ตอนที่แล้ว1234 - การสร้างแท่นบูชาห้าสี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป1236 - การนองเลือดครั้งใหญ่เริ่มต้นขึ้นแล้ว

1235 - ภัยพิบัติเก้าดาวอสูร 


1235 - ภัยพิบัติเก้าดาวอสูร

สถานการณ์ของครึ่งเดือนที่ผ่านมา ผู้คนในวังพิภพและวังอเวจียังคงถูกฆ่าตายอย่างต่อเนื่อง และผู้ที่ออกไปปฏิบัติภารกิจด้านนอกต่างประสบกับความล้มเหลว บางคนเพียงต้องการหลอกล่อพวกเขาออกมารับภารกิจและลงมือสังหารอย่างโหดร้าย

“ร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณกำลังรวบรวมอัญมณีห้าสี!”

ในที่สุด ข้อมูลอันทรงพลังก็หลุดออกมาในโลก เย่ฟ่านลงมือปล้นชิงอัญมณีห้าสีอย่างต่อเนื่อง ทำให้โลกทั้งใบตกอยู่ในความโกลาหล

เย่ฟ่านต้องการทำอะไร? เจ้ากล้าที่จะค้นหาอัญมณีห้าสีแข่งขันกับมหาอำนาจเผ่าพันธุ์มนุษย์และเผ่าพันธุ์โบราณหรือ?

หลายคนรู้ว่าเขาเคยไปเยือนโลกอื่นและกลับมาได้สำเร็จ แน่นอนว่าการสร้างแท่นบูชาห้าสีสำหรับเขานั้นย่อมมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่าคนอื่นๆ

“ทำไมข้ารู้สึกเหมือนเขากำลังวิ่งหนีและอยากออกจากโลกใบนี้อีกครั้ง เกิดอะไรขึ้น?”

ในวันนั้น เย่ฟ่านและผู้คนรอบตัวเขาปฏิเสธข่าวลือโดยบอกว่าพวกเขาไม่ได้รวบรวมอัญมณีห้าสี และพวกเขาไม่รู้ว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวลือนี้ ช่างเป็นเรื่องไร้สาระเหลือเกิน

ภายในสองวัน ปรมาจารย์ค่ายกลโบราณเปิดเผยความลับ มีคนชักชวนเขาด้วยแก่นแท้เงินศักดิ์สิทธิ์ชิ้นเล็กๆ และขอให้เขาออกจากภูเขาเพื่อสร้างค่ายกลปิดผนึก

“เจ้ายังคงบอกว่าไม่ใช่เย่ฟ่าน มีเขาคนเดียวเท่านั้นที่ครอบครองสมบัติล้ำค่าชิ้นนี้”

ตามที่ปรมาจารย์ค่ายกลคนนั้นกล่าว เขาถูกพาไปที่สถานที่ลึกลับมากมีแท่นบูชาห้าสีซึ่งใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว

ที่นั่นมีปรมาจารย์ค่ายกลมากมาย ปรมาจารย์แต่ละคนมีหน้าที่รับผิดชอบในพื้นที่เล็กๆ เท่านั้น ทุกคนต่างปฏิบัติหน้าที่ของตนเองโดยไม่อาจยุ่งเกี่ยวกับการซ่อมแซมค่ายกลของผู้อื่น

ตราบใดที่พวกเขาซ่อมแซมค่ายกลของตัวเองเสร็จแล้วก็จะได้รับค่าจ้างและพาตัวออกไปทันที

ทั้งโลกตกตะลึงกับเรื่องนี้ ร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณต้องการจะทำอะไร หลังจากฟื้นฟูแท่นบูชาห้าสีแล้วเขาจะเริ่มการเดินทางออกนอกอาณาเขตจริงหรือ?

“ข้าขอย้ำอีกครั้ง ต้องมีคนอื่นที่ทำสิ่งนี้ และพวกเขาไม่เกี่ยวข้องกับข้า!” เย่ฟ่านยืนขึ้นอีกครั้งเพื่อปฏิเสธข่าวลือ จากนั้นไม่เคยปรากฏตัวอีกเลย

“มีแต่คนปัญญาอ่อนเท่านั้นที่จะเชื่อคำพูดเขา?” ไม่มีใครเชื่อคำพูดของเย่ฟ่านแม้แต่น้อย!

