ตอนที่แล้ว1229 - การประสานเสริมพลังของอาวุธเต๋าสุดขั้ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป1231 - ศากยมุนีผู้ยิ่งใหญ่ 

1230 - หย่าศึก


1230 - หย่าศึก

ความกดดันที่เกิดจากการโจมตีของพระพุทธเจ้าโต้วจ้านทรงพลังอย่างน่าเหลือเชื่อ แสงศักดิ์สิทธิ์เก้าสีเบ่งบานไปทั่วความว่างเปล่า

หากเผชิญหน้ากับการโจมตีครั้งนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าร่างของสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ตัวนั้นจะต้องแหลกละเอียดอย่างแน่นอน

พระพุทธเจ้าโต้วจ้านซึ่งเข้าครอบครองเขาพระสุเมรุได้ชื่อว่าเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดของโลกใบนี้ เมื่อเขาแสดงพลังของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ออกมาความสง่างามนั้นจะตราตรึงอยู่ในใจของทุกคนไปตลอดกาล

วานรศักดิ์สิทธิ์กำหมัดแน่นและร่างกายของเขาก็สั่นสะท้าน ท่านอามีความคล้ายคลึงกับบิดาของเขามาก ไม่เพียงแต่รูปลักษณ์ของทั้งสองคนจะเหมือนกันเท่านั้น แม้แต่กลิ่นอายก็แทบจะเป็นคนคนเดียวกันเลยก็ว่าได้

ทุกคนกลั้นหายใจรอการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของพระพุทธเจ้าโต้วจ้าน แม้แต่จักรพรรดิดำยังเริ่มกระตุ้นค่ายกลให้ทำงานแล้ว ขอเพียงมีความผิดปกติเล็กน้อยพวกเขาจะข้ามความว่างเปล่าออกจากที่นี่ทันที

อย่างไรก็ตาม ตรงกันข้ามกับความคาดหวังของทุกคน

แท่งเหล็กสีดำสนิทที่เป็นเหมือนเสาขนาดยักษ์ฟาดลงมาจากท้องฟ้าไม่เพียงไม่สัมผัสกับศีรษะของสิ่งมีชีวิตร่างยักษ์เท่านั้น แต่มันยังกลายเป็นกระแสแสงและหายสาบสูญไปจากสนามรบอย่างไร้ร่องรอย

ในขณะนี้ร่างกายอันใหญ่โตของพระพุทธเจ้าโต้วจ้านย่อส่วนลงและกลับกลายเป็นวานรเฒ่าที่มีขนาดร่างกายไม่แตกต่างจากมนุษย์ทั่วไป

ร่างที่พร่ามัวบนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ทั้งเก้าไม่ได้ถอยกลับเข้าไปในหุบเหวลึกแล้ว ในทางตรงกันข้ามเขาหันกลับมามองพระพุทธเจ้าโต้วจ้านและกระแทกฝ่ามือเข้าหาองค์หญิงเสิ่นฉานอย่างโหดร้าย

“โฮก!!!”

พระพุทธเจ้าโต้วจ้านส่งเสียงคำรามดังก้อง ร่างแยกนับพันนับหมื่นของเขาปรากฏตัวขึ้นทั่วภูเขาโบราณและพุ่งเข้าหาสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในหมอกพร่ามัวพร้อมกัน

ในเวลาเดียวกันนั้นร่างที่แท้จริงของพระพุทธเจ้าโต้วจ้านกลายเป็นแสงสีทองที่พุ่งเข้าหาองค์หญิงเสิ่นฉานด้วยความกังวล

เพราะในขณะนี้ร่างขนาดยักษ์ที่ยืนอยู่บนยอดเขาศักดิ์สิทธิ์ทั้งเก้าไม่สนใจการโจมตีจากร่างแยกนับพันนับหมื่นของพระพุทธเจ้าโต้วจ้าน

เขาเพียงคว้ามือเข้าหาองค์หญิงเสิ่นฉานโดยต้องการจะบดขยี้หญิงสาวที่ครอบครองอาวุธเต๋าสุดขั้วชิ้นนี้ให้ตายไปก่อน

ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดนั้นชุดเกราะที่ห่อหุ้มร่างกายขององค์หญิงเสิ่นฉานเปล่งประกายด้วยแสงห้าสีและแยกออกจากร่างของนาง

จากนั้นมันได้บินข้ามขอบฟ้าพุ่งเข้าหาพระพุทธเจ้าโต้วจ้านและสวมลงบนร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว

พระพุทธเจ้าโต้วจ้านฉีกความว่างเปล่าเบื้องหน้าของเขาออกจากกันด้วยพลังที่ไม่มีสิ่งใดต้านทานได้ วานรศักดิ์สิทธิ์เฒ่าคว้าร่างของหญิงสาวคนรักและโยนเข้าไปในประตูมิติโดยไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย

ปัง!

มือขนาดใหญ่ทุบลงบนพื้นในบริเวณที่องค์หญิงเสิ่นฉานเคยยืนอยู่

หากพระพุทธเจ้าโต้วจ้านไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ฉับไวและถอนการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดกลับมาทันเวลา ตอนนี้องค์หญิงเสิ่นฉานจะต้องมีจุดจบที่น่าเศร้าไปแล้ว

พระพุทธเจ้าโต้วจ้านสวมชุดเกราะสีทองที่เปล่งประกายด้วยแสงห้าสี สายตาของเขาทอดมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและโบกสะบัดไม้เท้าเหล็กสีดำด้วยความโกรธ

“หากพระพุทธเจ้าโต้วจ้านพ่ายแพ้สิ่งมีชีวิตตนนั้นจะหลบหนีออกจากดินแดนต้องห้ามแห่งชีวิตเพื่อสร้างหายนะครั้งใหญ่ในโลกหรือไม่!” หลี่เทียนและคนอื่นๆ ต่างหวาดกลัว

ในขณะนี้ดวงตาของวานรศักดิ์สิทธิ์มีความลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายเขาก็คำรามเสียงดังและจี้นิ้วทั้งสองไปที่หว่างคิ้วของตัวเอง

ในเวลาต่อมาม้วนกระดาษสีทองแผ่นนึงซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นอายของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ได้ครอบคลุมไปทั่วทั้งท้องฟ้า มันพุ่งเข้าหาภูเขาศักดิ์สิทธิ์ทั้งเก้าและสร้างม่านพลังขนาดใหญ่เพื่อกีดกันคู่ต่อสู้ทั้งสองอยู่คนละฟาก

นี่คือราชโองการของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์โต้วจ้าน มันเป็นพลังแห่งเต๋าอันยิ่งใหญ่ที่มอบไว้ให้กับผู้ชายของตัวเองเพื่อช่วยชีวิตเขาในยามฉุกเฉิน!

ในระหว่างนี้แสงที่เต็มไปด้วยความมงคลนั้นได้ปิดกั้นพระพุทธโต้วจ้านและสิ่งมีชีวิตร่างยักษ์ไม่ให้สามารถทำการต่อสู้กันได้อีก

“ต้องเสริมด้วยพลังของสิ่งนี้!”

สุนัขสีดำตัวใหญ่คายราชโองการของจักรพรรดิอู่ซือซึ่งเป็นสิ่งที่มันนำไปแสดงในทะเลสาบยกออกมาอีกครั้ง มันกลายเป็นแสงศักดิ์สิทธิ์อันงดงามและพุ่งเข้าขวางกั้นพระพุทธเจ้าโต้วจ้านกับสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ในหุบเหวลึกเช่นกัน!

ในขณะนี้อักขระเต๋าโบราณสีทองเก้าตัวลอยอยู่ในความว่างเปล่า สิ่งมีชีวิตจากหุบเหวลึกจ้องมองอักขระโบราณเหล่านั้นและหันไปมองพระพุทธเจ้าโต้วจ้านเล็กน้อยก่อนที่เขาจะกระโดดลงไปในหุบเหวลึกโดยไม่มีความลังเลทันที

“การต่อสู้จบลงเพียงเท่านี้หรือ?” ทุกคนรู้สึกราวกับว่าพวกเขาได้ประสบกับความฝันอันยิ่งใหญ่

“ตัวอักษรโบราณเหล่านั้นหมายถึงอะไร?”

“ข้าไม่รู้จักพวกมันแม้แต่ตัวเดียว นี่เป็นภาษาศักดิ์สิทธิ์ที่เผ่าพันธุ์โบราณทั้งหมดใช้ร่วมกัน ข้าไม่ใช่คนในยุคนั้นจึงไม่มีทางอ่านเนื้อหาของตัวอักษรเหล่านี้ได้” จักรพรรดิดำกล่าว

ผลลัพธ์ดังกล่าวเกินความคาดหมายของทุกคน การสังหารทั้งหมดบนท้องฟ้าหายไป ไม่นานหลังจากนั้นคลื่นพลังของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ก็หายสาบสูญไปเช่นกัน

ในเวลาต่อมาภูเขาศักดิ์สิทธิ์ทั้งทั้งลูกก็กลับคืนสู่ความสงบ ความงามและความอุดมสมบูรณ์กลับคืนมาอีกครั้ง ราวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้เป็นเพียงความฝันตื่นหนึ่ง

“แท่นบูชาห้าสีปรากฏขึ้น!”

แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่ากลับเป็นแท่นบูชาห้าสีที่ลอยอยู่เหนือหุบเหวลึก แสงห้าสีเปล่งประกายออกมาอย่างไม่สิ้นสุด เห็นได้ชัดว่ามันกำลังปลดปล่อยพลังเพื่อปิดผนึกไม่ให้สิ่งมีชีวิตโบราณตนนั้นสามารถปีนขึ้นมาได้อีกครั้ง

รูปร่างของแท่นบูชาขนาดใหญ่นั้นเรียบง่ายและเต็มไปด้วยความเก่าแก่ มีชิ้นส่วนของท่านบูชาแตกหักอยู่เล็กน้อย อย่างไรก็ตามเมื่อมันลอยอยู่เหนือหุบเหวโบราณกลับไม่มีใครกล้าประมาทพลังของมันอย่างแน่นอน

การต่อสู้ครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะอะไร เย่ฟ่าน และคนอื่นๆ ต่างตกตะลึง ด้วยพลังของพระพุทธเจ้าโต้วจ้านและองค์หญิงเสิ่นฉาน หากพวกเขาต้องการเพียงผลไม้ศักดิ์สิทธิ์จากภูเขาทั้งเก้าก็ไม่ควรจะลงทุนลงแรงถึงขนาดนั้น

หลังการสู้พระพุทธเจ้าโต้วจ้านยังคงสง่างามเช่นเดิม ร่างกายของเขาสวมชุดเกราะสีทองที่เปล่งประกายด้วยแสงห้าสี ในมือของเขามีกระบองสีดำสนิทที่ดูน่าเกรงขามอย่างยิ่ง

“ท่านอา”

ตอนนั้นวานรศักดิ์สิทธิ์ร้องไห้เหมือนเด็กๆ ก่อนจะรีบวิ่งไปที่ด้านหน้าของพระพุทธเจ้าโต้วจ้านพร้อมกับคุกเข่าลงเพื่อแสดงความเคารพ

“ให้ตายเถอะ ทำไมข้าจะต้องช่วยเขาด้วย ข้าเกลียดวานรตัวนี้ที่สุด!”

