ตอนที่แล้วCh45: แปลก 1
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปCh47: แปลก 3

Ch46: แปลก 2


เมื่อยืนอยู่ในสนาม หลี่เฉิงอี้ถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก เอาจริงๆ เขาอยากลองใช้ความสามารถด้านภาษาดอกไม้แบบใหม่ทันที แต่เขาคิดว่าหากร่างกายของเขาเปลี่ยนแปลงมากเกินไปมันอาจทำให้คนรอบๆ ตัวเขาสังเกตเห็นและเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา ฉะนั้นเขาจึงยังคงต้องระงับความคิดในการพยายามใช้มัน

'ถ้าอย่างนั้น ยังไงก็ดีกว่าที่อยู่ที่นี่'

เขามองไปรอบๆ และเห็นพวงกลาดิโอลาหลากสีและพันธุ์ต่างๆ รอบตัวเขา

ทันใดนั้น เขาก็ยื่นมือออกอย่างรวดเร็วและเริ่มดูดซับระดับวิวัฒนาการของวิวัฒนาการครั้งแรก

วิวัฒนาการครั้งแรกต้องดูดซับพลังงานดอกไม้กลายพันธุ์ ซึ่งเขาตรวจสอบเมื่อเขาอยู่ที่ดอกวิสทีเรีย

ขณะยืนอยู่ในทุ่งดอกไม้ เขาแตะไปทางซ้ายและขวา และในไม่ช้าก็สัมผัสทุ่งดอกกลาดิโอลีทั้งหมด

ระดับวิวัฒนาการก็สูงถึง 43% เช่นกัน

เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรเหลือให้แตะแล้ว ในที่สุดหลี่เฉิงอี้ก็หยุดด้วยความพึงพอใจ

"เฮ้ยๆ เข้ามาในสนามได้ยังไง ออกมาเดี๋ยวนี้ ห้ามเข้าไปในนั้นนะ!" เจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่ผ่านไปมาเห็นจึงชี้นิ้วมาที่นี่แล้วตะโกนเสียงดัง

"ผมขอถ่ายรูปก่อนได้มั้ยฮะ ดอกไม้พวกนี้สวยมาก" หลี่เฉิงอี้ตอบอย่างรวดเร็วเสียงดัง

"ก็ถ่ายข้างนอกสิ แต่ห้ามเข้าไปข้างใน ถ้าใครก้าวเข้าไปเหยียบ ดอกไม้ก็ไม่บานนะ" ชายคนนั้นอายุประมาณสี่สิบปี ศีรษะล้าน มีเสียงดัง

หลี่เฉิงอี้รีบออกจากทุ่งดอกไม้ อย่างไรก็ตาม เขาได้รวบรวมคะแนนวิวัฒนาการมาเพียงพอแล้ว เขาได้สัมผัสแกลดิโอลีทั้งหมดที่นี่แล้ว และไม่มีอะไรให้พลาด เขาเดินไปตามทางเดินนักท่องเที่ยว ขอโทษชายหัวล้าน และมองดูชายอีกคนหนึ่งทำเสียงฮึดฮัดและเดินจากไป ดวงตาของเขาตกลงไปที่ทุ่งทานตะวันตรงข้ามกับพืชไม้ดอกโดยไม่ตั้งใจ

'ดอกทานตะวันเหรอ?' เขายังไม่เคยสัมผัสมันเลยนี้นะ

ก่อนหน้านี้ดอกทานตะวันไม่เคยบานมาก่อน แต่ตอนนี้กำลังบานแล้ว

หลี่เฉิงอี้มองไปทางซ้ายและขวาพบว่าไม่มีใครสนใจเขา แถมยังมีแม่ลูกคู่หนึ่งอยู่ที่ขอบทุ่งทานตะวัน พวกเขาสัมผัสดอกทานตะวันและอธิบายบางสิ่งด้วยเสียงเบาๆ ซึ่งก็คือ แค่อย่าเรียกร้องความสนใจเกินไป เขาไอสองครั้ง หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา และค่อยๆ เข้าใกล้ทุ่งทานตะวันราวกับว่าเขากำลังจะถ่ายรูป

