ตอนที่แล้วบทที่ 118 คลังทรัพยากรมหาวิทยาลัยเมืองหลวงโบราณ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 120 วิดีโอออกกมาแล้ว และซืออวี๋พุ่งทะยาน

บทที่ 119 พลังมังกรของบักกี้


อะไรนะ?

ระดับผู้ปกครองเหรอ?

ซืออวี๋ : “???”

ซืออวี๋สงสัยว่าเขาได้ยินผิด

นี่ดูเหมือนจะไม่ใช่ระบบระดับของนักฝึกสัตว์อสูร…?

มันเป็นระบบระดับของสัตว์อสูร!

ระดับปลุกตื่น ระดับเหนือธรรมชาติ ระดับผู้บัญชาการ ระดับราชันย์ ระดับผู้ปกครอง ระดับผู้พิทักษ์ ระดับเทวะมีเจ็ดระดับการเติบโตหลักสำหรับสัตว์อสูร ผู้ปกครองคือระดับห้า!

(ระดับผู้พิทักษ์และระดับโทเท็มเป็นระดับเดียวกันนะครับ แต่ผู้พิทักษ์มาจากเจ็ดประเทศมนุษย์ โทเท็มมาจากประเทศสัตว์อสูรนะครับ)

“เขาไม่ใช่มนุษย์เหรอ?” ซืออวี๋แทบจะหมดสติ

“ใช่แล้ว” หลินซิ่วจูพยักหน้า อาจารย์เหยาเป็นแมวอัญมณี“”

ซืออวี๋ : “???”

“มันคือแมวอัญมณีที่ข้ารู้จักใช่ไหม?”

[คุณสมบัติ] : ไม่มี

[ระดับเผ่าพันธุ์] : เหนือธรรมชาติขั้นต่ำ

[ทักษะเผ่าพันธุ์] : เนตรอัญมณี (ทักษะไร้ระดับ)

[หมายเหตุ] : สัตว์อสูรประเภทแมวที่สามารถวิวัฒนาการผ่านอัญมณีตาแมว

แมวอัญมณีเป็นเผ่าพันธุ์ระดับเหนือธรรมชาติขั้นต่ำไม่ใช่เหรอ?

หากความจำของซืออวี๋ไม่ผิด ตามบันทึกในปัจจุบัน แมวอัญมณีที่มีเผ่าพันธุ์ระดับสูงสุดเป็นเพียงระดับผู้บัญชาการขั้นสูงเท่านั้น มันไม่ได้ทรงพลังเท่ากับหนอนไหมเขียวเลย

สัตว์อสูรตัวนี้เติบโตกลายเป็นระดับผู้ปกครองได้ยังไงกัน!

“มันคือสัตว์อสูรของนักฝึกสัตว์อสูรตำนานคนไหนเหรอ…” ซืออวี๋เอ่ยถามอย่างสงสัย

“ไม่ใช่สัตว์อสูรของนักฝึกสัตว์อสูร” หลินซิ่วจูกล่าวเสริมว่า “ทว่าเป็นสัตว์อสูณระดับผู้ปกครองที่ไร้เจ้าของ”

ซืออวี๋ : “???”

ในขณะที่นางเดิน นางก็ได้แนะนำให้ซืออวี๋รู้จักมัน

“เรื่องนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 100 ปีก่อน”

การแนะนำเริ่มต้นด้วยยุคเทพนิยาย…

“ในเวลานั้น เจ็ดประเทศมนุษย์ได้รวมตัวกันเป็นพันธมิตร”

“เพื่อแสดงมิตรภาพของพวกเขา ประเทศต่างๆ ได้ส่งมอบสัตว์อสูรพิเศษบางส่วนของประเทศตัวเองให้แก่กัน”

“นั่นคือเมื่อแมวอัญมณีถูกนำเข้ามาจากประเทศอื่น”

“ในตอนนั้น มหาวิทยาลัยเมืองหลวงโบราณเพิ่งก่อตั้ง เนื่องจากอาจารย์ใหญ่ชอบแมวมาก นางจึงเลี้ยงแมวหลายสิบตัวในบริเวณมหาวิทยาลัย นี่คือเป็นทัศนียภาพพิเศษของมหาวิทยาลัยเมืองหลวงโบราณตอนนั้น”

“เหล่านักศึกษาสามารถพบเห็นสัตว์อสูรแมวได้ทุกประเภทตามสนามหญ้าและมุมต่างๆ”

“อาจารย์อิ๋งเป็นหนึ่งในแมวอัญมณีในเวลานั้น มันเป็นแมวอัญมณีที่อายุมากที่สุด”

“ดูเหมือนว่านักศึกษาและอาจารย์ในเวลานั้นจะชอบแมวอัญมณีตัวนี้มาก ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการรวบรวมอัญมณีตาแมวคุณภาพดีและมอบให้แก่มันเพื่อช่วยเหลือมันในการวิวัฒนาการ”

“ทว่าไม่มีใครคาดคิดว่าแมวอัญมณีตัวนี้จะพิเศษมาก มันไม่สามารถวิวัฒนาการได้ผ่านอัญมณีตาแมวพวกนั้น”

“แม้ว่ามันจะวิวัฒนาการไม่ได้ แต่แมวอัญมณีตัวนี้ก็ชอบอัญมณีอย่างมาก มันไม่มีความคิดที่จะคืนของขวัญที่มันได้รับมา ในวันเกิดทุกปีของมัน มันจะได้รับอัญมณีตาแมวเป็นของขวัญ”

“สอบปีต่อมา มันได้รับสร้อยคออัญมณีตาแมว… มันกลายเป็นสัตว์อสูรที่ร่ำรวยที่สุดในมหาวิทยาลัยเมืองหลวงโบราณ”

“ต่อจากนั้นล่ะ?” ซืออวี๋กำลังงุนงง

รุ่นพี่แพนด้ามีสีหน้าแปลกประหลาด “ต่อจากนั้นจุดเปลี่ยนก็มาถึง เมื่อร้อยปีก่อน ดินแดนลึกลับแห่งยุคโทเท็มได้ปรากกฏขึ้นมา ภัยพิบัติอันเดตได้ปะทุขึ้นในเมืองหลวงโบราณ มหาวิทยาลัยเมืองหลวงโบราณเป็นฝ่ายแรกที่แบกรับผลกระทบและถูกนำเข้าสู่ภัยพิบัติ”

