ตอนที่ 52 คฑาแห่งเอเววิส
เนลสันตามทิศทางของร่างเงานั้นมาจนถึงที่บริเวณค่ายของทหารรัสเซล ก่อนหน้านั้นเขาพยายามเร่งความเร็วแล้วแต่ก็คลาดไป
แต่สถานการณ์ตรงหน้ากลับทำให้เนลสันเครียดมากกว่าเดิม
ผู้คนอพยพ?
รัศมีสองกิโลเมตรตอนนี้กำลังอลหม่านไปด้วยประชาชนชาววอร์บัสที่วิ่งหนีออกมา
ตรงพื้นที่ห้ามเข้ามีเจ้าหน้าที่จากหน่วยลาดตระเวนหน่วยที่สี่นับสิบคน เนลสันเห็นแฟร์เวลแล้ว เขาคือหัวหน้าหน่วยชุดนี้
"นายมาได้ยังไงเนลสัน พื้นที่ด้านในถูกอพยพหมดแล้ว นายมีญาติอยู่ข้างในหรือ?"
แฟร์เวลสังเกตเห็นเนลสันที่มีท่าทางเร่งรีบทันที หัวหน้าหน่วยคนนี้รีบวิ่งมาที่นี่จนชุดชุ่มเหงื่อ ไม่ใช่ว่าญาติของเขายังติดค้างอยู่ด้านในหรอกนะ?
"นี่มันเกิดอะไรขึ้นแฟร์เวล? ฉันมีญาติเสียที่ไหนนายก็รู้"
เนลสันเป็นเด็กกำพร้า เขาคือคนที่เอาความมานะพยายามมาแลกกับความสำเร็จอย่างแท้จริง
"ฉันจะไปรู้ได้ยังไงเผื่อนายแอบไปมีลูกไว้ที่ไหน"
แฟร์เวลมองไปที่ใบหน้าจริงจังของเนลสัน จากนั้นก็รีบเปลี่ยนเรื่องทันที เขากระแอมทีหนึ่งก่อนจะอธิบาย
"ตอนนี้พระอัยกาไนซ์ลอฟประกาศกฎอัยการศึกทั่ววอร์บัสแล้ว และรับสั่งให้อพยพประชาชนในรัศมีสองกิโลเมตรรอบค่ายทหารรัสเซล ฉันเลยรีบพาลูกน้องมาที่นี่"
หน่วยลาดตระเวนที่สี่มีเจ้าหน้าที่ประมาณสองร้อยคน เขาสั่งลูกน้องให้เข้าไปอพยพผู้คนออกมาแล้ว ส่วนเขาที่เป็นหัวหน้าก็นั่งรอตรงทางเข้าจะดีที่สุด
"นายเห็นผู้ทรงพลังเหนือมนุษย์เข้าไปด้านในบ้างไหม?"
เนลสันยังไม่ยอมแพ้ เขาไม่เคยปล่อยคนร้ายให้หนีรอดมาก่อน นี่คือเคล็ดลับในการได้ตำแหน่งของเขา
ต้องเข้าใจว่าระบบเหนือมนุษย์นั้นเป็นสิ่งที่สงวนเอาไว้เฉพาะชนชั้นสูง ระบบยิ่งสามารถฝึกฝนไปถึงระดับสูงเท่าไหร่ก็ยิ่งมีค่ามากเท่านั้น
ปัจจุบันระบบเหนือมนุษย์ที่เนลสันฝึกเป็นสิ่งที่เขาใช้ผลงานแลกมาจากกองทัพ ซึ่งสามารถฝึกได้ถึงระดับพื้นฐานเท่านั้น
แต่นี่ก็มีค่ามากแล้ว สำหรับประชาชนชั้นรากหญ่าที่ไม่มีภูมิหลังอย่างเนลสัน
"เห็นหลายคนเลยล่ะ นายจะเอาใครล่ะ พระอัยกาไนซ์ลอฟพึ่งพานักบวชระดับสูงในคณะมิสซังแห่งวอร์บัสเข้าไปด้านใน ก่อนหน้านั้นก็เป็นเรือเหาะของราชฑูตเมนเดรกที่กลับมาจากลาดตระเวนนอกป้อม อ้อและล่าสุดก็ท่าน ผ.บ.แห่งเกลิออน"
ผ.บ.แห่งเกลิออน เป็นชื่อย่อของตำแหน่งผู้บัญชาการกองทัพเกลิออน เจ้าหน้าที่ทหารในวอร์บัสใช้มันเรียกแทนชื่อของผู้ครองตำแหน่ง ในที่นี่คืออวาซิล
"และคนอื่นล่ะ คนที่ไม่ใช่สมาชิกสภา?"
พระอัยกาไนซ์ลอฟ ราชฑูตเมนเดรก และ ผ.บ.แห่งเกลิออน ถือว่าเป็นสมาชิกสภาแห่งวอร์บัสพวกเขาร่วมกันปกครองที่นี่
"ไม่มีแล้ว ฉันพึ่งมาได้ไม่นาน ก็วันนี้ฉันลานี่นะ นายจะเข้าไปตรวจดูก็ได้นะ เป็นนักโทษหลบหนีหรือ?"
"นายพึ่งมาแล้วนายรู้ได้ยัง?"
"ก็ฉันมีลูกน้องนี่ ถามพวกเขาก็รู้แล้ว"
เนลสันพูดไม่ออก แฟร์เวลนายได้ตำแหน่งนี้มาได้ยังไง? ในใจของเขาคิดเช่นนี้แต่ไม่ได้ถามออกไป
"ตกลง ฉันขอเข้าไปหน่อย"
แฟร์เวลแค่พยักหน้าอนุญาตจากนั้นก็กลับไปควบคุมการอพยพต่อ เขาไม่อยากยุ่งกับงานของเนลสัน เพราะกลัวคนผู้นี้จะขอให้เขาช่วยตามหาคนหายขึ้นมา
ลึกเข้าไปในเขตตะวันตก บนท้องถนนที่คับแคบพอให้รถม้าคันเดียววิ่งผ่าน โรอากับสิงโตน้อยแอบมาหลบอยู่ด้านใน บาดแผลทั่วตัวของเขายังฉกรรจ์ ไม่อาจรักษาหายได้โดยอาศัยแค่น้ำศักดิ์สิทธิ์อย่างเดียว
"ฉันขอโทษนะแอสตร้า"
โรอากอดลูกสิงโตเอาไว้ในอ้อมแขน น้ำของลูกผู้ชายไหลรินออกมา มันผสมทั้งความรู้สึกผิดและความเจ็บปวด
"ทำไม่นายมาอยู่ที่นี่"
เบื้องหน้าถนนมีร่างของเอลฟ์วัยกลางคนเหน็บดาบสีเขียวด้ามสีทองยืนอยู่ เขาคืออวาซิลเอง
"นายควรอพยพออกไปได้แล้ว"
อวาซิลย้ำอีกครั้ง เด็กคนนี้บาดเจ็บมาก บนศรีษะของเขาที่เคยมีผมขึ้นอยู่ตอนนี้กว่าครึ่งถูกเผาจนกลายเป็นเนื้อสีแดง ผู้บัญชาการเอลฟ์มองข้ามไปยังด้านหลังของเด็กหนุ่ม ตรงนั้นเขาสัมผัสได้ถึงพลังเวทย์บางอย่าง
ขณะเดียวกันโกเลมดินที่แอบซ่อนอยู่ในซอยด้านหลังเด็กหนุ่มก็เดินออกมา มันควรมีห้าตัว นี่เป็นการอัญเชิญของออสบอร์นก่อนหน้านั้น
อวาซิลเริ่มเดาตัวตนของเด็กชายอยู่ในใจ
"นายเกี่ยวอะไรกับคนที่อ้างว่าเป็นหลานของอามัวร์หรือเปล่า?"
"ไม่ใช่เรื่องของคุณ ออกไปซะ"
โรอาไม่ไว้ใจใครอีกแล้ว นอกจากออสบอร์น
โกเลมดินค่อยๆเดินเข้ามาใกล้อวาซิลมากขึ้น แต่ท่านผู้บัญชาการกลับไม่ได้เกรงกลัวเลย
แน่ล่ะ ก็เขาเป็นผู้ทรงพลังเหนือมนุษย์ขั้นครึ่งก้าวระดับตำนาน
อวาซิลเริ่มแน่ใจกับความคิดของตนเอง เด็กหนุ่มมีความเกี่ยวข้องจริงๆ
"ฉันเป็นเพื่อนกับอามัวร์"
อวาซิลหยิบมีดสั้นเล่มหนึ่งออกมาจากที่เหน็บข้างเข็มขัด มันมีตราอาร์มที่สีทองสลักอยู่ที่ด้าม
"นี่คงบ่งบอกอะไรได้บ้างกระมัง"
โรอาจำได้มันคือมีดสั้นของอามัวร์จริงๆ แต่ทำไมถึงมาอยู่คนคนนี้ แต่ไม่ทันที่จะให้เขาถาม เอลฟ์วัยกลางคนก็พูดขึ้นเสียก่อน
"ออกมาเถอะเลวาเธล นายจะตามฉันไปถึงไหน"
พร้อมกันนั้นด้านหลังของเอลฟ์วัยกลางคนก็มีร่างงดงามของเลวาเธลเดินออกมา นี่ควรเป็นพลังของเอลฟ์จอมเวทย์ ผู้ฝึกฝนร่างกายไม่สามารถทำเช่นนี้ได้
"นายรู้ตอนไหน?"
เลวาเธลถามอวาซิล นี่เป็นคาถาบทใหม่ที่เขาเรียนรู้มา กว่าจะฝึกสำเร็จต้องใช้เวลานานหลายปีเชียวนะ
"ตั้งแต่ต้นนั่นแหละก็กลิ่นน้ำหอมนายชัดขนาดนั้น ฝากเด็กคนนี้ด้วย"
ไม่ทันรอให้เลวาเธลรับปาก อวาซิลก็เดินหายออกไปยังทิศของค่ายทหารแล้ว
เขาจะตามไปดีไหมนะ? ไม่อย่างนั้นเจ้าชายองค์นี้อาจไปก่อปัญหาอะไรอีก มารับตำแหน่งราชฑูตที่นี่มันช่างน่าปวดหัวเสียจริง
แต่แล้วเอลฟ์จอมเวทย์ผู้งดงามก็หันไปมองเด็กหนุ่มตรงหน้า ก่อนจะอุธานออกมาด้วยความตกใจ
"นี่นายไปโดนอะไรมาเนี่ย?"
ออสบอร์นที่กำลังจมอยู่กับความคิดความเข้าใจในคาถาระดับตำนาน ไม่ได้ล่วงรู้ถึงสถานการณ์ที่คาเดนกำลังเผชิญอยู่เลย
ทันทีที่ไนซ์ลอฟอัญเชิญคฑาแห่งเอเววิสออกมา ราชาผีแห่งเมืองมรกตก็มุมปากกระตุกไปหลายยก
ลำแสงที่มีพลังโจมตีระดับตำนานขั้นแรก ไหนจะอาวุธระดับตำนานขั้นสูงที่มีอำนาจในขอบเขตแห่งแสงในมือบาทหลวงคนนั้นอีก
เขาเป็นวิญญาณระดับตำนานก็จริง แต่หลังจากถูกเปลี่ยนให้เป็นจิตวิญญาณในแหวนเขาก็ถูกลดระดับให้เป็นระดับตำนานขั้นต่ำสุดเท่านั้น ไม่ใช่ระดับตำนานขั้นสูงเฉกเช่นตอนที่ยังมีชีวิตอยู่
ตอนนี้จะเอายังไงดี?
