บทที่ 341: ล่มสลายแต่ไก่โห่!
“นี่คือพื้นที่ปกครองของเมืองเชิ่งหลง อย่าได้ล้ำเส้นไม่งั้นยิง!”
ทหารกองพันที่สองซึ่งติดอาวุธสงครามยืนประจันหน้ากับพวกมันโดยเล็งปืนและตะโกนใส่คืน
แม้ศัตรูจะมากันหลายสิบและแต่ละคนก็มีระดับการฝึกฝนสูงกว่าก็ตาม แต่ข้างหลังนี่คือพื้นที่ที่ตนรับผิดชอบอยู่ ดังนั้นไม่ว่าไอ้หน้าไหนถ้าไม่ได้รับอนุญาตก็ห้ามผ่าน!
นี่คือหน้าที่ที่ตนได้รับมอบหมายมา เพราะงั้นถ้าเตือนไม่ฟังพ่อเป่าขมองกระจาย
ซึ่งความกล้าหาญนี้คนไม่รู้เรื่องมาเห็นก็ต้องซูฮก
ทหารเชิ่งหลงนายอื่นก็ได้รวมตัวกันอย่างเร็วแล้วประทับเล็งเช่นกัน
“หา~ อารายน้า~ มันว่าไม่ให้เราเข้าปายว่ะเพี่ยน ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ....” ไอ้ต่างเผ่าได้ยินดังนั้นก็อึ้ง ๆ ไปแป๊บหนึ่งก่อนจะหันหน้าไปหัวเราะกับพรรคพวกกันยกใหญ่
“ก๊าก ๆ ๆ ๆ ไอ้มนุษย์นี่แม่งบ้าดีว่ะกูชอบ!”
“ก็พึ่งเคยโดนก็วันนี้แหละว้า แมลงมาแหกปากใส่หน้าเนี่ย สงสัยจะใช้ชีวิตเบื่อแล้วเจง ๆ!”
“พูดเยอะทำห่าไรวะ ฆ่าแม่งไปให้จบ ๆ!”
พวกมันพูดคุยถากถางกันซึ่ง ๆ หน้าโดยไม่มีการไว้หน้าใด ๆ กันเลย เมินเฉยต่อการมีตัวตนของทหารเชิ่งหลงที่กำลังเล็งปืนใส่ตัวเองไปโดยสิ้นเชิง
แม้ว่าจะมีทหารที่ได้รับแจ้งและเข้ามาเติมกันเรื่อย ๆ ก็ตาม แต่พวกมันก็หาได้ใส่ใจไม่ ปากยังพ่นความคิดเห็นอันป่าเถื่อนเลวทรามและเยาะเย้ยอย่างไม่รู้จักพอ
ซึ่งก็ไม่แปลกอะไรเพราะว่าจิตสำนึกของพวกมันคือเผ่าพันธุ์มนุษย์ก็แค่ฝูงขยะกองหนึ่ง แค่ขี่มอนสเตอร์เข้าชาร์จเปรี้ยงเดียวก็เละเป็นขี้ จะฆ่าทิ้งเมื่อไหร่แค่ไหนและด้วยวิธีอันโหดร้ายใดก็ล้วนทำได้ตามอำเภอใจทั้งสิ้น
ในสายตาของพวกมันคือมนุษย์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต แต่เป็นสิ่งของที่ไร้ค่าไร้ราคาไปเลยนั่นเอง
ส่วนสาเหตุที่พวกมันยังไม่ลงมือทำอะไรอย่างผลีผลามไม่ใช่เพราะพวกมันกลัว แต่เป็นเพราะพวกมันยังไม่รู้ว่าไอ้มนุษย์หน้าโง่พวกนี้เป็นทาสของโหลวเฉิงแห่งใดเท่านั้น
ที่พวกมันคิดแบบนั้นเพราะที่โหลวเฉิงของหลาย ๆ เผ่ามักจะชอบใช้เผ่ามนุษย์ไปเป็นโล่เนื้อในการทำสงคราม ดังนั้นก็เลยไม่อยากทำอะไรบุ่มบ่ามเพราะกลัวจะก่อให้เกิดความผิดใจกันโดยไม่จำเป็น!
ไอ้คนหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าเพราะแต่งตัวไม่เหมือนคนอื่นหันไปกระซิบกระซาบอะไรกับลูกน้องแล้วก็มีแสงเย็นเยียบวาบขึ้นในแววตา
แล้วทันใดนั้นเองก็มีพวกมันคนหนึ่งขึ้นหน้ามาแล้วตะโกนใส่เป็นภาษามนุษย์ว่า “พวกกูเป็นนักรบจากโหลวเฉิงของเผ่าถูซือ แล้วพวกมึงอะอยู่โหลวเฉิงไหนกันว้า!”
ถามด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่ดูถูกเหมือนมองซากศพกองหนึ่ง
“พวกกูกองพันที่สองของเมืองเชิ่งหลง แล้วจะย้ำอีกแค่ครั้งเดียว!
เย่โหลวตรงหน้านี้เป็นของเมืองเชิ่งหลงแล้ว พวกมึงน่ะมาทางไหนก็ไสหัวกลับไปทางนั้นเลยไป๊!”
ชายร่างกำยำคนหนึ่งเดินออกหน้ามาแหกปากตะคอกกลับ
“เมืองเชิ่งหลง? อะไรวะน่ะ? เคยได้ยินปะ?” ไอ้ตัวหัวหน้าหันไปถามลูกน้องที่อยู่ใกล้ ๆ
“ไม่เห็นจะเคยได้ยินเลยครับ”
“รู่แค่ว่าใกล้ ๆ นี่มีเมืองมนุษย์เวลสี่ชื่อเมืองเฮยเหยี่ยนอยู่เท่านั้นเอง!”
“หา? จะเมืองเชิ่งหลงหรือว่าเมืองเฮยเหยี่ยนก็ช่างแม่งเถอะ เป็นแค่เมืองของไอ้พวกมนุษย์เองนี่หว่าต้องเสียเวลาชีวิตอันแสนจะมีค่ามานั่งคุยกะพวกมันด้วยเอ่อ”
หัวหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็ให้ลูกน้องตะโกนถาม “แล้วนักรบเผ่าไหนที่เป็นเจ้าเมืองพวกมึงวะ!”
“จะถามหาพ่องเหรอ ก็ต้องเป็นมนุษย์สิวะไอ้หน้าโง่!” หัวหน้าทหารสูดลมเข้าลึกด้วยความโมโหแล้วโบกมือส่งสัญญาณให้ทหารทุกนายเตรียมยิง
แม้ปืนไรเฟิลรุ่นเก่าจากวาจิมะที่กองพันที่ 2 ใช้อยู่นี้จะมีความยาวอยู่ที่ 1.6 เมตรรวมดาบปลายปืน แต่ในสายตาของไอ้พวกต่างเผ่าแล้วพวกมันคิดแค่ว่าเป็นหอกสั้นที่หน้าตาแปลก ๆ เท่านั้น ไม่ได้คิดว่าเป็นปืนเลยซักนิด มิน่าล่ะถึงเห็นแล้วยังไม่โกยอ้าวเอาแต่ปากหมากันทั้งกอง
และในเมื่อเป็นแค่ ‘หอกสั้น’ แถมยังอยู่ในมือพวกขยะเปียกจึงไม่มีอะไรที่ต้องสนใจ
หัวหน้าทหารมองดูท่าทีของพวกมันด้วยสีหน้าเรียบนิ่งและพร้อมที่จะฆ่าพวกมันตลอดเวลา เพราะจากที่กะ ๆ ดูท่าทีของพวกมันแล้วก็พอเดาได้ว่าพวกมันอยากจะทราบที่มาของตนก่อนแล้วค่อยตัดสินใจว่าจะไฝ้ไม่ไฝ้
ซึ่งจากพฤติกรรมสันดานเสียที่แสดงออกมาก็ยืนยันได้ว่าเมื่อพวกมันรู้ว่าตนมาจากโหลวเฉิงของเผ่ามนุษย์ล่ะก็จะต้องโถมกันเข้ามาอย่างกับหมาบ้าทันทีแน่นอน
ซึ่งก็ตามคาด เมื่อพวกมันได้ยินว่าทหารมาจากเมืองมนุษย์ก็กระหยิ่มยิ้มย่องแอบส่งซิกอะไรกันซึ่ง ๆ หน้าทำอย่างกับกลัวคนอื่นจะไม่เห็น
ทว่าตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้พวกมันไม่ได้เห็นถังเจิ้นที่อยู่ข้างหลังทหารเหล่านี้เลย ไม่อย่างนั้นพวกมันคงไม่กล้ากำแหงถึงขนาดนี้หรอก
ซึ่งพวกที่เห็นสัญญาณของเพื่อน ๆ ก็กระหยิ่มยิ้มย่องไปตาม ๆ กันพลางมือก็ชักดาบออกมาจากเอวช้า ๆ
ในสายตาของพวกมันคือไอ้พวกมนุษย์ตรงหน้าที่ถือหอกแปลก ๆ อยู่นั่นแค่วิ่งชาร์จเปรี้ยงเดียวก็ตายห่าไปเกินครึ่งแล้ว ส่วนไอ้พวกลูกแกะที่เหลือก็สามารถปาดทิ้งได้จนกว่าจะสาแก่ใจ
การขี่มอนสเตอร์เข้าชาร์จกับทหารมนุษย์ที่ร่างกายปวกเปียกไม่ต่างจากขี้คือการบดขยี้ทิ้งอยู่ฝ่ายเดียว ผู้ชนะคือพวกมันอย่างไม่ต้องสงสัย!
ทว่าทหารเชิ่งหลงที่อยู่ตรงข้ามกับพวกมันก็ง้างรอเหมือนกัน ทุกคนต่างกระจ่างแจ้งในอานุภาพของปืนดี พวกมันมาเมื่อไหร่กูซัดเมื่อนั้น ไหนขอดูหน่อยซิว่าตอนแดกลูกปืนเข้าไปแล้วจะยังยิ้มหน้าระรื่นกันอยู่อีกมั้ย
ทั้งสองฝ่ายต่างมีหนทางที่จะเอาชนะ ใครเก่งใครกากมีแค่ต้องลองใส่กันดูจริง ๆ เท่านั้นถึงจะได้ข้อสรุป
ทั้งสองฝ่ายสงบลงครู่หนึ่ง แต่จิตสังหารที่แผ่ใส่กันนั้นเล่นเอาอากาศลั่นเปรี๊ยะ ๆ เกิดเป็นประกายไฟที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น
ลมกระโชกแรงพัดฝุ่นละอองลอยขึ้นจากพื้นใส่พื้นที่โล่งระหว่างทั้งสองฝ่าย
ซึ่งมันก็ดูเหมือนจะเป็นสัญญาณสั่งรบ จิตวิญญาณนักสู้ของทั้งสองฝ่ายที่หมักหมมอยู่ได้ระเบิดออกใส่กันทันที!
“ฆ่า!”
ไอ้ต่างเผ่าคำรามพร้อมกัน มอนสเตอร์ที่พวกมันขี่อยู่ก็ออกแรงถีบกีบเท้าฮ้อดตะบึงบึ่งตรงไปข้างหน้ากันทันที
ไอ้พวกคนขี่ก็เงื้อดาบอันคมกริบด้วยดวงตาที่บ่งบอกว่ากูอยากซดเลือดพวกมึงซะเหลือเกิน ใบหน้ายับยู่ยี่เนื้องจากแสดงออกถึงความบ้าคลั่ง
เมื่อใดที่ได้ฆ่ามนุษย์พวกมันจะปลดปล่อยจิตสังหารทั้งหมดลงไปในดาบแล้วตวัดฟัน ‘เหยื่อ’ ให้ขาดกระเด็นเป็นท่อนสองท่อน!
“ยิง!”
ตามคำสั่งของหัวหน้า ปลายกระบอกปืนไรเฟิลเกือบร้อยกระบอกก็ปะทุประกายไฟออกไปพร้อมกัน ห่ากระสุนที่แบกรับความโกรธแค้นของเจ้าของก็สาดออกไปชำแรกเข้าสู่ร่างศัตรูอย่างเหี้ยมโหดไร้ปราณี
พร้อมกันกับที่เสียงปืนดังขึ้นก็มีไอ้พวกไรเดอร์ที่พุ่งเข้ามากระเด็นตกพื้น
มีไม่น้อยที่ปากจากที่ส่งเสียงโห่ร้องอย่างมีความสุขเพราะอีกเดี๋ยวก็จะได้ฆ่าล้างบางสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำตอนนี้ก็อ้า ๆ หุบ ๆ เอามือกุมอกที่เจ็บปวดรวดร้าวไปทั้งตัวด้วยแววตาหวาดกลัวก่อนจะร่วงตกลงจากมอนสเตอร์ที่ตัวเองขี่อยู่ด้วยความไม่เต็มใจ
และไม่ทันที่ไอ้พวกตกพื้นจะทันได้กระเสือกกระสนดิ้นรนก็โดนพวกมอนสเตอร์ที่วิ่งตามหลังมาประเคนกีบเยียบอกซ้ำไปเต็ม ๆ ทำให้พวกมันแน่นิ่งไปและถูกตัวต่อ ๆ มาเหยียบย่ำซ้ำเติมจนเละเป็นขี้เหมือนดังเช่นที่พวกมันเคยทำกับคนอื่นไว้
ซึ่งข้าง ๆ อดีตนักรบที่ตอนนี้เละเป็นขี้ไปแล้วก็ยังมีขี้กองอื่น ๆ ที่เผชิญกับชะตากรรมเดียวกันเป๊ะกระจัดกระจายกันอยู่อีกหลายกอง
มีตัวหนึ่งเงื้อดาบเข้ามาแต่คอของมันครึ่งหนึ่งโดนลูกปืนเอาไปกินซะแล้ว หัวพับลงไปทางซีกที่ยังเหลือเนื้อติดอยู่โดยที่แผลก็พ่นเลือดสดปรี๊ด ๆ เป็นน้ำพุอยู่ในท่านั่งบนหลังมอนสเตอร์ด้วยสีหน้าที่ทั้งเจ็บปวดทั้งไม่เต็มใจ
ยิงกันแค่คนละนัดทหารเชิ่งหลงก็ส่งพวกมันถึง 2 ใน 3 ไปเฝ้าปรโลกและหยุดการวิ่งเข้าชาร์จได้โดยสมบูรณ์แบบ
พวกที่เหลือก็ล้วนแต่บาดเจ็บไม่ก็ตกอยู่ในความสับสนอลหม่านจากมอนสเตอร์หัวขบวนที่ตกใจจนวิ่งวุ่น
ไอ้ตัวหัวหน้าที่เห็นถึงความสูญเสียอันใหญ่หลวงที่กองทัพของตนต้องเจอถึงกับแหกปากคำรามด้วยดวงตาที่แดงก่ำเหมือนเลือดเพราะเส้นเลือดฝอยในตาแตกหมด
มันได้รู้แล้วว่าที่ไอ้พวกมนุษย์มันถืออยู่นั่นไม่ใช่หอกสั้น แต่เป็นปืนแก๊ปที่ในสไตล์ที่ตัวเองไม่เคยเห็นมาก่อนต่างหาก!
ในเวลานี้ตัวมันซึ่งอยู่ห่างจากฝั่งมนุษย์เพียงแค่ 20 เมตรเท่านั้น แต่กลับเป็น 20 เมตรที่กว้างราวฟ้ากับเหวที่มันไม่อาจฝ่าฟันผ่านพ้นไปได้
และเมื่อเสียงปืนดังขึ้นอีกครั้งไอ้ตัวหัวหน้าที่เป็นบ้าไปแล้วก็เกิดเจ็บที่หว่างคิ้ว จากนั้นจอภาพก็ดับลงและตัวมันก็ร่วงตกลงพื้น ซึ่งภาพสุดท้ายก่อนที่จอจะดับสนิทคือภาพทหารเชิ่งหลงใช้ดาบปลายปืนกระซวกหัวใจของลูกน้องตัวเองที่ยังไม่ตาย
สายตาของมันกับลูกน้องคนนั้นประสานกันซึ่งต่างฝ่ายต่างเห็นถึงความเจ็บปวดและไม่เต็มใจที่อยู่ในแววตาของอีกฝ่ายหนึ่ง...