บทที่ 5 ตอน แฮมสเตอร์ของฉันกลายเป็นหนูน้อยสุดเชื่องไปซะแล้ว

“จำกัดจำกัดความคล่องตัวหรอ? เกมนี้มีข้อจำกัดทางกายภาพด้วยหรอ?”

มู่โหยวผงะไปครู่หนึ่ง และคลิกที่รายการ ‘ความคล่องตัว’

【ความคล่องตัว: พลังงานที่คนโง่ต้องใช้เพื่อเดินในโลกแห่งดวงดาว ทุกครั้งที่คุณตายและทุกตัวเลือกในเกมที่คุณพบ ความคล่องตัวเพียงเล็กน้อยจะถูกใช้ไป หากพลังนี้หมด คุณจะไม่สามารถกระทำสิ่งต่างได้

ความคล่องตัวปัจจุบัน: 0/5

ความคล่องตัวจะถูกเรียกคืนโดยอัตโนมัติในเที่ยงคืนโมงของทุกวัน และยังสามารถกู้คืนได้ตามอายุการใช้งานอีกด้วย ทุกอายุขัย 1 ปีสามารถแลกเป็นความคล่องตัวเล็กๆ น้อยๆ ได้ คุณต้องการแลกเปลี่ยนหรือไม่? 】

"ไม่ไม่ไม่!"

มู่โหยวส่ายหน้าอย่างเร่งรีบ

ล้อเล่นใช่ไหม ของแบบนี้มันจะไปสำคัญกว่าชีวิตฉันได้ไง?

แลกมาได้นิดเดียวแต่ต้องเสียอายุขัยหนึ่งปี ใครมันจะไปเอา!

ยังไงซะ ความคล่องตัวเนี่ยมันคำนวณยังไงกันแน่เนี่ย?

มู่โหยวดูคำอธิบายในข้อความด้วยความสงสัย: การเสียชีวิตทุกครั้งและทุกตัวเลือกที่พบในเกมจะใช้ความคล่องตัวเพียงเล็กน้อย

จริงๆ ตอนนี้เขาเสียชีวิตไปทั้งหมดสองครั้งแล้ว และเขาได้เลือกอย่างน้อยห้าหรือหกครั้ง สิ่งนี้จะต้องหักพลังกระทำมากกว่าห้า

ตัวเลือกที่ไม่มีทางเลือก แบบนี้ยังจะเรียกว่าตัวเลือกได้อีกหรอ!

มู่โหยวคิดไม่ออกมาสักพักแล้ว ดังนั้นเขาจึงต้องปล่อยมันไป

ดูเวลาแล้วเพิ่งจะหกโมงเช้าเอง ยังอีกนานกว่าจะเที่ยงคืน วันนี้คงเล่นไม่ได้แน่นอน

มู่โหยวออกจากเกม และไปปิดประตูด้านนอกร้าน

จากนั้นจึงหยิบไม้กายสิทธิ์ออกมาอย่างไม่รีรอ พร้อมที่จะลองคาถาทั้งสามที่เพิ่งเรียนรู้ไป

'โจมตีหนึ่งร้อยนัด' อย่างแรกต้องใช้อาวุธโจมตีระยะไกล และแน่นอนว่าเขาไม่มีของแบบนี้ในร้านของเขา

อย่างไรก็ตาม เขายังมีคาถาอีกสองบทให้ทดสอบอยู่

มู่โหย่วมาที่บริเวณจัดแสดงสัตว์เลี้ยงและนำกรงหนูแฮมสเตอร์ออกมา

มีหนูแฮมสเตอร์ตัวน้อยน่ารักชื่อ 'ซือฉี' อาศัยอยู่ในกรง ซึ่งเขาเพิ่งซื้อมาเมื่อสองเดือนก่อน

หนูตัวนี้ยังไม่ได้ฝึกการถ่ายอุจจาระในถังทราย ซึ่งทำให้มู่โหยวค่อนข้างปวดหัว

ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นเป้าหมายคาถาแรกของมู่โหยว หนูแฮมสเตอร์ตัวน้อยผู้น่าสงสาร ซึ่งไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเผชิญกับอะไร ยังคงดมกลิ่นไปรอบๆ กรงเพื่อหาอาหาร

มู่โหยวยกกรงขึ้นไปที่ห้องโถงแล้วหยิบไม้กายสิทธิ์ในกระเป๋าของเขา

แต่หลังจากคิดได้แล้ว เขาก็ไปที่แผนกต้อนรับอีกครั้งเพื่อหากล้อง และตั้งกล้องในทิศทางที่หันหน้าไปทางกรง

เขาไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเวทมนตร์ถูกใช้ ยังไงก็ถ่ายไว้ก่อนแล้วกัน

หลังจากจัดตำแหน่งกล้องและปรับมุมแล้ว มู่โหย่วก็หยิบไม้กายสิทธิ์ออกมา หายใจลึกๆ สองที ชี้ปลายไม้กายสิทธิ์ไปที่หนูแฮมสเตอร์ และท่องคาถาเบา ๆ

"วาร่า... ดูป... ม็อก... โอเรส!"

