บทที่ 1 ฉันกลายเป็นดีเซปติคอน..
[*เตือนก่อน นิยายเรื่องนี้แต่งไม่จบ เหมือนคนเขียนหายไปจบตอนที่ 992 ผมก็เพิ่งมารู้ทีหลังครับ ต้องขออภัยจริงๆ*]
บทที่ 1 ฉันกลายเป็นดีเซปติคอน..
ในช่วงดึกหลังจากพายุฝนฟ้าคะนองอันน่าสะพรึงกลัวได้เกิดขึ้น ชั่วขณะหนึ่ง รถตำรวจฟอร์ดมัสแตงสีดำสลับขาวที่มีหมายเลข 643 พิมพ์อยู่บนตัวรถก็ค่อยๆ ขับลึกเข้าไปในโรงงานร้างแห่งหนึ่งในเขตชานเมืองของแฟร์แฟกซ์ซิตี้
ไฟหน้ารถส่องสว่างทั่วบริเวณ!
หากมีใครบังเอิญขับรถผ่านไปผ่านมาในเวลานี้ พวกเขาคงต้องหวาดกลัวอย่างแน่นอน เพราะถ้าพวกเขามองเข้าไปในรถ ไม่ว่าจะเป็นที่นั่งคนขับทางด้านซ้ายหรือที่นั่งผู้โดยสารทางด้านขวา ก็ไม่พบสิ่งมีชีวิตสักชีวิตเดียวเลยภายในรถ
"อะไรวะเนี่ย.. เมื่อกี้แกนกลางแม่แบบหลักได้รับความเสียหายจากสายฟ้าฟาดหรือเปล่า? " ซุนเฉิงค่อยๆ ฟื้นคืนสติ หัวของเขาสั่นอย่างรุนแรงราวกับแท่งเหล็กที่ไหม้เกรียมถูกแทงลงไปอย่างแรง เจ็บปวด คลื่นไส้ และเวียนหัวเป็นอย่างมาก จนทำให้เขาถึงกับจะตายได้ในทันที
ที่แย่กว่านั้นก็คือ ตอนนี้เขากำลังมีอาการประสาทหลอน
"...ข้าชื่อเฟรนซี่ สิ่งมีชีวิตจักรกลจากดาวเคราะห์ไซเบอร์ตรอน.."
"ไม่ ไม่.. ฉันคือซุนเฉิง นักศึกษาวิทยาลัยที่ล้มเหลวจากการเรียน สลบไปหลังจากดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปต่างหาก..."
ความทรงจำและจิตสำนึกที่ไม่คุ้นเคยจำนวนมากประทะกันในใจของเขา ทำให้เขาทรมานมากยิ่งขึ้น
โชคดีที่อาการแบบนี้อยู่ได้ไม่นานก็หายไป มันมาพร้อมกับความรู้สึกเย็นเหยียบอย่างฉับพลันและไม่อาจอธิบายได้ แต่ในท้ายที่สุด ซุนเฉิงก็สามารถซึมซับข้อมูลจิตสำนึกของรูปแบบชีวิตจักรกลที่เรียกว่าเฟรนซี่ได้อย่างสบาย
ใช่แล้วมันคือจักรกล ไม่ใช่มนุษย์!
เมื่อเขาประมวลผลข้อมูลที่มากมายในหัวของเขาจนหมดแล้ว ซุนเฉิงก็ฟื้นคืนสติอีกครั้ง เขาก้มหัวลง ใบหน้าของเขาประดับด้วยเลนส์รับภาพคู่หนึ่งที่ครอบคลุมระยะอันน่าประหลาดใจเกือบ 300 องศา แม้จะอยู่ในความมืดของตอนกลางคืน เขาก็สามารถมองเห็นอนุภาคเล็กๆ บนพื้นดินที่ห่างออกไปทางซ้ายกว่าสิบเมตรได้อย่างชัดเจน ด้วยดวงตาที่คล้ายกับกล้องส่องความละเอียดสูง เขาจ้องมองไปที่โลหะแขนเรียวยาวของตน
"นี่ไม่ใช่ความฝันใช่ไหม นี่ฉันแปลงร่างเป็นหุ่นยนต์แล้วเหรอเนี่ย นี่.."
ซุนเฉิงอดสงสัยไม่ได้!
ร่างกายจักรกลอันเป็นเอกลัษณ์นี้ดูแล้วไม่ใช่ของปลอมเลย ข้อมูลมากมายหลั่งไหลเข้ามาในหัวของเขา ซึ่งมันมีต้นกำเนิดมาจากการจัดเก็บและการเข้ารหัสไฟล์ ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยความจำการใช้พลังงานของตัวเครื่อง การสึกหรอและชิ้นส่วนต่างๆ ของมันและแม้แต่ความสามารถของตัวกลไกในการแปลงได้รวมเข้าด้วยกัน ข้อมูลทั้งหมดนี้ปรากฏอยู่ในหัวของเขาหรือในแกนกลางแม่แบบหลัก ด้วยความถี่หนึ่งครั้งต่อวินาที
[เฟรนซี่:หุ่นยนต์สายลับ]
[ฝ่าย:ดิเซ็ปติคอน(กองทัพคาสเซ็ตต์)]
[พันธมิตร:บาริเคด]
[ความสูง:2.6 ฟุต น้ำหนัก:27.51 ปอนด์]
[แกนหลัก:แม่แบบสายลับเลเวล 1]
[สถานะ:ดี!]
[ปฏิบัติภารกิจที่ 1:ไปยังโลกและค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับผู้นำ'เมกะทรอน' และ 'ออลสปาร์ค']
[ปฏิบัติภารกิจที่2 (อย่างลับๆ) : ติดต่อบาริเคดและตรวจสอบข้อมูลเบื้องหลังของการจากไปอย่างกะทันหันของรองผู้บัญชาการสตาร์สครีมที่จากไซเบอร์ตรอนไปยังระบบสุริยะเมื่อหลาย 10 ปีก่อน ]
...
ด้วยความสับสนและตื่นตระหนกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเขา ซุนเฉิงก็รู้สึกหัวหมุนยิ่ง ก่อนที่เขาจะได้เข้าใจมัน ดวงตากลไกอันน่าทึ่งของเขาได้มองสภาพแวดล้อมโดยรอบของเขาพร้อมกับส่งตรงไปยังแม่แบบหลักภายในสมองของเขา
"เดี๋ยวก่อน.. รถตำรวจที่ฉันนั่งอยู่ก็เป็นหุ่นยนต์ด้วยหรอ? ถ้าอย่างนั้นเขาคงเป็นคู่หูของฉันคนตอนนี้ บาริเคดเหรอ?"
พอความคิดนี้ผุดขึ้นมาในใจของเขา ซุนเฉิงก็ตระหนักได้ถึงความผิดปกติของตัวเองได้อย่างรวดเร็ว!
"ให้ตายเถอะ.. กองทัพคาสเซ็ตต์มีแต่พวกไร้ค่า.."
เสียงคำรามอันเกรี้ยวกราดดังขึ้น ซุนเฉิงยังไม่ได้ทำอะไรเลยสักนิดเดียว ทว่าเขากลับรู้สึกถึงความรู้สึกอันเต็มไปด้วยน้ำหนัก มือกลไกอันมืดมิดคู่นั้นจับตัวเขาไว้แน่น "คำเตือน.. คำเตือน ระบบได้รับความเสียหายเล็กน้อย.."
แม้ว่าร่างกายจักรกลจะป้องกันไม่ให้เขารู้สึกถึงความเจ็บปวด แต่คำเตือนอย่างต่อเนื่องจากแกนแม่แบบหลักที่กระพริบอยู่ในใจของเขา ได้เกิดขึ้นพร้อมกับประกายไฟที่ปล่อยออกมาจากตัวยึดเกาะอย่างแน่นหนาของบาริเคดบนร่างกายเชิงกลของเขา บ่งบอกถึงความรุนแรงที่ซุนเฉิงได้รับ
"...ความอดทนของข้าหมดลงแล้ว.. ไอ้เศษสวะไร้ค่า.. ทีนี้บอกข้าหน่อยว่าภารกิจจะต้องให้ดำเนินต่อหรือพังไปแล้ว..."
