บทที่955 ภาคหนี้เลือดตระกูลซือ การก่อกบฏของจอมหมัด
เบื้องหน้าของปาเปาเทียนคือประตูศิลาขนาดใหญ่ที่แข็งแกร่งและทรงพลังเป็นอย่างมาก หากมองไปด้วยตาเปล่า มนุษย์คงไม่อาจทำลายมันลงได้ แม้กระทั่งปืนใหญ่ดินดำของเผ่าเอ้อหวินยังคงไม่สามารถทำให้เกิดผลลัพธ์ที่กระจ่าง
โดยที่ประตูศิลาบานนี้ คือเส้นทางเข้าสู่หุบหินจันทราดับที่ปลอดภัยที่สุด หากผู้ใดรุกล้ำเข้าเขตแดนของหุบจันทราโดยไม่ผ่านประตูศิลาแล้วนั้นย่อมเผชิญพบกับกับดักนับหมื่น ค่ายกลนับพันและยอดฝีมือร้อยคน ด้วยเหตุนี้เองทำให้หุบหินจันทราดับเป็นสถานที่ที่ลึกลับที่สุดในยุทธภพ
ปาเปาเทียนและพรรคพวกเร่งฝีเท้าเดินทางมาถึงประตูศิลาในคืนวันนั้น มันได้ใช้ฐานะของผู้อาศัยและเส้นสายที่ฝังไว้ ในการนำพาคนนอกทั้งสี่ผ่านประตูศิลาเข้าสู่หุบจันทราดับได้อย่างไม่ถูกสงสัย
ในอดีตปาเปาเทียนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้าหุบเขาคนก่อน แต่หลังจากมันได้ข่าวการเสียชีวิตของอดีตเจ้าหุบเขาหลิวเหยียน มาจากอู่ซานทง มันก็รู้ได้ทันทีว่าเพียงบุตรสาวคนเดียว มิสามารถแบกรับหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ของการเป็นผู้นำหุบจันทราดับได้
หากหุบจันทราดับต้องล่มสลายด้วยน้ำมือของเด็กสาวที่ไร้ประสบการณ์แล้วนั้น การเข้ายึดครองอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด และหากมันสามารถขึ้นเป็นใหญ่เป็นโตในหุบจันทราได้ แผนการแก้แค้นหนิงเทียน ศัตรูที่ทำให้มันต้องระหกระเหินมาอยู่ที่นี่ก็เป็นเรื่องง่ายขึ้นเช่นกัน
ดังนั้นมันจึงตัดสินใจร่วมมือกับคนนอกอย่างอู่ซานทง รวบรวมปรมาจารย์ยุทธทำการก่อกบฏจากภายใน
ตามแผนการที่วางไว้ คือจะให้ปาเปาเทียนควบคุมอดีตฮูหยินของหลิวเหยี่ยน จากนั้นก็กระจายข่าวการเสียชีวิตของเจ้าหุบเขาและปล่อยข่าวล่วงเรื่องการลอบสังหารหลิวซือเย่และอึ้งเซี้ยะ
ใช้โอกาสและจังหวะที่ทัพหวู่เคลื่อนตัวเข้าหาป้ายความผิดให้กับหนี่ฉางเหนียน เมื่อภายในเกิดความวุ่นวาย คนที่จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้มีเพียงสองคน คืออดีตผู้คุมกฎไป๋เทียนซานและราชาพิทักษ์หลงชิง
ดังนั้น มันจะใช้ยอดฝีมือสามคนจัดการ ราชาพิทักษ์หลงชิง ชายที่แข็งแกร่งที่สุดในหุบจันทราดับ ส่วนไป๋เทียนซาน ให้เป็นหน้าที่ของอู่ซานทง ปราศจากการควบคุมสถานการณ์ของทั้งสองคน หุบจันทราดับก็ไม่อาจหนีพ้นความวุ่นวายและล่มสลาย
วิธีเดียวที่จะรั้งดึงหุบจันทราดับให้กลับมาได้ คือตัวเลือกสุดท้ายที่จะมาหยุดความวุ่นวายครั้งนี้ นั้นก็คือนายหญิงใหญ่ของหุบจันทราดับ มารดาแท้ๆของหลิวซือเย่
แน่นอนว่าสตรีเพียงคนเดียวมิอาจต่อต้านปรมาจารย์อย่างพวกมันทั้งห้าคนได้ การใช้นางเป็นหุ่นเชิดคือความปรารถนาที่แท้จริงของปาเปาเทียน