ความวุ่นวายเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ต่อมา ผู้คนจำนวนมากในห้าภูมิภาคเชื่อว่ามีคนสร้างแท่นบูชาห้าสีที่จะนำไปสู่ด้านนอกของภูมิภาค

กลุ่มมหาอำนาจอันยิ่งใหญ่ซื้ออัญมณีห้าสีจากทั่วทุกมุมโลก และราคาก็สูงขึ้นเรื่อยๆ อุปทานเกินความต้องการ สร้างความปั่นป่วนไปทั่วโลกโดยไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป

ในหมู่บ้านเทียนจื่อฉีลั่วรู้สึกสงสัยและกล่าวว่า “เจ้าเป็นคนทำไม่ใช่หรือ”

“ทุกอย่างเป็นของจักรพรรดิดำ ไม่ใช่ข้าจริงๆ” เย่ฟ่านนั่งบนหน้าผาเพื่อทะลวงเข้าสู่อาณาจักรเซียนเทียมขั้นสาม

“ความหรูหราน่าละอาย เจ้าสิ้นเปลืองแบบนี้ได้อย่างไร” ฉีลั่วรู้สึกเป็นทุกข์และไม่เข้าใจ เขาอยากรู้จริงๆว่าเย่ฟ่านต้องการทำอะไรกันแน่

“ข้าต้องการทำการวิจัยที่ยอดเยี่ยมเพื่อดูว่าข้าสามารถฟื้นฟูแท่นบูชาห้าสีของจักรพรรดิโบราณและเปิดทางสู่โลกภายนอกได้หรือไม่” จักรพรรดิดำกล่าวอย่างกล้าหาญ

“แค่นั้น?” ฉีลั่วกล่าว

“เจ้าคิดว่าแท่นบูชาห้าสีมันมีไว้เพื่ออะไร?”

จักรพรรดิดำกำลังดื่มดำอยู่กับการทำความเข้าใจต่อค่ายกลของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ จนแทบจะหลงลืมทุกอย่างไปแล้ว

“เจ้าฟุ่มเฟือยเกินไป เจ้ารู้หรือไม่ว่าความฟุ่มเฟือยของเจ้าทำให้คนตายไปมากเท่าไหร่!” หัวใจของฉีลั่วเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

“ไม่เป็นไร เย่ฟ่านลงมือครั้งเดียวก็สามารถขุดเส้นเลือดมังกรขนาดใหญ่ออกมาได้หกเจ็ดเส้นแล้ว เขาลงมือไม่กี่ครั้งก็เพียงพอที่จะให้เราฟุ่มเฟือยไปชั่วชีวิต” หลี่เทียนโบกมือและกล่าวอย่างภาคภูมิใจ

“เจ้าต้องการทำอะไรกันแน่?” ฉีลั่วไม่เชื่อสิ่งที่พวกเขากล่าว

“มีคนต้องการฆ่าเราดังนั้นเราต้องฆ่ามันก่อน” หลี่เหอสุ่ยยกอาหารเช้าเข้ามาให้เด็กๆ แล้วเริ่มพูดคุยกับทุกคน

“ฆ่าใคร ฆ่าใคร?” เสี่ยวเช่อเอ๋อเขย่าขวดนมอยู่ในมือและกล่าวด้วยความกระตือรือร้น

ตงตงและทายาทหมอดูศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองก็กำลังเพลิดเพลินกับอาหารเช้าอย่างมีความสุข แน่นอนว่าพวกเขาต่างให้ความสนใจต่อเรื่องนี้เป็นอย่างมาก

“มีคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่รู้ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน เมื่อพวกเขารู้ว่าเย่ฟ่านกำลังจะจากไป พวกเขาอาจจะใช้วิธีต่างๆ เพื่อสร้างปัญหาและพยายามล่อเขาออกไปฆ่า” เอี๋ยนอี้ซีอธิบาย

“แล้วถ้าพวกเขาไม่มาล่ะ”

“มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ถ้าพวกเขาไม่มา เพราะไม่ว่าอย่างไรค่ายกลเคลื่อนย้ายทางไกลนี้ยังคงมีประโยชน์อยู่ดี” เย่ฟ่านกล่าว

“เจ้าหนู เจ้าฉลาดจริงๆ นี่เป็นการลงทุนที่ดี ข้าพอใจกับเจ้ามากขึ้นเรื่อยๆ” จักรพรรดิดำเปิดปากและยิ้มอย่างพึงพอใจ

ในโลกใบนี้จักรพรรดิดำถือได้ว่าเป็นปรมาจารย์ค่ายกลที่มีความรู้สูงสุด สติปัญญาของมันไม่เป็นรองเซียนผู้ยิ่งใหญ่ และในความเป็นจริงมันก็เคยทะลวงเข้าสู่อาณาจักรเซียนมาแล้วด้วย

จักรพรรดิดำมีความกระตือรือร้นอย่างยิ่งต่อแท่นบูชาห้าสี นั่นก็เพราะมันเชื่อว่าสิ่งนี้จะเป็นกุญแจในการทำให้มันทะลวงเข้าสู่อาณาจักรของความเป็นจักรพรรดิได้

เมื่อความปรารถนาของมันและเย่ฟ่านตรงกัน แผนการฟื้นฟูแท่นบูชาห้าสีจึงได้เริ่มต้นขึ้น

ความลึกลับของแท่นบูชาห้าสีดึงดูดความสนใจผู้คนมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้หลายคนเชื่อว่าจะมีการสร้างและเปิดมันในไม่ช้าและบางคนก็ต้องการที่จะเดินทางสู่โลกภายนอก

“เจ้ารู้หรือไม่ว่าแท้ที่จริงแล้วดาวดวงนี้ในยุคโบราณนั้นไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ ไม่ใช่เพียงแค่มนุษย์เท่านั้นที่อพยพเข้ามาที่นี่แต่ยังรวมถึงสิ่งมีชีวิตโบราณด้วย บางทีที่ทุกคนที่ต้องรวบรวมอัญมณีห้าสีก็อาจเพราะพวกเขาต้องการค้นหาต้นกำเนิดของตัวเอง”

ดาวโบราณดวงนี้ไม่ได้มีเผ่าพันธุ์มากมายนัก และแม้กระทั่งมนุษย์ก็ปรากฏตัวขึ้นในเวลาต่อมา สิ่งที่เรียกว่าเผ่าโบราณล้วนข้ามมาจากนอกภูมิภาคเช่นกัน

“ทุกคนถูกหลอกแล้ว เจ้ายังจำได้ไหมว่ามีเส้นทางโบราณที่ทอดยาวไปสู่ด้านนอกของสำนักฉีซื่อซึ่งจะเปิดในเร็วๆ นี้ บางทีอาจเป็นสำนักชีซื่อต่างหากที่ต้องการรวบรวมอัญมณีห้าสีเพื่อซ่อมแซมเส้นทางนั้นอีกครั้ง” ในระหว่างนี้มีการคาดเดาต่างๆนานา

“ไม่ว่าพวกเขาต้องการรวบรวมสิ่งนี้ไปเพื่ออะไร แต่สุดท้ายคนที่รู้ความลับเรื่องแท่นบูชาห้าสีมากที่สุดย่อมหนีไม่พ้นร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณ!”

เย่ฟ่านเป็นคนเดียวที่ประสบความสำเร็จในการเดินทางไปและกลับจากท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว ดังนั้นไม่ว่ามหาอำนาจใดจะสร้างแท่นบูชาห้าสีขึ้นมาใหม่ได้อีกครั้ง พวกเขาจะต้องค้นหาเย่ฟ่านอย่างแน่นอน

ในช่วงเวลานี้ มีเหตุการณ์สำคัญอื่นๆ เกิดขึ้นซึ่งเป็นเหตุการณ์ครั้งใหญ่ที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนมากมาย

บนท้องฟ้าของโลกอำพรางสวรรค์ มีดาวอสูรเก้าดวงปรากฏขึ้นพวกมันเรียงรายอยู่ในลักษณะจำเพาะเจาะจงและเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากขึ้นเรื่อยๆ!

ดาวอสูรที่ถูกบันทึกไว้ในคัมภีร์โบราณนั้น หมายถึงดวงดาวที่บอกล่วงหน้าถึงภัยพิบัติครั้งใหญ่

เพียงดาวดวงใดดวงหนึ่งปรากฏขึ้นก็น่าสะพรึงกลัวอย่างถึงที่สุดแล้ว ในขณะนี้พวกมันปรากฏขึ้นเก้าดวงพร้อมกันภัยพิบัติที่จะปรากฏในยุคนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเพียงพอที่จะทำลายโลกทั้งใบอย่างแน่นอน

ผู้คนทั่วโลกต่างพูดถึงเรื่องนี้ ดาวอสูรทั้งเก้าปรากฏขึ้นพร้อมกัน ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่หายากแม้กระทั่งในยุคโบราณก็แทบไม่มีปรากฏการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น

ในอดีตมีเพียงตอนที่จักรพรรดิชิงถือกำเนิดเท่านั้นดาวอสูรทั้งเก้าจึงได้เรียงตัวกันบนท้องฟ้า นั่นเป็นปรากฏการณ์ที่แสดงให้เห็นว่าเผ่าอสูรจะมีจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ถือกำเนิดขึ้น

มีคนเชื่อมโยงดาวอสูรทั้งเก้าที่แขวนอยู่เหนือท้องฟ้านั้นมีลักษณะคล้ายกับมงกุฎจักรพรรดิ ภาพเหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก หรือว่าจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์อสูรได้กลับมาเกิดอีกแล้ว?

เหตุการณ์นี้ทำให้ผู้คนจากเผ่าพันธุ์อสูรเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น แต่ในเผ่าพันธุ์อื่นกลับหวาดกลัวอย่างยิ่ง

ในเวลาต่อมาก็มีข่าวร้ายดังมาจากจงโจว องค์ชายห้าแห่งราชวงศ์จิ่วหลีซึ่งมีนามว่าเสิ่นหลีพิสูจน์เต๋าล้มเหลวไม่สามารถกลายเป็นเซียนได้สำเร็จ เขานั่งสมาธิมานานนับสิบปีท้ายที่สุดวิญญาณของเขาก็กลับคืนสู่เต๋าผู้ยิ่งใหญ่แล้ว

ในดินแดนรกร้างตะวันออก อดีตปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงมื่อสองพันเจ็ดร้อยปีก่อนประสบความล้มเหลวในการพิสูจน์เต๋าและเสียชีวิตในวัยสามพันแปดร้อยห้าสิบปี

ความตายของชายชราคนนี้ทำให้โลกเต็มไปด้วยความตกตะลึง นั่นก็เพราะอายุของเขาไม่ได้ถือว่ามากมายนักเมื่อเปรียบเทียบกับเซียนเทียมขั้นสามคนอื่นๆ

มิหนำซ้ำในตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่เขาถือได้ว่าเป็นหนึ่งในอัจฉริยะที่ทรงพลังมากที่สุดในโลกไม่แตกต่างอะไรจากบุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วง

แต่สุดท้ายเขายังคงล้มเหลวไม่อาจกลายเป็นเซียนได้ ความตายของเขาทำให้บุคคลรุ่นเดียวกันทั้งหมดเริ่มหวั่นไหวต่อการพิสูจน์เต๋าที่กำลังจะมาถึงตรงหน้า

ในวันเดียวกันนั้นปรมาจารย์ผู้เฒ่าแห่งวังอสูรสวรรค์ที่มีชีวิตอยู่มาสามพันหกร้อยปีก็กลับคืนสู่เต๋ากลายเป็นเพียงโครงกระดูกที่เหี่ยวเฉาอย่าเงียบๆ

สิ่งที่น่าเศร้าที่สุดคือหลังจากนั้นคือราชาอสูรสวรรค์คนปัจจุบัน เนื่องด้วยนิมิตรหมายที่เกิดขึ้นบนท้องฟ้า รวมทั้งความตายของปรมาจารย์ผู้เฒ่า มันทำให้เขาพยายามพิสูจน์เต๋ากลายเป็นเซียนให้สำเร็จ

แต่สุดท้ายเขาก็ต้องพบกับความล้มเหลวและกลับคืนสู่เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ไปอีกคน

……………

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด