CD บทที่ 431 เทพธิดากลับมาแล้ว
จ้าวหยู่พาเหมี่ยวอิงไปยังสถานที่ที่พิเศษมาก ๆ ซึ่งเกินความคาดหมายของเหมี่ยวอิงโดยสิ้นเชิง ไม่มีใครคาดคิดว่าจ้าวหยู่จะขับรถ และหยุดก่อนทางเข้าโรงฝึกเทควันโดซึ่งโรงฝึกแห่งนี้ไม่ใช่ของใครอื่นนอกจากเหลยปิ่น รุ่นพี่ของเหมี่ยวอิงนั่นเอง
นับตั้งแต่ที่จ้าวหยู่เอาชนะเหลยปิ่นได้ มันก็ผ่านไปเกือบจะหนึ่งเดือนแล้ว!
“จ้าวหยู่ คุณ… คุณคิดจะทำอะไร?”
เมื่อลงจากรถ เหมี่ยวอิงก็ถามจ้าวหยู่ด้วยความสับสน
"เข้ามาเถอะ!" จ้าวหยู่ดึงแขนของเธอเข้าไปในโรงฝึกเทควันโด ในเวลาเดียวกันเขาพูดว่า “ตอนที่ฉันยังเด็ก เวลาฉันรู้สึกไม่สบายใจ ฉันจะหาเรื่องชกต่อย พอฉันถูกทุบตีหรือทุบตีคนอื่น ฉันก็จะรู้สึกดีขึ้น!”
“ไม่มีคนปกติที่ไหนทำอย่างนั้นหรอกน่า... เดี๋ยวนะ!” เหมี่ยวอิงเปิดตาของเธอกว้าง “คุณคงไม่คิดจะหาเรื่องเหลยปิ่นใช่ไหม? คุณยังไม่เข็ดอีกหรือไง? ก่อนหน้านี้ที่คุณเอาชนะเหลยปิ่นได้ เพราะอีกฝ่ายประมาทคุณมากเกินไป เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว คุณอยากจะลองดีอีกครั้งจริง ๆ เหรอ? หรือว่าคุณอยากจะตาย?”
“คนที่สู้ไม่ใช่ฉัน แต่เป็นคุณ!” จ้าวหยู่ยิ้ม “คุณไม่ได้บอกว่ารุ่นพี่ของคุณมักจะเป็นเงาที่คอยตามหลังคุณอยู่เสมอ ถ้าคุณเอาชนะเขาได้ คุณก็จะชนะเงานั่น!”
“คุณ…” เหมี่ยวอิงเริ่มกังวล “คุณยังสติดีอยู่หรือเปล่า? เงาที่คอยตามหลังฉัน มันเกี่ยวกับ ‘เรื่องนั้น’ ได้ยังไง? เฮ้! เดี๋ยวสิ! จ้าวหยู่!!”
แม้ว่าเหมี่ยวอิงจะต่อต้าน แต่เธอก็สู้แรงของจ้าวหยู่ไม่ไหว เธอจึงถูกลากเข้าไปในโรงฝึกเทควันโด
ข้างในพวกเขากำลังฝึกเทควันโดอยู่ ลูกศิษย์มากมายต่างคึกคักฝึกซ้อมด้วยความกระตือรือร้น เมื่อจ้าวหยู่ลากเหมี่ยวอิงเข้าไปในโรงฝึก ก็มีคนจำทั้งสองคนได้ พวกเขาหยุดการฝึกและล้อมทั้งสองไว้ทันที
จ้าวหยู่ปล่อยให้เหมี่ยวอิงยืนอยู่ในวงล้อม ขณะที่เขาเดินตรงไปตรงกลางของพื้นที่ในโรงฝึก แล้วเขาก็ตะโกนอย่างเย่อหยิ่งว่า
"เฮ้! ฟังฉันนะ รีบ ๆ เรียกไอ้หัวขวดเหลยปิ่นออกมา ก่อนที่จะพังโรงฝึกเน่า ๆ ของพวกแก!”
เหล่าลูกศิษย์ต่างก็ตกตะลึง ไม่มีใครเคยพบคนที่เย่อหยิ่งและก้าวร้าวเช่นนี้มาก่อน จากสิ่งที่พวกเขาเห็น พวกเขาคิดว่าจ้าวหยู่ต้องเป็นโรคจิตแน่นอน!
“เหลยปิ่น! รีบออกมาเร็วเข้า ปู่และย่าของคุณมาที่นี่เพื่อเยี่ยมแก!” จ้าวหยู่ตะโกน
อย่างไรก็ดี นอกจากลูกศิษย์ที่อยู่รอบตัวเขาแล้ว เหลยปิ่นก็ไม่โผล่มาให้เห็นเลย
"เฮ้!“ทันใดนั้น ลูกศิษย์โดคนหนึ่งที่สวมแว่นตากรอบดำก็ตะโกนใส่จ้าวหยู่ว่า”แกเป็นใคร!? ทำไมถึงกล้ามาก่อเรื่องวุ่นวายในโรงฝึกของเรา!? นี่แกอยากจะตายรึไง!?”
“รุ่นพี่! รุ่นพี่!” มีคนเตือนชายคนนั้นว่า “นี่คือคนที่ทำร้ายอาจารย์ เขาเป็นคนที่ทำให้อาจารย์ต้องนอนอยู่ในโรงพยาบาล!”
"อะไรนะ!?" จ้าวหยู่ตกตะลึง “มันผ่านจะเดือนแล้วนะ เขายังรักษาไม่หายอีกเหรอ? หรือว่าตอนนี้เขากลายเป็นคนพิการไปแล้ว?”
"ไอ้สารเลว!“ชายที่ใส่แว่นกรอบดำสั่นด้วยความโกรธและถ่มน้ำลาย”ในเมื่อแกมาโรงฝึกของเราด้วยตัวเอง! วันนี้ฉันต้องล้างแค้นให้อาจารย์ให้ได้! รับไปซะ!”
“จุ๊จุ๊…” จ้าวหยู่ไม่ได้สนใจเขา แต่หันกลับไปโบกมือให้เหมี่ยวอิง “ผู้กองเหมี่ยว เหลยปิ่นไม่อยู่ที่นี่ ทำไมเราไม่กลับมาอีกในอีกสองวันล่ะ? หากคุณรอไม่ไหวแล้วเราไปโรงพยาบาลเพื่อทุบตีเขาดีมั้ย?”
"ก็ได้ ๆ ฉันจะทำ!" เหมี่ยวอิงส่ายหัวแล้วพูดว่า “ถ้าฉันจะสู้กับเขา ฉันต้องสู้กับเขาอย่างยุติธรรมเท่านั้น ถ้าอีกฝ่ายไม่พร้อม ฉันจะไม่สู้เด็ดขาด!”
“ถ้าอย่างนั้น… เราควรเขียนสารท้าดวลดีไหม? แต่ลายมือฉันไม่ค่อยดี ทำไมไม่ลองส่งแบบดิจิทัลล่ะ…” จ้าวหยู่กล่าว
จ้าวหยู่และเหมี่ยวอิงพูดคุยกันโดยไม่สนใจชายแว่นตากรอบดำและลูกศิษย์เทควันโดอีกหลายคนยืนอยู่ตรงนั้น ด้วยเหตุนั้นพวกเขาจึงของขึ้น พวกเขาเข้ามาขวางทางจ้าวหยู่ด้วยความไม่พอใจ
ชายแว่นกรอบดำยังจับไหล่ของจ้าวหยู่และคำรามว่า
"แกกล้าที่จะดวลกับฉันไหม!? ถ้าไม่กล้าก็คลานสี่ขาลอดใต้หว่างขาของ…”
ก่อนที่ชายสวมแว่นตากรอบดำจะพูดจบประโยค จ้าวหยู่ก็หันกลับมาและชกไปที่ใบหน้าของเขา แว่นตาของเขาแตกเป็นชิ้น ๆ ขณะที่ชายคนนั้นกำลังเซ จ้าวหยู่คว้าโอกาสนี้จับมือของเขาและทุ่มลงพื้น
“แหม่ ๆ ไม่จำเป็นต้องสุภาพขนาดนั้นก็ได้!” จ้าวหยู่ส่ายหัวและถอนหายใจ “แค่คำนับก็เพียงพอแล้ว ทำไมคุณต้องมาอยู่ใต้เป้าของฉันด้วย? ฉันไม่มีอะไรจะให้หรอกนะ!”
"หนอย!"
"จัดการเขาซะ!"
เมื่อจ้าวหยู่เป็นฝ่ายเริ่มก่อน แล้วลูกศิษย์เทควันโดทุกคนจะอดกลั้นต่อไปได้อย่างไร? ทุกคนส่งเสียงโห่ร้องขณะกระโดดไปหาจ้าวหยู่และต่อสู้กับเขา!
จ้าวหยู่หมายหัวแค่เหลยปิ่นเท่านั้น เขาจึงไม่สนใจพวกเขา ถึงกระนั้นเขาก็พับแขนเสื้อขึ้นและเริ่มต่อสู้กับพวกเขา
จ้าวหยู่รู้ว่าพวกเขาทั้งหมดได้รับการฝึกฝนเป็นอย่างดี เมื่อต้องรับมือกับพวกเขา เขาจึงไม่สามารถหลบหมัดและลูกเตะได้ทั้งหมด เนื่องจากเขาไม่สามารถหลบได้ทั้งหมด เขาก็ไม่จำเป็นต้องหลบเช่นกัน แค่สู้ไปตรง ๆ ก็พอ!
จ้าวหยู่ต่อยไปที่ใบหน้าของใครบางคน ทำให้จมูกของบุคคลนั้นหัก และปล่อยให้ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเลือด เมื่อหันกลับมา เขาก็เตะเป้าใครบางคนจนเกือบทำให้คนนั้นกลายเป็นขันทีในทันที
อย่างไรก็ตาม เมื่อจ้าวหยู่กำลังต่อสู้ เขาก็ถูกต่อยและเตะไปที่ใบหน้าและร่างกายของเขาหลายครั้ง แต่จ้าวหยู่ดูเหมือนจะไม่สนใจ เขายังคงแกว่งแขนและขว้างหมัดอย่างต่อเนื่อง จากนั้นเขาก็จัดการได้อีกสองคน
จากนั้น จ้าวหยู่ก็พุ่งไปข้างหน้าเหมือนวัวคลั่งและฝ่าวงล้อม เขาดึงไปที่ต้นขาและแขนของใครบางคน จากนั้น เขาก็เหวี่ยงคน ๆ นั้นแล้วโยนเขาลงบนกลุ่มลูกศิษย์เทควันโด พวกเขาล้มลงไปกองเหมือนโดมิโน่
แต่แม้แต่ฮีโร่ก็ยังไม่สามารถต้านทานคนจำนวนขนาดนั้นได้ เมื่อจ้าวหยู่จับคนที่สองและต้องการที่จะโยนพวกเขา เขาก็ถูกเตะหลาย ๆ ครั้งไปที่หลังของพวกเขาและล้มไปข้างหน้า
“ย๊าก!!!”
ขณะที่จ้าวหยู่กำลังจะลุกขึ้นมา เขาก็ได้ยินเสียงคำรามอันดุร้ายจากด้านหลัง คนสองคนที่กำลังจะทุบตีจ้าวหยู่ จู่ ๆ พวกเขาก็บินออกไป ราวกับว่าพวกเขาซัดด้วยพละกำลังมหาศาล
ทุกคนหันกลับมามอง ตกใจเมื่อเห็นว่าขาขวาของเหมี่ยวอิงลอยอยู่ในอากาศอย่างมั่นคง มีเพียงผู้เชี่ยวชาญเทควันโดเท่านั้นที่สามารถยกขาในตำแหน่งนั้นได้
นอกจากนี้เธอยังยกขายาวของเธอให้สูงขนาดนั้น แต่ยังยืนมั่นคงและมั่นคงราวกับตอกตะปู คนธรรมดาคงไม่สามารถทำอย่างนั้นได้
จ้าวหยูลุกขึ้นจากพื้น เขารู้สึกสบายใจ ในที่สุด เหมี่ยวอิงก็ลงมือแล้ว
"เยี่ยม! ในที่สุด เทพธิดากลับมาแล้ว!"
“ทุกคนเล่นงานพวกมันซะ! เราต้องทำให้เลือดหัวของพวกมันออกมาให้ได้! ไปซะ!” พวกลูกศิษย์เทควันโดยังไม่ยอมแพ้ ดังนั้นจึงแยกออกเป็นสองกลุ่มทันทีและต่อสู้กับจ้าวหยู่กับเหมี่ยวอิง
คนที่โจมตีจ้าวหยู่นั้นมีทักษะดีกว่า ดังนั้นเขาจึงทำอะไรไม่ได้มาก แต่คนที่โจมตีเหมี่ยวอิงก็มีทักษะไม่แพ้กับกลุ่มแรก แต่ทว่าบางคนใช้เวลาไม่ถึงสองนาทีก่อนที่พวกเขาจะถูกเตะและลอยออกไป!
เหมี่ยวอิงแสดงให้เห็นและแสดงความสามารถของเธออย่างเต็มที่ เธอพุ่งทะลุเหล่าลูกศิษย์เทควันโด จากนั้น เธอก็หมุนตัวเตะใครบางคนจากด้านหลังของเธอ
ในระหว่างการต่อสู้ มีคนส่งเสียงครวญครางด้วยความเจ็บปวด เช่นเดียวกับเสียงข้อต่อที่หักและเคลื่อนออก...
แตกต่างจากการต่อสู้ของจ้าวหยู่ ตลอดการต่อสู้ แทบจะไม่มีใครแตะต้องเหมี่ยวอิงได้ เธอตอบสนองอย่างรวดเร็วและจัดการอย่างเด็ดขาด แม้ว่าจะมีหลายคนที่โจมตีพร้อมกัน แต่เธอก็สามารถต่อสู้กับพวกเขาได้มากกว่าเท่าเทียม
ภายในระยะเวลาอันสั้น ด้วยลูกเตะอันหนักหน่วง เหมี่ยวอิงก็โจมตีลูกศิษย์เทควันโดคนสุดท้ายจนล้มลง หลังจากล้มลงพื้นแล้ว เหมี่ยวอิงก็เหยียบหลังของคน ๆ นั้นด้วยเข่า ซึ่งส่งผลให้บุคคลนั้นคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับมือตีพื้น
ตอนนี้เหมี่ยวอิงเสร็จสิ้นการต่อสู้ของเธอแล้ว ในขณะที่จ้าวหยู่ยังอีกเหลืออีกมาก แม้ว่าจ้าวหยู่จะได้เรียนรู้เทคนิคการต่อสู้มาบ้างแล้ว แต่เขาก็ติดตรงนำมาใช้ในการต่อสู้จริง ทำให้เขาดูเก้ ๆ กัง ๆ แบบพวกมอใหม่ไม่มีผิด
บางครั้งเขาโจมตีพลาด เคลื่อนไหวแบบแปลก ๆ ทำให้เขาถูกล็อคคอและโดนต่อยที่หน้า ทำให้เลือดกำเดาไหลออกมา
จ้าวหยู่จึงกลับมาใช้วิธีการต่อสู้แบบท้องถนนแบบที่เคยทำในอดีต เมื่ออีกฝ่ายชกเขาสามครั้ง เขาจะสวนกลับอีกหกหมัด เขาเอาชนะความทุกข์อย่างหนึ่งแล้วจึงจัดการกับความทุกข์ครั้งต่อไป ในเวลาเดียวกัน เขาก็เพิกเฉยต่อหมัดและเตะของผู้อื่นโดยสิ้นเชิง
ในท้ายที่สุด เหมี่ยวอิงก็ทนดูไม่ไหว เธอเข้ามาเตะพวกที่เหลือออกไป แม้เวลาผ่านไป ลูกศิษย์ทั้งยี่สิบคนของเหลยปิ่นก็นอนกองบนพื้นทั้งหมด ไม่มีใครสามารถยืนได้อีกต่อไป
พนักงานของโรงฝึกเทควันโดต่างตกตะลึง สายตาที่พวกเขามองจ้าวหยู่กับเหมี่ยวอิง ราวกับว่าพวกเขากำลังมองปีศาจอยู่…