บทที่ 114 : ประเภทภารกิจ คุ้มกัน (2-2)
บทที่ 114 : ประเภทภารกิจ คุ้มกัน (2-2)
“พวกเธอจัดการพวกมัน เสร็จแล้วค่อยตามฉันมา”
“แล้วนายล่ะ?”
“ฉันจะไปหาเป้าหมายก่อน”
“แล้วพวกเราจะรีบตามไป”
เมื่อฉันเข้าไปในช่องทางซ้าย ห้องโถงที่มีเสาเรียงรายและมีพรมสีขาวทอดยาวอยู่ตรงหน้า สุดทางเดินมีบันไดขึ้นด้านบน
"ฉันจะฆ่าแก…!"
ฉันเหวี่ยงโล่ไปที่หมวกของทหารที่พุ่งเข้ามาหาฉัน
ตุ้บ!
ฉันรีบขึ้นบันไดเวียน
จู่ๆ ประตูก็เปิดออกและอัศวินที่ใส่เกราะหนาๆ ก็ปรากฏตัวออกมา
อัศวินกวัดแกว่งดาบที่ประดับด้วยอัญมณีและเริ่มพูดด้วยเสียงอันทรงพลัง
“ฉันคือไคล์ ฟอน สตาร์! ทายาทแห่งตระกูลสตาร์! อัศวินที่เป็นตัวแทนของความโกรธเกรี้ยวของเทพธิดา! ฉันจะโจมตีศัตรูชั่วร้ายที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า…”
ฉันรีบวิ่งผ่านอัศวินที่กำลังพูดอะไรรู้ ฉันวิ่งขึ้นไปข้างบนต่อ
“เดี๋ยว ฉันกำลังแนะนำตัวเองอยู่นะ…เดี๋ยวนะ! อย่าเมินฉันนะโว้ย!”
นอกจากราวบันไดแล้ว ยังมีเสาทรงกระบอกที่มีหม้ออยู่ด้านบนปรากฏให้เห็น ฉันเตะเสาลงด้วยเท้า และมันก็กระแทกเสียงดังจนกลิ้งลงบันไดไป
“อา ให้ตายเถอะ รอก่อน…!”
ฉันยังคงวิ่งขึ้นไป
ที่ด้านบนของบันไดวนมีห้องโถงยาว
ผ่านหน้าต่างกระจกที่ด้านข้างห้องโถง มองเห็นทิวทัศน์ของจัตุรัสได้ ฉันมองออกไปที่จัตุรัสทหารติดอาวุธมารวมตัวกันรอบๆ วิหารทุกทิศทุกทาง
ฉันเข้าไปที่ห้องโถง
ประตูบานหนึ่งในห้องโถงเปิดออก
"ฉัน…"
ปัง!
ฉันผลักประตูอย่างแรง
ประตูที่เปิดอยู่บางส่วนชนอย่างแรงเข้ากับอัศวินที่พยายามจะออกมา ประตูฟาดหน้าเขาทันที
"โอ้ย!"
อัศวินเอามือกุมหน้าและล้มลงกับพื้น
ฉันวิ่งลึกเข้าไปในห้องโถง ระหว่างทาง ฉันเจอคนสองสามคน แต่พวกเขาเดินผ่านฉันมาด้วยใบหน้าที่แสดงว่าไม่เห็นอะไรเลย ดูเหมือนว่าภายในวิหารก็มีทั้งคนที่มองเห็นเราและมองไม่เห็น
ส่วนสุดท้ายของห้องโถงมีสวนที่กว้างและสวยงาม
แสงแดดส่องเข้ามายังสวนผ่านช่องว่างบนเพดาน ที่ปลายสุดของสวนคือระเบียงที่ฉันมองเห็นจากจัตุรัส เงาของผู้คนปรากฏขึ้นเหนือผ้าม่านที่แขวนอยู่บนระเบียง
“อยู่ตรงนั้นสินะ”
เหลือเวลาอีกเพียงประมาณ 3 นาทีเท่านั้น
เวลากำลังจะหมด
ฉันเปิดประตูสวนแล้วเข้าไปข้างใน อัศวินสามคนโผล่ออกมาจากเงาต้นไม้ พวกเขามีสีหน้าเคร่งขรึมขณะจ้องมองมาที่ฉันและปรับหมวกที่บังหน้าให้เข้าที่
“จงน้อมรับความตายซะ คนนอกรีต”
อัศวินค่อยๆ เดินเข้ามาหาฉันพร้อมกับดาบคนกริบ
ท่าทางของพวกเขาแตกต่างจากทหารคนอื่น ดูแข็งแกร่งมากกว่าพวกนั้นหลายเท่า
เงาภายในระเบียงเคลื่อนตัว
มีเงาอีกอันปรากฏขึ้นหลังม่าน แสดงให้เห็นร่างของบางคนที่อยู่ตรงนั้นกับชายแก่นักเวทย์
“ตอนนี้ถึงคิวของหนูแล้วหรือยัง?”
"อืม ผู้คนที่จัตุรัสกำลังรออยู่”
“ว่าแต่ข้างนอกวุ่นวายอะไรกันล่ะ?”
“ดูเหมือนว่ามีผู้บุกรุกเข้ามา เราจะขับไล่พวกเขาออกไปในไม่ช้า ดังนั้นโปรดอย่ากังวลเลย”
ร่างสองร่างที่อยู่นอกระเบียงกำลังสนทนากัน
ท่ามกลางพวกเขา อัศวินทั้งสามก็เข้ามาหาฉัน
ฉันหายใจเข้าลึกๆ และใช้มือขวาจับดาบ
"ชึ้บ!"
อัศวินที่อยู่ตรงกลางหอบหายใจแรงและแทงดาบของเขาเข้ามา ฉันกันมันด้วยโล่ของฉัน ทั้งสองคนที่อยู่ด้านข้างก็การเข้าในเวลาที่ต่างกัน เมื่อก้าวไปทางขวา ฉันหันเหวิถีของมันด้วยดาบของฉัน จากนั้นทั้งสามก็โจมตีพร้อมกัน ดาบทั้งสามเล่มทำงานร่วมกันอย่างคล่องแคล่ว โจมตีโดยไม่บุกรุกพื้นที่ของกันและกัน
คมดาบเฉียดโดนแก้มของฉัน
เลือดบางๆ กระจายไปทั่วหญ้าในสวน
ฉันกลิ้งไปบนพื้น หลีกเลี่ยงการแทงสองครั้ง จากนั้นเหวี่ยงดาบเป็นวงกว้าง อัศวินก็ขัดขวางมันโดยธรรมชาติ ขณะที่ฉันลุกขึ้น ฉันก็เตะเข้าไปที่ขาขวาของเขาอย่างแรง
“…?!”
ชึ้ก
ฉันเหวี่ยงดาบลงแล้วฟาดเท้าซ้ายของเขา อัศวินทรงตัวไม่อยู่ฉันบิดดาบที่เขาถือและฟันคอของเขา จากนั้นฉันก็ขว้างดาบที่เปื้อนเลือดพุ่งเข้าใส่อัศวินที่อยู่ข้างหลังฉัน เขาก้าวถอยหลังไปสองสามก้าวแล้วปัดป้องฉันด้วยดาบของเขา
เขาถอยไปสองสามฟุต เพื่อให้ฉันมุ่งความสนใจไปที่อัศวินที่อยู่ตรงหน้า
อัศวินของหน้าแทงดาบของเขาเข้ามาที่ฉันอย่างรวดเร็วสามครั้ง ฉันปัดทั้งหมดออกไปด้วยโล่ของฉัน จากนั้นฉันก็แทงดาบเข้าไปในช่องว่างของกระบังหน้าของเขา ทันใดนั้นก็มีเลือดไหลออกมา เขาทรุดตัวลงกับพื้น เลือดไหลออกมาจากช่องว่างนั้นและเขาทรุดตัวลงทันที
ยังมีอัศวินคนหนึ่งที่ยังคงอยู่
เขาจับดาบยาวด้วยมือทั้งสองข้างและตั้งท่ารอตั้งรับการโจมตี
ฉันยิ้มและพุ่งไปข้างหน้า กวัดแกว่งดาบอย่างคล่องแคล่วและตัดคอของเขา
ตอนนี้ทั้งสวนกลายเป็นสีแดงเข้มจากเลือดที่ไหลออกมาจากศพ
ฉันเช็ดเลือดออกจากดาบแล้วก้าวไปข้างหน้า
“หนูซาบซึ้งในโอกาสที่มอบให้หนูมาก หนูจะไม่มีวันลืมเด็ดขาด”
"ไม่เช่นนั้นหรอกขอรับ ท่านเทพธิดาเองเองก็จะต้องพอใจอย่างแน่นอนเช่นกัน”
“ถ้าอย่างนั้นคงถึงคราวของหนูแล้วสินะคะ….”
ฉันดึงม่านระเบียงออก
แสงแดดส่องลงมาแรงมาก จนฉันต้องหลับตาลงครึ่งหนึ่งเพื่อปรับการมองเห็นและฉันก็มองออกไปที่นอกระเบียง
“…!”
ฉันสบตากับนักบวชสูงอายุที่อยู่ในระเบียง ดวงตาที่ย่นเหี่ยวของเขาเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ เขากวัดแกว่งไม้เท้าด้วยความตื่นตระหนก แต่ไม้เท้าไม่ได้เล็งมาที่ฉัน แต่เล็งไปที่คนที่อยู่ข้างหลังเขา ฉันรีบมุ่งหน้าไปยังราวระเบียง
พลังงานมืดรวมตัวกันที่ปลายไม้เท้าและหมุนวน
ฉันจำมันได้ เวทย์มนตร์เดียวกันกับที่นักบวชทมิฬใช้บนชั้น 10
ชึ้บ!
ฉันตัดคอของนักบวชนั่นทันที
เพล้ง!
พลังงานจากปลายไม้เท้าทำให้เพดานระเบียงแตกกระจายและระเบิดออกมา ใครบางคนบนระเบียงก็หันมามองมาที่ฉัน
หญิงสาวในชุดขาว
เธอสวมมงกุฎทองคำบนผมสีเงินยาวสลวยของเธอ
ดูเหมือนเธอน่าจะอยู่ในช่วงวัยรุ่นตอนกลาง หญิงสาวมองมาที่ฉันแล้วพูดขึ้นด้วยความประหลาดใจ
“คะ คุณเป็นใคร?”
ฉันตอบไปสั้นๆ
“เธอไม่จำเป็นต้องรู้”