ในเวลานี้ จักรพรรดิดำดูเหมือนจะกลับมามีสติสัมปชัญญะอีกครั้ง และอดไม่ได้ที่จะสาปแช่งพระพุทธเจ้าโต้วจ้านด้วยความโกรธ

เย่ฟ่าน จี้จื่อเยว่ เอี๋ยนอี้ซี และคนอื่นๆ ต่างก็รีบวิ่งไปข้างหน้าด้วยความกระตือรือร้น โดยเฉพาะผังป๋อที่ตื่นเต้นสุดๆ เพราะตอนนี้เขามีโอกาสได้พบหน้ากับวีรบุรุษในดวงใจแล้ว

“ราชาวานร! ในอดีตท่านเคยไปสถานที่ที่เรียกว่าราชวงศ์ถังในจงหยวน(ภาคกลางของประเทศจีน)แล้วออกจากด่านหานกู่ทางทิศตะวันตกเพื่อข้ามมายังโลกใบนี้หรือไม่ เมื่อสองพันห้าร้อยปีก่อนท่านมีโอกาสได้พบกับศากยมุนี(พระพุทธเจ้าแห่งศากยวงศ์)จริงๆ หรือเปล่า?”

ผังป๋อมีนิสัยตรงไปตรงมาที่สุด ดังนั้นเขาจึงถามคำถามที่อยู่ในใจของตัวเองออกมาโดยไม่มีความลังเล

ชุดเกราะที่เป็นอาวุธเต๋าสุดขั้วแห่งราชวงศ์โบราณของสันเขาเสิ่นคานเปล่งประกายขึ้นอีกครั้ง จากนั้นมันก็เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นกระแสแสงและหลุดออกจากร่างพระพุทธเจ้าโต้วจ้าน

นี่คือวานรเฒ่าร่างผอมบาง และขนสีทองทุกเส้นบนร่างกายของเขาเริ่มหงอกขาวแตกต่างจากวานรศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นหลานชายโดยสิ้นเชิง เห็นได้ชัดว่าเขาคือเซียนอสูรที่แก่ชราอย่างยิ่ง

เซียนอสูรคืออะไร? วานรเฒ่าคนนี้คือคำอธิบายที่ดีที่สุด เมื่อยืนอยู่ตรงหน้าทุกคนเขาไม่แปดเปื้อนกลิ่นอายของสังสารวัฏในโลก ร่างกายของเขาเปล่งประกายด้วยความศักดิ์สิทธิ์คล้ายกับพระอรหันต์ที่ตัดขาดจากอคติทั้งสี่โดยสิ้นเชิงแล้ว

เมื่อได้ยินคำพูดของผังป๋อเขาเพียงส่ายหน้าและไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ามีความงุนงงต่อคำพูดนี้อย่างยิ่ง

ผังป๋อยังคงไม่ยอมแพ้ เขาทำตัวเหมือนถูกวิญญาณของตู้เฟยเข้าครอบงำ และเริ่มเล่าตำนานทุกอย่างที่เกี่ยวกับการเดินทางสู่ตะวันตกของพระถังซัมจั๋งออกไปในคราวเดียว

พระพุทธเจ้าโต้วจ้านส่ายหน้า เขาบอกว่าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย เขาไม่เคยออกจากดวงดาวโบราณแห่งนี้แม้แต่ครั้งเดียว และไม่เคยถูกปราบปรามโดยพระพุทธเจ้าถึงห้าร้อยปี

เมื่อได้ยินคำพูดของผังป๋อ วานรศักดิ์สิทธิ์ก็แค่นเสียงด้วยความไม่พอใจและกล่าวว่า “ท่านอาของข้าคือวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ ใครจะปราบปรามเขาได้”

หลี่เหอสุ่ยยิ้มเยาะ ท้ายที่สุด สิ่งที่ผังป๋อได้ยินมาก็เป็นเพียงตำนานเท่านั้น บางทีเรื่องนี้อาจเป็นเพียงนิทานที่ถูกแต่งเติมอย่างมีสีสันและไม่ได้มีความจริงแม้แต่น้อย แม้แต่ตัวเขาก็ยังคิดว่ามันไร้สาระอย่างยิ่ง

“มันไม่ใช่ข่าวลือทั้งหมด ข้าเคยเจอศากยมุนีจริงๆ” พระพุทธเจ้าโต้วจ้านกล่าว

“อะไรนะ?” เย่ฟ่านและผังป๋อต่างอุทาน พวกเขามีคำถามมากมายในใจและรีบสอบถามออกไปทันที

………….

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด