บทที่ 113 : ประเภทภารกิจ คุ้มกัน (2-1)
บทที่ 113 : ประเภทภารกิจ คุ้มกัน (2-1)
“ตรรกะง่ายๆ”
ในระหว่างภารกิจป้องกันที่ชั้น 10 ทหารพันธมิตรและพันธมิตร NPC ทหารม้าไม่สามารถสังเกตเห็นเราได้
แต่คนเหล่านี้สังเกตเห็นเราได้อย่างชัดเจนเมื่อฉันเข้าใกล้พวกเขา ฉันรู้สึกถึงการจ้องมองของศัตรู มันหมายความว่านี่ไม่ใช่แค่ NPC ธรรมดา
ออลก้าพูดด้วยสีหน้างุนงง
“ตะ แต่พวกเขาอาจจะไม่ใช่ศัตรูก็ได้นะ”
“ก็มีความเป็นไปได้ ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ได้ฆ่าพวกเขา”
“แต่ก็เกือบๆ…”
เสียงพึมพำเกิดขึ้น
ฉากตลกขบขันของทหารสองคนนี้ก็ถูกเปิดเผย ดึงดูดผู้ชมจำนวนมาก
ประชาชนคนหนึ่งที่เห็นเหตุการณ์เริ่มอธิบายด้วยท่าทางที่จริงจัง
“โอ้..ทันใดนั้นทหารก็ล้มลงเลือดกำเดาไหล แล้วคนข้างๆ เขาก็ทำอะไรบางอย่างเหมือนกัน! เขาเอาหัวโขกกำแพงด้วยตัวเอง แบบนี้ แบบนี้!”
ชายคนหนึ่งที่หัวล้านแกล้งทำเป็นทุบหัวชนกำแพง
ต้องขอบคุณประชาชนเหล่านี้ เส้นทางสู่จัตุรัสจึงเดินง่ายขึ้นเล็กน้อย ฉันคว้าแตรเขาสัตว์ที่ห้อยอยู่ที่ตัวทหารมาด้วยและจากนั้นก็โยนทิ้งลงในท่อระบายน้ำ
"ไปกันเถอะ ใกล้หมดเวลาแล้ว”
เราเข้าไปในจัตุรัส
จัตุรัสแห่งนี้เต็มไปด้วยผู้คนหนาแน่นมากจนไม่สามารถขยับตัวได้ เสียงจากหลายร้อยคนก็ดังก้องไปทั่วบริเวณโดยรอบ ฉันพยายามเงี่ยหูฟังเสียงพูด
“ว่ากันว่าถ้าสัมผัสตัวคนผู้นั้นเพียงครั้งเดียว เราจะไม่มีความปรารถนาอีกต่อไป”
“ฉันไม่เชื่ออย่างนั้น นั้นอาจจะเป็นแค่เรื่องไร้สาระ”
“อะไรของนาย? เห็นทั้งวันไปกับการดื่มเหล้า”
“แล้วนายล่ะ เป็นเด็กเหลือขอเหรอ? อยากตายว่างั้น?”
“เข้ามาสิถ้าแน่จริง นายกวนใจฉันมานานล่ะ”
บทสนทนาส่วนใหญ่ไร้ความหมาย แต่ในหมู่พวกเขามีคำพูดหนึ่งซ้ำๆ นั้นคือคำว่า
'คนผู้นั้น'
พวกเขาหมายถึงคนๆ หนึ่ง ไม่ใช่ชื่อ
ดูเหมือนว่า 'คนผู้นั้น' คือเหตุผลที่ทำให้ผู้คนจำนวนมากมารวมตัวกันที่จัตุรัส
'มีแนวโน้มสูงที่ภารกิจของเราจะเกี่ยวข้องกับคนที่พวกเขาพูดถึง'
ตรงกลางจัตุรัสมีอาคารหลังใหญ่และวิจิตรงดงามชวนให้นึกถึงปราสาท
“นั่นคือวิหารสีเงินเหรอ?”
"ใช่"
มีความสูงประมาณ 20 เมตร ผนังหินอ่อนสีขาวและหน้าต่างกระจกสีที่ส่องประกายด้วยสีรุ้ง บนหลังคาทรงโดมมีรูปปั้นเทพีแฝดตั้งตระหง่านอยู่ ผนังถูกแกะสลักอย่างประณีตด้วยทิวทัศน์และลวดลายอันลึกลับ
ความสนใจของผู้คนมุ่งเน้นไปที่นั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจุดเดียวภายในนั้น
ระเบียงมีความสูง 15 เมตร
“ดูนั้นสิฮาน ดูเหมือนจะมีคนออกมา”
เจนน่าชี้ไปที่ทางเข้าระเบียง
มีชายชราแต่งกายด้วยชุดนักบวช ผิวขาว เขามองข้ามฝูงชนแล้วเคาะไม้เท้าลงบนพื้น
[ทุกคน เงียบ!]
เสียงที่ทุ้มลึกและน่าเชื่อถือได้กระจายไปทั่วจัตุรัส
ความโกลาหลที่เกิดขึ้น ได้หยุดลงอย่างกะทันหันผู้คนทั้งหมดต่างตกอยู่ในความเงียบงัน
ออลก้าพึมพำ
“พวกเขากำลังใช้เวทย์มนตร์”
[ผู้สืบทอดของดวงอาทิตย์มาถึงแล้ว อย่าก่อความวุ่นวาย!]
'เวลากำลังสูญเปล่า'
เราไม่ได้มาที่นี่เพื่อเที่ยวชมอะไรแบบนี้
เวลายังคงดำเนินไปเรื่อยๆ
“เราจะเข้าไปในวิหาร”
“ภายในวิหาร?”
"ใช่"
มีข้อมูลไม่ชัดเจนว่าเราต้องปกป้องใคร
มีข้อมูลไม่เพียงพอแต่ไม่มีเวลาที่จะลังเล ถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจแล้ว หากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบนนั้น ก็มีความเป็นไปได้สูงที่เราต้องคุ้มกันบุคคลสำคัญในเหตุการณ์
'การตัดสินใจจะต้องทำอย่างรวดเร็ว'
ฉันหันไปมองที่ทางเข้าวิหาร
ทหารสวมชุดเกราะยืนข้างทางเข้าประตู พวกเขาคุ้มกันอย่างเข้มงวดว่าไม่มีใครสามารถเข้าไปในวิหารได้ ทันใดนั้นสายตาของฉันก็ประสานเข้ากับทหารคนหนึ่ง
ฉันดึงดาบออกจากฝักทันที
ดวงตาของทหารเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ
'พวกเขาสามารถเห็นเราได้ด้วยเช่นกัน'
ฉันกางดาบออกแล้วเดินไปที่ทางเข้า
ทหารเดินเข้ามา ชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นผู้นำก้าวไปข้างหน้าด้วยสีหน้าระมัดระวัง
“พวกนายมีอะไร?”
"ถอย เว้นแต่ว่านายอยากจะเจ็บตัว”
“วิหารถูกจำกัดคนเข้า! แกเป็นคนนอกรีตงั้นเหรอ?”
“คนนอกรีต?”
"ถูกต้อง เรารับใช้เทพธิดา…”
สิ้นประโยคนั้น ฉันถีบเข้าไปที่รูปปั้นปูนปลาสเตอร์ของเทพธิดาที่อยู่ข้างๆ ฉัน จนมันล้มลง
รูปปั้นหัก และแตกออกเป็นชิ้นๆ
“แบบนี้เรียกว่านอกรีตหรือเปล่า?”
“ไอ้สารเลว! ฆ่ามันซะ!”
หน้าต่างคำเตือนก็ปรากฏขึ้น
[คำเตือน!]
[ทหารมนุษย์ Lv.13] X ?
[ศัตรูที่ไม่รู้จัก Lv.???] X ?
มันเป็นข้อความการต่อสู้ที่บ่งบอกถึงการปรากฏตัวของศัตรู
“มันเป็นคำตอบที่ถูกต้องแล้วฮะ”
“ว้าว ฮาน..นายนี่มันก้าวร้าวจริงๆ”
“พวกเธอเชื่อในลัทธิเทพีหรืออะไรสักอย่างหรือเปล่า?”
"ไม่"
“ผมเชื่อในตัวเองเท่านั้น แล้วผมก็เชื่อพี่ด้วยครับ”
อารอนดึงหอกของเขา
เจนน่าเริ่มขึ้นลำธนู
“เราจะผ่านพวกเขาแล้วเข้าไปในวิหาร เป้าหมายที่เราเฝ้ารออยู่น่าจะอยู่ในนั้น”
เคร้ง!
ทหารก็ชักอาวุธออกมาพร้อมกันมีทั้ง ดาบ หอก และง้าว
“กำจัดพวกนอกรีต!”
สิ้นเสียงคำสั่งของผู้นำ พวกทหารก็รีบรุดไปข้างหน้าตรงมาที่พวกเรา
ฉันสวมโล่ด้วยมือซ้ายแล้วพูด
“ฝ่าไปเลย”
"รับทราบ!"
ทหารที่อยู่ด้านหน้าเหวี่ยงง้าวขอเขาออกมา
หลังจากเบี่ยงทิศทางด้วยโล่แล้ว ฉันก็แทงดาบเข้าไปในคอของเขา
“อ้าก! ฮึบ!”
ทหารที่อยู่ข้างหลังเขาก็แทงหอกของเขาเข้ามาในขณะที่ฉันหมุนลำตัว หอกก็แทงเฉียดชุดเกราะหนังของฉัน หอกของมันงอทันทีและดาบของฉันก็แทงเข้าไปที่ทหารคนนั้น
"อ๊ากกก!"
"แก!"
ทหารอีกคนถือง้าวอยู่ในมือกำลังจะวิ่งเข้ามาที่ฉัน แต่ฉันหมอบลงและใช้โล่ปัดเขาออก เขาหมุนตัวลอยขึ้นไปในอากาศ และฉันก็เหวี่ยงดาบตามลงไป
“พยายามหลีกเลี่ยงการต่อสู้ แค่วิ่งเข้าไปข้างใน!”
เราไม่จำเป็นต้องต่อสู้กับพวกเขาทั้งหมด
ฉันปัดทหารที่พุ่งเข้ามาหาฉันแล้วเริ่มวิ่ง ส่วนอีกคนที่เหลือก็วิ่งตามฉันมา
ท่ามกลางผู้คนที่มารวมตัวกันที่จัตุรัส บางคนก็เห็นศพทหาร
"ฮึ! อะไรเนี่ย…ค-คนตาย!”
เสียงกรีดร้องแหลมสูงดังก้องไปทั่วจัตุรัส
เราเข้าไปในบันไดที่นำไปสู่ประตู
ทหารที่เป็นผู้นำเหวี่ยงดาบและตะโกน
“กั้นพวกมันเอาไว้! ปกป้องวิหารจากคนนอกรีต!”
ฉึก!
ชิ้ง!
ลูกศรแทงไปที่หน้าผากของทหารผู้นำ
เจนนายิงธนูใส่ทหารที่ติดตามเราขณะที่เธอวิ่งขึ้นบันได เธอเล็งไปที่ขาและแขนของพวกเขา ทหารที่ซ่อนอยู่ข้างเสาหินข้างบันไดก็เผยตัวตนออกมา
“ไม่ต้องสนใจ! เราไม่มีเวลา”
อารอนแทงหอกเข้าใส่ทหารที่เฝ้าประตู
ปัง!
ฉันเตะเปิดประตูที่นำไปสู่ภายในวิหาร
เมื่อฉันแน่ใจว่าออลก้าเข้ามาแล้วฉันก็ปิดประตูตามหลังเธอ
“ออลก้า”
"ฉันรู้แล้ว!"
ออลก้าร่ายคาถาอย่างรวดเร็ว
ท่อนไม้จากด้านในวิหารลอยขึ้นมาเองและขัดอยู่ระหว่างมือจับประตู
ปัง! ปัง!
เสียงทุบประตูดังก้องมาจากด้านนอก
นักบวชวัยกลางคนที่กำลังอ่านหนังสือบนแท่นบูชาก็เบิกตากว้าง
“คะ-พวกคุณเป็นใคร? คุณมาที่นี่ได้อย่างไร…?”
ฉันรีบสำรวจภายใน
มีทางเดินซ้ายและขวา
ทหารเจ็ดนายถืออาวุธเดินออกมาจากทางเดินทางด้านขวา
“ใครกล้าบุกรุกที่นี่!”
“พวกเธอจัดการพวกมัน เสร็จแล้วค่อยตามฉันมา”
“แล้วนายล่ะ”
“ฉันจะไปหาเป้าหมายก่อน”
“แล้วพวกเราจะรีบตามไป”