บทที่ 11 วิกฤตและโอกาส
บทที่ 11 วิกฤตและโอกาส
ความกลัว....เป็นความกลัวที่ฝังรากลึกลงไปในใจ!
แม้แต่ซาวด์เวฟ ผู้นำกองทหารคาสเซ็ตต์ก็ยังระวังสตาร์สครีมเป็นอย่างมากและก่อนที่จะส่งเฟรนซี่ไปทำภารกิจกับบาริเคด ซาวด์เวฟได้เตือนเขาหลายครั้งว่าอย่าเข้าใกล้สตาร์สครีม
สตาร์สครีมไม่เพียงแต่มีพลังที่แข็งแกร่ง เขายังดุร้ายและยากที่จะล่วงรู้ความคิดได้ เขาเป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของกองทัพดิเซปติคอนอีก
หากเขาต้องการ เขาสามารถเจาะระบบรักษาความปลอดภัยของแม่แบบสายลับได้อย่างง่ายดาย และเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดในชิปหน่วยความจำของซุนเฉิง
ซุนเฉิงยิ่งรู้สึกวิตกกังวลมากขึ้น เพราะเขาคิดว่าตัวตนของเขาในฐานะนักเดินทางข้ามโลกกำลังจะถูกเปิดเผย อีกทั้งสตาร์สครีมก็ยังอยู่ข้างๆ เขา ไม่มีทางเลยที่จะหนีพ้น ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่ยืนนิ่งและเฝ้าดูสตาร์สครีมอย่างระวังตัว
สตาร์สครีมมองลงมาที่เขาด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า เจตนาเลวร้ายในดวงตาอิเล็กทรอนิกส์สีแดงของเขายิ่งชัดเจนขึ้น
เขายังคงยิ้มให้ซุนเฉิงและกล่าวว่า "ดูเหมือนว่าเพื่อนตัวน้อยของเราจะไม่เขื่อใจข้าสินะ..."
บาริเคดค่อยๆ เดินเข้ามาและโค้งคำนับให้เขาด้วยความเคารพ "นั่นเป็นเพราะเขายังไม่รู้ถึงความยิ่งใหญ่ของท่านสตาร์สครีมต่างหากครับ!"
หลังจากพูดจบ บาริเคดก็หันหน้าไปมองซุนเฉิง ใบหน้าที่ดุร้ายของเขาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มเช่นกัน
“เจ้าชั้นต่ำ จงมอบความภักดีต่อผู้นําที่แสนยิ่งใหญ่เสีย!”
"ไม่ ไม่ ไม่ บาริเคด เจ้าไม่จำเป็นต้องทำให้เพื่อนตัวน้อยของเราหวาดกลัวแบบนั้นเลย..." สตาร์สครีมแสยะยิ้มและเดินไปหาซุนเฉิง แต่ก็ได้มีวิศวกรที่ถืออุปกรณ์ดันวิ่งชนขาของเขา แล้วล้มลงกระแทกพื้นพร้อมกับเครื่องจักรที่เขาถืออยู่ในมือ
สตาร์สครีมมองลงไปที่วิศวกรตรงหน้า รอยยิ้มบนใบหน้าของเขายังคงไม่หายไป จากนั้นเขาก็ก้มลงและยกอีกฝ่ายขึ้น ก่อนจะฉีกร่างเขาออกเป็นสองท่อนแล้วโยนเขาไปที่พื้นที่โล่งข้างๆ อย่างตั้งใจจนส่งเสียงดังกึกก้อง
เสียงดังนั้นทำให้ร่างกายของซุนเฉิงสั่นเล็กน้อย เขายังไม่กล้าขยับ เขายืนอยู่ที่นั่นอย่างกระวนกระวายใจและมองดูสตาร์สครีมค่อยๆ เดินมาหาเขา จากนั้นเขาก็ก้มลงให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้ศีรษะแนบตัวมากที่สุด ทว่าสตาร์สครีมยังคงเผยรอยยิ้มที่ดูเหี้ยมและกล่าวช้าๆ ออกมาว่า "ข้าต้องการให้เจ้าทําสองสิ่งให้ข้า..."
ทันทีที่เขาพูดจบ ซุนเฉิงก็รู้สึกเหมือนหัวใจของเขาแทบหลุดออกมา แต่ดูเหมือนอย่างน้อยตอนนี้สตาร์สครีมต้องการให้เขาทำอะไรบางอย่าง อีกฝ่ายคงจะไม่ทำร้ายเขาก่อนที่เขาจะทำงานสำเร็จแน่
ทว่าการที่อีกฝ่ายต้องการให้เขาทำอะไรบางอย่าง มันยิ่งทำให้ซุนเฉิงกังวลใจมากยิ่งขึ้น ดวงตาของสตาร์สครีมจับจ้องไปที่เขา เห็นได้ชัดว่ากำลังรอคำตอบอยู่
เพราะมันเกี่ยวกับความเป็นความตายของเขาเอง ซุนเฉิงจึงไม่รอช้าและรีบตอบว่า "ท่านสตาร์สครีม ข้ารู้สึกเป็นเกียรติที่จะได้รับใช้ท่าน!"
แม้ว่าเขาจะพูดเช่นนั้น แต่เขาก็ตัดสินใจที่จะหาทางกลับไปยังโลกเดิมทันทีที่เขาออกจากฐานทัพบ้านี้ ที่นี่มันอันตรายเกินไป!
ด้วยความที่เป็นสุดยอดนักวางแผน สตาร์สครีมจึงมองขาดถึงสิ่งที่แฝงอยู่ในคำตอบของซุนเฉิง อีกฝ่ายหยุดยิ้มทันทีและเผยดวงตาอันแสนเย็นชาออกมา
"จงอย่าคิดเล่นตลกและหลอกข้า ข้าสามารถฆ่าเจ้าได้ กระทั่งซาวด์เวฟก็ไม่มีทางกล้าขัดข้า!” เขาเตือนซุนเฉิงด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่มีเจตนาฆ่าชัดเจน
ร่างกายของซุนเฉิงสั่นสะท้าน เพราะเขารู้ว่าคําพูดเหล่านั้นเป็นจริง เขารู้ดีว่าด้วยพลังการต่อสู้ของซาวด์เวฟและความแข็งแกร่งของกองทัพคาสเซ็ตต์ เขาไม่มีโอกาสต่อกรกับสตาร์สครีมเลย กระทั่งสัตว์เลี้ยงที่ซื่อสัตย์และเพื่อนสนิทของเขาอย่างเลเซอร์บีคส์ก็คงไม่สามารถปกป้องเขาจากความโกรธเกรี้ยวของสตาร์สครีมได้
เว้นแต่ช็อคเวฟจะมายังโลกหรือผู้นําที่เขารับใช้อย่างเมกะตรอนได้กลับมา
เมื่อรู้ถึงสถานการณ์อันเลวร้ายแล้ว ซุนเฉิงจึงล้มเลิกความคิดของเขาและทำตามบาริเคดทันที โดยโค้งคำนับให้สตาร์สครีมด้วยความเคารพ และตะโกนว่าตนเองเป็นสายลับดิเซปติคอนที่มีนามว่า เฟรนซี่ พร้อมที่จะรับใช้ทุกเมื่อ
"ยอดเยี่ยมมาก!" ดวงตาของสตาร์สครีมเป็นประกาย และทันใดนั้นเขาก็ถามว่า "บอกข้าเกี่ยวกับภารกิจของซาวด์เวฟที่ให้มายังโลกเดี๋ยวนี้!"
ร่างกายของซุนเฉิงสั่น ดวงตาสีฟ้าของเขาเป็นประกาย ถึงเขาจะรู้ว่าสตาร์สครีมจะไม่หลงกลความจงรักภักดีที่มีเพียงคำพูดไม่กี่คำ แต่เขาก็ไม่ได้คาดคิดเลยว่าอีกฝ่ายจะเด็ดขาดถึงขั้นนี้ และไม่ให้โอกาสเขารายงานต่อซาวด์เวฟด้วยซ้ำ
เมื่อสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวของบาริเคดที่อยู่ข้างๆ เขาและรู้ถึงความอันตราย ซุนเฉิงจึงตัดสินใจที่จะไม่ซ่อนอะไรและเปิดเผยเรื่องราวซาวด์เวฟออกไป
"ท่านซาวด์เวฟส่งข้าไปตามบาริเคดมายังโลกเพื่อทำสองภารกิจ ประการแรกเพื่อช่วยบาริเคดในการค้นหาข่าวและเบาะแสเกี่ยวกับท่านเมกะตรอนและออลสปาร์ค ประการที่สองเพื่อตรวจสอบว่าทำไมท่านสตาร์สครีมถึงออกจากดาวไซเบอร์ตรอนและมาที่โลกเมื่อหลายสิบปีก่อน!"
ใบหน้าของสตาร์สครีมเผยรอยยิ้มสดใสขณะที่ดวงตาสีแดงโลหิตของเขาจ้องมองที่ซุนเฉิง "แบล็คเอาท์มาถึงระบบสุริยะเมื่อใดกัน? ช็อคเวฟก็มาด้วยเหรอ?"
แบล็คเอาท์เป็นหนึ่งในนักรบชั้นยอดของกองทัพดิเซปติคอน เขาเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนเมกะตรอนอย่างแข็งขัน ทั้งยังมีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างแย่กับสตาร์สครีมและบาริเคดด้วย
อย่างไรก็ตาม ซุนเฉิงรู้สึกว่าสิ่งที่สตาร์สครีมต้องการทราบอาจไม่เกี่ยวกับแบล็คเอาท์ แต่คงเป็นเรื่องของช็อคเวฟมากกว่า
เห็นได้ชัดว่าการหายตัวไปของท่านผู้นำเมกะตรอนได้ทำให้เกิดกลุ่มแยกย่อยและการแย่งชิงอำนาจภายในกองทัพดิเซปติคอน ทุกคนในกองทัพต่างคุ้นเคยกับการปกครองแบบเผด็จการของเมกะตรอน ทว่าพอไม่มีผู้นำอยู่ จึงเกิดสองกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดขึ้น นั่นก็คือกลุ่มที่มีผู้นำเป็นสตาร์สครีมและช็อคเวฟ
บุคคลทั้งสองนี้เป็นมือขวาของเมกะตรอน อดีตเคยได้ก่อกบฏหลายครั้งตั้งแต่ก่อนที่เมกะตรอนจะหายไป ความทะเยอทะยานคงไม่ต้องอธิบายว่ามีมากเพียงใด หลายทศวรรษที่แล้วจู่ๆ เขาก็ออกจากดาวเคราะห์ไซเบอร์ตรอนและมาที่ระบบสุริยะเพื่อสร้างฐานบนดวงจันทร์ ถ้าอีกฝ่ายมาเพื่อตามหาเมกะตรอนจริงๆ ตัวสตาร์สครีมเองก็คงไม่เชื่อเรื่องนี้
ช็อคเวฟไม่อาจฝักฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ เนื่องจากเขาเป็นผู้บัญชาการชั่วคราวของกองทัพดิเซปติคอน ทางแบล็คเอาท์และซาวด์เวฟก็เช่นเดียวกัน พวกเขาเป็นผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของเมกะทรอน ทำให้ช็อคเวฟเป็นบุคคลที่สตาร์สครีมหวาดกลัวมากที่สุดหลังจากเมกะตรอนหายไป
คำถามสองข้อของสตาร์สครีมทำให้ซุนเฉิงอึ้งไปเลย แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะใช้แบล็คเอาท์เพื่อข่มขู่บาริเคด แต่เขาก็ไม่รู้จริงๆ หรอกว่าแบล็คเอาท์จะมาถึงระบบสุริยะเมื่อใด เขาเพียงรู้จากฐานข้อมูลความจำของเฟรนซี่ ที่ซาวด์เวฟได้บอกว่าแบล็คเอาท์จะมาถึงในไม่ช้านี้
ส่วนเรื่องของช็อคเวฟ เขาเองก็ไม่รู้อะไรทั้งนั้น รู้เพียงแค่เรื่องรูปร่างหน้าตาของอีกฝ่าย
หลังจากจัดระเบียบความคิดของเขาแล้ว ซุนเฉิงก็ตอบว่า "ท่านแบล็คเอาท์อาจจะมาถึงระบบสุริยะเร็วๆ นี้ ส่วนท่านช็อคเวฟนั้น ท่านซาวด์เวฟไม่เคยเปิดเผยข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับเรื่องของเขาเลยครับ!"
ความหมายที่เขาตอบไปคือ "ซาวด์เวฟ เจ้านายของข้าอาจจะรู้ แต่เขาไม่ได้บอกข้า"
"เป็นเช่นนั้นงั้นเหรอ?"
เห็นได้ชัดว่าสตาร์สครีมเข้าใจความหมายเบื้องหลังคำพูดของเขาทันที เขาเองก็ไม่เคยคาดหวังอยู่แล้วว่าสายลับดิเซปติคอนระดับต่ำอย่างซุนเฉิงจะมีข้อมูลลับเช่นนี้
ดังนั้นเขาจึงเผยความรู้สึกพอใจบนใบหน้าของตน คลำหาผลึกสีเทาขนาดวอลนัทจากใต้ซี่โครงของเขาแล้วโยนมันไปที่เท้าของซุนเฉิง
"คำตอบของเจ้าเป็นที่น่าพอใจนัก ข้าให้รางวัลกับเจ้าด้วยแม่แบบหน่วยสอดแนมระดับ 2 และหลังจากทำภารกิจเสร็จแล้ว ข้าจะมอบสปาร์คให้กับเจ้าเป็นรางวัล!"
“ว่ายังไงนะครับ?”
[แกน] ของซุนเฉิงกระโดดโลดเต้นด้วยความสับสน จนเขาเผลอโพล่งออกไปเพราะเขาคิดว่าตนอาจได้ยินผิดไป
แต่ในขณะที่เขาก้มลงหยิบผลึกสีเทาที่สตาร์สครีมขว้างให้เขา เขาก็รู้สึกถึงคลื่นความร้อนที่ไหลผ่านทั่วร่างกายเขาทันที จิตใจของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ราวกับว่ามีเสียงเตือนให้เขาใช้คริสตัลสีเทานี้อยู่ตลอดเวลา สิ่งนี้คงเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้เขาพัฒนาไปสู่สิ่งมีชีวิตจักรกลที่แข็งแกร่งขึ้นไปอีกระดับในชั่วพริบตา
ซุนเฉิงเมื่อรับรู้ว่ามันคืออะไร ในใจของเขาก็เต็มไปด้วยความปิติยินดี