ก่อนจะเริ่มภารกิจ อู่ซานทงเหลือบมองไปที่ปาเปาเทียนอีกครั้งและกล่าวถามย้ำให้มั่นใจ “เจ้าแน่ใจว่าจะควบคุมฮูหยินใหญ่ได้สำเร็จ”
ปาเปาเทียนฉีกยิ้มกว้าง “อย่าลืมความสัมพันธ์ของข้ากับหอโอสถของตระกูลเหรินไปสิ”
หอโอสถตระกูลเหรินแห่งหวู่ เปลือกนอกเป็นผู้ควบคุมสำนักแพทย์ของเมืองหลว งแต่อีกด้านหนึ่งยังเป็นสำนักสำหรับการสืบแสวงหาและสรรค์สร้างโอสถชั้นเลิศและพิษร้ายแรงเกื้อหนุนให้แก่แคว้นเช่นกัน
ซึ่งหนึ่งในพิษร้ายที่ตระกูลเหรินคิดค้นได้สำเร็จ คือพิษหนอนแมลงดำ มันจะทำลายสามัญสำนึกของคนและควบคุมให้คนผู้นั้นเชื่อฟังโดยไร้ซึ่งสติและความทรงจำ
ปาเปาเทียนกำชับอย่างหนักแน่น “ไม่ว่าอย่างไรก็จะต้องกำจัดหลงชิงให้สำเร็จ ส่วนไป๋เทียนซานนั้น เราจะใช้พิษแมลงดำควบคุมมันเพื่อใช้ประโยชน์ภายหลัง ทำตามหน้าที่ที่ข้ามอบให้ดี ข้าจะตัดแบ่งหุบจันทราดับแห่งนี้เป็นของตอบแทนให้แก่พวกท่านทุกคน”
สิ้นเสียงกล่าว มันได้กางแผนที่และชี้จุดพำนักของหลงชิงให้กับปรมาจารย์ทั้งสามคน พวกมันสามคนตอบรับด้วยความเงียบและมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือด้วยความเงียบราวกับสายลมที่ว่างเปล่า
อู่ซานทงเหลือบมองแผ่นหลังของคนทั้งสามด้วยความสงสัย ก่อนจะเอ่ยถามออกมา “บอกตามตรงหลังจากได้ยินแผนการของเจ้า แม้ว่าครั้งนี้จะเป็นโอกาสและเวลาที่เหมาะสมแต่ก็เป็นแผนการที่เสี่ยงเกินไป
กอปรกับแผนการลอบสังหารหลิวซือเย่ถูกหนี่ฉางเหนียนหยุดเอาไว้ หากต้องเผชิญศึกนอกและในพร้อมกันเกรงว่าจะเป็นการลงทุนที่เสียมากกว่าได้ ดังนั้นข้าจึงคิดที่ล้มเลิกแผนการตามที่ตั้งใจ จนกระทั่งข้าเห็นพวกเขาสามคน”
ปาเปาเทียนฉีกยิ้มมุมปาก ก่อนจะเอ่ยถึงตัวตนของทั้งสามคนออกมา “นักฆ่าไร้นาม หวังซาน ทรราชแห่งอุดร อ๋องหวินหวาง ทั้งสองมีความสัมพันธ์กับตระกูลเหริน ส่วนสิงโตสวมอาภรณ์ ซือเสวียนไห มีความแค้นกับหลิวเหยี่ยน
เป้าหมายของพวกเขาทั้งสามคือการทำลายหุบจันทราดับจากคนตระกูลหลิวและสังหารคนจากแคว้นหวู่หนึ่งชีวิต เมื่อเป้าหมายตรงกัน ข้าจึงสามารถรวบรวมยอดฝีมือให้มาทำงานนี้ได้ยังไงละ”
ฟังเช่นนั้น อู่ซานทงได้แต่นิ่งเงียบไป มันเข้าใจดีว่า ต่อให้มีแผนการเดียวกัน ก็ไม่มีเหตุผลให้ทั้งสามคนฟังคำสั่งของปาเปาเทียนแต่อย่างใด
เรื่องนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องราวและอำนาจภายในของแคว้นหวู่ และบุรุษนามว่าหนิงเทียน อาจเป็นภัยร้ายแรงถึงขนาดที่ตระกูลใหญ่ของแคว้นลงทุนออกแรงสังหาร แต่ทว่านั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับมันแต่อย่างใด
ปาเปาเทียนยังกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงเปี่ยมความมั่นใจ “ต่อให้เป็นราชาพิทักษ์ หลงชิง ยอดฝีมือลำดับที่เก้าของทำเนียบยุทธภพ ก็คงไม่สามารถรับมือ สามคนนั้นพร้อมกันได้แน่ ส่วนข้าจะควบคุมสถานการณ์ภายใน หวังว่าท่าน....”
ยังไม่ทันกล่าวจบอู่ซานทงเค้นเสียงออกมา “ไม่ต้องห่วงเรื่องของข้า ไป๋เทียนซานไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าอยู่แล้ว”
ฟังเช่นนั้นปาเปาเทียนสะบัดแขนส่งกล่องโอสถให้อีกฝ่ายรับไว้ อู่ซานทงรับมันพร้อมกับสะบัดสายโซ่เดินไปยังตำแหน่งที่พักของอดีตผู้คุมกฏของหุบจันทราดับทันที
หลังจากการมาถึงของปาเปาเทียนและพวก ความเงียบสงบยามราตรีภายในหุบจันทราดับล่วงผ่านได้เพียงหนึ่งก้านธูปเท่านั้น เปลวเพลิงถูกจุดขึ้นใจกลางหมู่บ้าน แสงสีส้มทอประกายตัดกับความมืดของท้องฟ้ายามค่ำคืน
ชายชราผมขาวเหลือบมองผ่านหน้าต่าง เห็นประกายเพลิงตัดความมืด หว่างคิ้วของมันร่นเข้าหากัน 'มีคนจุดไฟในยามวิกาลจะต้องมีเรื่องร้ายเกิดเรื่องขึ้น'
ในเสี้ยวลมหายใจนั้น หางตาของชายชรามองไปยังประตูด้านนอก “ใครกล้ามาก่อกวนที่หุบจันทรา”สิ้นเสียงกล่าว มันสะบัดแขนเสื้อเบาๆ เข็มเหล็กพวยพุ่งเจาะทะลุประตูรุนแรงทว่าการโจมตีนี้มิได้ทำให้ผู้มาเยือนได้รับบาดแผลแต่อย่างใด
หลังจากบานประตูถูกทำลาย สายตาของชายชรา มองเห็นเงาร่างของชายสามคนกำลังยืนรอมันอยู่ด้านนอก
ชายชราผมขาวผู้นี้ เป็นบุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดในหุบจันทราดับ สมญาราชาพิทักษ์ หลงชิง แม้หลงชิงทะนงในความแข็งแกร่งของตัวเองเป็นอย่างมาก
หากแต่เมื่อสายตามองเห็นผู้มาเยือนอย่างชัดแจ้งแล้วนั้น ดวงตาของมันหรี่แคบด้วยความเงียบและรังสีสังหารอย่างรุนแรง
“ไม่เคยได้ยินว่า หุบจันทราดับของเรา ให้การต้อนรับ อ๋องหวินหวาง หวังซานและซือเสวียนไหด้วย”
การรวมตัวของปรมาจารย์ยุทธทั้งสามคนนั้นไม่สร้างความตกใจเท่ากับการที่พวกมันสามารถมาเคาะประตูที่พักของหลงชิงได้ หากมีปรมาจารย์ยุทธสามารถเล็ดรอดเข้ามาภายในหุบจันทราดับได้เช่นนี้เกรงว่าสถานการณ์โดยรวมจะไม่สู้ดีแล้ว
สายตาของหลงชิง มองไปยังตำแหน่งของเปลวเพลิงที่ถูกจุด มันระเบิดพลังวัตรออกมา พร้อมขบกามคำรามลั่น
“ข้าไม่มีเวลาเล่นกับพวกเจ้า” กล่าวจบมันใช้พลังหมัดโจมตีเปิดทางพร้อมใช้วิชาตัวเบาขั้น9 ทะยานร่างไปด้านหน้าด้วยความเร็วสูง หมายจะเข้าควบคุมสถานการณ์โดยรวมให้ได้เป็นอันดับแรก
หากแต่วิชาตัวเบาขั้น9ของ ราชาพิทักษ์หลงชิง มิได้เพียงพอให้มันเอาตัวรอดไปจากสถานการณ์นี้ได้ คมศัสตราสังหารแหวกอากาศขวางหน้าของหลงชิงทำให้มันต้องหยุดเท้าและเปลี่ยนท่วงท่าเป็นการโจมตีส่วนกลับ
พริบตาที่พลังวัตรทั้งสองหักล้างกัน รอบตัวมันก็ถูกล้อมด้วยยอดฝีมือทั้งสามคนเป็นที่เรียบร้อย!!
“รนหาที่ตาย” น้ำเสียงเย็นดังออกจากปากของหลงชิง ผมขาวของผมพลิ้วไสวไปในอากาศ บรรยากาศโดยรอบเยือกเย็น มันเข้าใจดีว่าหากไม่จัดการศัตรูตรงหน้า ก็คงไม่สามารถสลัดตัวตนเหล่านี้ทิ้งได้
หลงชิงในตอนนี้ได้แต่หวังพึ่งไป๋เทียนซานให้ควบคุมสถานการณ์ความวุ่นวายโดยเร็วที่สุด แต่ทว่ามันไม่รู้เลย ว่าเวลานี้สถานการณ์ของอดีตผู้คุมกฎ ไป๋เทียนซาน เลวร้ายเสียยิ่งกว่ามันมากนัก!!!