ตอนที่ 1441 ข้อตกลง
มอร์แกน สมิธ ในทุนเดิมเขาเป็นคนที่เย่อหยิ่งอยู่ก่อนแล้ว และแน่นอว่าเขาไม่ได้เห็น หลินฟาน อยู่ในสายตาเลย แล้ว ชายนิรนาม จะสามารถทำอะไรในอาณาเขตของเขาได้ นับประสาอะไรกับชายชาวเอเชียคนหนึ่ง?
อย่างไรก็ตาม แม้จะดูว่าทั้งน้ำเสียง และสีหน้าของเขาออกจะถมึงทึง อีกทั้งน้ำเสียงเขาที่ดูออกจะขุ่นมัวนี้ แต่อย่างไร ท้ายที่สุด.. หลินฟาน ก็เป็นคนชี้ปากกระบอกปืนมาที่เขา
หาก หลินฟาน เป็นชายหนุ่มโง่เขลาหุนหันพลันแล่น ยิงเขาโดยไม่คํานึงถึงผลที่จะตามมา เขาเองก็รับไม่ไหวเช่นกัน ดังนั้นแม้ว่าเขาจะขู่ หลินฟาน แต่ในความเป็นจริงแล้ว นี่มันเป็นวิธีการประนีประนอม เพียงแค่ขอให้อีกฝ่ายล่าถอยไป และไม่กล้าเรียกร้องอะไร ที่มันมากเกินไป.. เท่านั้น
หลินฟาน ยิ้มเล็กน้อย และในที่สุดก็พูดว่า : “คุณพูดจบหรือยัง? จะได้ถึงตาผมบ้างแล้ว ผมคิดว่า มอร์แกน คุณดูจะเคลียดนิดหน่อยนะ ส่วนเหตุผลที่คุณดูเคลียดขนาดนี้ ผมเองก็พอเข้าใจ คุณคงคิดว่าผม ..มาเพื่อแก้แค้นให้กับ หลี่ จื่อเสีย แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่อย่างนั้น”
มอร์แกน สมิธ : “ไม่ใช่?”
มันดูแปลกมาก หากอีกฝ่ายพูดว่า ไม่ใช่.. ในตอนนี้คุณลองมองดูไปที่สภาพของ ริค สิ ..เขาเองไม่อยากที่จะลงเอยเหมือนๆ กับ ริค หรอกนะ
หลินฟาน กล่าวว่า : “อย่างที่ผมพูดไป จริงๆ แล้ว ผมเป็นตัวแทนของ คุณหลี่ มาเพื่อทําข้อตกลงกับคุณ”
หลินฟาน เก็บปืนไว้ที่เอว เพื่อแสดงความจริงใจ
มอร์แกน สมิธ ตื่นตัวทันที : “ข้อตกลงอะไร?”
หลินฟาน กล่าวว่า : “คุณลักพาตัว คุณหลี่ ไป จุดประสงค์คืออะไร คุณ และผมเองต่างก็รู้ดี.. ใช่ การกระทําของคุณทําให้ คุณหลี่ เดือดร้อนมาก หาก คุณหลี่ คิดต้องการจะฆ่าคุณ คุณมัน ..ก็สมควรแล้ว และยังโทษใครไม่ได้ อย่างไรก็ตาม การฆ่าคุณ.. ก็ไม่มีอะไรมาเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ ในจีนเรามีประโยคหนึ่งที่ว่า ความเกลียดชัง มีแต่จะนำพาให้เกิดความเกลียดชังที่ไม่มีสิ้นสุด.. หลังจากผมปรึกษากับ คุณหลี่ แล้ว ทางเราจึงได้ตัดสินใจแล้วว่าเลือกทําข้อตกลงกับคุณคงจะดีกว่า ‘เหอชี่เซิงไฉ(和氣生財)’ อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขจะนำพาความร่ำรวยมาให้ นี่ก็เป็นคําพูดที่โด่งดังในจีนเรา และคุณไม่ใช่ว่าต้องการเทคโนโลยีของเธอหรอกหรือ งั้นเราก็จะขายมันให้กับคุณ คุณเห็นว่าอย่างไร?”