ใบทานตะวันกว้าง ดอกกลมใหญ่ เกสรตัวผู้ตรงกลางมีสีดำเล็กน้อยมีลักษณะคล้ายเปลือกทุเรียนรุ่นจิ๋ว

เขาเข้ามาใกล้ จมูกของเขาอยู่ใกล้มาก และเขาได้กลิ่นหอมจาง ๆ ของดอกไม้

เอื้อมมือออกไปสัมผัส

ลมหายใจเย็นๆ ไหลเข้าสู่นิ้วมือทันที และผสานเข้ากับหลังมือของ Flower of Evil

ดอกทานตะวัน: หรือที่รู้จักกันในชื่อจางจู ดอกทานตะวันต้องการแสงแดดและความชื้นเพียงพอ สกุล Helianthus ในวงศ์ Asteraceae สมุนไพรประจำปี เมล็ดกินได้ คั้นน้ำมันได้ ระยะออกดอกเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ดอกจานมีฤทธิ์ขับความร้อน แก้เสมหะ ทำให้เลือดเย็น และห้ามเลือด อีกทั้งยังมีฤทธิ์รักษาอาการปวดศีรษะและวิงเวียนศีรษะได้อีกด้วย กลีบดอกสามารถบดแล้วทาภายนอกเพื่อรักษาโรคเต้านมอักเสบ แผลพุพอง ฝี เป็นต้น

ภาษาดอกไม้: มงกุฏแห่งความรุ่งโรจน์ (หลังจากใช้ภาษาดอกไม้ คุณจะได้รับมงกุฏที่สามารถปล่อยแสงแดดอันเจิดจ้า มงกุฏจะปล่อยแสงอย่างต่อเนื่อง ความเปล่งประกายที่ปล่อยออกมานั้นมีผลในการรักษาโรคบางอย่าง และยังสามารถขจัดความหนาวเย็นและ มืดมนไปบ้างมีคุณลักษณะ----

"เห...."

หลี่เฉิงอี้รู้สึกทึ่ง ภาษาดอกไม้นี้ทรงพลังมาก ไม่มีการจำกัดเวลาตั้งแต่แรกแถมฟังก์ชั่นของมันอยู่ในหมวดหมู่เหนือธรรมชาติไปซะแล้ว เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงชายหนุ่มลึกลับในชุดขาวในลานจอดรถกรีอุส

แน่นอนว่าเด็กชายชุดขาวคือดอนดี จากีเออร์ แต่ทำไมเขาถึงยังอยู่ในฟอร์มเยาวชนและทำไมเขาถึงยังอยู่ในกรีอุส ดูเหมือนจะมีคำถามมูลค่าล้านแปดในหัวเขาซะแล้ว

'บางที... จากีเออร์จะสู่ขิตในมุมอับนั้นเมื่อนานมาแล้วหว่า? และเหลือเพียงร่างกายของเขาที่ยังมีชีวิตอยู่ ที่เราเห็นในมุมอับนั่นผีของจากีเออร์เรอะ?'

หลี่เฉิงอี้ได้แต่คาดเดาในใจของเขา ถ้าก่อนหน้านี้เขามีข้อสงสัยว่ามีผีอยู่ในโลกนี้หรือไม่ แต่ตอนนี้ภาษาดอกไม้ของดอกทานตะวันให้คำตอบที่ชัดเจนแก่เขาอย่างชัดเจน

คำตอบคือ "อาจจะใช่!"

'น่าเสียดายที่มันยังใช้งานไม่ได้เหมือนกลาดิโอลัส ครั้งต่อไปฉันจะเลือกแกในครั้งต่อไปอย่างแน่นอน' หลี่เฉิงอี้แตะดอกทานตะวันที่อยู่ตรงหน้าเขาอย่างไม่เต็มใจ แล้วหันหลังกลับและจากไป

เขาวางแผนที่จะมองหาพืชไม้ดอกชนิดอื่น

[เสียงเรียกเข้า]

ทันใดนั้น เขาคิดว่าคงเป็นโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น เพื่อแยกแยะเสียงกริ่งโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเขาเองจากคนอื่นๆ ได้ดีขึ้น เขาเพียงแค่ปรับเสียงเรียกเข้ากลับไปเป็นเสียงเรียกเข้าแบบเก่าขั้นพื้นฐาน

ไม่มีดนตรี มีเพียงโทนเสียงเดียว

หลี่เฉิงอี้มองดูโทรศัพท์อย่างใกล้ชิด นิ่วหน้านิดหน่อย

นี่คือหมายเลขโทรศัพท์ของเจ้านายของเขา--ซินดรา เขากดรับสายและแนบโทรศัพท์กับหู "ฮะ?"

"เสี่ยวอี้ เมื่อไม่นานมานี้เมิ่งตงตงที่เคยเข้าไปในมุมอับกับเธอ พ่อของแม่สาวนั่นต้องการให้ใครสักคนมารับเธอไป ฉันเลยขอให้ติงหนิงช่วยคุณแก้ปัญหาให้ ติงหนิงได้คุยเรื่องนี้กับเธอบ้างรึเปล่า?" ซินดราพูดเกี่ยวกับสาวเจ้าขึ้นมาทันทีแล้วทำให้มันเหมือนจะมีอะไรบางอย่างในนั้น

"เอ่อ หัวหน้าฮะ มันมีอะไรเกิดขึ้นรึเปล่าฮะ? บอกผมเหอะ" หลี่เฉิงอี้ไม่เข้าใจคำใบ้ที่ชัดเจนเช่นนี้

"ดีมาก เซียวอี้ เธอเป็นคนที่มีความศรัทธาและเสน่หาจริงๆ" ซินดราเหมือนจะพูดไปยิ้มไปแฮะ "ฉันต้องการความช่วยเหลือที่นี่ เธอไม่ต้องการเครื่องดนตรีบินได้ระดับพื้นฐานเหรอ? มาช่วยฉันตรวจสอบเร็ว หลังจากนั้นฉันจะให้แบบโมเดลสำระดับแรกกับเธอ ตกลงล่วงหน้าก่อนนะว่านี่จะเป็นเพียงแค่รุ่นพลเรือนเท่านั้น"

"จริงเหรอฮะ!?" ทันใดนั้นเสียงของหลี่เฉิงอี้ก็ดังขึ้น นี่ไม่ใช่เงินเล็กๆ น้อยๆ ราคาของเฟยยี่ตกหลังล้าน หากเขาต้องเก็บเงินซื่อเองบอกได้เลยว่าต้องใช้เวลาหลายปีบวกอีกหลายเดือนในการซื้อมัน

ดังนั้นเขาจึงรอให้เจ้านายพูด หลังจากที่ซินดรารู้ว่าเขาสนใจเฟยยี่ เขาก็ไม่ได้คัดค้านแถมยังเชิญติงหนิงมาเป็นพิเศษ จริงๆ แล้ว เจตนาของเขาก็ชัดเจนอยู่แล้ว

"แน่นอน" ซินดราเสียงมีความสุข "ความจริงที่ว่าเธอสามารถหลบหนีจากเหตุการณ์ครั้งล่าสุดได้สำเร็จ ฉันวามันได้ตรวจสอบคุณสมบัติที่ครอบคลุมของเธอในทุกๆ ด้าน คราวนี้ หากเธอสามารถพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งจากโลกภายนอก ฉันว่าบริษัทก็พร้อมที่จะลงทุนกับมันเพื่อสนับสนุนเธอโดยตัวมันเองอยู่แล้ว"

"เข้าใจแล้วฮะ ขอบคุณฮะหัวหน้า!” หลี่เฉิงอี้รู้สึกตื่นเต้น แม้ว่าเฟยยี่จะมีปัญหาไม่ทางใดก็ทางหนึ่งก็ตาม แต่จากที่ติงหนิงกล่าวถึงพวกมันตอนที่เขาดื่มด้วยกันว่า Omnic ที่มีพลังมหาศาลสามารถสั่งให้มันบินข้ามระยะทางหลายพันกิโลเมตรและตัดหัวผู้คนด้วยการระบุตำแหน่งผ่านดาวเทียมแถมยังผ่าอย่าแม่นยำด้วย

แน่นอนว่าเป็นเพราะความร้ายกาจอย่างเหลือเชื่อของเครื่องมือบินจิ๋วพวกนี้ ประเทศต่างๆ จึงควบคุมสิ่งเหล่านี้อย่างเข้มงวดมาก ในโลกนี้ มีเพียงสองประเทศเท่านั้นที่สามารถสร้างเครื่องมือการบินได้ด้วยตัวเอง หนึ่งคือประเทศยี่ และอีกประเทศหนึ่งคือไป๋ซิง

ประเทศเล็กๆ อื่นๆ สามารถผลิตได้เพียงบางส่วนเท่านั้น และเป็นเพียงชิ้นส่วนโมเดลพื้นฐานมาตรฐานเท่านั้น

ไป๋ปู ยี่กั๋ว และไปซิงตางก็มีโมเดลพิเศษของตัวเองเช่นกัน

"มาที่บริษัท ฉันจะให้เธอไปพบกับผู้รับมอบอำนาจของบริษัทอื่น" ซินดราพูดเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะวางสาย

หลี่เฉิงอี้รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยและเดินอย่างรวดเร็วออกไปนอกสวนพฤกษศาสตร์

สำหรับคนอื่น เฟยยี่อาจเป็นเหมือนปืนใหญ่แก้วที่มีการโจมตีที่รุนแรง การป้องกันที่อ่อนแอ และมีค่าใช้จ่ายสูง

แต่ถ้าเป็นเขา เขาสามารถใช้เสื้อเกราะเกล็ดดอกไม้เพื่อหลอมรวมสนามพลังภายนอก และจุดแข็งทั้งสองนั้นจะถูกซ้อนทับ และเขาอาจจะสามารถตามทันการเปลี่ยนแปลงร่างกายทั้งหมดของมนุษย์ได้

เมื่อถึงเวลา เมื่อเขาเผชิญหน้ากับศัตรู คนอื่นๆ ได้ทำงานอย่างหนักเพื่อฝ่าการโจมตีของเฟยยี่และรีบเข้ามาใกล้เขา เมื่อเจ้าพวกนั้นคิดว่าพวกมันจะชนะแน่ๆ ทันใดนั้นมีคนในชุดสูทเกราะดอกไม้ก็เข้ามาอยู่เหนือพวกเขา เมื่อเผชิญกับการป้องกันที่ทรงพลังพอๆ กับมนุษย์ที่ดัดแปลงร่างกายอย่างเต็มที่

'ฉันเกรงว่าใครก็ตามที่เจอคงจะรู้สึกเหมือนตกจากสวรรค์ลงสู่นรกในทันทีด้วยความรู้สึกสิ้นหวัง'

และเขาสามารถใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาที่จิตใจของคู่ต่อสู้สูญเสีย โต้กลับอย่างกะทันหัน และเอาชนะคู่ต่อสู้ได้อย่างง่ายดาย

หลังจากออกจากสวนพฤกษศาสตร์ ให้นั่งแท็กซี่แล้วตรงไปที่อาคารนิวเซนจูรี่

ในรถแท็กซี่ คนขับเป็นคนขับหญิงสาวที่เปิดสถานีวิทยุบันเทิงตลอดทาง

เธอจะฮัมเพลงไปพร้อมกับเสียงเพลงเป็นครั้งคราว

"คุณครับ ช่วยเปลี่ยนช่องข่าวหรืออะไรสักอย่างได้ไหมฮะ" ไม่ใช่อะไรหรอก หลี่เฉิงอี้ทนฟังเสียงฮัมเพลงของนางอยู่พักหนึ่งแล้วแต่มันไม่ไหวจริงๆ เพราะมันผิดคีย์ร้ายกาจจนเพลงดีๆ เสียหมด

"ได้เลยค่ะ" คนขับผู้หญิงพูดและจัดการอย่างรวดเร็ว

ข้อความหนึ่งถูกถ่ายทอดอย่างรวดเร็วในรูปแบบประโยคเดียว และสถานีวิทยุก็เงียบลงมาก

"รายงานครึ่งปีแรกของ Jinshide Group ได้รับการประกาศ: รายรับรวมอยู่ที่ 457.7 พันล้าน เพิ่มขึ้น 1.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี และกำไรสุทธิอยู่ที่ 33.9 พันล้าน---"

"ฟลายจัดคอนเสิร์ตบนเวทีท้องฟ้าออลสตาร์ เชิญดารา 133 คน และ 131 คนในนั้นมาปรากฏตัวจริงๆ โดยมีท้องฟ้าเป็นเวที คุณจึงสามารถเพลิดเพลินกับเสียงเพลงอันบริสุทธิ์ได้ทั่วทั้งเมือง---"

"นักแสดงสาวของ White Star เอลฟ่า เดลล่า ประกาศการแต่งงานของเธอเมื่อคืนวานนี้---"

"อู่ฟู่รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของรัฐยี่ ได้รับเชิญให้เยี่ยมชมอัลเนเซียและได้พูดคุยอย่างจริงใจกับประธานาธิบดีกัว เมน แห่งอัลเนเซีย---"

"บริษัทจดทะเบียน 115 แห่งทั่วโลกร่วมกันประกาศการจัดตั้ง New Circumterranean Trade Alliance และประกาศว่าสมาคมจะลงทุนหรือซื้อเรือนจำอวกาศสำหรับงานหนัก 71 แห่งในพื้นที่วงโคจรต่ำ Earth-Moon ภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม มีรายงานว่าแผนธุรกิจนี้ได้รับการอนุมัติจากศาลระหว่างประเทศแล้ว---"

ในรายงานข่าวทั้งหมด มีอันหนึ่งดึงหลี่เฉิงอี้ออกจากการจมอยู่ในความมืดมนอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาได้ยินเกี่ยวกับเรือนจำในอวกาศวงโคจรต่ำ ความรู้ก่อนหน้าของเขาเกี่ยวกับส่วนนี้ก็เข้ามาในความคิด

"คุกอวกาศ มันหมายถึงประตูคุกหรือเปล่า" เขาถามอย่างสบายๆ

"ประตูคุกเป็นเพียงประตูที่มีชื่อเสียงที่สุด จริ ๆ แล้วยังมีเรือนจำอวกาศอีกหลายแห่งว่ากันว่ามีเรือนจำมากกว่า 100 แห่งซึ่งอยู่ภายใต้เขตอำนาจของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ" คนขับแท็กซี่หญิงอธิบายให้ฟังอย่างชัดเจน เธอดูจะฟะวข่าวสารทุกวันและรอบรู้เป็นอย่างดี

"จริงๆ แล้ว ศาลระหว่างประเทศตัดสินร่วมกันระหว่างเรากับไป๋ซิงไม่ใช่เหรอ?" หลี่เฉิงอี้ยิ้ม

"นั่นคือสิ่งที่ฉันพูดค่ะ แค่ให้ฟังดูแล้วสบายใจกว่ามาก ไม่ว่าประเทศอื่นๆ จะเล็กแค่ไหน พวกเขาก็ยังต้องรวมกันเป็นหนึ่ง" โซเฟอร์สาวพูดด้วยรอยยิ้ม

"ผมได้ยินมาว่าคุณสามารถขึ้นไปชมเรือนจำประตูคุกเพื่อเที่ยวชมได้ แต่ผมไม่รู้ว่าเมื่อไรจะได้ขึ้นไปดูที่นั่น" หลี่เฉิงอี้ถอนหายใจ

"ยังมีช่วงเปิดอยู่ แต่ก็ยังต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก" โซเฟอร์ตอบ "อย่าคิดแม้แต่จะคิดสำหรับคนธรรมดาๆ อย่างเรา เที่ยวเดียวใช้เงินเป็นแสน และเงินออมตลอดชีวิตของเราก็แค่เพียงพอสำหรับสองเที่ยว"

รถค่อยๆ ชะลอความเร็วลงและหยุดลง

"ถึงแล้วค่ะ" เธอรีบดึงใบค่าโดยสารที่พิมพ์อัตโนมัติออกมาแล้วส่งให้หลี่เฉิงอี้

หลังจากจ่ายเงินแล้ว หลี่เฉิงอี้เปิดประตูและลงจากรถ เขาเห็นด้านนอกห้างสรรพสินค้าว่ามีผู้หญิงคิ้วดินสอในชุดกระโปรงมืออาชีพกำลังรออยู่ที่ริมถนนแล้ว คราวนี้เธอเปลี่ยนเป็นกระโปรงสีเทา กระโปรงยาวถึงเข่า ผ้าไหมบางสีดำ ซึ่งโอบรอบขาโค้งมน

"ไปกันเถอะหัวหน้า พวกเขารอคุณมาสักพักแล้ว" เธอกระซิบ

"มีใครอีกบ้างฮะนอกจากเจ้านาย?" หลี่เฉิงอี้ถามอย่างสบายๆ ขณะที่เขาเดินตามเธอเข้าไปในอาคารจากประตูด้านข้าง

"คุณซือหม่ากุยก็อยู่ที่นี่ด้วย" ดินสอเขียนคิ้วตอบ

ซือหม่ากุย...

หลี่เฉิงอี้รู้สึกสงสัย เขาเคยได้ยินชื่อนี้มากกว่าหนึ่งครั้งในบริษัท นี่คือผู้ลงนามที่ประสบกับมุมอับถึงสามมุมตั้งแต่เจ้านายของเขา ซินดรามาที่ยี่กั๋ว เมื่อเทียบกับเขา ผู้มาใหม่ที่เคยสัมผัสมันเพียงครั้งเดียว คนนี้ถือว่าผ่านมาเยอะอย่างแน่นอน

ทั้งสองเข้าไปในลิฟต์และเฝ้าดูหมายเลขชั้นเปลี่ยนไป

"คุณเฉิงอี้ ระวังตัวด้วยนะคะ" จู่ๆ ดินสอคิ้วก็พูดขึ้น

"ฮะ?" หลี่เฉิงอี้มองดูเธอโดยไม่รู้ว่าทำไม

"คุณซือหม่ากุยเป็นคนอารมณ์ไม่ค่อยจะคงเส้นคงวา พูดให้ถูก คนส่วนใหญ่ที่มีประสบการณ์กับมุมอับมักมีอารมณ์ผิดปกติ คุณถือว่าอ่อนโยนมาก" เมื่อดินสอเขียนคิ้วกล่าวถึงซือหม่ากุย เห็นได้ชัดว่ามีร่องรอยของการต่อต้านบางอย่างระหว่างคิ้วของเธอ

"ขอบคุณที่เตือนฮะ" หลี่เฉิงอี้พยักหน้า เขาเดาได้อย่างคลุมเครือว่าคราวนี้เจ้านายรวบรวมทุกคนมารวมกันแล้ว ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่

*************************

คนแปล: ซือหม่ากุยเป็นอะไรกับซือหม่าอี้(สุมาอี้) (^o^)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด