ตอนที่ 1440 คุณก็ไม่ใช่ว่าโง่ น่าจะมองออกว่าผมไม่ใช่ตํารวจ.. ถูกไหม?

ริค มีคุณสมบัติพอที่จะพูดแบบนี้ได้ เขาในตอนนั้นแค่ไม่ฟัง หลินฟาน ก็พบกับการสูญเสียครั้งใหญ่ บาดแผลที่มือของเขาตอนนี้มันยังคงเจ็บปวดมาก

เขาหวังดี และตั้งใจที่จะเตือน มอร์แกน สมิธ ว่าอย่าทําเรื่องที่ผิดพลาดซ้ำแบบเดียวกับเขา

หากเขาไม่เชื่อฟัง วินาทีต่อไป มือของชายร่างใหญ่ผิวขาวคนนี้ ..อาจถูกมีดบินของ หลินฟาน ที่เปรียบได้กับกระสุนปืนพุ่งเข้าแทงทะลุ ไปในวินาทีถัดไป

มอร์แกน สมิธ สังเกต ริค และพบกับสภาพที่น่าสังเวชของ ริค เขาตระหนักว่า.. ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใคร ก่อนที่สถานการณ์จะชัดเจน ตอนนี้.. ทางเลือกที่ดีที่สุดของเขาคือการเชื่อฟังอีกฝ่าย

“วางปืนลง” มอร์แกน สมิธ พูดกับชายผิวขาวร่างใหญ่

ชายผิวขาวร่างใหญ่ ได้แต่เชื่อฟัง เขาได้นั่งยองๆ ลง และวางปืนลงไปกับพื้น

เมื่อเขายืนขึ้น หลินฟาน ก็ปรากฏตัวออกมา

“รบกวนคุณ เตะปืนมาทางนี่”

ในมือของ หลินฟาน มีปืนกระบอกหนึ่ง สําหรับผู้ที่ไม่รู้ว่า หลินฟาน เก่งแค่ไหนนั้น ปืน.. มันจึงกลายมาเป็นภัยคุกคามที่ง่าย และมีประสิทธิภาพที่สุด อย่างไม่ต้องสงสัย

ตามที่คาดไว้ เมื่อชายผิวขาวร่างใหญ่เห็นปืนในมืออีกฝ่าย เขาก็ได้เตะปืนของตัวเองออกไปอย่างเชื่อฟัง

“คุณ.. เป็นใคร?”

มอร์แกน สมิธ จ้องมองไปที่ หลินฟาน และถามออกไป เขาไม่รู้สึกตื่นตระหนกเลยเมื่อถูกอีกฝ่ายชี้ปืนเข้าหาเขา และยิ่งเมื่อเห็นว่า หลินฟาน เป็นคนเอเชีย เขาสามารถเดาได้ว่าเรื่องนี้มันต้องเกี่ยวข้องกับ หลี่ จื่อเสีย

หลินฟาน กล่าวว่า : “มอร์แกน สมิธ เศรษฐีในลอนดอน มาจากครอบครัวขุนนางชนชั้นสูง ตระกูลสมิธ แต่ตอนนี้แยกออกมาเป็นตระกูลสาขา อาจกล่าวได้เพียงว่ามีความสัมพันธ์ทางสายเลือดเพียงเล็กน้อยกับตระกูลหลัก เดิมทีครอบครัวของคุณประสบกับปัญหา และตกต่ำลง และในตอนที่คุณเป็นเด็กยังอาศัยอยู่ในสลัมฝั่งตะวันออก แต่คุณไม่เต็มใจที่จะเป็นคนธรรมดา และด้วยความสามารถของตัวเอง และความที่คุณมีไหวพริบดี บวกกับการทำงานหนักขึ้นจึงทำให้คุณกลายมาเป็นดาวรุ่งแห่งวงการเทคโนโลยี ตั้งแต่อายุยังน้อย นั่นจึงทำให้คุณได้เงินก้อนแรกในชีวิต จากนั้นคุณได้ใช้ความสัมพันธ์ทางสายเลือดเล็กๆ น้อยๆ ของตัวเองกับครอบครัวสมิธ และเข้ากอดต้นขาของตระกูลสมิธ คุณจึงได้ประสบความสำเร็จทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุด มาตอนนี้คุณก็ได้กลายมาเป็นเศรษฐีชนชั้นสูงคนหนึ่งในเมืองลอนดอนแล้ว มีวิลล่าหลังใหญ่มูลค่าหลายร้อยล้านยูโรในเขตตะวันตก บริษัทเทคโนโลยีที่ก่อตั้งขึ้นมาด้วยมือตัวเองก็กำลังเฟื่องฟูเช่นกัน เหล่านี้เป็นข้อมูลที่สามารถหาได้จากในโลกออนไลน์ คงไม่น่าจะมีผิดอะไรถูกต้องใช่มั้ย?”

มอร์แกน สมิธ ในระดับหนึ่ง อาจกล่าวได้ว่าเป็นแบบอย่างที่สร้างแรงบันดาลใจ บวกกับการที่เขามีภูมิหลังที่ไม่ดีนัก แต่ก็สามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้ บริษัทเทคโนโลยีของเขาตอนนี้เป็นบริษัทใหญ่สิบอันดับแรกในประเทศอังกฤษ โดยมุ่งเป้าหมายไปที่บริษัทของ อัลเลน

มอร์แกน สมิธ และอัลเลน สก็อตต์ จึงถูกเรียกได้ว่าเป็นคู่แข่งกัน

อัลเลน เองก็รู้จักนิสัยของคู่แข่งคนนี้เป็นอย่างดี คนคนนี้มีนิสัยโหดเหี้ยม กล้าคิดกล้าทํา ถ้าไม่ได้มีแรงผลักดันนี้ ก็คงยากที่จะเปลี่ยนจากเด็กยากจนในสลัมมาเป็นเศรษฐีในเขตตะวันตกได้

และยิ่งเมื่อ อัลเลน เห็นรายชื่อของผู้ที่เข้าร่วมห้องประมูลมี มอร์แกน สมิธ เขาก็ได้บอกกับ หลินฟาน ว่าถ้าในเมืองลอนดอน ใครที่มีความเป็นไปได้มากว่าจะลักพาตัว หลี่ จื่อเสีย ก็คงจะเป็น มอร์แกน สมิธ คนนี้ ที่มีความน่าสงสัยมากที่สุด

เพราะคติประจําใจของ มอร์แกน สมิธ ก็คือการใช้ต้นทุนน้อยที่สุด ทําสิ่งที่มีค่าที่สุด

การลักพาตัว หลี่ จื่อเสีย และคว้าเทคโนโลยีจาก หลี่ จื่อเสีย มา ..ต้นทุนนี้กล่าวได้ว่าต่ำมากจริงๆ หากถ้ามัน ..ประสบความสําเร็จ

มอร์แกน สมิธ จ้องมองไปที่ หลินฟาน : “คุณคิดจะทําอะไร สู้พูดออกมาตรงๆ เถอะ อย่ามาทำให้ฉันเสียเวลาเลย”

หลินฟาน กล่าวว่า : “ดี.. ผมก็ไม่ชอบพูดจาอ้อมค้อม คุณริค ได้บอกกับผมแล้วว่าคุณสั่งให้เขาไปลักพาตัว หลี่ จื่อเสีย คุณเองยอมรับไหมว่าคุณได้เป็นคนสั่งเขาจริง?”

มอร์แกน สมิธ พูดว่า : “อะไร.. นี่คุณเป็นตํารวจเหรอ?”

หลินฟาน กล่าวว่า : “คุณก็ไม่ใช่ว่าโง่ น่าจะมองออกว่าผมไม่ใช่ตํารวจ.. ถูกไหม? เราตกลงกันว่าจะตรงเข้าประเด็น งั้นก็เริ่มเถอะ จีนเรามีคําสุภาษิตโบราณอยู่สองประโยค คนฉลาดไม่พูดคำมืดมน และเหตุผลถ้าไม่ถกกันจนแจ่มแจ้งก็ไม่อาจแยกแยะความถูกผิดได้”

มอร์แกน สมิธ ได้ฮึ่มเสียงออกมาอย่างไม่พอใจ และกล่าวว่า : “ใช่ ถูกต้อง ฉันเป็นคนบอกให้เขาไปลักพาตัว คุณหลี่ มา แล้วเกิดอะไรขึ้น? ไม่ได้เหรอยังไง? ฉันเองแค่ต้องการขอให้เธอมาพบ นี่มันคงไม่ใช่ว่าผิดกฎหมายอะไรหรอกมั้ง? และถึงแม้ว่าคุณจะเป็นตํารวจ แต่คุณเองก็ไม่สามารถใช้สิ่งนี้เพื่อมาจับฉันได้อยู่ดี”

หลินฟาน กล่าวว่า : “คุณดูเหมือนจะไม่ซื่อสัตย์ หัวหน้าของกองกําลังใต้ดินส่งคนสองคน บุกเข้าไปในบ้านของ หลี่ จื่อเสีย โดยการบังคับพาตัวเธอไป คุณเรียกสิ่งนี้ว่าเชิญเธอไปพบ? ถ้าเป็นลูกสาวของคุณ คุณจะยังคงคิดว่า นี่มัน ..เป็นเรื่องปกติอยู่อีกไหม?”

มอร์แกน สมิธ กล่าวว่า : “ไอ้หนู ดูก่อน.. คุณไม่ใช่ตํารวจ หรือทนายความ และฉันสามารถบอกคุณได้อย่างชัดเจนเช่นกันว่า.. ถึงแม้.. คุณจะไปแจ้งความกับตํารวจ เพื่อเอาผิดฉัน แต่ในที่สุดฉันก็จะปลอดภัย ตราบใดที่ฉันยืนยันว่าฉันเชิญเธอมาพบ ความรุนแรงที่คุณพูดถึงไปนั้นมันก็จะกลายมาเป็นเพียงแค่การกระทําของ ริค เอง ไม่ใช่ฉัน.. แม้ว่าสุดท้ายจะเกิดเรื่องขึ้นในชั้นศาล พวกคุณก็ไม่สามารถเอาชนะคดีนี้ได้ และจงรู้ไว้ฉันอยู่ในเมืองลอนดอน และฉันก็มีทนายความที่ดีที่สุดในมือ”

หลินฟาน : “......”

มอร์แกน สมิธ กล่าวว่า : “ฉันเห็นว่าคุณ ..ไม่ใช่คนธรรมดา คุณสามารถปราบ ริค และค้นหาฉันได้ บวกกับความสําเร็จที่นําพาฉันมาที่นี่ได้ คุณอยากทําอะไร.. แก้แค้นฉันเหรอ? ฆ่าฉัน คุณก็จะกลายเป็นฆาตกร หากคุณทําร้ายฉันนั่นก็เท่ากับว่า ..คุณก่ออาชญากรรม และอย่าคิดจะออกจากลอนดอนไปได้ ..อย่างมีชีวิต ในเมื่อคุณตรวจสอบฉันแล้ว คุณเองก็น่าจะควรรู้ถึงความสัมพันธ์ของฉัน กับครอบครัวสมิธ”

หลินฟาน : “......”

มอร์แกน สมิธ เมื่อยังเห็นว่า หลินฟาน ยังคงเงียบ เขาจึงคิดไปว่า เขา.. สามารถทําให้ หลินฟาน สงบลงได้แล้ว นั่นจึงทำให้เขาพูดไปว่า : “ตอนนี้ฉันจะให้โอกาสคุณ คุณจากออกไปอย่างเงียบๆ และฉันจะถือว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ทั้งฉันก็จะไม่ถามคุณว่า หลี่ จื่อเสีย อยู่ที่ไหน เธอ.. เป็นอย่างไร และเรื่องทั้งหมดนี้จะถูกลบทิ้ง คุณลองคิดดูให้ดีๆ ก็ได้ว่า นี่มันจะเป็นวิธี เป็นแนวทางที่เหมาะสมกับพวกคุณมากที่สุด”

เมื่อฟังจากน้ำเสียงของเขามันราวกับนี้เป็นของขวัญเพื่อมอบให้กับ หลินฟาน ซึ่งมันประดุจว่าเขาเป็นผู้ที่ปล่อย หลินฟาน ไป แถม หลินฟาน ยังต้องขอบคุณเขาอีกมาก รวมถึง หลี่ จื่อเสีย เองก็ด้วยเช่นกันที่ต้องขอบคุณเขา

แน่นอนว่า.. คนที่หยิ่งผยองสามารถรักษาความเหนือกว่าของตัวเองเอาไว้เหนือผู้อื่นได้ทุกตลอดเวลา และเป็นตามที่คาดเอาไว้.. สมกับเป็นคนที่มีเชื้อสายชนชั้นสูงอย่าง ตระกูลสมิธ ขนาดกระทั่งผายลมยังดังกว่าคนทั่วไป ..ด้วยซ้ำ

ตามแผนเดิมของ มอร์แกน สมิธ เขาต้องการค้นหา หลี่ จื่อเสีย และได้รับเทคโนโลยีในมือของ หลี่ จื่อเสีย ด้วยการใช้ต้นทุนต่ำที่สุด

เขาจึงไปพบกับ แก๊งบาร์เทอร์ริค ประการแรกเขาเคยมีบุญคุณกับ ริค และรู้จัก ริค เป็นอย่างดี นั่นจึงทำให้เขาค่อนข้างสบายใจ.. ประการที่สอง แก๊งบาร์เทอร์ริค มักจะทําหลักฐานเท็จ ดังนั้นเขาจึงขอให้เขาไปจับตัวคนมา แม้ว่าตํารวจจะเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่มันก็ยังดูเป็นเรื่องยากที่ตำรวจจะสงสัย ริค

แต่หากเมื่อมันจําเป็นจริงๆ ตัวอย่างเช่น.. ตํารวจได้เข้าสืบสวนในเชิงลึก และเรื่องนี้มันเกี่ยวโยงมาถึงเขา เขาจะใช้ความสัมพันธ์บางอย่างซึ่งเพียงพอแล้วที่จะทําให้ตํารวจลอนดอน ยุติการสอบสวน และหลี่ จื่อเสีย ที่เป็นเพียงหญิงสาวชาวเอเชียคนหนึ่ง ตํารวจลอนดอน โดยส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับเธอมากนัก

อาจกล่าวได้ว่าตามแผนเดิมของ มอร์แกน สมิธ นี่เป็นแผนการที่ดูจะปลอดภัยที่สุดแล้ว

สิ่งเดียวที่เขาต้องกังวลก็คือ.. คนที่นําหน้าเขาไปหนึ่งก้าว เนื่องจากตัวตนของ หลี่ จื่อเสีย ถูกเปิดเผยในห้องประมูล คนที่เคลื่อนไหวอย่างลับๆ อาจจะไม่ใช่มีเพียงเขาแค่คนเดียวที่สนใจ

สุดท้าย.. เขาก็ต้องผิดหวังจริงๆ เมื่อ ริค บอกกับเขาว่าพวกเขามาช้าไปหนึ่งก้าว และหลี่ จื่อเสีย เธอ.. ได้หายตัวไปแล้ว

มอร์แกน สมิธ จึงไม่สนใจเรื่องนี้ เนื่องจากความไว้วางใจในตัว ริค และเขายังต้องยุ่งกับเรื่องอื่นๆ อีกมากมายในเวลานั้น

พอมาคืนนี้ จู่ๆ เขาก็ได้รับโทรศัพท์จาก ริค บอกว่าเขาจับ หลี่ จื่อเสีย ได้แล้ว และเขาเองก็เพิ่งจะนึกขึ้นได้ถึงเหตุการณ์นี้

เช่นเดียวกันกับความที่เขาเชื่อใจ ริค เขาจึงบอกให้ ริค พา หลี่ จื่อเสีย มาพบเขา

จนนำพาเขามาตกหลุมพรางไปอย่าง ..ไม่คาดคิด

อย่างไรก็ตาม มอร์แกน สมิธ ไม่แม้แต่จะรู้สึกหวาดกลัวเลย เวลานี้เขาได้ปราบ หลินฟาน ลงได้แล้ว ทั้งยังกดดันศัตรูจนขลาดกลัวไปได้แล้วเช่นกัน

ในตอนนี้ไม่ว่าจะพยายามคิดใคร่ครวญมันอย่างไร หลินฟาน ก็สู้เขาไม่ได้ ใช่แล้ว เขาสัญญาว่าจะไม่สนใจเรื่องนี้อีกต่อไป ก็เพื่อมอบมันให้เป็นของขวัญสำหรับ หลินฟาน…