หกพยางค์นี้ทำให้เขาปากสั่น มู่โหยวใช้เวลาห้าวินาทีจึงจะพูดจบ

หลังจากการท่องคาถา มีแสงจางๆ โผล่ออกมาจากปลายไม้กายสิทธิ์ และพุ่งไปที่หัวของแฮมสเตอร์อย่างรวดเร็ว

จู่ๆ หนูแฮมสเตอร์ในกรงก็หยุดการเคลื่อนไหวกระทันหัน ราวกับว่ามันถูกไฟฟ้าช็อต และแน่นิ่งอยู่กับที่

หลังจากผ่านไปสองหรือสามวินาที มันก็กลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง เงยหน้าเล็กๆ ของมันขึ้นเพื่อมองดูมู่โหย่ว และทันใดนั้น ใบหน้าเล็กๆ ของมันก็มีลักษณะคล้ายใบหน้าของมนุษย์ขึ้นมา

“กินไหม?” มู่โหยวถือถุงถั่วไว้ในมือแล้วพยายามถาม

เป็นผลให้หนูแฮมสเตอร์พยักหน้าซ้ำๆ!

“ฟ่อ…”

มู่โหยวเองก็ตกใจ ผลลัพธ์ที่ออกมาเกินที่คาดไว้? เพียงแค่โบกไม้กายสิทธิ์ไปที่มัน มันก็สามารถเข้าใจคำพูดของมนุษย์ได้แล้ว!

“ทำตามที่ฉันสั่งสิ แล้วฉันจะให้แกกิน”

"จี๊ดๆ!"

หนูแฮมสเตอร์ตัวน้อยพยักหน้าหงึกหงัก

จากนั้นมู่โหยวก็เริ่มออกคำสั่งทั่วไปต่างๆ ให้กับหนูแฮมสเตอร์

หนูแฮมสเตอร์ตัวน้อยสามารถเข้าใจคำสั่งได้ส่วนใหญ่ และหากพวกมันไม่เข้าใจ หลังจากที่มู่โหยวแสดงท่าทางให้มันดู มันก็เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว

สิบนาทีต่อมา

"นอนลง...ลงไป...กลิ้งตัว...วิดพื้น...ไปเล่นลูกกลิ้งสักสองสามรอบ...ทำตัวน่ารักๆ..."

เมื่อใดก็ตามที่มู่โหยวออกคำสั่ง หนูแฮมสเตอร์ก็จะทำตามทันที มันจะไปรอที่ด้านข้างของกรง และจะไม่กินอาหารจนกว่าจะได้รับคำสั่ง

แม้แต่วิดพื้นหรือตีลังกาซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับแฮมสเตอร์ แต่มันยังทำได้ด้วยท่าทางที่งุ่นง่าน

น่าทึ่งมาก ใช่ไหม?

หากจะบอกว่าหนูแฮมสเตอร์ตัวนี้กลายเป็น "ผี" ก็คงไม่เกินจริงไปนัก!

ต่อมามู่โหยวก็ลองใช้คาถากับดักอีกครั้ง

เขาพบกระดานไม้ที่ถูกทิ้งอยู่ในห้องเก็บของ วางมันไว้ในที่โล่ง และร่ายมนตร์บนกระดาน

โบกไม้กายสิทธิ์

วินาทีต่อมา กระดานไม้ก็กลายเป็นกับดักทรงกลมแบนซึ่งมีสีที่กลมกลืนกับพื้นโดยรอบ ถ้าไม่สังเกตให้ดีก็บอกไม่ได้ว่ามีบางอย่างวางอยู่ที่นี่

กับดักพร้อมแล้ว มู่โหย่วปล่อย ซือฉี ออกจากกรงแล้วสั่งให้มันเดินผ่านไป

หนูแฮมสเตอร์ตัวน้อยเดินไปข้างกับดักอย่างว่าง่าย แต่ก็ก้าวไปบนขอบเขตของกับดัก...

“แคร็ก!”

กับดักปิดทันทีและกลายเป็นกรงไม้แกะสลักทรงกลมเพื่อกักแฮมสเตอร์ไว้อย่างแน่นหนา

หนูแฮมสเตอร์ตัวน้อยตกใจและรีบตบกรงด้วยอุ้งเท้าหน้า มันมองมู่โหยวด้วยตาเล็กๆ สองข้าง ราวกับกำลังขอความช่วยเหลือ ปากของมันส่งเสียงแหลมไม่หยุด และน้ำตาก็แทบจะไหลออกมา

มู่โหยวรีบไปช่วยมันออกมา

ปรากฎว่ากรงนั้นแข็งแกร่งกว่าที่เขาจินตนาการไว้มาก และเขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการทำลายกรงนี้

หนูแฮมสเตอร์ตัวน้อยคลานออกมาจากรอยแตกโดยเท้าทั้งสี่ขา และเดินไปรอบๆ บนมือของมู่โหยว มันรู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก พร้อมกับมองดูเขาาด้วยความขุ่นเคือง เป็นการแสดงออกที่เหมือนมนุษย์ ทำให้เห็นอารมณ์ภายในของมันอย่างชัดเจน : ฉันเชื่อใจคุณมาก แต่สุดท้ายคุณก็ปล่อยให้ฉันเหยียบลงบนกับดักเหรอ?

ทันใดนั้น มันใช้สองขาหน้าของมันกอดอก และหันหน้าหนีด้วยความโกรธ มู่โหยวยังพยายามป้อนถั่วถุงเล็กๆ ให้มัน และสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก จนสุดท้ายมันก็ใจอ่อนและหายโกรธเขาในที่สุด

จนถึงตอนนี้ การทดลองเวทมนตร์ทั้งสองเสร็จสิ้นแล้ว และผลลัพธ์ก็น่าเหลือเชื่อ

เมื่อส่งหนูแฮมสเตอร์กลับเข้าไปในกรง มู่โหย่วก็เดินไปถอดกล้องและตรวจดูรีเพลย์

ผลที่ได้คือ ทั้งไม้กายสิทธิ์และแสงวิเศษและเงาถูกถ่ายภาพได้ตามปกติ

“ดังนั้น คนทั่วไปไม่ควรเห็นเรื่องเหนือธรรมชาติแบบนี้?” มู่โหย่วคิด

หลังจากดูวิดีโอหนูแฮมสเตอร์แสนน่ารักที่บันทึกไว้ จู่ๆ เขาก็ตระหนักว่านี่อาจเป็นโอกาสทอง

หลังจากคิดอยู่พักหนึ่ง มู่โหย่วก็ดึงวิดีโอลงคอมพิวเตอร์ ตัดแยกมัน และลบรูปภาพที่ดูน่าเหลือเชื่อเหล่านั้นออกทั้งหมด เก็บเฉพาะรูปภาพของหนูแฮมสเตอร์ตัวน้อยทีทำตามคำสั่งต่าง ๆ ในกรง

จากนั้นเขาก็สร้างวิดีโอของหนูแฮมสเตอร์ที่ได้จากการบันทึกไว้ก่อนหน้านี้ ตัดคลิปบางส่วนลงไป และในที่สุดก็ทำวิดีโอความยาว 30 วินาทีขึ้นมา

ครึ่งแรกของวิดีโอ แสดงให้เห็นว่าหนูแฮมสเตอร์ตัวนี้ยังไม่ได้รับการฝึกฝน มันฟังคำสั่งทุกรูปแบบไม่เข้าใจ และการเพิกเฉยต่อเจ้าของ

ครึ่งหลังของวิดีโอเป็นภาพหลังการฝึกฝนสัตว์เลี้ยงเสร็จสิ้น

การเปรียบเทียบทั้งสองช่วงของคลิปนี้ เป็นที่น่าประทับใจ!

ทั้งคำบรรยาย เอฟเฟกต์พิเศษ และเสียงเอฟเฟกต์ของคลิปวีดิโอนี้ มู่โหยวจึงตั้งชื่อว่า 'วิธีฝึกหนูแฮมสเตอร์ให้เชื่องในสิบนาที' จากนั้นจึงโพสต์วิดีโอลงในบัญชี Bilibili ของเขา

ช่องของเขาไม่ใช่มีชื่อเสียงในเว็ปไซต์ Bilibili แต่หลังจากผ่านไปหลายปี เขามีผู้ติดตามสะสมมากกว่า 20,000 คนแล้ว เมื่อพิจารณาถึงคุณภาพของวิดีโอนี้ มู่โหยวประเมินว่ายอดผู้เข้าชมในครั้งนี้จะสูงขึ้นอย่างแน่นอน