“นักศึกษาและสัตว์อสูรจำนวนมากตกอยู่ในอันตราย ในเวลานั้น แมวอัญมณีตัวนี้ได้วิวัฒนาการเสร็จสมบูรณ์ผ่านอัญมณีตาแมวนับสิบชิ้น มันได้รับมากกว่าสิบทักษะระดับสูงที่มีคุณสมบัติต่างกันและแม้กระทั่งทักษะระดับสุดยอด มันนำเหล่านักศึกษาบางคนโต้กลับได้สำเร็จ…”

“ตั้งแต่นั้นมา มันก็กลายเป็นเป็นผู้คุ้มครองแห่งมหาวิทยาลัยเมืองหลวง มันอยู่ที่นั่นมานับร้อยปีและส่งกลุ่มนักศึกษาและอาจารย์ไปหลายกลุ่ม จนถึงวันนี้ ว่ากันว่าระดับการเติบโตของมันอยู่ระดับผู้ปกครองแล้ว”

“???” ซืออวี๋มึนงงอยู่ตรงจุดนั้น

มันไร้สาระมาก!

เจ้าแน่ใจเหรอว่าแมวอัญมณีตัวนี้ธรรมดาและไม่ใช่ลูกสัตว์อสูรระดับเทวะ?

หลินซิ่วจูยักไหล่และกล่าวว่า “เมื่อข้าได้ยินเรื่องเล่านี้ครั้งแรกจากรุ่นพี่ของข้า ข้าก็ไม่มึนงงเป็นเวลานาน… ทว่าทุกคนกล่าวเช่นนี้ ดังนั้นบางทีมันอาจเป็นความจริง”

“แม้ว่ามันจะไม่เคยมีนักฝึกสัตว์อสูร แต่มันก็เป็นผู้คุ้มครองแห่งมหาวิทยาลัยเมืองหลวงโบราณได้ มันอาศัยอยู่ในมหาวิทยาลัยนับตั้งแต่ที่มหาวิทยาลัยได้ก่อตั้งขึ้นมาเมื่อร้อยปีก่อน”

“ในเวลานั้น มันเปป็นสัตว์อสูรที่มั่งคั่งที่สุดในมหาวิทยาลัยเมืองหลวงโบราณ ตอนนี้ก็เช่นเดียวกัน เนื่องจากมันจัดการคลังทรัพยการที่นี่… มันจึงได้รับเงินเดือนมาหลายทศวรรษและรวบรวมอัญมณีตาแมว…”

ซืออวี๋ตกอยู่ในห้วงความคิดลึก

แมวอัญมณีที่เติบโตสู่ระดับผู้ปกครองเหรอ?

สำหรับสัตว์อสูรเช่นแมวอัญมณี ตราบใดที่พวกเขามีทรัพยากรหายาก ‘อัญมณีตาแมว’ พวกมันจะได้รับทักษะเผ่าพันธุ์ที่ต่างกันตามประเภทของอัญมณีและวิวัฒนาการ

ทว่าสิ่งหนึ่งที่สามารถพิสูจนน์ได้ แมวอัญมณีสามารถวิวัฒนาการได้เพียงการผ่านอัญมณีตาแมวหนึ่งเม็ดตลอดทั้งช่วงชีวิตของมัน ทว่าแมวอัญมณีตัวนี้จากมหาวิทยาลัยเมืองหลวงโบราณ มันวิวัฒนาการผ่านอัญมณีตาแมวนับสิบเม็ดในคราวเดียวเหรอ? มันได้รับมากกว่าสิบทักษะเผ่าพันธุ์เหรอ?

นี่ไม่สมเหตุสมผลเลย!

พรสวรรค์นี้… แปลกเกินไป

“กล่าวโดยย่อแล้ว เมื่อไปถึง อย่าทำราวกับว่ามันเป็นแมวจรจัดที่สามารถหยอกล้อและเล่นด้วยได้ แสดงความเคารพให้มากขึ้น” หลินซิ่วจูกล่าวเตือน

“เข้าใจแล้ว!” ซืออวี๋พยักหน้าอย่างหนัก จุดประสงค์ของการลูบตัวแมวคืออะไร? เขาลูบแพนด้าได้…

เดี๋ยวก่อน!

“เจ้าเพิ่งกล่าวว่าแมวอัญมณีระดับผู้ปกครองตัวนี้มีมากกว่าสิบทักษะระดับสูงที่มีคุณสมบัติต่างกัน หรือแม้กระทั่งทักษะระดับสุดยอดเหรอ?” ซืออวี๋มึนงง

“ใช่แล้ว” รุ่นพี่แพนด้าพยักหน้า

“หากข้าลูบมันไม่ได้ ข้าจับเท้ามันได้ไหม…”

หลินซิ่วจู : “?”

“ข้าแค่ล้อเล่น มันมีทักษะอะไรบ้าง? มันได้รับพวกมันมาจากอัญมณีตาแมวเหรอ?”

“ข้าไม่แน่ใจเช่นกัน… ข้ารู้แค่ว่ามันสามารถโคลนตัวเอง ใช้พลังจิต และเทเลพอร์ตได้” รุ่นพี่แพนด้าส่ายหัวของนาง

“ข้าเข้าใจแล้ว…” ซืออวี๋ตกอยู่ในห้วงความคิดลึก

เขาไม่เคยเห็นสัตว์อสูรระดับผู้ปกครองมาก่อน ทักษะระดับสูงนับสิบฟังดูน่าจำลองมาก…

หากกมันสามารถใช้เทเลพอร์ตและพลังจิตได้จริง นั่นหมายความว่าอาจารย์อิ๋งผู้นี้มีพรสวรรค์ด้านจิตวิญญาณและมิติ??

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่สิ่งที่ซืออวี๋กังวลมากที่สุด

สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของซืออวี๋มากที่สุดก็คือคำว่า ‘คุณสมบัติที่ต่างกัน’ นั่นเป็นทักษะเผ่าพันธุ์ของมันในฐานะแมวอัญมณี เนตรอัญมณีไร้ระดับ!