ตอนที่คาเดนกำลังคิดอยู่นั่นเอง พระอัยกาไนซ์ลอฟ พระอัครมหาสังฆราชเจ้าแห่งวอร์บัสก็ภาวนาสำเร็จ แสงสีขาวพราวระยับดุจเส้นไหมสีเงินโปรยปรายลงมาจากฟ้าเบื้องบน
เทพแห่งแสงตอบสนองคำขอของเขาแล้ว
ต้องบอกว่าการใช้อาวุธระดับตำนานในขณะที่ยังไม่ใช่ระดับตำนานนั้น ไม่ได้ง่ายดายเหมือนกับออสบอร์นทุกคน ไนซ์ลอฟเองก็ไม่สามารถใช้ได้ตามใจเช่นกัน
ดังนั้นก่อนจะใช้คฑาแห่งเอเววิส คณะนักบวชจำเป็นต้องรวมพลังกันและหยิบยืมอำนาจกฎของเทพแห่งแสงมาชั่วคราว เพื่อให้สามารถใช้อาวุธระดับตำนานได้
นี่เป็นอภิสิทธิ์ของอัครสาวกในเทพผู้ยิ่งใหญ่
อย่างไรก็ตามการใช้วิธีนี้มีค่าตอบแทนใหญ่หลวง หลังจากนี้ไปนานนับเดือนพวกเขาจะทรุดโทรมลง พลังเวทย์ถดถอยเพราะแบกรับภาระหนักเกินกว่าที่ระดับสูงจะทนไหว
แต่ก็คุ้มค่า!
คาเดนเห็นพลังที่เล็ดลอดออกมาจากคฑาแล้ว มันถึงกับขนหัวลุก
ตอนนั้นเองวงแหวนดวงดาวก็วิ่งออกมาตรงหน้าของคาเดน ไม่ใช่จะมาทำร้ายเขา แต่พุ่งตรงไปขวางเมนเดรกกับอัศวินเกราะทองสองนายเอาไว้
เมนเดรกรู้แล้วว่าการจัดการกับพ่อมดตรงหน้าไม่ใช่เรื่องง่าย เรือเหาะของเขากำลังจะหมดพลังลงในไม่ช้า การยิงปืนใหญ่สังหารเทพครั้งนี้สิ้นเปลืองงบประมาณของวอร์บัสไปนับสิบปี
หัวใจของเมนเดรกตอนนี้แทบจะหลั่งเลือดออกมาแล้ว
ในทันทีลำแสงบนเรือเหาะก็หายไป พลังงานของมันหมดลงพร้อมกับควันสีขาวจากความเสียหายที่ใช้ปืนใหญ่นานเกินเกณฑ์ที่กำหนด
คาเดนอาศัยจังหวะที่ลำแสงสีฟ้าบนเรือเหาะหยุดลง กระโจนเข้าหาคณะนักบวชทันที
ควันสีเขียวของภูตผีกระจายออกไปโดยรอบนักบวชเจ็ดคน ไนซ์ลอฟที่อยู่ด้านหน้าสุดเริ่มเรียกใช้พลังของคฑา
ฉับพรันก็ปรากฎภาพเงาของเทวฑูตเด็กชายเด็กหญิงที่มีหน้าตาอัปลักษณ์มากมายบินออกมาจากเบื้องหลังของพระอัยกาแห่งวอร์บัส
พร้อมกับแสงสีขาวที่ซีดเซียวน่าหวาดผวา จนสามารถกัดกร่อนลึกเข้าไปในจิตใจอันบริสุทธิ์ของใครก็ตาม เพื่อดึงเอาความคิดชั่วร้ายดำมืดที่อยู่ลึกที่สุดออกมาและทำให้คนผู้นั้นวิปลาส
นี่คือคฑาแห่งเอเววิส คฑาแห่งคำสาบแด่เหล่าวิญญูชน!