ยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 708 หนอนไหม
การฟื้นคืนชีพเป็นพลังที่ผู้ทรงอำนาจและผู้ฝึกตนระดับสูงนั้นใฝ่ฝันที่จะมีไว้ในครอบครอง
ทุกคนต้องตายหากว่าถูกฆ่า นั้นเป็นความจริงที่ไม่สามารถหลีกหนีได้ แต่ให้เป็นเขตแดนตำนาน
สิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังพอๆ กับเหล่าฑูต หรือตัวตนตำนานต่างๆ แม้ว่าจะมีขอบเขตพลังที่เหนือชั้น แต่โลกที่พวกเขาอาศัยอยู่นั้น ก็ยังมีภัยคุกคามที่ยังไม่รู้จักอีกมาก และเสี่ยงชีวิตตลอดเวลา
แต่เงาของซู่เสี่ยวไป่นั้น กลับสามารถฟื้นคืนชีพกลับมาได้เรื่อยๆ โดยไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้ไม่ต้องเกรงกลัวความตายอีกต่อไป จะทำให้แม้แต่ตัวตนปฐมตำนานก็สามารถโลดแล่นไปที่ใดก็ได้โดยไม่ต้องกลัวความตายอีก
เพราะแบบนั้นเมื่อได้เห็นพลังฟื้นตัวของเงาแล้ว ทำให้หลิงตงกับจื่อหยิงนั้นสนใจเงาและมีความคิดไปในทางเดียวกัน
นั่นคือการครอบครองพลังนี้ ต่อให้ต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม
ยิ่งเขตแดนสูงมากเท่าไร ความปรารถนาที่ต้องการมีชีวิตเป็นอมตะนั้นก้ยิ่งรุนแรงมากขึ้น พลังในการฟื้นตัวของเงานั้นเป็นอะไรที่ทำให้พวกเขาหลงไหล และต้องการอย่างไม่ต้องสงสัย
“จื่อหยิง ท่านเชิญตรวจสอบสิ่งนี้ก่อนเลย ข้าขอแค่เก็บตัวอย่างเล็กน้อยจกาตัวของมันกลับไปที่ดินแดนของฉันก็พอ บางที่เราอาจจะหาความลับของการเกิดใหม่ของมันได้”
ฑูตตงหมิงพูดขึ้นด้วยความรู้สึกที่ตื่นเต้น
ตอนแรกเขาก็ไม่อยากจะเชื่อคำพูดของเฉียนฉีเท่าไร ที่จะมีตัวตนอะไรที่ไม่สามารถฆ่าได้และฟื้นคืนชีพได้อย่างไม่จำกัด แต่เมื่อสิ่งนี้อยู่ต่อหน้า ทำให้ความคิดของเขาเปลี่ยนไปทันที
หลังจากที่เอาชิ้นส่วนของเงาออกไปแล้ว ฑูตตงหมิงก็จากไปอย่างรีบร้อน ก่อนที่ฑูตจื่อหยิงจะเริ่มศึกษาร่างเงานี้
……
ในดินแดนหนึ่งปฐพี
เงาของซู่เสี่ยวไป่ได้กลืนกินอาณาเขตโดยรอบไปเกือบหมดจนแทบไม่มีใครต้านทานได้
ในช่วงเวลาสั้นๆ ซู่เสี่ยวไป่ครอบครองพื้นที่ได้เกินครึ่ง เหลือเพียงอาณาเขตต้องห้ามกับดินแดนแห่งความตายที่ไม่มีใครอาศัยอยู่ หรือพอที่จะมีกลุ่มที่ทรงพลังมากพอไปตั้งรกราก
ตอนนี้ทุกอย่างก็เหมือนกับรอต้มเนื้อตุ๋น ทุกอย่างอยู่ในมือของซู่เสี่ยวไป่แล้ว ทำให้เขาไม่ต้องรีบร้อน และชะลอความเร็วในการบุกยึดพื้นที่ และรักษาแนวป้องกันเอาไว้
ในเมื่อตอนนี้ฑูตสองคนกำลังศึกษาเงาของเขาอยู่ ซู่เสี่ยวไป่เองก็ศึกษาพื้นที่ของทั้งคู่ด้วย
ในดินแดนแห่งนี้ซู่เสี่ยวไป่ได้รู้ว่ามันมีโครงสร้างที่ใหญ่โต แบ่งย่อยระดับชนชั้นระหว่างจักรวรรดิภายใน จักรวรรดิระดับสูงมีทั้งหมด 710 แห่งปกครองโดยจ้าวภัยพิบัติระดับสูง มีเพียงสิบแห่งที่ถูกปกครองโดยมหาจ้าวภัยพิบัติ
จักรวรรดิพวกนี้แข็งแกร่งยิ่งกว่า จักวรรดิของหยางเซิงเสียอีก แต่ก็ยังตามหลังดินแดนหนึ่งปฐพีของซู่เสี่ยวไป่อยู่
“สถานที่พวกนี้ดูคุ้นเคยมาก มันดูเหมือนกับเมืองที่เพาะพวกสิ่งมีชีวิตเก่าแก่”
ซู่เสี่ยวไป่บ่นกับตัวเอง ผ่านร่างเงา ในขณะที่เขาสัมผัสได้ถึงความโกลาหลและจุดดำมืด ภายในกลิ่นไอพวกนี้ที่แตกต่างหลายเผ่าพันธ์
และยิ่งซู่เสี่ยวไป่ค้นลึกลงไปก็รู้ว่าจักรวรรดิระดับสูงและสูงสุดพวกนี้ถูกปกครองโดยเฉียนฉี
ดูเหมือนว่าเหล่าฑูตและเหล่าปฐมตำนานพวกนี้กำลังสร้างแหล่งพลังงานแบบเดียวกัน
มีสิ่งมีชีวิตเก่าแก่จากยุคโบราณมากมาย ถูกเพาะเลี้ยง และบีบบังคับให้เติบโตจนแข็งแกร่ง จากงั้นก็จะเอาตัวตนเหล่านั้นมาทำเป็น ยาเพิ่มพลังให้กับเหล่าบรรดาตัวตนเขตแดนตำนานทั้งหลาย
ซู่เสี่ยวไป่เองก็เคยได้รับความรู้มาจากวิหารแห่งหนึ่ง ซึ่งบันทึกเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เอาไว้
ไม่น่าแปลกใจเลยว่า จะมีวิชาที่สามารถใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ของฟ้าดิน ในการเพิ่มตบะบ่มเพาะโดยไม่ถูกสวรรค์ลงทัณฑ์ ในอีกความหมายหนึ่งนั้นคือวิธีการนี้ทำให้ตบะบ่มเพาะเพิ่มขึ้นราวกับทะยานสู่ท้องฟ้า และไม่เจอทัณฑ์สวรรค์ใดๆ
“นายท่าน นี่ไม่ใช่วิชาโบราณ แต่น่าจะเป็นพลังจากยุคแรกเริ่ม”
ด้วยความช่วยเหลือจากเซี่ยวเห้อ ที่ศึกษาสิ่งมีชีวิตที่ถูกเพาะเลี้ยงในจักรวรรดิฉีเย่ และตัวมันเองก็เป็นปีศาจจากยุคโบราณเหมือนกัน ทำให้มันรู้สึกคุ้นเคยกับเรื่องเหล่านี้
“พลังจากยุคแรกเริ่ม?”
ซู่เสี่ยวไป่หรี่ตาลงเล็กน้อย
เขาเคยได้ยินคำนี้มาก่อน
อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับคำว่าปีศาจ มักจะเกี่ยวของกับราชาปีศาจจากยุคโบราณ เซี่ยวเห้อที่เป็นมังกรเก้ามายาก็จะสัมผัสถึงได้
เซี่ยวเห้อรีบอธิบายต่อทันที
“หลังจากที่พวกมันได้สำเร็จวิชาในขั้นต้นทั้งหมดจะต้องเผชิญกับอุปสรรค์ที่ไม่สามารถแก้ไขการบ่มเพาะของตัวมันเองได้ ทำให้ในยุคนั้นการที่จะฝึกฝนตบะเพิ่มจึงเลือกที่จะสร้างเตาหลอมแหล่งพลังงานขึ้นมาเพื่อเพิ่มตบะของตัวเอง”
“หรือจะให้กล่าวอีกนัยหนึ่ง เหล่าบรรดาฑูตและตัวตนตำนานที่ฝึกฝนวิธีการนี้ จะไม่สามารถฝึกบ่มเพาะเองได้อีกต่อไป”
ซู่เสี่ยวไป่พูดและครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ดูเหมือนว่าสิ่งนี้จะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่ใครจะทำได้เช่นเดียวกับที่เขาทำ
จ้าวแห่งฉีเย่ได้ขับไล่เงาออกไปด้วยทุกวิถีทาง และ– เงาของซู่เสี่ยวไป่ถูกขับไล่ออกไปจนหมด และไม่สามารถดูดกลืนแหล่งพลังงานในจักรวรรดิฉีเย่ได้อีกต่อไป
แต่เงานั้นก็ได้พบเจอกับจักรวรรดิระดับสูงอีกหนึ่งที่อยู่ภายใต้ฑูตชิง เป็นจักรวรรดิที่มีชื่อว่ากระเรียงขาว
และยังใช้ประโยชน์จากช่องมิติที่ถูกเปิดขึ้นก่อนหน้านี้ในการไปยังจักรวรรดิระดับสูงอื่นๆ อีก
มีพื้นที่แห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวและกว้างใหญ่ และภายในนั้นมีเมืองอยู่โดยที่เชื่อมต่อกับวิหารแห่งหนึ่งที่มีพลังของมิติและกาลเวลาไหลอยู่ โดยที่กระแสนั้นไหลอย่างช้าๆ อยู่รอบๆ
ซู่เสี่ยวไป่ร่อนลงบนเมืองที่ตั้งอยู่ใจกลางที่ดูโดดเดี่ยว ที่นี่ไม่มีการป้องกันที่เข้มงวด และหละหลวม
เมืองที่อยู่ตรงหน้านั้นเต็มไปด้วยซากปรักหักพัง และเสาหินขนาดใหญ่มากมาย อีกทั้งเต็มไปด้วยซากศพกระจัดกระจายอยู่เต็มไปหมด
ดูจากที่นี่แล้ว น่าจะเคยเป็นจักรวรรดิที่ใหญ่พอตัว แต่เวลานี้กลับไม่มีสิ่งมีชีวิตในนี้อีกเลย
มีตัวหนอนไหมมากมายคลานอยู่ตามซากปรักหักพัง พวกมันเติบโตโดยการกัดกินแร่ธาตุที่อยู่ในสิ่งปลูกสร้างทุกอย่าง แม้แต่ของเน่าเสีย แต่ด้วยแร่ธาตุไม่เพียงพอ ทำให้พวกมันดูผอมแห้ง
เงาของซู่เสี่ยวไป่ใช้เส้นทางแห่งสายหมอก เพื่อหลบซ่อนตัวเอง เข้าไปในเมือง
ซู่เสี่ยวไป่เองไม่ได้รีบร้อนที่จะดูดกลืนแหล่งพลังงานพวกนี้ เขาต้องการจะแฝงตัวเข้าไปในพื้นที่แหล่งพลังงานของทุกจักรวรรดิ และเริ่มโจมตีพร้อมกัน
“ที่นี่ดูแร้นแค้นกว่าที่คิด ดูเหมือนสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่นี่จะละทิ้งที่นี่ไปแล้ว และกลายเป็นที่เพาะเลี้ยงหนอนไหมโบราณแทน”
ซู่เสี่ยวไป่ลองหยิบหนอนไหมขึ้นมา อย่างไม่ใส่ใจ สิ่งมีชีวิตนี้ว่ากันว่าเป็นสัตว์ที่ฉลาดมาก แต่หากว่าเอาไปตากจนแห้งแล้ว ตัวของมันสามารถเอามาทำยาและน้ำอมฤตคุณภาพสูงได้ ว่ากันว่าหนอนไหมพวกนี้เติบโตได้เท่ากับปฐมตำนานด้วยซ้ำ แต่ในที่แห่งนี้หนอนไหมส่วนมากอยู่แค่ในเขตแดนบรรพชน
ถึงสิ่งมีชีวิตพวกนี้จะบ่มเพาะได้ก็ตาม แต่ในสายตาของเหล่าฑูตทั้งหลายมันก็แค่อาหารสำเร็จรูปเท่านั้น