บทที่ 8 ตอน ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
ตามที่คาดไว้ ทันทีที่ทุกคนเข้าไปภายในร้าน พวกเขาทั้งหมดก็มารวมตัวกันหน้ากรงของแฮมสเตอร์ตัวหนึ่งในพื้นที่จัดแสดงสัตว์เลี้ยง
ตัวเอกที่กำลังถูกรายล้อมอยู่ตอนนี้ แน่นอนว่าเป็นแฮมสเตอร์ตัวน้อย ซือฉี ที่อยู่ในวิดีโอเมื่อวานนี้
“นี่หรอ คือหนูแฮมสเตอร์ในวิดีโอเมื่อวาน!”
“น่าจะใช่นะ ฉันจำสีขนของมันได้”
“เจ้าแฮมสเตอร์วิดพื้นสิ!”
มีคนออกคำสั่งอย่างไม่รีรอ
เมื่อได้ยินคำสั่ง เจ้าแฮมสเตอร์ตัวน้อยก็วางขาหน้าทั้งสองข้างของมันลงกับพื้นอย่างไม่เต็มใจ มันกดลำตัวลง และวิดพื้นทันที
มันดูไม่กระตือรือร้นเหมือนวันที่ถ่ายคลิปวิดีโอเมื่อวานนี้ แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ทำให้ผู้คนเกิดเสียงกรีดร้องที่ประทับใจทันที
“ว้าว มันเหมือนกับในวิดีโอเลย มันเข้าใจคำสั่งจริง!”
“นี่มันน่ารักเกินไปแล้ว!”
“เจ้าแฮมสเตอร์ ถอยหลังไปสักหน่อยสิ!”
“ตีลังกาให้ดูหน่อย!”
“กลิ้งนอนซะ!”
…
จากนั้นทุกคนก็เริ่มพูดคุยและเริ่มออกคำสั่งอื่นๆกับมัน
ในที่สุด หนูแฮมสเตอร์ก็ไม่ได้สนใจคำสั่ง และนอนอยู่ข้างกรง เหยียดอุ้งเท้าออกและทำท่าทางขอบางอย่าง
ในตอนแรกทุกคนก็งงเล็กน้อย
จนกระทั่งมีคนนึกขึ้นได้และพยายามยัดถั่วลิสงใส่อุ้งเท้าของมัน หนูแฮมสเตอร์ยัดถั่วลิสงเข้าปากและเก็บไว้ในแก้มของมัน จากนั้นมันก็กลับมาฟังคำสั่งอีกครั้งอย่างตั้งใจ
ทันใดนั้นทุกคนก็ตระหนักได้ว่าพวกมันกำลังขออาหาร ดังนั้นพวกเขาจึงเต็มใจที่จะป้อนอาหารกับพวกมัน!
อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมเหล่านี้ไม่เพียงแต่ไม่สร้างความน่ารำคาญ ในทางกลับกัน ยังครองใจผู้หญิงทุกคนที่อยู่ที่นี่ พวกมันยังรู้วิธีขอสิ่งตอบแทนซึ่งแสดงถึงความฉลาดอย่างแน่นอน!
"มันน่ารักมาก ๆ!"
"ฉันรู้สึกว่ามันฉลาดกว่าในวิดีโอซะอีก!"
“จะมีหนูแฮมสเตอร์แสนน่ารักแบบนี้ได้จากที่ไหนได้อีก!”
“ผู้จัดการ คุณจะขายหนูแฮมสเตอร์ตัวนี้ไหม”
ในขณะที่ทุกคนต่างชื่นชมมัน บางคนก็รอไม่ไหวอีกต่อไป
ผู้หญิงที่แต่งตัวเป็นพนักงานออฟฟิศเป็นผู้นำในการสอบถามราคาจากมู่โหยว
“ขออภัย หนูแฮมสเตอร์ตัวนี้เรายังไม่ขาย แต่คุณสามารถซื้อหนูแฮมสเตอร์อื่นๆ ในบริเวณจัดแสดง พวกมันได้รับการฝึกมาเช่นกัน พวกมันสามารถเข้าใจคำสั่งส่วนใหญ่ได้เช่นเดียวกับซือฉี” มู่โหยวกล่าว
ซือฉี เป็นตัวเอกในวิดีโอเมื่อวาน มีศักยภาพอย่างมากที่จะเป็นคนดังทางอินเทอร์เน็ต แน่นอนว่ามู่โหยวคงไม่โง่พอที่จะขายมัน เห็นได้ชัดว่าเป็นการเหมาะสมกว่าที่จะให้มันอยู่ในร้านเพื่อเป็นพรีเซ็นเตอร์ต่อไป
“แล้วคุณจะขายแฮมสเตอร์ตัวอื่นราคาเท่าไร?” พนักงานสาวออฟฟิศถามอีกครั้ง
“ราคาของแฮมสเตอร์ธรรมดาในร้านอยู่ระหว่าง 50-200 หยวน ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ในขณะที่ราคาของแฮมสเตอร์ในพื้นที่จัดแสดงสัตว์เลี้ยงจะมีราคาสูงกว่า 500 หยวนจากราคาเดิม” มู่โหยวกล่าว
“ทำไมราคาถึงต่างกันขนาดนี้?”
พนักงานออฟฟิศหญิงอดขมวดคิ้วไม่ได้ และคนอื่นๆ ก็ต่างสงสัยเช่นกัน
มันเป็นหนูแฮมสเตอร์ด้วยดังนั้นช่องว่างราคาจึงใหญ่เกินไปใช่ไหม? ความแตกต่างระหว่างต่ำสุดและสูงสุดเป็นสิบเท่า!
ดูเหมือนมู่โหยวจะคาดการณ์กับคำถามดังกล่าวไว้แล้วและอธิบายอย่างใจเย็น: “เนื่องจากแฮมสเตอร์ในพื้นที่จัดแสดงสัตว์เลี้ยงได้รับการฝึกอบรมอย่างดีเยี่ยม พวกมันจึงสามารถเข้าใจคำสั่งของมนุษย์ได้ ช่วยประหยัดเวลาในการฝึกของผู้ซื้อ คุณต้องรู้ว่าหนูแฮมสเตอร์ จัดเป็นสัตว์ขนาดเล็กที่มีความฉลาดต่ำมาก หากคุณฝึกสัตว์เลี้ยงมือใหม่ มันจะต้องใช้เวลาและความอดทนอย่างมาก และไม่สามารถรับประกันผลที่ออกมาได้ เงินพิเศษ 500 หยวนเป็นของค่าการฝึกฝน”
“หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับราคา คุณสามารถตรวจสอบค่าใช้จ่ายในการฝึกสัตว์เลี้ยงออนไลน์ได้ ราคาที่ฉันตั้งไว้นั้นสมเหตุสมผล เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายจากเทรนเนอร์สัตว์เลี้ยงทั่วไป”
เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด ทุกคนก็รีบหยิบโทรศัพท์ออกมาและเริ่มค้นหา
“ว้าว มีการพูดถึงกันบนอินเทอร์เน็ตว่า การฝึกแมวและสุนัขต้องใช้เงินหลายพันดอลลาร์ ?”
“ดูเหมือนจะเป็นเรื่องจริง ฉันได้ยินจากเพื่อนร่วมชั้นว่าสุนัขของเธอได้รับการฝึกโดยครูฝึกสุนัขเป็นเวลาหนึ่งเดือน ราคาไม่ถึง 10,000 หยวน และสุดท้ายผลจากการฝึกก็ไม่ได้ดีนัก…”
“ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการฝึกสัตว์เลี้ยงมีค่าใช้จ่ายมากมายขนาดนี้!”
“ค่าใช้จ่ายที่เห็นนั้นมีไว้สำหรับฝึกแมวและสุนัขเป็นหลัก สัตว์เล็ก ๆ เช่นแฮมสเตอร์นั้นฝึกยากกว่าอย่างแน่นอน…”
…
หญิงสาวหลายคนรวมตัวกันและพูดคุยกัน
เมื่อเทียบกับราคาบนอินเทอร์เน็ต ราคาที่ถามจากตัวผู้จัดการนั้นสมเหตุสมผล และผลการฝึกก็ชัดเจนสำหรับทุกคน เท่ากับว่าหลังการซื้อไปเเล้วก็ไม่ต้องเสียเวลาฝีกอีก
“ผู้จัดการ ฉันขอซื้อตัวนี้”
พนักงานออฟฟิศหญิงชี้ไปที่หนูแฮมสเตอร์ที่อยู่ถัดจากซือฉี อย่างเด็ดเดี่ยว
“เอาล่ะ หนูแฮมสเตอร์พันธุ์นี้เป็นโกเด้น แบร์ ราคา 550 หยวน อย่างไรก็ตาม หากคุณเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเป็นครั้งแรก ฉันขอแนะนำให้คุณซื้อของใช้ที่จำเป็นทั้งหมด เช่น กรง อ่างอาบน้ำ ทราย ,ขี้เลื่อย,อาหารสัตว์,ที่ให้น้ำ ฯลฯ หากซื้อครบชุด ทางร้านมีส่วนลด 20%”
หญิงสาวคนนั้นก็เห็นด้วย ถ้าซื้อแฮมสเตอร์ไปแล้วเธอทำอย่างไรต่อ? เจ้าของร้านก็ดูมีความรอบคอบพอสมควร แทนที่จะไปเลือกซื้อจากเถาเป่า ซื้อจากที่นี่ทั้งหมดเลยดีกว่า
“ตกลง ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องนี้มากนัก ดังนั้นรบกวนจัดเตรียมที่จำเป็นทั้งหมดให้ฉันด้วย”
“ไม่มีปัญหา เสี่ยวหยา เธอพาลูกค้าไปเลือกได้เลย” มู่โหยวบอกกับเสิ่นหยา
เสิ่นหยาเข้าใจทันที เธอนำทางลูกค้าไปยังแผนกผลิตภัณฑ์ดูแลสัตว์เลี้ยงในขณะเดียวกันก็คอยแนะนำผลิตภัณฑ์ต่างๆ อย่างกระตือรือร้น
เสิ่นหยา คนนี้เป็นเด็กสาวพูดจาน่ารักและลูกค้ารายนี้ก็ดูเหมือนคนมีเงินโดยพื้นฐานแล้วสิ่งของทั้งหมดที่ลูกค้าคนนี้เลือกล้วนเป็นสินค้าระดับไฮเอนด์
หลังจากเลือกแล้ว อุปกรณ์สัตว์เลี้ยงทุกชนิดก็กองอยู่ตรงหน้าเธอ จากการช้อปปิ้งของลูกค้ารายนี้รายเดียวเป็นมูลค่ามากกว่า 1,000 หยวน
ทั้งถาดใส่อาหาร อ่างอาบน้ำ กระบะทราย และสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ อื่นๆ ถูกเก็บรวมกันลงในกล่อง ในที่สุดเสิ่นหยาก็มอบคู่มือการดูแลหนูแฮมเตอร์ให้เธออย่างตั้งใจ
คู่มือนี้เขียนโดยพ่อแม่ของมู่โหยว และมีเนื้อหากระชับเข้าใจง่าย
เมื่อคนอื่นๆเห็นว่าของที่ถูกบรรจุลงในกล่องใหญ่มีราคาไม่แพงนักทั้งยังได้รับคู่มือสำหรับการเลี้ยงสัตว์เป็นของแถมอีกด้วยต่างก็กระตือรือร้น
“หัวหน้า ฉันอยากได้อันนี้!”
“ถ้าอย่างนั้น ผู้จัดการฉันก็เอาด้วย!”
“ฉันด้วย!”
…
แฮมสเตอร์สี่ตัว ถูกคว้าไปอย่างรวดเร็ว
คนอื่นๆรู้สึกลำบากใจเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าหนูแฮมสเตอร์ถูกคว้าไปอย่างรวดเร็ว แต่พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันไปสนใจสัตว์เลี้ยงตัวอื่นในพื้นที่จัดแสดงเพราะกลัวว่าสัตว์เหล่านั้นจะถูกแย่งไปเช่นกัน
ร้านขายสัตว์เลี้ยงที่เคยเงียบเชียบเมื่อก่อน ก็กลับมาครึกครื้นอีกครั้ง
ถึงแม้ว่าเสิ่นหยายุ่งอยู่กับการต้อนรับลูกค้า แต่ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้มร้านขายสัตว์เลี้ยงกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งและเธอก็ดูเหมือนจะมีความสุขกว่าใครๆ
ในไม่ช้า สัตว์เลี้ยงที่ได้รับฝึกฝนทั้ง 10 ตัวก็ถูกขายไป
ส่วนสัตว์เลี้ยงในพื้นที่ทั่วไปก็มีคนซื้อไปบ้างแต่เห็นได้ชัดว่าคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยสนใจสัตว์เลี้ยงพวกนี้นัก เมื่อเทียบกับสัตว์เลี้ยงที่ได้รับการฝึกฝนแล้ว
ลูกค้าสองสามรายริเริ่มเข้าหามู่โหยว และถามว่าสัตว์ที่ผ่านการฝึกแล้วจะพร้อมจำหน่ายอีกครั้งเมื่อไร
“ฉันฝึกสัตว์เลี้ยงทุกวันแต่รอบการฝึกอาจจะนานกว่านี้ หากต้องการก็เข้ามาดูได้ทุกวัน แน่นอนว่าที่นี่เราบริการจองล่วงหน้า” มู่โหยวกล่าว
ทันทีที่รู้ว่าสามารถจองล่วงหน้าได้ พวกเขาก็ทิ้งเบอร์โทรศัพท์ของตัวเอง ไว้ที่ร้านเพื่อเป็นการจองสัตว์เลี้ยงคนละ 1หรือ 2 ตัว
หลังจากติดป้ายชื่อบนกรงสัตว์เลี้ยงที่พวกเขาสั่งจอง ผู้คนจำนวนมากก็จากไป และจำนวนลูกค้าในร้านก็ลดลงอย่างมาก สำหรับลูกค้าส่วนที่เหลือ เสิ่นหยารับหน้าที่ดูแลพวกเขา
มู่โหยวจึงกลายมาเป็นคนเกียจคร้านเสียแล้ว หลังจากแน่ใจว่าตัวเองไม่มีหน้าที่อะไรแล้ว เขาก็กลับขึ้นไปบนชั้นสอง และปิดประตู หยิบโทรศัพท์ออกมา จากนั้นเกม "The Fool" ก็เริ่มขึ้น!
จากความสำเร็จมากมายเมื่อวานนี้ ทำให้เขาตั้งหน้าตั้งตารอกลับเข้ามาในเกมนี้