[ทักษะ] : เนตรอัญมณี

[ระดับ] : ไร้ระดับ

[หมายเหตุ] : ทักษะเผ่าพันธุ์ของแมวอัญมณีสามารถทำให้ดวงตาวิวัฒนาการและกลายเป็นโครงสร้างพิเศษที่สามารถดูดซับพลังของอัญมณีตาแมวได้ มันเป็นทักษะเผ่าพันธุ์พิเศษอันแสนหายากที่ปราศจากแนวคิดเรื่องความเชี่ยวชาญ

แมวอัญมณีวิวัฒนาการผ่านทักษะนี้ซึ่งคล้ายกับหนอนไหมเขียวและปลาคาร์ปมังกร

พววกมันสามารถดูดซับพลังจากอัญมณีตาแมวผ่านเนตรอัญมณีและได้รับทักษะที่มีคุณสมบัติต่างๆ

อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างก็คือทักษะเนตรอัญมณีไม่สามารถเพิ่มความเชี่ยวชาญได้ ไม่มีแนวคิดเรื่องความเชี่ยวชาญ และมันสามารถหลอมรวมกับอัญมณีตาแมวได้เพียงหนึ่งเม็ด

ดังนั้นจึงมีขีดจำกัดในศักยภาพวิวัฒนาการของแมวอัญมณี ไม่ว่าอัญมณีตาแมวจะมีคุณภาพดีมากเพียงใด พวกมันก็ไม่สามารถดูดซับมันได้อย่างสมบูรณ์นัก รูปแบบวิวัฒนาการของแมวอัญมณีที่มีระดับเผ่าพันธุ์สูงที่สุดซึ่งถูกบันทึกไว้ก็คือระดับผู้บัญชาการขั้นสูง

อย่างไรก็ตาม แมวอัญมณีจากมหาวิทยาลัยเมืองหลวงโบราณนั้นสุดยอดมาก…

ในขณะนี้ ซืออวี๋สงสัยมาก ทักษะเนตรอัญมณีของแมวอัญมณีตัวนี้ค่อนข้างพิเศษ ทำให้มันเกิดการกลายพันธ์ุเหรอ?

ตัวอย่างเช่น มันสามารถเพิ่มความเชี่ยวชาญและดูดซับการกลายพันธุ์ได้มากขึ้น

แต่ถึงมันจะไม่ใช่การกลายพันธุ์ หากเขาจำลองทักษะเนตรอัญมณี เขาสามารถสอนสัตว์อสูรของเขาและเพิ่มความเชี่ยวชาญของมันได้ไหม?

ซืออวี๋สงสัยมากยิ่งขึ้น

นี่เป็นเช่นเดียวกับไหมหนอนและก้าวกระโดดข้ามประตูมังกร มันเป็นทักษะที่สามารถเปลี่ยนพรสวรรค์ของสัตว์อสูรได้ ยิ่งกว่านั้น มันไม่มีคุณสมบัติซึ่งหมายความว่ามันเข้ากันได้กับสัตว์อสูรส่วนใหญ่

หากอีเลฟเว่นเรียนรู้เนตรอัญมณีและดูดซับพลังจากอัญมณีตาแมวประเภทเวลา แม้ว่ามันจะไม่สามารถวิวัฒนาการได้เช่นเดียวกับแมวอัญมณี ตราบใดที่มันดูดซับพลังของอัญมณีตาแมวได้อย่างสมบูรณ์ผ่านทักษะนี้ นั่นจะเทียบเท่ากับการได้รับพรสวรรค์ด้านเวลาซึ่งเหมือนกับไหมหนอนขั้นสมบูรณ์ที่สามารถเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติได้

กล่าวอีกนัยหนึ่ง นี่เป็นทักษพื้นฐานที่สามารถเปลี่ยนความเข้ากันกับคุณสมบัติที่ต่างกันของสัตว์อสูรได้… ซืออวี๋ครุ่นคิดอย่างหนัก

ในอนาคต หากมีทักษะไหนที่เขาต้องการสอนให้แก่อีเลฟเว่นและบักกี้อย่างแท้จริง ทว่าไม่มีความเข้ากันได้มากพอ เขาอาจใช้วิธีนี้เพื่อเปลี่ยนพรสวรรค์ของพวกมัน

ในไม่ช้า ซืออวี๋และหลินซิ่วจูก็ได้มาถึงคลังทรัพยากร

คลังทรัพยกรของมหาวิทยาลัยเมืองหลวงโบราณเปรียบเสมือนกับย่านตึกสูง มันใหญ่มาก

ที่ทางเข้า มีบ้านขนาดเล็กที่ดูราวกับห้องรักษาความปลอดภัย ข้างในนั้น แมวสีขาวตัวใหญ่ที่นุ่มราวกับตุ๊กตาซึ่งมีหัวรูปตัววีกำลังกอดหมอนและนอนหลับ

หลังจากสัมผัสได้ว่ามีบางคนเข้ามา มันก็ใช้หางอันนุ่มฟูตบเตียงและค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา เผยให้เห็นถึงดวงเตาที่ดูราวกับอัญมณีสีน้ำเงิน จากนั้นมันก็ค่อยๆ ลุกขึ้นและบิดขี้เกียจ ยืดขนที่คอของมันซึ่งเปรียบเสมือนกับ ‘ผ้าพันคอ’

“เหมียววว~ ~” มันหาววและกระโดดขึ้นไปบนขอบหน้าต่าง ในเวลานี้ ซืออวี๋และหลินซิ่วจูได้เดินเข้ามา

“อาจารย์อิ๋ง!” รุ่นพี่แพนด้าทักทายด้วยรอยยิ้ม

“สวัสดี~” แมวอัญมณีสีขาวยังคงหาวอย่างเกียจคร้านและกล่าวเป็นภาษามนุษย์ เสียงของมันราวกับหญิงสาววัยผู้ใหญ่

“เจ้าเป็นนักศึกาาใหม่เหรอ?” แมวสีขาวตัวใหญ่ชำเลืองมองซืออวี่ผู้ที่กำลังสังเกตตัวมันอยู่ข้างหลังหลินซิ่วจูอย่างละเอียดและเอ่ยถามออกมา

