ตอนที่ 1450 ชายหนุ่มคนนี้ ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ!

“หลังจากทางเราทราบเรื่องแล้ว ข้าพระองค์เองรู้สึกตกใจมาก และได้เรียกประชุมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคง ผู้บัญชาการตํารวจลอนดอน และเจ้าหน้าที่ในสังกัดกองทัพทันที โดยเรียกร้องให้พวกเขาทํางานร่วมกันเพื่อค้นหาความจริง แต่เนื่องจากเรื่องนี้ดูซับซ้อนเกินไป ประกอบกับกัปตันปฏิบัติหน้าที่ล่าช้า ทําให้ผู้โดยสารทุกคนลงจากเครื่อง แยกย้ายกระจัดกระจายออกไป ซึ่งเพิ่มความยากลําบากในการสืบสวน สอบสวน ตอนนี้จึงยังไม่มีข้อสรุป”

จอห์น พาร์กินสัน ได้กล่าวทูลออกไป

ราชินี ตรัสว่า : “ช่วยบอกถึงสถานการณ์ปัจจุบันที่คุณมีอยู่ตอนนี้จนถึงขณะนี้มาให้เราฟังหน่อย”

จอห์น พาร์กินสัน กล่าวทูลว่า : “วันนั้น บนเครื่องบินลำหนึ่งจากเกาะฮ่องกงของประเทศจีนมายังเมืองลอนดอน ได้ปรากฏกลุ่มคนร้ายเข้าจี้เที่ยวบินขึ้น ในท้ายที่สุดพวกคนร้ายก็ได้เสียชีวิต เที่ยวบินลำนี้ได้ลงจอดอย่างปลอดภัย ตามคําบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์ และภาพจากกล้องวงจรปิดบนเครื่องบิน เรามีเหตุผลที่จะเชื่อว่า มีคนต้องการก่อเหตุฆาตกรรมบุคคล โดยการคิดก่ออุบัติเหตุทางอากาศขึ้นมา ทั้งนี้สิ่งที่เราคิดคือ บุคคลที่ต้องการก่อเหตุ และกระทำให้เกิดเหตุนั้น เพื่อต้องการปิดปากบุคคลทั้งหมดบนเครื่องบิน”

ราชินี : “......”

ดูเหมือนว่า หลินฟาน จะไม่ได้โกหกเธอ, สิ่งที่ หลินฟาน พูดมาในก่อนหน้านี้ กับสิ่งที่เธอได้ยินจากปาก นายกรัฐมนตรี ด้วยตัวเองนั้น สอดคล้องกัน

มันเป็นความจริง และมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริงๆ!

มีคนพยายามก่ออุบัติเหตุทางเครื่องบิน เพื่อฆ่า ‘บุคคลเป้าหมาย’ ภัยพิบัติครั้งนี้ได้ถูก หลินฟาน แก้ไขมาได้ ..ในที่สุด

ราชินี หันไปตรัสถามกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม คาร์ล ว่า : “คาร์ล เราอยากถามคุณว่า การตรวจสอบคดีของตระกูลสมิธ เป็นอย่างไรบ้างแล้ว?”

เมื่อได้ยิน คาร์ล ถึงกับตกตะลึงทันที ที่ว่าทำไม จู่ๆ ราชินี ..ถึงสนใจคดีของตระกูลสมิธ?

“ฝ่าบาท บรูคลิน สมิธ ถูกตํารวจสากลจับกุม และส่งฟ้องในข้อหาทำกิจกรรมที่ผิดกฎหมายหลายอย่าง และจะเปิดการพิจารณาคดีในวันพรุ่งนี้ ฝ่าบาท ทรงมั่นใจได้ว่าเราจะพิจารณาคดีอย่างจริงจัง และให้คําตัดสินอย่างยุติธรรม” คาร์ล กล่าวทูลออกไป

ราชินี ตรัสว่า : “ตระกูลสมิธ สําหรับคดีนี้จะดำเนินการอย่างไร?”

คาร์ล กล่าวทูลว่า : “นี่... เราเป็นผู้นำอังกฤษ เป็นประเทศที่ปกครองด้วยกฎหมาย แม้ว่า ตระกูลสมิธ จะเป็นขุนนางชนชั้นสูง แต่ก็ไร้มนุษยธรรมที่จะให้พูดถึง ในสายตาของ ข้าพระองค์ แล้ว มีเพียงกฎหมายเท่านั้น”

คาร์ล กล่าวทูลด้วยสีหน้าจริงจัง

ราชินี ตรัสว่า : “โอเค เอาล่ะ ตราบใดที่คุณพูดแบบนี้ และเราหวังว่าเราจะได้รับฟังคำพิจารณาคดีอย่างยุติธรรมจากคุณ เรารู้ว่าตระกูลสมิธมีความร่วมมือทางธุรกิจกับสมาชิกภายในราชวงศ์ แต่เราหวังว่าเรื่องนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อความเป็นธรรมในคดีนี้ และคําพูดของเรา เราเองแค่อยากแจ้งให้คุณทราบเพียงเท่านั้น”

คาร์ล รีบทูลว่า : “ข้าพระองค์ทราบแล้ว ฝ่าบาท..”

ราชินี ตรัสว่า : “คงไม่มีอะไรแล้ว เวลานี้ก็ดึกมากแล้ว พวกคุณกลับไปพักผ่อนเถอะ และก็ขอบคุณมาก”

จอห์น พาร์กินสัน กล่าวว่า : “ฝ่าบาท ข้าพระองค์ได้ยินมาว่ามีแพทย์จีนท่านหนึ่ง ได้มาช่วยรักษาอาการประชวรของ ฝ่าบาท ข้าพระองค์เองก็ไม่ทราบว่าท่านนี้เป็นใคร ถ้าสามารถพบได้ ข้าพระองค์เองก็อยากที่จะขอบคุณท่านท่านนี้เป็นการส่วนตัว…”

ราชินี ตรัสกับ แคทเธอรีน ที่อยู่ข้างๆ ไปว่า : “คุณแคทเธอรีน ช่วยฉันไปเชิญ คุณหลิน ให้เข้ามาทีเถอะ”

ครั้งทราบว่า นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มาถึง ราชินี จึงได้ออกไปพบกับพวกเขาอีกที่หนึ่ง ดังนั้น หลินฟาน จึงไม่ได้อยู่ที่นั่นในเวลานี้

“คะ มาดาม”

แคทเธอรีน จึงเดินออกไป และไม่นานนักเธอก็ได้นำพา หลินฟาน เข้ามาอย่างรวดเร็ว

เมื่อเห็นว่า หลินฟาน เป็นเพียงชายหนุ่มในวัยยี่สิบต้นๆ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ต่างก็มีสีหน้าประหลาดใจมาก ชายหนุ่มชาวจีนคนนี้ เขาช่วยราชินีไว้จริงๆ เหรอ นี่มัน.. น่าเหลือเชื่อจริงๆ

“เราขอแนะนําก่อน เขาคือ นายกรัฐมนตรี จอห์น ส่วนเขาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม คาร์ล คุณทั้งสองคน เขาคนนี้ก็คือ คุณหลิน แพทย์ชาวจีนที่ช่วยชีวิตเราไว้” ราชินี ได้ทรงแนะนําให้กับทั้งสองฝ่าย

“สวัสดี คุณหลิน ผมในนามของตัวแทนชาวอังกฤษ ขอขอบคุณคุณที่ทรงช่วยรักษา พระราชินี กล่าวคือคุณเป็นเพื่อนที่ดี และเป็นผู้มีพระคุณของประเทศอังกฤษเรา” จอห์น พาร์กินสัน กล่าวพร้อมเข้าจับมือกับ หลินฟาน อย่างกระตือรือร้น

หลินฟาน ยิ้มแล้วพูดว่า : “ไม่ต้องเกรงใจไปครับ และนี่ก็เป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น”

จอห์น พาร์กินสัน แอบรู้สึกประหลาดใจ หลินฟาน เพิ่งอายุยี่สิบปีต้นๆ อาจกล่าวได้ว่าเขาอายุยังเด็กอยู่ แต่อย่างไร ..เขา เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสามผู้มีอำนาจมากที่สุดในประเทศอังกฤษ เขากลับไม่ได้ดูเหมือนเป็นกังวล กลับกันอารมณ์ของเขานั้นกลับดูสงบมาก และอารมณ์เช่นนี้เขาเองก็ไม่เคยพบเห็นในหมู่คนหนุ่มสาว ..คนอื่นๆ

และคุณหลิน ..คนนี้ ต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน

ยิ่งไปกว่านั้น คุณหลิน คนนี้ยังช่วย ราชินี ไว้อีก เช่นนั้นทักษะทางการแพทย์ของเขาดูเหมือนจะดีกว่า ดร.วัตสัน ซึ่งนั่นยิ่งสร้างความประหลาดใจให้แก่เขามากขึ้น เพราะท้ายที่สุดแล้ว ..เขา ก็ยังเด็กอยู่มาก

หลังจากพบกับ หลินฟาน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็กล่าวทูลลา และจากไป

สําหรับราชินีที่เรียกพวกเขาให้เข้ามาพบอย่างกะทันหัน และสอบถามกับพวกเขาทั้งสองเกี่ยวกับคดี ซึ่งเรื่องนี้ทําให้พวกเขารู้สึกงงงวย และสับสนอยู่เล็กน้อย

และเหตุการณ์เครื่องบินนั่น กับคดีของนายน้อยตระกูลสมิธ ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน ใช่ไหม?

การเคลื่อนไหวของ ราชินี ค่อนข้างจะเข้าใจยากจริงๆ

หลังจากที่ทั้งคู่จากไปแล้ว

ราชินี ได้ตรัสกับ หลินฟาน ว่า : “คุณหลิน ดูเหมือนว่าสิ่งที่คุณพูดนั้นจะเป็นความจริง แต่ตามสถานการณ์ที่ จอห์น บอกกับฉันมา พวกเขายังไม่พบว่าเกี่ยวข้องกับ สมิธ คุณมีหลักฐานที่ว่า โทนี่ สมิธ เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้หรือไม่?”

หลินฟาน กล่าวทูลว่า : “ผมจะมอบหลักฐานทั้งหมดให้กับ ฝ่าบาท”

ราชินีพยักหน้า และตรัสขอโทษไปว่า : “คุณหลิน ฉันคิดว่าฉันต้องขอโทษคุณ ฉันเคยสงสัยคุณมาก่อน แต่แล้วคุณก็เป็นผู้ช่วยชีวิตของฉันจริงๆ คุณช่วยฉันไว้ ฉันเองคงต้องแสดงความขอบคุณต่อคุณ คืนนี้ฉันจะจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำ และฉันคงต้องขอเชิญ คุณหลิน ให้เข้ามาร่วมอย่างเป็นทางการ และอีกอย่าง คงต้องขอให้ คุณหลิน ช่วยให้หน้าด้วย”

หลินฟาน ยิ้มแล้วกล่าวทูลว่า : “ฝ่าบาท ทรงเกรงใจเกินไปแล้ว จริงๆ แล้ว ตราบใดที่ ฝ่าบาท สามารถจัดการเรื่องของตระกูลสมิธได้ นั่นถือได้ว่าเป็นคำขอบคุณที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับผมแล้วครับ”

ราชินี ตรัสด้วยสีหน้าเคร่งขรึมไปว่า : “แม้ว่า คุณหลิน จะไม่ช่วยฉัน ..แต่เรื่องนี้ฉันเองคงต้องจัดการอย่างยุติธรรม และการเชิญ คุณหลิน เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำนั้น นี่ถือเป็นการขอบคุณคุณเป็นการส่วนตัวของฉันเอง”

หลินฟาน กล่าวทูลด้วยรอยยิ้มไปว่า : “ฝ่าบาท ขอบคุณสำหรับคำเชิญนี้ และผมคงต้องทำไปตามพระราชประสงค์ของ ฝ่าบาท”

ราชินี ทรงพระสรวลขึ้นมาอย่างขบขัน และตรัสไปว่า : “นี่ดีแล้ว ฉันจะให้ แคทเธอรีน ติดต่อกับคุณ แคทเธอรีน เป็นผู้ช่วยของฉัน หากถ้าคุณต้องการพบฉันก็สามารถติดต่อหาเธอได้เลย”

หลินฟาน พยักหน้ารับ : “ผมทราบแล้วครับ ฝ่าบาท อย่างไรก็ตาม พระวรกายของ ฝ่าบาท นั้น ผมได้ใช้เทคนิคทางการแพทย์ช่วยปรับสภาพเบื้องต้นให้แล้ว อีกทั้งผมยังต้องสั่งจ่ายยาให้กับ ฝ่าบาท และขอ ฝ่าบาท ทรงทานยาให้ตรงเวลา ทั้งหมดนี้เพื่อที่จะให้ ฝ่าบาท มีอายุยืนยาวต่อไป”

เมื่อ ราชินี ได้ฟังก็ตกตะลึงทันที เรื่องของการจ่ายยา หลินฟาน ไม่เคยพูดถึงมาก่อน และเขาจึงพูดออกมาหลังจากที่เธอสัญญาว่าจะช่วยจัดการคดีของ ตระกูลสมิธ

และนั่นทำให้เธออดคิดไม่ได้ว่า ถ้าเธอไม่สัญญาว่าจะช่วยจัดการเรื่องของตระกูลสมิธ หลินฟาน คงจะไม่ให้ใบสั่งยาแก่เธอ ..ใช่ไหม?

ดูไปแล้ว ชายหนุ่มคนนี้ ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ!

หลังจาก จอห์น พาร์กินสัน ออกจากคฤหาสน์หรูหราของราชินี ในแถบชานเมือง เขาก็กำลังคิดถึงเรื่องคดีบนเครื่องบินอยู่ในใจ ราชินี ขอให้เขาเดินทางไปเข้าพบ เพื่อสอบถามถึงคดีนี้ และแน่นอนเขาต้องรีบคลี่คลายคดีนี้ให้เร็วที่สุด

ดังนั้น จอห์น พาร์กินสัน จึงโทรออกไปหารัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงที่รับผิดชอบในการสืบสวนคดีอุบัติเหตุทางอากาศที่แปลกประหลาดนี้ และขอให้อีกฝ่ายเตรียมไฟล์ของคดีนี้ให้แก่เขา และเขาจะติดตามผลด้วยตนเอง

เมื่อ จอห์น พาร์กินสัน เดินทางกลับมาถึงทำเนียบนายกรัฐมนตรี

เอกสารที่เขากล่าวถึงไปกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคง ก็ส่งมาถึง

แม้ว่าเวลานี้จะเป็นเวลาตีสี่แล้ว แต่ จอห์น พาร์กินสัน ก็ไม่กล้านอน เขาจึงนั่งอยู่หลังโต๊ะทํางาน และเริ่มเปิดอ่านไฟล์ที่ได้รับมา

ทันใดนั้น จอห์น พาร์กินสัน ก็ตกใจกับภาพที่อยู่ตรงหน้า และจ้องมองไปที่ภาพนั้น

ในภาพปรากฏ ชายหนุ่มชาวจีนคนหนึ่ง

และนี่ไม่ใช่ว่าเป็น คุณหลิน คนที่เขาเพิ่งพบในคฤหาสน์ในแถบชานเมืองของราชินีหรืออย่างไร?

และในไฟล์แฟ้มคดี ส่วนที่เกี่ยวข้องกับ หลินฟาน เขียนไว้ว่า

หลินฟาน

อายุ 21 ปี

เป็นชาวจีน

ยังไม่ทราบจุดประสงค์ของการมาที่ประเทศอังกฤษ

ในเหตุการณ์นี้ เขา และเฉินหลง ตํารวจสากล ได้เข้าปราบพวกคนร้าย และช่วยเครื่องบินไว้ได้ด้วยกัน จากนั้นก็หายตัวไป และไม่ทราบถึงที่อยู่ของเขา..