น้ำเสียงอันแสนเย็นชาและเป็นเครื่องจักรกลของบาริเคดได้ดังขึ้น ความอันตรายผุดขึ้นในใจของซุนเฉิงก็ เขารู้สึกสิ้นหวังอย่างอธิบายไม่ได้
ในตอนนั้น ราวกับว่าเสียงหนึ่งได้ออกมาจากส่วนลึกของจิตวิญญาณของเขา มันร้องเตือนอย่างไม่หยุดหย่อน
ฉันกำลังจะตาย!
ฉันกำลังจะตายจริงๆ!
"เดี๋ยว.. ท่านบาริเคด.. ดูเหมือนว่าแม่หลักของข้าจะได้รับผลกระทบจากฟ้าผ่าเมื่อไม่นานมานี้.."
ภายใต้ความตายที่ใกล้เข้ามา ซุนเฉิงรีบตอบกลับทันทีที่เป็นไปตามสัญชาตญาณ
แม้กระทั่งเขาก็สัมผัสได้ถึงความสั่นสะเทือนและความตื่นตระหนกในน้ำเสียงของเขา
รอยยิ้มที่น่ากลัวปรากฏบนใบหน้าโลหะของบาริเคด มันดูโหดร้ายและเหี้ยมเกรียมยิ่ง
เขาดูเหมือนจะพอใจอย่างมากกับความหวาดกลัวของซุนเฉิง แต่เมื่อประกายแวววาวในดวงตาจักรกลสีน้ำเงินทั้ง 2 คู่ของเขาสั่นไหว เสียงที่เย็นชาของเขาก็ทำให้แกนแม่แบบหลักของซุนเฉิงตกใจจนแทบจะทำงานผิดปกติอีกครั้ง "โอ้? นั่นหมายความว่าข้าต้องหาผู้ช่วยคนใหม่สินะ?"
ความกลัวและความไม่พอใจทวีความรุนแรงขึ้น สะท้อนคำเตือนในจิตใต้สำนึกของเฟรนซี่ เจ้าของเดิมที่ถูกเขากลืนกินจิตใจไป
ซุนเฉิงผู้ครอบครองความทรงจำทั้งหมดของเฟรนซี่ ในที่สุดก็รู้และตระหนักได้ถึงสถานการณ์อันตรายของเขาในตอนนี้
เขา 'เฟรนซี่' เป็นรูปแบบชีวิตจักรกลฝ่ายดิเซ็ปติคอนของดาวเคราะห์ไซเบอร์ตรอน ซึ่งเป็นสมาชิกของกองทัพคาสเซ็ตต์ ภายใต้การดูแลของท่านซาวด์เวฟ
ในฐานะเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของดิเซ็ปติคอน หลังจากติดตามท่านซาวด์เวฟไปยังระบบสุริยะในมุมห่างไกลของทางช้างเผือก เขาได้รับคำสั่งให้มายังโลกโดยมีนักรบดิเซ็ปติคอนชื่อ 'บาริเคด' ที่อยู่ตรงหน้าเขาเพื่อให้ไปค้นหาดิเซ็ปติคอนที่หายไป ท่านผู้นำเมกะทรอน และสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์ที่เรียกว่า ออลสปาร์ค หน่วยสืบราชการลับแจ้งว่าพวกมันน่าจะอยู่บนโลก
นอกจากนี้ เขายังได้รับภารกิจลับจากซาวด์เวฟผู้บัญชาการของกองทัพคาสเซ็ตต์
ทว่าเห็นได้ชัดว่าบาริเคดไม่ได้ไว้วางใจเขา
เขาอยากจะหนีจากภัยคุกคามนี้ แต่น่าเสียดายที่มีเพียงเสียงอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ชัดเจนดังออกมาเท่านั้น
เพื่อตอบสนองคำเตือนถึงวิกฤต สมองของซุนเฉิงเริ่มทำงานด้วยความถี่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน "ข้า... นายท่าน ข้า... แม้ว่าอาการของข้าจะได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็ไม่ได้ขัดขวางภารกิจที่กำลังจะมาถึง..."
เท่าที่เขารู้ แม้ว่าดิเซ็ปติคอนจะเป็นสิ่งมีชีวิตประเภทจักรกล แต่ระบบลำดับชั้นที่เข้มงวดของพวกมันกลับกดขี่ยิ่งกว่ายุคศักดินาที่มนุษย์ก้าวข้ามมาเป็นเวลานาน
ดิเซ็ปติคอนที่มีอันดับสูงกว่าจะกดขี่ดิเซ็ปติคอนที่มีระดับต่ำกว่า ซึ่งเป็นหนึ่งในกฎที่ฝังลึกอยู่ในการดำรงอยู่ของพวกมัน ซึ่งก็อยู่ในแกนกลาง
นอกจากนี้ ยังหมายความว่าซุนเฉิงผู้ควบคุมสิ่งมีชีวิตสายลับจักรกลที่ชื่อเฟรนซี่ไม่สามารถต่อต้านใดๆ ได้เลยเมื่อต้องเผชิญหน้ากับบาริเคด ผู้ซึ่งมีระดับที่สูงกว่า
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจมากอย่างไม่ต้องสงสัย
"โอ้? อย่างนั้นเหรอ? "
เมื่อเห็นบาริเคดเยาะเย้ยและเผยรอยยิ้มให้เห็นฟันโลหะผสมเคี้ยวหยักที่ดุร้ายเต็มปาก บีบมือของมันให้แน่นขึ้นด้วยแรงอีกเล็กน้อย ดูเหมือนว่ามันไม่ได้ตั้งใจที่จะปล่อยเขาออกไปง่ายๆ เลย
หัวใจของซุนเฉิงบีบรัด และเขากำลังจะขอความเมตตา ทันใดนั้นข้อมูลส่วนหนึ่งก็แวบขึ้นมาในหัวของเขา เขาจึงจะตะโกนออกไปว่า"ท่านบาริเคด ฆ่าข้าเถอะ เพราะเจ้าหน้าที่ข่าวกรองคนต่อไปที่ส่งมาช่วยท่านจะมาไม่ถึงโลกหรอก ใครจะรู้ว่านานแค่ไหน ข้าได้ยินมาว่าท่านแบล็คเอาต์กำลังจะไปถึงระบบสุริยะแล้ว"
ทันทีที่คำพูดหลุดออกจากปากในตอนแรก เขาก็รู้สึกตัวถูกบีบกระชับขึ้นอย่างกะทันหันทั่วร่างกาย คิดว่าอีกฝ่ายคงใช้เพิ่มแรงบีบขึ้นอีก แต่ครู่ต่อมา เขาก็ถูกโยนออกไปอย่างแรงชนเข้ากับเสาหินในโรงงานร้างก่อน จากนั้นจึงร่อนลงบนพื้นสกปรกพร้อมกับเสียงที่ดัง "ตู๊ม"
"ฮึ่ม... "
เสียงที่พ่นออกมาอย่างเย็นชาของบาริเคดได้ดังขึ้น เขาจ้องมองมาอย่างน่ากลัวอยู่พักหนึ่ง จากนั้นจึงแปลงกลับเป็นรถตำรวจฟอร์ดมัสแตงสีดำสลับขาวแบบดั้งเดิม พร้อมเสียงจักรกลที่ดังออกมา "ถ้าอย่างนั้นก็ขึ้นรถมา"
กลไกของดิเซ็ปติคอนทำจากเมมโมรีเมทัล ดังนั้นอาการบาดเจ็บที่ไม่ร้ายแรงของซุนเฉิงจึงหายได้เองภายในเวลาไม่นาน ดังนั้นแม้ว่าร่างกายเชิงกลของเขาจะเสียหาย แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนไหวของเขา
อย่างไรก็ตาม ประสบการณ์การมีชีวิตของเขาที่ต้องอยู่ในมือของคนอื่นในตอนนี้ มันทำให้เขารู้สึกอัดอัดและโกรธมาก ไม่มีทางที่เขาจะทำใจอยู่กับมันได้แน่
เขาเข้าไปนั่งในรถตรงที่นั่งผู้โดยสารอย่างเงียบๆ ซุนเฉิงก้มหัวลง แสงสีฟ้าในดวงตาอิเล็กทรอนิกส์ของเขาก็กะพริบไม่หยุด ในขณะที่เขาเริ่มจัดระเบียบความคิดของเขา
เมื่อสักครู่นี้ ถ้าเขาไม่ได้ดูดซับความทรงจำของเฟรนซี่ทั้งหมดได้ทันท่วงที บาริเคดคู่หูคนปัจจุบันของเขาอาจจะถือโอกาสนี้ฆ่าเขาได้
ซุนเฉิงรู้แล้วว่าสิ่งนี้เป็นความจจริง ในความทรงจำของเฟรนซี่ อีกฝ่ายเป็นที่รู้จักในนามนักรบดิเซ็ปติคอนที่เจ้าเล่ห์และดุร้าย เขาพร้อมจะฆ่าดิเซ็ปติคอนระดับต่ำอย่างซุนเฉิงได้อย่างง่ายดายโดยไม่ลังเล ต่อให้ผู้นำของกองทัพคาสเซ็ตต์อย่างซาวด์เวฟก็ไม่กล้าเข้ามาแทรกแซงบาริเคด
โชคดีที่คราวนี้พวกเขาถูกส่งมายังโลกเพื่อทำภารกิจ และบาริเคดมีความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับนักรับดิเซ็ปติคอนอีกคนที่ชื่อแบล็คเอาต์ มิฉะนั้นซุนเฉิงคงจะกลายเป็นนักรบที่โชคร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์แล้ว
แม้ว่าในมุมของเขา เขาจะไม่สามารถอธิบายได้เลยว่าเขาอพยพมาสู่โลกใหม่และกลายร่างเป็นชีวิตจักรกลได้ยังไง แต่ดูเหมือนมันจะเป็นโชคอันเลวร้ายมากกว่าดี
ถูกต้องแล้ว ซุนเฉิงรู้ว่าตัวเองได้เข้ามาสิงร่างหรือมาเกิดใหม่
ขณะจัดเรียงข้อมูลหน่อยความจำของ 'เฟรนซี่' เขาก็รู้ว่าเขายังคงอยู่บนโลก แต่ตำแหน่งของเขาเปลี่ยนจากบ้านเกิดของเขาในจีนเป็นแฟร์แฟ็กซ์ซิตี้ในรัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา
หากเป็นเพียงการเปลี่ยนสถานที่ง่ายๆ ซุนเฉิงคงไม่รู้สึกท้อแท้ขนาดนี้
แต่จากข้อมูลความทรงจำของ 'เฟรนซี่' เขาค้นพบว่าในโลกนี้ แม้ว่าจะมีประเทศหนึ่งชื่อ 'จีน' แต่ระบบการเมืองของมันก็จำลองมาจากลัทธิสังคมนิยมสไตล์โซเวียต สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกปวดหัวมาก
เพราะในโลกที่เขารู้จักมาก่อน จีนและสหภาพโซเวียตพัวพันกับข้อขัดแย้งเรื่องอาณาเขตและชายแดนมานานกว่าศตวรรษ ความเป็นปฏิปักษ์ของพวกเขาหยั่งรากลึก ทำให้เขาไม่อาจจินตนาการได้เลยว่าประเทศจีนจะนำระบบของอีกฝ่ายมาใช้ด้วย
นอกจากนี้ โลกนี้เพิ่งมาถึงปีค.ศ. 2007 เท่านั้น และการดำรงอยู่ของ "สิ่งมีชีวิตจักรกล" นอกโลกที่ชาญฉลาดเป็นสิ่งที่ซุนเฉิงไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยสักนิดเดียว
เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์เหล่านี้ ก็เหลือเพียงข้อสรุปเดียวเท่านั้น