มหาวิทยาลัยยังไม่เปิดเทอมในเวลานี้ ในช่วงวันหยุด โดยทั่วไปแล้วจะไม่มีนักศึกษาใหม่ อย่างไรก็ตาม ซืออวี๋ได้ทักทายสาขาโบราณคดีล่วงหน้าและเข้ามาทางประตูหลัง นั่นจึงไม่ใช่เรื่องสำคัญ

“ใช่แล้ว” ซืออวี๋พยักหน้า

“ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็เข้าไปได้เลย” มันจิบน้ำและหมุนตัวกลับไปที่เตียง

“ข้าได้แจ้งข้อมูลให้แก่ร่างโคลนของข้าแล้ว”

ซืออวี๋ : “…”

หลินซิ่วจูดึงซืออวี๋เข้าไปคลังทรัพยากรทันที

“ทั้งหมดนี้ถูกจัดการโดยร่างโคลนของมันเหรอ?” ซืออวี๋เอ่ยถามออกมา

“ไม่ ทว่าตอนนี้เป็นวันหยุด อาจารย์คนอื่นจึงลางาน ดังนั้นจึงเหลือมันแค่ตัวเดียว”

จากนั้น ภายใต้การนำของหลินซิ่วจู ซืออวี๋ก็เห็นแมวอีกตัวที่เหมือนกับแมวอัญมณีก่อนหน้านี้

ทักษะร่างโคลน…

นี่เป็นทักษะระดับสูงเช่นกัน มันคล้ายกับภาพมายาเล็กน้อย ทว่ามันก็สามารถสร้างร่างโคลนของตัวเองเท่านั้น

ในขั้นเริ่มต้นจะสามารถสร้างร่างโคลนได้เพียงหนึ่งร่างเท่านั้น

ในขั้นช่ำชองจะสามารถสร้างร่างโคลนพลังงานกายภาพได้ และร่างโคลนก็จะมีทักษะเช่นเดียวกับร่างหลักซึ่งมีจุดอ่อนเดียวกัน

หลังจากที่ความเชี่ยวชาญของทักษะนี้สูงมากกพอ มูลค่าทางกลยุทธ์ของมันก็จะสูงมาก อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ ซืออวี๋ไม่ต้องการทักษะนี้ชั่วคราว

“เจ้าอยากขายอะไร?” แมวสีขาวตัวใหญ่ยืนอยู่ในลานและส่งสัญญาณให้ซืออวี๋นำสิ่งที่เขาต้องการขายออกมา

“ของพวกนี้…” ซืออวี๋จับลูกปัดซากปรักหักพังที่คอของเขา ในวินาทีต่อมา ทรัพยากรนับไม่ถ้วนก็ถูกวางในลาน

กองทัรพยากรที่ราวกับภูเขาและคริสตัลพลังงานธาตุน้ำแข็งทำให้สีหน้าของแมวอัญมณีมืดลง

มันเหลือบมองไปที่ลูกปัดซากปรักหักพังบนคอของซืออวี๋และรู้สึกปวดหัว นักศึกษาคนใหม่ผู้นี้ไม่เรียบง่ายเลย

มีอุปกรณ์มิติ

อย่างไรก็ตาม ทำไมพวกมันทุกชิ้นจึงเป็นทรัพยากรขยะ และมีจำนวนเยอะมาก!!

“เหมียว!!!”

อาจารย์อิ๋งร่างต้นก็ส่งเสียงหงุดหงิดเช่นกัน

พนักงานคนอื่นไม่ได้อยู่ด้วย มันจึงต้องคิดราคา จัดหมวดหมู่ และเก็บพวกมันเอง!

“ฮี่ๆ” ในขณะนี้ เมื่อนางเห็นอาการปวดหัวบนร่างโคลนของอาจารย์อิ๋ง รุ่นพี่แพนด้าก็ยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว

ก่อนจะออกเดินทาง นางได้ถามเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว ซืออวี๋ต้องการที่จะขายทรัพยากรไม่ใช่เหรอ? ทำไมเขาจึงมามือเปล่าล่ะ?

ทันทีหลังจากนั้น ซืออวี่ก็แสดงให้นางเห็นถึงลูกปักซากปรักหักพัง ทำให้หลินซิ่วจูตกอยู่ในความเงียบเป็นเวลานาน

จากนั้นหลินซิ่วจูก็เอ่ยถามซืออวี๋ว่าเขาจะขายทรัพยากรมากเพียงใด เมื่อซืออวี๋กล่าวถึวทรัพยากรนับร้อยประเภท หลินซิ่วจูก็คาดหวังสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าเขาแล้ว

แมวตัวนี้ชอบทำการค้าอันเรียบง่าย ตัวอย่างเช่น หากซืออวี๋ขายหัวใจจิ้งจอกเก้าหาง มันจะแลกเปลี่ยนอย่างมีความสุข อย่างไรก็ตาม มันมักจะแกล้งมองไม่เห็นทรัพยากรขยะจำนวนมากซึ่งมีระดับต่ำเพราะการมีสิ่งที่มันต้องทำมากเกินไป

“รอข้าก่อน” สีหน้าของมันมืดมน

หลังจากนั้นไม่นานนัก

กองทรัพยากรระดับต่ำที่ซืออวี๋นำออกมานั้นถูกประมาณการ

ทรัพยากรที่ซืออวี๋รวบรวมมาจากเกาะทดสอบซึ่งไม่รวมกับหญ้าวิญญาณมังกรมีมูลค่าประมาณ 1,200,000 หยวน

สำหรับคริสตัลพลังงาน เนื่องจากคุณภาพค่อนข้างดี พวกมันจึงมีมูลค่าประมาณ 25 ล้านหยวน

รวมทั้งหมดแล้ว ทรัพยากรมีมูลค่ามากกว่า 26 ล้านหยวน ซืออวี๋ขายพวกมันทั้งหมดในคราวเดียว

จากนั้นเป็นต้นมา ทรัพยากรที่มีค่าที่เหลืออยู่ก็คือหนวดมังกรน้ำแข็ง หญ้าวิญญาณมังกร และหินไร้ตัวตน

26,000,0000!

ซืออวี๋ท่วมท้นไปด้วยความสุข ถั่วเซียน 260 เม็ด! แม้จะเป็นทักษะระดับสูง เขาก็สามารถสอนได้ประมาณ 200 ครั้ง!!

นี่หมายความว่าอะไร?!

มันแสดงถึงสามทักษะระดับสูง!!

ในตอนแรก ซืออวี๋มีเงินเก็บเพียงสองล้านหยวนและกำลังจะหมดตัว อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ เราก็ร่ำรวยขึ้นมาทันทีและได้รับอิสรภาพ

แน่นอน หากเขาต้องการใช้พวกมันทั้งหมด ซืออวี๋คาดการณ์ว่าเขาต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งปี ร่างกายและเงินเป็นศัตรูตัวฉกาจที่จำกัดการเพิ่มแต้มของเขา

“ข้าเอาทรัพยากรมาแล้ว เงินของเจ้าจะเข้าบัญชีภายในสองชั่วโมง”

“เอาล่ะ เจ้าออกไปได้แล้ว” แมวสีขาวตัวใหญ่กล่าวด้วยอาการปวดหัวหลังจากส่งทรัพยากรไปยังสถานที่ต่างๆ

“รอเดี๋ยว อาจารย์อิ๋ง ข้ายังต้งการซื้อผงแสงจันทร์สามชุด” ซืออวี๋กล่าวออกมา

ผงแสงจันทร์ ทรัพยากรประเภมจิตวิญญาณระดับสามซึ่งถูกใช้เพื่อทำให้หญ้าวิญญาณมังกรเป็นกลาง ซืออวี๋ได้ตรวจสอบมันอย่างชัดเจนแล้ว นี่ไม่เหมาะกับบักกี้หรอกเหรอ?

ในเวลานั้น มันจะเชี่ยวชาญทักษะการปราบปรามที่มีคุณลักษณะพลังมังกรอย่างแน่นอน มังกรน้ำแข็งมายาในปัจจุบันของมันจะสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

ส่วนวัสดุวิวัฒนาการสำหรับอีเลฟเว่นและบักกี้ ซืออวี๋ไม่สามารถทำอะไรได้ในตอนนี้ เขาจะรอการประเมินมืออาชีพและรางวัลสำหรับการค้นพบวิวัฒนาการของอสูรกินเหล็กที่จะถูกโอนมายังบัญชีของเขา

“ซื้อทรัพยากรเหรอ?”

“นั่นคืองานของอีกร่างโคลน พวกเจ้าไปหามันได้เลย” เมื่อแมวสีขาวตัวใหญ่ได้ยินเช่นนั้น มันก็โบกอุ้งเท้าของมันอย่างเฉื่อยชาทันทีและเริ่มไล่ซืออวี๋กับหลิ่นซิ่วจู

หลินซิ่วจูและซืออวี๋ : “???”

ร่างโคลนของมันยังแบ่งหน้าที่กันด้วยเหรอ???

ต่อไป หลังจากใช้เงินมากกว่า 200,000 หยวนเพื่อซื้อผงแสงจันทร์สามชุด ซืออวี๋และหลินซิ่วจูก็ออกจากคลังทรัพยากร

“รุ่นพี่ ขอบคุณที่นำทาง”

หลังจากออกมา ซืออวี๋ก็ขอบคุณนาง

หลังจากรู้ทางในคราวนี้แล้ว เขาก็มาเองได้ในคราวหน้า

“ไม่มีปัญหา”

หลินซิ่วจูยิ้มและกล่าวว่า “อุปกรณ์มิติและเงินอีก 20 ล้านหยวน ส่วนใหญ่ได้รับมาจากซากปรักหักพังเขตผิงเฉิงใช่ไหม? ตอนนี้เจ้าเริ่มรวยแล้ว”

เมื่อนางนึกถึงว่าซืออวี๋ต้องกู้เงินเพื่อซื้อลูกอสูรกินเหล็กเมื่อครึ่งปีก่อน หลินซิ่วจูก็รู้สึกราวกับไม่ใช่เรื่องจริง

ความเร็วในการเติบโตและความเร็วในการหาเงินนั้นผิดหลักวิทยาศาสตร์เกินไปแล้ว!

“เงิน 20,000,000 หยวน ไม่เพียงพอซื้อกรงเล็บวิวัฒนาการหนึ่งคู่ให้แก่อีเลฟเว่นเลย” ซืออวี๋ยิ้มอย่างขมขื่น

หลินซิ่วจูป้องปากของนางและยิ้ม “ข้าคิดว่ารูปแบบวิวัฒนาการของอสูรกินเหล็กครรจะชื่อว่าอสูรกลืนทอง”

ซืออวี๋ยิ้มออกมา รูปแบบการตั้งชื่อนั้นเกินไปแล้ว หลังจากที่บักกี้วิวัฒนาการ มันจะชื่อว่าผีเสื้อกลืนทองไหม?

สถาบันวิจัยอสูรกินเหล็ก

หลังจากเดินไปรอบคลังทรัพยากร ซืออวี๋และหลินซิ่วจูก็ได้กลับมา

ในขระที่เขากลับมา ซืออวี๋ก็พบข้อความในโทรศัพท์ของเขา

ผลลัพธ์ของการสอบเอาชีวิตรอดในการประเมินมืออาชีพออกแล้ว

แม้ว่าซืออวี๋จะรู้ผลลัพธ์ล่วงหน้าแล้ว แต่ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่เพิ่งรู้อย่างเป็นทางการในตอนนี้

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ บรรดาผู้เข้าร่วมนับ 6,000 คนในสถานที่ต่างๆ ในเมืองหลวงโบราณมีเพียง 700 คนที่อารมณ์ดี ในขณะที่อีกหลายพันคนมีสีหน้าเจ็บปวด

พวกเขาไม่ผ่าน… พวกเขาต้องรออีกหนึ่งปี

นอกจากผลผลลัพธ์แล้ว พวกเขายังได้รู้การสอบต่อไปด้วยเช่นกัน

การต่อสู้จัดอันดับสุดท้ายจะจัดขึ้นที่สนามประลองเมืองหลวงโบราณในสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรแห่งเมืองหลวงโบราณในวันพรุ่งนี้

เมื่อถึงเวลานั้น บุคลากรที่เกี่ยวข้องจากสื่อหลัก มหาวิทยาลัย และภาคเอกชนก็จะมาชมการต่อสู้

ในบรรดาพวกเขา คนดูล้วนใช้ระบบเชิญภายใน ไม่มีคนนอกเข้ามาที่สนามประลองเพื่อดูได้ ดังนั้นจึงมีสถาบันที่เกี่ยวข้องไม่กี่แห่งเท่านั้นที่สามารถดูการต่อสู้จัดอันดับได้

ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่ทำได้เพียงแค่รอการประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการต่อสู้จัดอันดับและเขียนข่าว พวกเขามองไม่เห็นรายละเอียดการต่อสู้

แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีคนดูหลายพันคน

นี่เป็นเพราะผู้เข้าร่วมที่เข้าร่วมในการประเมินมืออาชีพก็มีสิทธิ์พิเศษเช่นกัน พวกกเขาอาจเป็นบุคลากรที่เกี่ยวข้องและดูการสอบได้ หากผู้เข้าร่วมที่ไม่ผ่านนั้นไปดูการต่อสู้จัดอันดับ จำนวนคนดูจะเพิ่มขึ้นทันที

“อยากดูการต่อสู้ไหม?”

ซืออวี๋จ้องมองไปที่คำเชิญทางอิเล็กทรอนิกส์บนโทรศัพท์ของเขาและส่ายหัวของเขา

ลืมไปเถอะ นั่นไม่มีความหมายอะไรเลย

“การต่อสู้จัดอันดับช่วงแรกจะดำเนินเป็นเวลาสามวัน ผู้เข้าร่วม 16 อันดับแรกจาก 700 คนจะถูกตัดสิน และต่อจากนั้นก็จะเป็นการต่อสู้จัดอันดับช่วงสุดท้ายกับผู้เข้าร่วมเมล็ดพันธุ์ 16 คน…”

“อีกนัยหนึ่ง ข้ามีเวลาเตรียมตัวสามวัน”

หลังจากที่ซืออวี๋กลับมาที่ห้อง เขาก็คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเทียบกับการดูการต่อสู้แล้ว การเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้นั้นดีกว่า

เขาควรจะเพิ่มแต้มทักษะระดับสูงให้เร็วที่สุด มันไม่น่าจะส่งผลต่อสภาพของเขาใช่ไหม…

ในลูกปัดซากปรักหักพัง

ในเวลานี้ หลังจากขายทรัพยากรทั้งหมดแล้ว ที่นี่ก็เงียบลงมาก เหลือเพียงแค่อีเลฟเว่นและอาหารของบักกี้เท่านั้น

ในตอนนี้ สัตว์อสูรทั้งสองตัวกำลังฝึกฝนกลยุทธ์ทะยานฟ้าและกลยุทธ์กลั่นแกล้ง

พวกมันวางแผนที่จะใช้ทั้งสองกลยุทธ์ร่วมกัน

ข้อบกพร่องที่ใหญ่ที่สุดของกลยุทธ์ทะยานฟ้าก็คือความแม่นยำที่ไม่เพียงพอ และคู่ต่อสู้ของพวกมันก็สามารถหลบได้อย่างง่ายดาย

ถ้าเช่นนั้น ตราบใดที่พวกกมันใช้การปราบปรามร่วมกันเพื่อยับยั้งไม่ให้ศัตรูเคลื่อนไหว นั่นคงดีมากใช่ไหม?

เรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความล้ำลึกจากการฟันกระบี่ของซืออวี๋!

“หยุดก่อน”

เมื่อมองไปที่หลุมขนาดใหญ่บนพื้น ซืออวี๋ก็มองไปที่อีเลฟเว่นและบักกี้ด้วยสีหน้าอันดำมืดและตบหน้าผากของเขา

“อู๋!”

“จิ๋!!”

เมื่อเห็นว่านักฝึกสัตว์อสูรเข้ามา สัตว์อสูรทั้งสองตัวก็รีบเข้ามาและขอให้ซืออวี๋เตรียมตัวให้พวกมันใช้กลยุทธ์ต่อสู้แบบคู่

ไม่ใช่ว่าพวกมันรู้สึกว่ากลยุทธ์การโจมตีร่วมกันนั้นทรงพลัง ทว่าเป็นเพราะพวกมันต้องการถ่ายรูปด้วยกัน

ไม่มีประโยชน์ที่จะถ่ายรูปจำนวนมากด้วยกันในการต่อสู้แบบตัวต่อตัว ทว่าการใช้กลยุทธ์โจมตีร่วมกันของ ‘ทะยานฟ้า’ และ ‘กลั่นแกล้ง’ เหมาะมาก

“ตกลง ตราบใดที่พวกเจ้ามีความสุข” ซืออวี๋กล่าวอย่างเฉยเมย ในเวลาเดียวกัน หัวใจของเขาก็ปวดร้าวแทนฝ่ายตรงข้ามที่เป็นตัวทดลองกลยุทธ์นี้ชั่วขณะหนึ่ง

กลยุทธ์นี้โง่มาก ทว่าสัตว์อสูรที่ใช้กลยุทธ์นี้แข็งแกร่งมาก ดังนั้นมันจึงทำให้คู่ต่อสู้สิ้นหวังอย่างมาก

ทว่าตราบใดที่อีเลฟเว่นและบักกี้มีความสุข นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา

“ทว่าบักกี้ การปราบปรามของเจ้ายังอ่อนแออยู่เล็กน้อยใช่ไหม?”

บักกี้ : ???

อีเลฟเว่นพยักหน้าอย่างเงียบสงบ การปราบปรามของบักกี้อ่อนแอมาก

มันรู้สึกราวกับว่ามันใช้การปราบปรามเองทั้งหมด บักกี้ไม่ได้ทำอะไรมากนัก

“จิ๋!” บักกี้มองผู้นำพร้อมกับน้ำตาคลอเบ้า

แล้วการกลั่นแกล้งร่วมกันล่ะ?

สุดท้ายแล้ว นี่ก็ไม่ใชการกลั่นแกล้งคนอื่น ทว่าเป็นเพื่อนร่วมทีมเหรอ?

ซืออวี๋และอีเลฟเว่นพยักหน้า

“จิ๋—” เมื่อเห็นว่านักฝึกสัตว์อสูรและผู้นำกล่าวเช่นนี้ บักกี้ก็น้ำตาไหลออกมา มันเพิ่งเรียนรู้การปราบปรามได้ไม่นานนักไม่ใช่เหรอ…

มันจะทำอะไรได้อีกล่ะ?

“ฮ่าๆๆ ถ้าเช่นนั้นเราก็มาใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และพัฒนากันเถอะ”

เมื่อกล่าวจบ ซืออวี๋ก็ยิ้มและหยิบผงแสงจันทร์สีทองและหญ้าวิญญาณมังกรที่ถูกเก็บไว้อย่างดีออกมา

“จิ๋! จิ๋!”

บักกี้ที่เดิมรู้สึกเศร้าใจนั้นดีใจขึ้นมาทันทีเมื่อมันเห็นหญ้าวิญญาณมังกร

นั่นคือหญ้าวิญญาณมังกร!

มันใช้หญ้าวิญญาณมังกรได้เลยใช่ไหม?

“ใช่แล้ว”

“มาลองผลก่อน ทว่านี่อาจยากสำหรับเจ้าที่จะควบคุมการปราบปรามในระหว่างนี้ อีเลฟเว่น เจ้าต้องยับยั้งการปราบปรามของมันเพื่อป้องกันไม่ให้บักกี้เสียสติและบ้าคลั่ง”

บักกี้ส่ายหัวของมัน ไม่ ไม่ ไม่

โปรดเชื่อในเจตจำนงของมัน!

“ไม่ใช่เรื่องของเจตจำนง นี่เป็นทรัพยากรระดับสาม ความเข้มข้นของพลังงานสูงมาก และมันเกือบจะถึงระดับสี่…” ซืออวี่แช่ผงแสงจันทร์ลงในน้ำ ในไม่ช้า ชามน้ำก็กลายเป็นสีเหลืองอ่อน

“อู๋!” อีเลฟเว่นตบหน้าอกของมัน เชื่อใจมันได้เลย

แม้ว่าจะเป็นพลังมังกรที่แท้จริง แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากนักต่อหน้ามัน

“ตรงนั้น”

ต่อไป ซืออวี๋ก็ทำตามคำแนะนำที่เขาหาเจอและให้บักกี้ดื่มน้ำแสงจันทร์

หลังจากที่บักกี้กลืนมันลงไป ซืออวี๋ก็มอบหญ้าวิญญาณมังกรให้แก่บักกี้

หวือ หวือ หวือ

หลังจากนำหญ้าวิญญาณมังกรออกมา บักกี้ก็กินหญ้าวิญญาณมังกรอย่างรวดเร็ว

จากนั้นอีเลฟเว่นและซืออวี๋ลืมตากว้างและรอการตอบสนอง

“( ゚皿 ゚メ)!!!!” ผ่านไปสักพักหนึ่ง สมองของบักกี้ก็เริ่มมึนงง

มันรู้สึกได้ถึงพลังอันรุนแรงที่พลุ่งพล่านในร่างกายของมันอย่างฉับพลัน

มันแสดงสีหน้าอันเจ็บปวดออกมา คลื่นพลังจิตขนาดใหญ่ปะทุออกมาจการ่างกายของมัน ก่อให้เกิดการปราบปรามทางจิตวิญญาณอย่างหนักหน่วง เห็นได้ชัดว่ามันเป็นหนอนไหมเขียว ทว่าการปราบปรามของัมนดูเหมือนกับมังกรฟ้ามาก

“กรรร!!!”

เนื่องจากพลังอันมหาศาลที่อยู่ในหญ้าวิญญาณมังกร ผลการปราบปรามของหญ้าวิญญษณมังกรในตอนนี้ได้หลอมรวมเข้ากับการปราบปรามของบักกี้… เริ่มสร้างพลังมังกรปลอมที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น พลังงานอันเข้มข้นยังคงรั่วไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง

โชคดี อีเลฟเว่นยืนอยู่ข้างบักกี้ในเวลานี้ อีเลฟเว่นใช้การปราบปรามห่อหุ้มรอบพลังมังกรของบักกี้เพื่อไม่ให้พลังมังกรของบักกี้ส่งผลกระทบต่อซืออวี๋

“(๑ _ ಥ) จิ๋!!!” บักกี้กรีดร้องออกมา มันควบคุมไม่ได้เล็กน้อย

ตอนนี้ บักกี้รู้สึกว่าการปราบปรามของมันราวกับม้าป่าที่หลุดจากพันธนาการของมันและวิ่งอย่างต่อเนื่อง

“มั่นคงเข้าไว้ ผลของผงแสงจันทร์ออกไม่ออกฤทธิ์”

ซืออวี๋ปลอบโยนมัน หลังจากผ่านไปสักพักหนึ่ง น้ำแสงจันทร์ที่บักกี้ดื่มไปในตอนแรกก็มีผลพิเศษ ความผันผวนทางจิตวิญญาณของพลังมังกรและหนอนไหมเขียวเริ่มหลอมรวมกันอย่างเชื่องช้า

ในขณะนี้ สีหน้าของบักกี้ผ่อนคลายลง

หลังจากผ่านไปสองนาที ในที่สุดบักกี้ก็ควบคุมการปราบปรามของมันได้ มันลืมตาขึ้นมาด้วยความสับสนและเหงื่อไหลแตกพลั่กโดยไม่รู้ตัว

“เจ้ารู้สึกยังไงบ้าง?”

ซืออวี๋เอ่ยถามว่า “มีอะไรไม่สบายตัวไหม?”

“จิ๋” บักกี้ส่ายหัวของมัน

จากนั้นมันก็เงยหน้ามองอีเลฟเว่นผู้ที่กำลังปลดปล่อยการปราบปรามขั้นชำนาญด้วยความสิ้นหวัง มันรู้สึกว่ามันแข็งแกร่งขึ้น การปราบปรามของมันขยายออกไปปะทะกับการปราบปรามของอีเลฟเว่นในชั่วพริบตา

การปราบปรามของอีเลฟเว่นตอนนี้ราวกับมือขนาดใหญ่ที่ห่อหุ้มมัน ป้องกันไม่ใช่มันบ้าคลั่ง…

“จิ๋!!!” บักกี้ปลดปล่อยการปราบปรามอย่างเต็มกำลัง

บูม!!!

