ตอนที่ 3 : บุตรสาวคนที่เจ็ด (3)
ตามความทรงจำใหม่ เฉินหยานเซียวรู้ว่าพ่อของร่างกายนี้เป็นลูกชายคนเล็กของหัวหน้าตระกูลสุซาคุ พ่อแม่ของเธอได้ถูกดักจับเเละสังหารตอนที่พวกเขาออกไปข้างนอกในคืนพระจันทร์เต็มดวง มีเพียงคนเดียวที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้น นั่นก็คือ เฉินหยานเซียว
แม้ว่าทุกคนในตระกูลสุซาคุจะไม่ชอบเธอขยะแขยงเธอ แต่ปู่ของเธอซึ่งเป็นหัวหน้าตระกูลสุซาคุคนปัจจุบันคือ เฉินเฟิงก็ใส่ใจในความรักของลูกชายคนเล็กของเขา เขาจัดการให้มีผู้คนดูแลเรื่องอาหารการกินของ "เฉินหยานเซียวในทุกๆวัน สำหรับครอบครัวใหญ่เค้าทำได้เพียงเท่านี้ เพราะเธอยังเป็นเด็กเธอยังไม่สามารถอ่านออกเขียนได้เเละไม่สามารถดูเเลตัวเองได้ ดังนั้นการดำรงอยู่ของเธอเปรียบเหมือนการสร้างความอับอายให้กับตระกูลสุซาคุด้วยซ้ำ
เธอไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมงานเลี้ยงประจำปีของครอบครัว…
เกี่ยวกับความผิดฐานบุกรุกเข้าไปในดันเจี้ยน(*คุกใต้ดิน) ครั้งนี้ ฉันกลัวว่า "เฉินหยานเซียว" จะสูญเสียผิวหนังของเธอแม้ว่าเธอจะไม่ตายก็ตาม
หากไม่ใช่เพราะเหตุผลของพ่อเธอ ฉันกลัวว่าเฉินเฟิงจะไม่เต็มใจที่จะยอมรับเธอเป็นหลานสาว ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าตอนนี้เฉินหยานเซียว ไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆเลย
“สถานการณ์แย่มาก” เฉินหยานเซียว นั่งบนเก้าอี้และวิเคราะห์สภาพแวดล้อมที่เธออยู่ตอนนี้
การไม่ได้รับการสนับสนุนจากใครเลย ถือเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุด
"เเต่มันก็ไม่ได้เเย่ ไปกว่านั้น" จู่ๆก็ได้ยินเสียง ปรากฏขึ้นในหูของเฉินหยานเซียว
เฉินหยานเซียวผงะทันทีลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว และมองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง
แม้ว่าร่างกายนี้ไม่มีความแข็งแกร่งแต่ เฉินหยานเซียว ก็เป็นหัวขโมยที่มีชื่อเสียงมาก่อน และเธอคิดว่าไม่มีใครสามารถหลีกหนีการรับรู้ของเธอได้ แต่ในตอนนี้ในห้องขนาดใหญ่ เธอไม่ได้สังเกตเห็นอะไรเลย รวมถึงเสียงลมหายใจของใครๆ..ก็ตาม
แล้วเสียงนี้มาจากไหน?
“ในเมื่อเจ้ากล้าพูดออกมา ทำไมเจ้าไม่กล้าแสดงตัวออกมาล่ะ?” เฉินหยานเซียวหรี่ตาและมองไปรอบๆ
“แสดงตัวออกมาเหรอ?” เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้งด้วยความเยือกเย็น
“สาวน้อย เจ้าไม่จำเป็นต้องมองหาข้า ข้าไม่ใช่ใครอื่น แต่ข้าอยู่กับเจ้า” กับ
เธอเหรอ? เฉินหยานเซียวตกตะลึง
“ข้าคิดว่าเจ้าคงจะใช้ชีวิตทั้งชีวิตอยู่ไปกับความสับสน แต่ไม่คิดว่าเจ้าจะฉลาดได้ในทันที โลกนี้มันช่างยุ่งยาก เเต่ดูเหมือนว่าสวรรค์ต้องการให้โอกาสเจ้าและข้า” เสียงที่เยือกเย็นนั้นปรากฏในหูของเฉินหยานเซียวอีกครั้ง แต่คราวนี้เธอรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเสียงนั้นไม่ได้มาจากโลกภายนอก แต่... จากใจของเธอ!
“เจ้าเป็นใคร?” เฉินหยานเซียวยังคงสามารถยอมรับเรื่องการฟื้นคืนชีพได้ แต่เสียงที่เกิดขึ้นกะทันหันนี้ทำให้เธอยากที่จะเชื่อจริงๆ
“มนุษย์เหรอ ไม่มีใครในโลกนี้ที่จะเรียกฉันแบบนั้น พวกเขาเต็มใจที่จะเรียกฉันว่าปีศาจมากกว่า”
ปีศาจเหรอ? เฉินหยานเซียวขมวดคิ้วเล็กน้อย
“สาวน้อย เรามาคุยเรื่องข้อตกลงกันดีกว่า?”
“ข้อตกลงอะไรล่ะ?” เฉินหยานเซียวไม่สามารถระบุตัวตนของอีกฝ่ายได้ แต่ที่เฉินหยานเซียวเข้าใจก็คือปีศาจที่ประกาศตัวเองอยู่ตอนนี้อยู่ในร่างกายของเธอจริงๆ
“หากเจ้าช่วยให้ข้าปรากฏตัวอีกได้อีกครั้งในโลกนี้ ข้าก็จะช่วยเจ้าปลดผนึก เพื่อปลดปล่อยพลังที่เจ้าสมควรได้รับ”
"ผนึก?” เฉินหยานเซียวเริ่มสับสนมากขึ้นเรื่อยๆหลังจากที่เธอได้ยินมัน
“พับแขนเสื้อขวาของเจ้าขึ้น”
เฉินหยานเซียว พับแขนเสื้อของเธอขึ้น ที่แขนขวาของเธอ มีผิวหนังขนาดเท่าฝ่ามือซึ่งเข้มกว่าผิวหนังส่วนอื่นอย่างเห็นได้ชัด เธอได้สังเกตเห็นความแตกต่างเล็กๆ น้อยๆนี้ หลังจากที่เธอได้ตรวจดูร่างกาย
“นี่คือตราประทับ?” ให้ตายเถอะ ความลับของเด็กน้อยคนนี้คืออะไร?
ท้ายบท…