ตอนที่แล้วบทที่ 7 การนองเลือด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 9 ถึงทูซอน

บทที่ 8 ขอคำแนะนำ


บทที่ 8 ขอคำแนะนำ

เนื่องจากเขาได้สร้างร่องรอยระหว่างภารกิจและกังวลว่าจะถูกค้นพบตัวเข้า ซุนเฉิงจึงรีบออกจากศูนย์วิจัย ภายนอกศูนย์วิจัยมีรถตำรวจที่เป็นร่างแปลงของบาร์ริเคดยังคงจอดอยู่ที่ตำแหน่งเดิม

เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายได้จับพิกัดของเขาไว้ล่วงหน้าแล้ว ทันทีที่ซุนเฉิงเข้าหารถตำรวจ ประตูได้เปิดออกจนส่งเสียงหวือ ดวงตาที่เย็นชาทั้งสองจ้องมองซุนเฉิง ทำให้เขาตัวสั่นเทาด้วยความกลัว เพราะเขากลัวคู่หูของเขามาก กลัวว่าอีกฝ่ายอาจคิดว่าภารกิจที่เขาทำคืนนี้จะไม่มีความคืบหน้าเลย

อย่างไรก็ตาม ซุนเฉิงไม่กล้าที่จะเสี่ยงหนีไป เขาจำได้อย่างชัดเจนจากข้อมูลความทรงจำของ "เฟรนซี่" ว่ามีดิเซปติคอนหลายร้อยตัวประจำอยู่ที่ฐานดวงจันทร์ แม้ว่าจะมีเพียงดิเซปติคอนชั้นสูงระดับ 3 ทว่าพวกเขาก็มีความสามารถในการบินในอวกาศแล้ว ซึ่งถ้าซุนเฉิงกล้าที่จะหลบหนีและเขาไม่สามารถออกจากโลกแห่งนี้ได้ ไม่ช้าก็เร็วเขาจะถูกหาตัวพบและโดนบดขยี้เป็นแน่

เขาจึงได้แต่พยายามอดกลั้นความกลัวภายในใจ

ด้วยคำเตือนที่อธิบายไม่ได้จากแกนหลัก ซุนเฉิงจึงปีนขึ้นไปบนที่นั่งผู้โดยสารอย่างระมัดระวัง ประตูรถปิดลง แต่ไม่ใช่เพราะบาริเคดกลัวว่าเขาจะหลบหนี มันแค่เพราะเขาต้องการสตาร์ทรถและขับไปในทิศทางตรงกันข้ามกับศูนย์วิจัย

“การค้นหาเป็นอย่างไรบ้าง?” เสียงจักรกลอันแสนเย็นชาได้ดังขึ้น

"ข้าค้นพบเบาะแสมากมาย แม้ว่าข้าจะไม่สามารถยืนยันได้ว่าท่านเมกะทรอนและออลสปาร์คอยู่บนโลกหรือไม่ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ข้าค้นพบ ดิเซปติคอนเคยมาเยือนโลกมาก่อน อาจก่อนเราหรือนานมาแล้ว!" ซุนเฉิงจัดเรียบเรียงคําพูดของเขาอย่างระมัดระวังและทวนคำซ้ำๆ ในใจ ก่อนที่จะตอบออกไปอย่างระมัดระวัง

"เจ้ายังไม่พบข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับผู้นำเมกะตรอนเลยหรอ?” เสียงของบาริเคดเย็นชา เต็มไปด้วยเจตนาฆ่า ทำให้แกนหลักของซุนเฉิงเต็มไปด้วยความกลัว

ซุนเฉิงตอบอย่างรวดเร็วว่า "ท่านบาริเคด ข้าเข้าถึงเครือข่ายที่เชื่อมโยงกันของประเทศ องค์กร สถาบันและสถาบันการวิจัยในโลกนี้เกือบทั้งหมดผ่านการแฮ็กแล้ว แต่ข้าไม่พบข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับ 'ท่านเมกะตรอน' แม้แต่เบาะแสบางอย่างที่ข้าพบ ก็ถูกลบทิ้งหมดไปแล้ว!”

ซุนเฉิงยังคงกังวลว่าบาริเคดจะไม่เชื่อคำพูดเหล่านี้ เขาจึงกัดฟันและหยิบ iPhone 5 ออกมา หลังจากที่ดัดแปลงแขนขวาและเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ผ่านพอร์ต  เขาได้แสดงเบาะแสมากมายที่เขาพบและดาวน์โหลดลงคลังให้บาริเคด โดยเฉพาะเรื่อง "ไซเบอร์ทรอนิกส์" ที่ปรากฏอยู่ในสถานที่ทางประวัติศาสตร์หลายแห่งของโลก รวมทั้งข้อความสีดำและภาพถ่ายสีขาวของคาร์ล เบนซ์กับรถคันแรกที่เขาเคยสร้าง

"..อืม ข้อความโบราณงั้นหรือ? แสดงว่าท่านผู้นำเคยมาที่นี่จริงๆ..."

ชายผิวขาววัยกลางคนที่ถูกฉายภาพโดยบาริเคดได้ถูกดูดกลับไปและลบอย่างรวดเร็วกลายเป็นภาพกระพริบ แต่ก่อนจะถูกลบหายไปสายตาของเขาจับจ้องบนหน้าจอ iPhone5 พอเมื่อเห็น "ไซเบอร์ทรอนิกส์" และรูปถ่ายของรถคาร์ลเบนซ์  ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจและเผลอโพล่งบางอย่างออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจอีก!

ข้อความโบราณหรอ? ในบรรดาข้อความที่มีการเข้ารหัสสูง มีกระทั่งที่เขาเองก็ไม่สามารถถอดรหัสได้เหรอ? แล้วท่านผู้นำล่ะ? เป็นฝ่ายดิเซปติคอนที่มาเยือนโลกตั้งแต่อดีตกาลจริงเหรอ?

เมื่อซุนเฉิงรู้ถึงความลับบาริเคดที่เปิดเผยโดยไม่ได้ตั้งใจ ในใจของซุนเฉิงต้องการฟังคำอธิบายว่า "ข้อความโบราณ"และ "ท่านผู้นำ" มันยังไงกันแน่ แต่เขาไม่กล้าที่จะถามบาริเคด

หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาจึงถามอีกครั้ง: "ท่านบาริเคด เราควรทำอย่างไรต่อไป?"

บาริเคดเงียบไปสักพักแล้วตอบว่า "ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับผู้นำเมกะทรอนต่อไป!"

เขาไม่ได้พูดถึง"ออสปาร์ค" ซึ่งทำให้ดวงตาสีฟ้าของซุนเฉิงเป็นประกาย เขาจำได้ดีว่าเขาถูกส่งมาช่วยเหลือบาริเคด โดยคำสั่งของซาวด์เวฟ เพื่อให้สืบหาข่าวกรองบนโลก แต่เหตุใดบาริเคดไม่เคยพูดถึงคำว่า "ออสปาร์ค" กันเลยล่ะ

ต้องมีอะไรอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ที่เขาไม่รู้แน่...

ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไร เขาก็ยิ่งรู้สึกว่ามีบางอย่างน่าสงสัยที่อยู่เบื้องหลัง  แต่ท่าทีของบาริเคดก็ทำให้ซุนเฉิงรู้สึกโล่งอกเช่นกัน

เขาจึงกล่าวออกไปว่า "ข้าได้แฮ็กระบบอินเทอร์เน็ตทั่วโลกแล้ว และยืนยันว่ามีกองกำลังบนโลกที่เชี่ยวชาญในการลบข่าวกรองข้อมูลเรื่องนี้ไป ดังนั้นหากเราใช้วิธีการแบบเดิม การตรวจสอบต่อไปก็คงจะเป็นเรื่องยาก!”

เมื่อมาถึงจุดนี้ ซุนเฉิงก็คิดหยอดเหยื่อลงไปเล็กน้อย เพื่อระงับความกังวลในใจของเขา

ตอนนี้ซุนเฉิงต้องการทดสอบความคิดของบาริเคดที่มีต่อเขา

ดวงตาที่เย็นชาสองดวงจ้องมองเขาอย่างรวดเร็ว ทำให้หัวใจของซุนเฉิงสั่นสะท้านอย่างรุนแรง

โชคดีที่เขาสามารถเอาชนะมันได้ แม้ว่าบาริเคดจะแค่นอย่างเย็นชาและพึมพำอย่างไม่พอใจ "รีบพูดให้จบ..."

ดูเหมือนว่าบริเคดจะไม่ได้คิดว่าเขาเป็นศัตรูอีกต่อไปแล้ว

หลังจากได้ข้อสรุปนี้ ซุนเฉิงก็ไม่สามารถซ่อนความตื่นเต้นในใจของเขาได้ เขารีบพูดคำพูดที่เขาเตรียมไว้ออกไปอย่างรวดเร็ว  "คือแบบนี้ครับท่านบาริเคด  สิ่งที่ข้ากำลังพยายามจะพูดคือหากเราคิดจะสืบข่าวกรองเรื่องนี้ต่อไป ข้าจำเป็นต้องแฮ็กข้อมูลในหน่วยงานรัฐบาล กระทรวงกลาโหมและทหารในทุกประเทศบนโลกนี้ แต่ถ้าข้าลงมือ ข้าก็รับประกันไม่ได้ว่าตัวตนของเราในฐานะดิเซปติคอนจะถูกเก็บเป็นความลับอีก!”

หลังจากพูดจบ ซุนเฉิงก็ไม่สามารถซ่อนความตื่นเต้นในใจของเขาได้เลย สายตาของเขาจ้องมองไปที่บาริเคดด้วยความคาดหวัง

ไม่ใช่ว่าเขาหวังว่าบาริเคดจะอนุญาตให้เขาเข้าไปแฮ็ค ตรงกันข้ามเลย ซุนเฉิงหวังว่าอีกฝ่ายจะปฏิเสธคำขอของเขาอย่างเด็ดขาดต่างหาก

เมื่อเปรียบเทียบกับมนุษย์ที่แสนเปราะบาง เซปติคอนที่เป็นสิ่งมีชีวิตจักรลย่อมมีข้อได้เปรียบอย่างชัดเจน แม้แต่เขาซึ่งเป็นสายลับดิเซปติคอนระดับต่ำสุดก็สามารถเอาชนะทีมทหารมืออาชีพได้อย่างง่ายดาย หากมีการต่อสู้กับดิเซปติคอนระดับสูงอย่างบาริเคดต้องลงมือ แม้จะเผชิญหน้ากับกองทัพของประเทศเล็กๆ บนโลกก็คงไม่มีปัญหาสักนิดเดียว

แต่ความแข็งแกร่งจากร่างกายเพียวๆ ไม่ได้หมายความว่าดิเซปติคอนจะไม่เกรงกลัวมนุษย์ โลหะผสมที่ติดตั้งโดยนักรบอาวุโสของดิเซปติคอนสามารถต้านทานอาวุธเบาและหนักส่วนใหญ่บนโลกได้ เช่นเดียวกับพวกขีปนาวุธ ทว่าเมื่อต้องเผชิญกับอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีและอาวุธนิวเคลียร์เชิงกลยุทธ์ที่ผลิตโดยพวกมนุษย์เท่าที่เขารู้ ดิเซปติดคอนไม่เพียงแต่กลัวอาวุธนิวเคลียร์ของมนุษย์เท่านั้น แต่ยังหวาดกลัวระเบิดแรงสูงและกระสุนเจาะเกราะยูเรเนียม ซึ่งมีติดตั้งโดยบางประเทศของมนุษย์ ของพวกนี้สามารถสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้กับดิเซปติคอนได้เช่นกัน

เป็นเพราะมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอนมากเกินไปหากเปิดสงครามเต็มรูปแบบกับมนุษย์ เหล่าดิเซปติคอนจึงไม่คิดที่จะยุ่งเรื่องอะไรบนโลกนัก เว้นแต่พวกเขาจะสามารถนํากําลังหลักของกองทัพดิเซปติคอนที่ประจําการอยู่บนดาวไซเบอร์ตรอนข้ามมามากกว่า 10,000 ปีแสง ก็ไม่มีทางเลยที่ผู้นำในกองทัพของดิเซปติคอนในฐานบนอีกด้านตรงข้ามของดวงจันทร์จะคิดเปิดศึก!

แน่นอนว่าทันทีที่ซุนเฉิงได้กล่าวความคิดออกมา เขาก็พบกับความเงียบจากบาริเคด หลังจากนั้นไม่นาน อีกฝ่ายก็ตอบอย่างเย็นชาว่า “ข้าจะปรึกษากับท่านสตาร์สครีม...”

ระหว่างเดินทางไม่มีเสียงใดๆ ตลอดทางเลย!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด