาถูกพ่นออกมาอย่างยืดยาว สีหน้าไม่มีแววแห่งการล้อเล่นเลยแม้แต่น้อย
กลุ่มของเจ้าหน้าที่ของหอวินัยสีหน้ามืดดำบิดเบี้ยวดูไม่ได้ พวกเขามั่นใจแล้วว่าเจ้าบ้าคนนี้ตั้งใจจะทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่จริง ๆ และถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่เรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้งแบบนี้ แต่ถ้าศิษย์ของหอวินัยถูกร้องเรียนว่าเป็นคนกระทำผิดขึ้นมาเสียเอง บทลงโทษที่ได้รับจะไม่น้อยไปตามสาเหตุด้วยเลย หอวินัยต้องรักษาหน้าของตนเอง และลงโทษพวกเขาอย่างหนักแน่นอน สิ่งที่สำคัญที่สุด ข้อหาทำร้ายศิษย์ร่วมสำนักอย่างไม่มีเหตุผลที่สมควร ถือว่าเป็นข้อหาที่มีบทลงโทษสูงสุดรองจากการสังหารศิษย์ร่วมสำนักเลยด้วย
ดวงตาของศิษย์หญิงเบิกกว้าง มือของเธอถูกชี้เข้าใส่เดวิดแบบทำอะไรไม่ถูก “ก-แก! ฉ-ฉัน! ฉ-ฉันไม่ได้ตั้งใจเสียหน่อย หยุดกล่าวหากันเดี๋ยวนี้นะ!” เสียงตวาดที่ดังขึ้นนั่นน่าสงสารเป็นอย่างยิ่ง
“พอได้แล้ว!”
ในที่สุดเธอก็มีผู้ช่วยแก้สถานการณ์ให้ ศิษย์ชายที่ยืนนิ่งอยู่ตรงกลางเอ่ยปากขึ้นมาในที่สุด เขาแตะบ่าศิษย์หญิงแล้วพยักหน้าให้เงียบและถอยไปด้านหลัง ก่อนจะเดินล้ำขึ้นมาข้างหน้าเล็กน้อยทันที
“ศิษย์พี่เดวิด! ศิษย์น้องซิงเพิ่งเข้าร่วมกับหอวินัยได้ไม่นาน ยังควบคุมปฏิกิริยาตอบสนองต่อเหตุร้ายไม่ค่อยได้ เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้ตั้งใจที่จะทำร้ายศิษย์พี่เลย มันเป็นแค่การโจมตีตามสัญชาตญาณเท่านั้น อีกอย่างเธอก็เป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ขี้ตกใจเท่านั้น สัตว์เลี้ยงของศิษย์พี่ก็คึกคักว่องไวจนน่าอิจฉาเกินไป มันเลยทำให้เกิดเรื่องเข้าใจผิดแบบนี้ขึ้นได้ ผมต้องขอโทษแทนเธอด้วยจริง ๆ เอาเป็นว่า! พวกเราเข้าไปคุยกันด้านในดีกว่า ศิษย์พี่เดวิดจะได้ล้างหน้าล้างตาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ผมคิดว่าศิษย์พี่น่าจะมีข้อสงสัยอยากจะสอบถามไม่น้อยเลยใช่มั้ย?” สมกับเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ ข้อเสนอของเขาตรงกับใจของเดวิดไม่น้อย
“ฮ่าฮ่า! เรื่องเล็กน้อย ๆ ศิษย์พี่ไม่ต้องเป็นกังวลไป ไม่ทราบว่าศิษย์พี่คือ...” น้ำเสียงนั้นเปลี่ยนเป็นนุ่มนวล รอยยิ้มที่จริงใจปรากฎขึ้นบนใบหน้า แววตาเปลี่ยนเป็นใสซื่อในพริบตา เดวิดเปลี่ยนสีของตัวเองได้อย่างฉับพลัน
“ถัง! ถังหลิน!” ศิษย์หนุ่มคนนั้นตอบกลับมา
“โอ้! ศิษย์พี่ถังนี่เอง! เสียมารยาทแล้ว! มาเถอะ เข้ามารอด้านในก่อน เดี๋ยวผมหาอะไรให้ดื่ม” ฟ้ากับเหว! ท่าทางของเขาเปลี่ยนแปลงไปจากหน้ามือเป็นหลังเท้าของคนข้างบ้านได้ในพริบตา รีบเชื้อเชิญอีกฝ่ายให้เข้าในห้องพักอย่างตื่นเต้นยินดี
หลังจากที่ปล่อยให้เดวิดเดินนำเข้าไปในห้องพักแล้ว ถังหลินก็หันหน้ามาทำตาดุใส่สาวน้อยที่ยืนทำหน้าบอกบุญไม่รับทางด้านหลังทันที เขาส่ายหน้าให้เธอเบา ๆ แล้วรีบพาตัวเองตามเดวิดเข้าไปในห้องอย่างไม่รอช้า
หลังจากที่หาเก้าอี้มาให้แขกคนแรกของห้องพักแห่งนี้นั่งแล้ว เดวิดก็นำสุราชั้นดีมาเสิร์ฟ อ้อ! ไม่ต้องแปลกใจ เขาไม่ได้ปล่อยให้แหวนเก็บของของพวกฟงเทียนทั้ง 7 คนเอาไว้ที่ศพเลย ก่อนที่จะจากมา เดวิดรวบรวมทรัพย์สินที่พอจะมีค่าทุกอย่างเป็นสินสงครามตามธรรมเนียมของตัวเองอยู่แล้ว และดูเหมือนว่าในแหวนของฟงเทียนจะมีเครื่องอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตอยู่ไม่น้อย รวมทั้งเหยือกและแก้วเหล้าคุณภาพดีพวกนี้ด้วย
“มา ๆ ตอนที่ออกไปทำภารกิจนอกสำนัก ผมได้สุราคุณภาพดีมาเล็กน้อย ศิษย์พี่ถังลองชิมดูหน่อยว่ารสชาติเป็นอย่างไรบ้าง” คำพูดคำจาที่รื่นไหลเป็นธรรมชาติถูกพ่นออกมาไม่หยุด สีหน้าของเดวิดนั้นสดใสรับแขกเป็นอย่างมาก หลังจากตบหัวอย่างหนักหน่วงไปแล้ว ตอนนี้ได้เวลาลูบหลังปลอบโยนอย่างเต็มที่ การรู้จักศิษย์ของหอวินัยเอาไว้ จะช่วยเหลือเขาในอนาคตได้ไม่น้อยอย่างแน่นอน
ถังหลินไม่ขัดเจตนาดีของเดวิดเลย เขายกแก้วขึ้นจิบอึกเล็ก ๆ ก่อนจะเอ่ยชมออกมา “สุราดี! ศิษย์พี่เดวิดถ่อมตัวเกินไปแล้ว ไหนเลยจะเรียกได้ว่าเป็นสุราดีเล็กน้อยกันเล่า เสียดายวันนี้มีเวลาไม่เยอะนัก ไม่อย่างนั้นผมคงต้องรบกวนศิษย์พี่สักหลายแก้วแน่นอน” ดูเหมือนว่าศิษย์ของหอวินัยคนนี้จะมีประสบการณ์ในการรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ มาอย่างโชกโชน เขาไหลตามน้ำไปกับเดวิดได้อย่างราบรื่นเป็นอย่างยิ่ง
นี่ทำให้เดวิดพยักหน้าอย่างพึงพอใจ การคุยกับคนฉลาดมันช่วยให้เขาไม่ต้องเหนื่อยมาเลย “ศิษย์พี่ชอบก็ดีแล้ว อย่างไรเสียคราวหน้ายังมีโอกาสอีกไม่น้อย ผมขอเชิญศิษย์พี่เอาไว้ล่วงหน้าเลยแล้วกัน”
หลังจากกล่าวตามมารยาทจบ สีหน้าของเดวิดก็เปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นเล็กน้อย “ไม่ทราบว่าศิษย์พี่จะแจ้งให้ศิษย์น้องรู้ล่วงหน้าได้หรือไม่ ว่าข้อกล่าวหาในคราวนี้ร้ายแรงแค่ไหนกัน”
สีหน้าของถังหลินก็เคร่งเครียดขึ้นมาเล็กน้อยแล้วเช่นกัน คิ้วของเขาขมวดแน่น ก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างค่อนข้างลังเล “รายละเอียดเรื่องนี้ไม่ชัดเจนมากนัก ผมก็ได้รับคำสั่งให้มาเชิญตัวศิษย์พี่ไปรับฟังข้อกล่าวหา และรับการพิจารณาคดีเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าจะเกี่ยวข้องกับภารกิจที่ศิษย์พี่ออกไปทำมาเมื่ออาทิตย์ก่อน น่าจะมีคนแจ้งเข้าไปว่าศิษย์พี่ละเมิดกฎเกณฑ์อะไรบางอย่างระหว่างไปทำภารกิจนี่แหละ ข้อหาที่เกิดขึ้นนี่มีบทลงโทษที่ไม่เบาเลย ถ้าถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง อาจจะถูกส่งตัวไปคุมขังอยู่ในคุกน้ำได้เลย”
คิ้วของเดวิดขมวดแน่นกว่าอีกฝ่ายแล้ว รายละเอียดของภารกิจที่เพิ่งทำสำเร็จไปผุดขึ้นมาในหัวทันที หลังจากใช้เวลาไม่นานในการใคร่ครวญ เขาก็คิดถึงจุดที่น่าจะเป็นปัญหาขึ้นมาได้ คำสั่งของภารกิจคือให้ใช้ทักษะการต่อสู้ที่ร่ำเรียนมาในสำนักแห่งนี้ปฏิบัติภารกิจ แต่ตัวเองกระตุ้นใช้สภาวะ 5 ดาวทำลายป่าไปเสียราบพณาสูร ไม่มีทางที่สำนักจะไม่ได้ข่าวเรื่องแบบนี้แน่
หลังจากแน่ใจว่าไม่ใช่เรื่องอื่น เดวิดก็ลุกขึ้นยืนแล้วโค้งหัวขอบคุณอีกฝ่ายอย่างมีมารยาท “ผมต้องขอบคุณศิษย์พี่ถังมากที่ช่วยบอกข้อมูลล่วงหน้า ไม่ปล่อยให้ผมเดินเข้าไปรับการพิจารณาคดีแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร บุญคุณในครั้งนี้ผมจะตอบแทนให้อย่างแน่นอน!
ถังหลินเบิกตากว้างเมื่อเห็นมารยาทของเดวิด รีบลุกขึ้นโบกมือว่อนไปมาทันที “ไม่เลย ๆ ศิษย์พี่ไม่ต้องมากมารยาทไป นี่ไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไรนัก ถือว่าเป็นการช่วยเหลือกันของศิษย์ร่วมสำนักเท่านั้น” เขากล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน ก่อนจะกระตุ้นเตือนออกมาต่อ
“แต่พวกเราคงต้องรีบเดินทางกันหน่อยแล้ว คณะกรรมการพิจารณาคดีน่าจะรออยู่ ตอนที่ผมได้รับคำสั่งให้มาเชิญตัว พวกเขาส่งคำเชิญคณะกรรมการไปพร้อมกันด้วย”...