นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 417 - วาโยหมุนวน!
แม้ว่าสีหน้าจะดูเหนื่อยอ่อน แต่ดวงตาของเดวิดเต็มไปด้วยประกายที่เจิดจ้า ระยะเวลาการฝึกฝนแค่ 3 วันไม่ได้ทำให้ร่างกายหรือสมองเหนื่อยล้ามากนัก แต่การฝึกฝนนั้นเริ่มจะถึงจุดตีบตันแล้ว เขาจึงต้องการออกมายืดเส้นยืดสาย และหาอะไรกินเพื่อบรรเทาความหิวโหยที่เกิดขึ้นเสียก่อน
เพราะการฝึกฝนขั้นต่อไป จะยาก และต้องใช้พลังงานมากกว่า 3 วันที่ผ่านมาหลายเท่าตัวนัก เดวิดต้องการเตรียมตัวให้พร้อมที่สุดสำหรับการเก็บตัวฝึกฝนอย่างยาวนาน
เขาเดินออกมายังร้านอาหารที่ตั้งบริการอยู่ไม่ห่างจากบริเวณบ้านพักของศิษย์ทั่วไปมากนัก ก่อนจะสั่งอาหารจำนวนมากมาอย่างไม่ลังเล และหลังจากที่อาหารถูกนำมาเสิร์ฟบนโต๊ะไม่นาน เขาก็ต้องเรียกบริกรให้มาหาอีกครั้ง เพื่อสั่งอาหารจำนวนปริมาณมากกว่าเดิมถึง 2 เท่า เพราะอาหารชุดแรกนั้นหมดลงไปในพริบตา
ปริมาณอาหารชุดที่ 2 ที่ถูกนำมาเสิร์ฟทำให้ลูกค้าที่นั่งอยู่ในร้านหันมองมาเป็นตาเดียวกัน เพราะมันเป็นขาแกะทั้งขาที่ถูกย่างออกมาอย่างหอมฉุย ขนาดของมันเพียงพอที่จะให้คนธรรมดา 15 คนกินกันได้ถึง 3 วัน แต่เดวิดใช้เวลาเพียงไม่ถึง 15 นาทีเท่านั้นในการจัดการจนเหลือแต่กระดูก
หลังจากใช้คะแนนของทางสำนักชำระค่าอาหารมื้อนี้เรียบร้อยแล้ว เขาก็เดินออกมาจากร้านอาหารแบบไม่สนใจกับสายตาอันตื่นตะลึงของลูกศิษย์คนอื่น ๆ ที่แอบจ้องมองตามมาเป็นระยะ ถ้าไม่ติดว่าเดวิดไม่ได้มีคะแนนความดีความชอบของสำนักอยู่มากนัก บางทีเขาอาจจะสั่งอาหารมามากกว่านี้อีกก็ได้
เดวิดเพิ่งเดินออกมาจากร้านอาหารได้ไม่กี่ก้าว ดวงตาของเขาก็ต้องหรี่เล็กลงอย่างแข็งกร้าวในทันที เมื่อสังเกตุเห็นเด็กหนุ่มผมบลอนด์คนหนึ่งยืนมองตัวเองอยู่จากตำแหน่งที่ห่างออกไปเพียงไม่กี่เมตร โทสะและความคั่งแค้นปะทุขึ้นมาในใจอย่างฉับพลัน
“เวเธอร์!”
หลังจากที่กัดฟันพึมพำออกมาเบา ๆ เดวิดก็ก้มหน้าก้มตาเดินไปตามทางของตัวเองอย่างเงียบ ๆ เขาไม่โง่พอที่จะทำการแก้แค้นที่นี่และตอนนี้เลย กฎเกณฑ์ในสำนักนั้นเข้มงวดเกินไป ต่อให้เดวิดยื่นคำของท้าประลองต่ออีกฝ่าย มันก็ยังต้องรอให้ทางสำนักระบุวันเวลาและสถานที่ในการต่อสู้ออกมาอยู่ดี ลูกผู้ชายล้างแค้น 10 ปีก็ไม่ถือว่าสายเกินไป เจ้าบ้าที่กล้าบุกรุกเข้ามาสำรวจความลับในร่างกายของเขา เดวิดไม่คิดที่จะปล่อยไปง่าย ๆ แน่นอนอยู่แล้ว
แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายต้องการจะมาเจอกับเขาโดยตรง เพราะหลังจากที่เดินต่อไปได้ไม่กี่เมตร เสียงทักทายก็ดังขึ้นมาจากเวเธอร์แล้ว “นายนี่เป็นคนที่หาตัวเจอได้ยากจริง ๆ เดวิด!”
สีหน้าของเดวิดเปลี่ยนแปลงไปในทันที รอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าตอนที่เงยขึ้นและหันมองกลับไปตามเสียงทักทาย “โอ้! ทำไมนายถึงอยากจะเจอฉันล่ะ มีธุระอะไรอย่างนั้นหรือ?” น้ำเสียงที่ถามกลับนั้นราบเรียบเป็นอย่างมาก สายตาเต็มไปด้วยความสงสัย
สีหน้าของเวเธอร์ก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมและจริงจังขึ้น แววตายังคงเย็นชาไร้อารมณ์เหมือนดังเดิม เช่นเดียวกับน้ำเสียงที่ราบเรียบเฉยเมย “พวกเราเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนของสถาบันเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าควรจะรวมกลุ่มกันเอาไว้อย่างนั้นหรือ?”
“ตอนนี้! ฉันตั้งชมรมขึ้นมาในสำนักแห่งนี้แล้ว มันจะช่วยให้พวกเราสามารถป้องกันตัวเอง และฝึกฝนอยู่ที่นี่ได้อย่างสงบสุข ไม่มีใครมาหาเรื่องรักแกได้ อีก 3 คนที่เหลือเข้าร่วมกับชมรมนี้เรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงแต่นายเท่านั้น!”
เดวิดเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นกวาดตามองไปที่เวเธอร์อย่างเต็มตา และพบว่าเขาไม่ได้ยืนอยู่คนเดียว แต่มีลูกสมุนหลายคนเดินตามมาทางด้านหลังราวกับเป็นผู้คุ้มกันด้วย ดูเหมือนว่าจะเป็นสมาชิกของชมรมที่เพิ่งเอ่ยถึงออกมา
ที่สำนักซิกนิส ลูกศิษย์ได้รับอนุญาตให้รวมกลุ่มกันตั้งชมรมขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือกันในการทำภารกิจ และการฝึกฝนของสมาชิกแต่ละคนได้ ชมรมที่ใหญ่และมีชื่อเสียงเลื่องลือนั้นมีอยู่ทั้งหมด 4 ชมรมด้วยกัน ได้แก่ชมรมดาบประกายฟ้า ชมรมฟ้าประกายรุ้ง ชมรมดาบฟ้าคำราม และชมรมอสูรดวงดาว
พวกเขาทั้งหมดทรงพลังและมีอำนาจในหมู่ลูกศิษย์เป็นอย่างยิ่ง แน่นอนว่าการตั้งชมรมใหม่ขึ้นมาไม่ได้มีข้อห้าม แต่เงื่อนไขนั้นยุ่งยากและต้องคะแนนความดีความชอบของสำนักเป็นจำนวนมาก และหลังจากที่ตั้งขึ้นมาได้แล้ว จะถูกแรงกดดันจากชมรมดั้งเดิมโถมเข้าใส่ จนต้องสลายตัวไปในที่สุด
การที่เวเธอร์สามารถรวบรวมคนและทรัพยากรจนตั้งเป็นชมรมได้ในระยะเวลาอันสั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่เกินความคาดหมายของเดวิดไปไกลเลยทีเดียว
“อ้อ! นายต้องการให้ฉันเข้าร่วมเป็นสมาชิกในชมรมที่นายตั้งขึ้น?” เขาเอียงหัวเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยปากถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่ไร้อารมณ์
เวเธอร์พยักหน้าที่เฉยเมยของตัวเองกลับมา “ใช่! พวกเราควรจะต้องรวมตัวกันไว้ การอยู่โดดเดี่ยวจะทำให้เป็นเป้าในการถูกรังแกได้ง่าย นายไม่คิดอย่างนั้นหรือ?”
“ฉันขอปฏิเสธ!” เรียบง่าย! เดวิดตอบกลับไปตรง ๆ อย่างไม่อ้อมค้อมลังเล ก่อนจะหันหน้ากลับและก้าวเท้าเดินต่อไปทันที
แววตาของเวเธอร์กลายเป็นเย็นชาขึ้นว่าเดิมหลายเท่าตัว มันลามมาถึงน้ำเสียงที่เขาส่งถามตามหลังมาด้วย “นายแน่ใจแล้วอย่างนั้นใช่มั้ย?”
เดวิดยักไหล่โดยไม่หันกลับไปมอง “ไม่เคยแน่ใจอะไรมากเท่านี้มาก่อนเลย!”
“ยอดเยี่ยม! แต่ถ้าเกิดเปลี่ยนใจ ให้ไปหาชั้นที่ห้องพักหมายเลข 503 ก็แล้วกัน” หลังจากกล่าวจบ เวเธอร์ก็เดินหันหลังจากไปทันทีเช่นกัน
เดวิดเหลียวหลังกลับมามองเล็กน้อย ในใจเริ่มมีความกังวลเกิดขึ้น ‘ห้อง 503 แล้วอย่างนั้นหรือ? ดูเหมือนว่าเจ้าบ้านี้จะมีพรสวรรค์ในการฝึกคลื่นสมองไม่น้อย ฉันคงต้องรีบหน่อยแล้ว’ เขาพึมพำอยู่ในใจ ก่อนจะรีบเร่งฝีเท้าของตัวเองให้เร็วขึ้นกว่าเดิมอีก
..........
หลังจากที่กลับมาถึงห้องพัก เดวิดก็ทิ้งตัวลงนั่งขัดสมาธิที่เตียงอย่างไม่ลังเล ในตอนนี้เขาสามารถฝึกฝนทักษะคลื่นรวมศูนย์ได้จนบรรลุถึงขั้นที่ 2 แล้ว แต่คลื่นสมองนั้นยังไม่เข้มข้นพอที่จะใช้ได้อย่างอิสระ มันเป็นเหตุผลให้เดวิดนั้นหยุดการฝึกฝนทักษะนี้เอาไว้ก่อน และตั้งใจจะหันมาฝึกทักษะวาโยหมุนวน เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งและความเข้มข้นของคลื่นสมองแทน ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่มีทางทะลวงผ่านขึ้นไปสู่ระดับที่ 3 ได้เลย!
ถ้ามีใครรู้ว่าเดวิดสามารถฝึกทักษะระดับกลางขั้นสูงจนบรรลุระดับขั้นที่ 2 ได้ในเวลาเพียงไม่ถึง 3 วัน เขาหรือเธอคนนั้นต้องตาถลนออกมานอกเบ้าอย่างแน่นอน ทักษะการต่อสู้ของสำนักแห่งนี้ฝึกฝนสำเร็จได้ยากเย็นเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะข้อจำกัดที่เกี่ยวกับความเหนื่อยล้าของสมองจากการฝึกฝน พวกเขาต้องการการพักผ่อนเพื่อให้มีสติแจ่มใสอยู่ตลอดเวลา ไม่อย่างนั้นไม่มีทางที่จะจดจำการเคลื่อนไหวของกระบวนท่าได้อย่างแม่นยำแน่นอน
สาเหตุที่ทำให้เดวิดสามารถทำได้ คือเขาแทบจะไม่ต้องจดจำการเคลื่อนไหวของมือและนิ้วทั้ง 10 นิ้วอีกต่อไป หลังจากที่มั่นใจว่าการเคลื่อนไหวแบบไหนคือสิ่งที่ถูกต้อง เดวิดก็ควบคุมร่างกายให้เคลื่อนไหวไปเองตามธรรมชาติได้เลย ที่เขาต้องทำก็แค่เพียงการมุ่งมั่นควบคุมการหมุนเวียนของคลื่นสมองเท่านั้น อาการเหนื่อยล้า? ถ้าไม่ใช่การฝึกสมาธิเพื่อเพิ่มความเข้มข้นของคลื่นสมองโดยตรง อัตราการฟื้นฟูของเดวิดสูงพอที่จะทำให้สมองของตนเองอยู่ในสภาวะที่สมบูรณ์ได้ตลอดเวลาเลย
แต่ตอนนี้ มันถึงเวลาที่เขาจะต้องฝึกสมาธิเพื่อเพิ่มพูนความเข้มข้นของคลื่นสมองโดยตรงแล้ว สมองของเดวิดจะต้องรับภาระที่หนักอึ้งขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างมาก การฝึกทักษะประสาทสัมผัสพิเศษในแต่ละครั้ง ต้องใช้เวลาถึง 3 ชั่วโมงในการพักฟื้น เขาไม่มั่นใจว่าการฝึกฝนทักษะระดับกลางขั้นสูงจะต้องใช้เวลานานขึ้นหรือไม่ และยังไม่มั่นใจว่ามันจะช่วยให้พัฒนาคลื่นสมองได้เร็วกว่าเดิมมากกี่เท่ากันแน่
เดวิดทบทวนเนื้อหาของทักษะวาโยหมุนวนอยู่ในหัวจนแน่ใจว่าไม่มีอะไรผิดพลาด เขาเริ่มหลับตาของตัวเองลงเพื่อตั้งสมาธิควบคุมลมหายใจ กระตุ้นให้คลื่นสมองที่ทรงพลังค่อย ๆ แผ่กระจายตัวออกมาทั่วร่างกาย และหมุนวนมันกลับเข้าไปในศีรษะของตัวเองอีกครั้ง ความเข้มข้นของคลื่นสมองค่อย ๆ สะสมจนมากขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว
ถูกต้องแล้ว! วาโยหมุนวนจำเป็นต้องหมุนเวียนคลื่นสมองไปทั่วร่างกาย มันเหมือนเป็นการสะสมคลื่นสมองเอาไว้ใช้อย่างต่อเนื่องไม่ขาดตอน ผลพลอยได้คือการช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับร่างกายไปด้วยในตัว แต่สิ่งที่ยุ่งยากมาขึ้นคือการควบคุมคลื่นสมองให้หมุนเวียนไปตามทิศทางที่ถูกต้องเป็นระยะทางที่ยาวขึ้นกว่าปกติเป็นอย่างมาก
หน้าอกของเดวิดขยับไปมาด้วยความเร็วสูง ผิวหนังทั่วร่างการสั่นไหวเป็นลูกคลื่น ปรากฏการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเพียงแค่ 15 วินาที เขาลืมตากลับขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับลมหายใจยาวที่ระบายออกจากปาก
คราวนี้! เดวิดเพียงทดลองฝึกฝนเพื่อทดสอบประสิทธิภาพของมันเท่านั้น และผลที่ได้นั้นทำให้ดวงตาของเขาทอประกายเจิดจ้าออกมาเลยทีเดียว
“ยอดเยี่ยม! นี่มันเกิดความคาดหมายไปไกลเลย!”