มอร์แกน สมิธ ตกตะลึง เขาไม่คาดคิดจริงๆ ว่าอีกฝ่ายจะยังเต็มใจที่จะทําข้อตกลงกับเขา ..เพื่อขายเทคโนโลยีนี้ให้กับเขาจริงๆ
ต้องบอกว่า ตอนนี้.. เขารู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาจริงๆ แล้ว!
เดิมทีเขาได้เข้าร่วมห้องประมูลของ หลี่ จื่อเสีย และเสนอราคาไปแล้ว เพียงแต่ไม่สามารถคว้ามันจากคนอื่นมาได้ ก่อนที่ตัวตนของ หลี่ จื่อเสีย จะถูกเปิดเผย เทคโนโลยีนี้ที่เรียกได้ว่าเป็นการปฏิวัติวงการคอมพิวเตอร์แต่ราคาของมันกลับถูกผลักดันขึ้นไปสูงเสียดฟ้าถึง หนึ่งพันล้านยูโร แล้ว
ไม่มีทาง ..หากเทคโนโลยีนี้ มีอนาคนที่สดใส ซึ่งหากมันได้รับการส่งเสริม ก็มีความเป็นไปได้มากว่าอาจจะกลายเป็นแสนล้าน หรือล้านล้านยูโรในอนาคต.. จากมุมมองนี้ดูเหมือนหนึ่งพันล้านยูโรก็ถือว่ามากเกินไปแล้ว
แต่ปัจจุบัน บริษัทของ มอร์แกน สมิธ ยากที่จะนํางบประมาณขนาดนี้ออกมาใช้ได้ ดังนั้น หากการประมูลครั้งนั้นยังคงดําเนินต่อไป มีความเป็นไปได้สูงที่เทคโนโลยีนี้จะตกไปอยู่ในมือของ ..คนอื่น
หากไปอยู่ในมือของคนอื่นก็ช่างมันเถอะ สำหรับ มอร์แกน สมิธ เขาไม่ต้องการให้ อัลเลน ได้รับมันไปมากที่สุด นั่นเพราะเขารู้ว่าการประมูลนี้ อัลเลน สก็อตต์ ศัตรูตัวฉกาจของเขาต้องอยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน
หลังจากตัวตนของ หลี่ จื่อเสีย ถูกเปิดเผย มอร์แกน สมิธ ก็เกิดความคิดที่คดเคี้ยวขึ้นทันที มอร์แกน สมิธ ที่ขึ้นชื่อว่ากล้าคิดกล้าทํามาโดยตลอด ตั้งใจที่จะลักพาตัว หลี่ จื่อเสีย ขึ้นจริงๆ เพราะถ้าเขาสามารถรับเทคโนโลยีนี้มาได้แบบฟรีๆ นั่นมันย่อมเป็นสิ่งที่ดีที่สุด!
แต่ตอนนี้.. ดูเหมือนว่าการจะได้มันมาฟรีๆ คงเป็นไปไม่ได้แล้ว แต่ถ้าสามารถใช้เงินซื้อมันมาได้ ..ก็สามารถพิจารณาได้
“คุณวางแผนที่จะขายมันในราคาเท่าไหร่?” มอร์แกน สมิธ อดไม่ได้ที่จะถาม
หลินฟาน กล่าวว่า : “ในห้องประมูล การเสนอราคาประมูลครั้งสุดท้ายของเทคโนโลยีนี้คือ หนึ่งพันล้านยูโร หากการประมูลไม่ถูกขัดจังหวะ ราคาสุดท้ายก็ยากที่จะประเมิน บางทีมันอาจจะเป็นสองพันล้านยูโร หรือสูงกว่านั้น อย่างไรก็ตาม คุณหลี่ รู้ และเธอได้กล่าวว่าเนื่องจากการหยุดชะงักไปในครั้งนั้น กับในเรื่องตัวตนของเธอที่ได้ถูกเปิดเผย มันก็ไม่ใช่ความรับผิดชอบของผู้ซื้ออย่างพวกคุณ เธอจึงยินดีที่จะขายเทคโนโลยีนี้ในราคาที่มีการเสนอออกมาครั้งสุดท้ายในห้องประมูล ที่ หนึ่งพันล้านยูโร ซึ่งหมายความว่าถ้าคุณยินยอมจ่ายเงินหนึ่งพันล้านยูโร เทคโนโลยีนี้ก็จะเป็นของคุณ”
มอร์แกน สมิธ : “......”
หนึ่งพันล้านยูโร นั่นเป็นราคาที่สูงมากแล้ว ไม่ใช่ว่าเขาเอาออกมาไม่ได้ แต่มันไม่ง่ายเลย.. ถ้าการลงทุนครั้งนี้เป็นหนึ่งพันล้านหยวน นั่นแน่นอนว่ามันคุ้มค่าพอ ซึ่งหากมันสามารถให้ผลตอบแทนหลายเท่าตัว หรือหลายสิบเท่าตัว เขาก็สามารถนำมันออกมาได้ แม้จะต้องกัดฟันก็ตาม
แต่ถ้าหากการลงทุนนี้.. ไม่สามารถทําเงินได้ เขาก็ไม่เพียงแต่จะสูญเสียเงินไปเท่านั้น แต่ยังอาจลากบริษัทของเขาลงมาด้วย
หลินฟาน กล่าวว่า : “ขอบอกความลับบางอย่างให้กับคุณ ผมได้รับรายชื่อของผู้ที่เข้าร่วมในห้องประมูลในคืนนั้นมาแล้ว คุณรู้หรือไม่ว่าใครเป็นผู้เสนอราคาครั้งสุดท้ายหนึ่งพันล้านยูโรนั่นไป และคุณเองก็ต้องคุ้นเคยกับคนคนนี้ดี.. เขาคือ คุณอัลเลน อัลเลน สก็อตต์”
มอร์แกน สมิธ มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที อัลเลน!
เป็นศัตรูของเขา อัลเลน!
หลินฟาน กล่าวไปว่า : “ถ้าคุณไม่อยากซื้อมัน ก็.. ไม่เป็นไร ทางเราก็ไม่ได้จะบังคับให้คุณซื้อ อย่างไรก็ตาม อย่างน้อย คุณอัลเลน ก็ยอมจ่ายในราคานี้ เช่นนั้นเราก็แค่ขายให้กับ คุณอัลเลน ส่วนคุณหากไม่ยอมรับข้อตกลงนี้ งั้นเราคงต้องปฏิบัติตามกฎของโลก คุณลักพาตัว คุณหลี่ ไป แน่นอนว่าคุณย่อมที่จะต้องจ่ายตามราคาของมัน!”
มอร์แกน สมิธ มีเหงื่อเย็นๆ ไหลตกลงมา นี่มันคือ การบังคับขายให้อยู่แล้วไม่ใช่หรือยังไง ถ้าเขาไม่ซื้อก็ต้องปฏิบัติตามกฎของโลก นี่มันคือ ขู่กรรโชกกันชัดๆ!
“คุณไม่จำเป็นต้องมาขู่ฉัน ฉันจะซื้อมัน และเทคโนโลยีนี้ พวกคุณต้องไม่ขายมันไปให้กับ อัลเลน!” มอร์แกน สมิธ กล่าวออกไป
เป็นไปได้ว่าถ้า อัลเลน ได้รับเทคโนโลยีนี้ ช่องว่างระหว่างบริษัทของเขากับ บริษัทของ อัลเลน ก็จะยิ่งกว้างขึ้นเรื่อยๆ
ในทางกลับกัน ถ้าเขาได้รับเทคโนโลยีนี้ มันเป็นไปได้มากว่าจะแซงหน้าบริษัทของ อัลเลน หรือแม้กระทั่งทิ้งห่างบริษัทของ อัลเลน ไปไกลได้ ..ในอนาคต!
ในฐานะศัตรูกัน ..จะมีอะไรดีไปกว่าการทิ้งอีกฝ่ายเอาไว้ข้างหลังล่ะ และศัตรู สำหรับเขาแล้ว.. ตัวเขาเองยอมตายด้วยตนเองดีกว่าจะยอมปล่อยให้อีกฝ่ายตายอย่างน่าสังเวชน้อยกว่าตน!
หลินฟาน ยิ้มแล้วพูดว่า : “คุณยินดีที่จะยอมซื้อมัน โอเค.. งั้นได้ ผมได้เตรียมสัญญาซื้อขายมาแล้ว ด้านบนมีลายเซ็นของ คุณหลี่ อยู่ก่อนแล้ว ถ้าคุณดูแล้ว และเห็นว่าไม่มีปัญหาอะไร ..ก็เซ็นเถอะ”
หลินฟาน หยิบเอกสารฉบับหนึ่งออกมา และยื่นให้กับ มอร์แกน สมิธ นี่คือเขาพร้อมแม้กระทั่งเรื่อง เอกสารสัญญา..
เนื้อหาคร่าวๆ ของสัญญาฉบับนี้ ก็คือ ในการซื้อขายเทคโนโลยีนี้ ต้องจ่ายเงินมัดจํา 200 ล้านยูโรก่อน หากผู้ซื้อกลับคํากลางคัน และไม่ต้องการซื้อแล้ว มัดจำนี้ก็จะไม่สามารถขอคืนได้
ตัวอย่างเช่น เทคโนโลยีนี้มีมูลค่า หนึ่งพันล้านยูโร มอร์แกน สมิธ ต้องจ่ายเงินมัดจํา 200 ล้านยูโร ก่อน
หาก มอร์แกน สมิธ ไม่อยากซื้อในภายหลังจากนี้ เงินมัดจําจำนวน 200 ล้านนี้ก็จะไม่ได้กลับคืน
เมื่อหลังจากอ่านสัญญาแล้ว มอร์แกน สมิธ รู้สึกว่าปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร เพราะมีแค่ถ้าเขากลับคํา เงินมัดจํานี้ถึงจะไม่ได้คืน และเขาคิดไม่ออกถึงเหตุผลที่เขาคิดกลับคํา หากว่าเขาตกลงที่จะซื้อเทคโนโลยีนี้มาแล้ว
และหากเขาคิดคำนวนดีๆ ตัวเขาเองยากที่จะเอาเงินหนึ่งพันล้านนี้ออกมาได้ในคราวเดียว แต่ทว่า 200 ล้านยูโรนั้นเขาสามารถดึงมันออกมาได้โดยง่ายๆ อีกอย่างหลังจากจ่ายเงินมัดจำนี้แล้วอีกฝ่ายก็ต้องเอาเทคโนโลยีนี้มาให้เขา พอได้เทคโนโลยีนี้มาแล้ว เงินที่เหลืออีก 800 ล้านยูโรนั้น เขาจะลากมันออกไป หรือจะระงับมันไปเลยก็ยังได้
ถึงตอนนั้น แม้ว่า หลี่ จื่อเสีย คิดจะฟ้องร้องเขาก็ไม่มีประโยชน์แล้ว และถึงเขาจะทำตัวเป็นนักต้มตุ๋น อีกฝ่ายจะมีปัญญามาทําอะไรเขาได้?
“สัญญานี้ ฉันเซ็น!”
มอร์แกน สมิธ ซึ่งคำนวนมาอย่างดีแล้ว ก็ตอบตกลง และเซ็นสัญญาลงไปด้วยตนเองอย่างรวดเร็ว เพื่อให้บรรลุข้อตกลงมูลค่า หนึ่งพันล้านยูโรนี้ ให้เสร็จสิ้น
หลินฟาน กล่าวว่า : “ผมขอพูดในนามของ คุณหลี่ หวังว่าเราจะได้ร่วมงานกันอย่างมีความสุข.. ตามที่ระบุไว้ในสัญญา คุณต้องจ่ายเงินมัดจํามาให้กับเราภายใน 24 ชั่วโมง มิฉะนั้นสัญญาจะถือเป็นโมฆะ แน่นอนว่าด้วยความแข็งแกร่งของคุณ คุณสามารถจ่ายเงินมัดจํานี้มาได้อยู่แล้ว”
ทุกคนล้วนต้องรักษาหน้า นับประสาอะไรกับเศรษฐีอย่าง มอร์แกน สมิธ ที่ยอมปล่อยให้คนอื่นดูถูกตัวเองไปได้อย่างไร?
“ไม่ต้องรอถึง 24 ชั่วโมง ฉันจะจ่ายให้กับคุณในตอนนี้!”
มอร์แกน สมิธ รีบพูดเสียงดังออกมา
จนถึงเวลานี้ เขาก็ยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากําลังตกลงไปในหลุมที่ หลินฟาน ขุดเอาไว้ให้เขา.. ทีละขั้นๆ