การปราบปรามทางจิตวิญญาณที่มองไม่เห็นได้กระทบกับการปราบปรามที่เกือบจะมองเห็นได้ของอีเลฟเว่นซึ่งดูราวกับหยดน้ำที่ตกลงบนมหาสมุทร

บักกี้ : Σ (° △ ° | |)

“〈( ̄) ̄)〈 อู๋” อีเลฟเว่นมองไปที่หญ้าวิญญาณมังกรและบักกี้พร้อมกับส่ายหัวของมันอย่างเงียบสงบ ตามที่คาดไว้ นี่ไม่ทรงพลังเท่ากับการเพิ่มแต้มของนักฝึกสัตว์อสูรเลย!

พลังมังกรคืออะไร? มันอ่อนแอมาก

ความเชี่ยวชาญทักษะคือทางออก!

บักกี้ : “…”

บักกี้เงียบไป ในที่สุดก็ตระหนักถึงเรื่องนี้

ทำไมพลังมังกรนี้จึงไม่ทรงพลังเช่นเดียวกับที่มันจินตนาการไว้ล่ะ?

“จิ๋! (ซืออวี๋ เพิ่มแต้ม!)” ในช่วงเวลาต่อมา บักกี้ก็ผลักหญ้าวิญญาณมังกรและน้ำแสงจันทร์ออกไป มองหน้านักฝึกสัตว์อสูรของมันด้วยความคาดหวัง

ลืมไปเถอะ มันควรจะเลือกที่จะเชื่อในตัวนักฝึกสัตว์อสูร

ซืออวี๋ : “…”

“ใครขอให้เจ้าใช้การปราบปรามเพื่อแข่งขันกับอีเลฟเว่นล่ะ? ลักษณะของพลังมังกรคือการทำให้มังกรน้ำแข็งสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น…”

ใบหน้าของซืออวี๋มืดลง ทว่าเขาก็ยังคงหยิบถั่วเซียนออกมาและยื่นมือของเขาไปเพื่อเพิ่มแต้ม เขาวางแผนที่จะเพิ่มการปราบปรามของบักกี้ให้ถึงขั้นช่ำชองก่อน

จากนั้นเขาก็จะให้บักกี้ใช้หญ้าวิญญาณมังกรอีกสองส่วนที่เหลือ…

ผ่านไปสักพักหนึ่ง

[ทักษะ] : การปราบปราม / พลังมังกรปลอม (ขั้นช่ำชอง)

หลังจากเพิ่มแต้มแล้ว ซืออวี๋ก็นั่งอยู่ข้างมันอย่างอื่นแอ

บัดซ*

ทักษะระดับสูงนั้นสร้างความเสียหายมากเกินไป ตอนนี้ไม่เป็นไร ทว่าเขาไม่สามารถเพิ่มแต้มมันแบบสุ่มก่อนการต่อสู้จัดอันดับได้ แม้ว่าจะมีอาหารเสริม แต่เขาก็ทนไม่ไหวอย่างแน่นอน

ซืออวี๋ไม่ต้องการให้อีเลฟเว่นดันเขาขึ้นไปบนสนามประลองด้วยรถเข็น

นี่ไม่เข้ากกับวิดีโอการสอบเอาชีวิตรอดที่ถูกตัดต่ออย่างแน่นอน มันจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของเขา

เขาต้องการใช้เพียงหนึ่งเส้นทางไปจนถึงจุดจบ ตราบใดที่เขาไม่ต้องอับอาย ทุกอย่างก็ไม่เป็นไร

“จิ๋!!!” ในคราวนี้ หลังจากการปราบปรามถึงขั้นช่ำชอง บักกี้ก็ปลดปล่อยการปราบปรามของมันอีกครั้ง!

บูม!!!

ในครั้งนี้ ไม่ใช่การปราบปรามที่มองไม่เห็นอีกต่อไป คลื่นจิตวิญญาณสีเขียวพุ่งเข้าใส่อาณาเขตการปราบปรามที่แทบจะมองเห็นได้ของอีเลฟเว่นราวกับมังกรเขียว จากนั้นก็เป็นฉากหยดน้ำที่ตกลงสู่มหาสมุทรอีกครั้ง

บักกี้ : Σ (° △ ° | |)

อีเลฟเว่น : (ーー ゙)

ยังคงมีความแตกต่างของความเชี่ยวชาญ

ซืออวี๋ไร้คำกล่าวในขณะที่เขามองไปที่บักกี้ซึ่งต้องการใช้การปราบปรามเพื่อเอาชนะอีเลฟเว่น แม้ว่ามันจะไม่สามารถเอาชนะอีเลฟเว่นได้ แต่มังกรน้ำแข็งที่ก่อตัวจากพลังมังกรปลอมขั้นช่ำชองนี้อาจไม่อ่อนแอมากนัก แม้ว่ามันจะไม่ใช้หนวดมังกรน้ำแข็งก็ตาม

สิ่งที่สำคัญที่สุด เขารู้สึกว่าตอนนี้เขาสามารถใช้หนอนไหมเขียวเป็นมังกรได้แล้ว

เมื่อถึงเวลานั้น เขาจะให้บักกี้กลายเป็นมังกรน้ำแข็งในระหว่างการอัญเชิญโดยตรง จากนั้นมันก็จะปลดปล่อยพลังมังกรออกมาเมื่อมันออกมาจากวงแหวนอัญเชิญ เขารู้สึกว่าแม้คู่ต่อสู้จะเป็นสัตว์อสูรระดับผู้บัญชาการ แต่คู่ต่อสู้ก็ต้องหวาดกลัวหากอีกฝ่ายไม่ระวังมากพอ

“เอาล่ะ การปราบปรามคู่สำเร็จแล้ว ข้าหวังว่าคู่ต่อสู้จะไม่หมดสติและสูญเสียความสามารถในการโจมตีไปเสียก่อน” ในขณะนี้ เมื่อมองไปที่การเผชิญหน้ากันระหว่างการปราบปรามของบักกี้และอีเลฟเว่น ซืออวี๋ก็ตั้งตารอการต่อสู้จัดอันดับและรู้สึกว่าเขาได้เข้าใกล้อันดับหนึ่งมากขึ้นอีกเล็กน้ออย

เป้าหมาย : เกียรติยศ (รางวัล)!

Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน

Link : https://www.facebook.com/translatemoth

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด