บทที่ 137 สิงห์ปืนไว
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 137 สิงห์ปืนไว
สำเนียงเท็กซัสที่เด่นชัด...
ชายร่างผอมที่ปรากฏตัวที่ประตูโรงฝึกศิลปะการต่อสู้ สวมกางเกงยีนส์หมวกคาวบอยสีขาว ผ้าพันคอสีแดงรอบคอ มีปืนลูกโม่รอบเอว ไม้จิ้มฟันในปากและสีหน้าไร้กังวล เขาดูเหมือนคาวบอยที่ออกมาจากตะวันตกในยุค 1960
"นายเป็นใคร?"
เมื่อมองไปที่คาวบอยที่ปรากฏตัวที่ประตู เจสซิก้าก็รู้สึกเกิดความสงสัย แต่ความไม่แน่ใจในอะไรบางอย่างก็มีด้วยเช่นกัน
“ลุค...” ชายคนนั้นยกหมวกคาวบอยขึ้น กัดไม้จิ้มฟันในปากและแนะนำตัวเองว่า “จากภาคี”
[คะแนนชื่อเสียงจากแมตต์ เมอร์ด็อค +155]
[คะแนนชื่อเสียงจากลุค เคจ +135]
[คะแนนชื่อเสียงจากแดนนี่ แรนด์ +100]
[คะแนนชื่อเสียงจากเจสซิก้า โจนส์ +100]
[คะแนนชื่อเสียงจากแฟรงก์ แคสเซิล +30]
“ภาคีงั้นเหรอ?!” เมื่อได้ยินชื่อจากริมฝีปากขอลัคกี้ลุค พันนิชเชอร์ก็อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วขึ้น เขาดูประหลาดใจเล็กน้อย
“มีอะไรงั้นเหรอ?” เมื่อสังเกตเห็นสีหน้าของแฟรงค์ ลุคเคจก็เลยถามทันที
"ฉันเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน คนที่สามารถยิงกระสุนโค้งได้เป็นคนชวนฉันมา" แฟรงค์ไม่ได้ปิดบัง เขาบอกทุกคนเลยถึงเรื่องการได้พบกับเวสลีย์ กิบสันก่อนหน้านี้ พันนิชเชอร์ค่อนข้างประทับใจความสามารถของชายคนนั้นมาก
"..."
คำพูดของพันนิชเชอร์ได้ทำให้ดีเฟนเดอร์สภายในห้องโรงฝึกเงียบไปครู่หนึ่ง เห็นได้ชัดว่าพวกเขารู้แล้วว่าคนที่สามารถเปลี่ยนวิถีกระสุนได้อย่างที่อีกฝ่ายพูดคือเวสลีย์ที่เสียชีวิตในช่วงท้ายของการต่อสู้กับเทพเมฆาอัคคี
“มีอะไรงั้นเหรอ?”
เมื่อสังเกตเห็นการบรรยากาศเปลี่ยนแปลงไป พันนิชเชอร์ก็ถามทันที
หลังจากเหลือบมองไปรอบๆ ในที่สุดลุคเคจก็พูดขึ้นว่า "คนที่นายพูดถึง... เขาชื่อเวสลีย์ เขาเคยเป็นหนึ่งในพวกเรา”
"เคยเหรอ?" เมื่อสังเกตเห็นคำว่าเคย แฟรงค์ก็เริ่มสังเกตถึงบรรยากาศในโรงฝึก แม้ไม่พูดอะไรสักคำ เขาก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเวสลีย์
เจสซิก้ามองไปที่คาวบอยที่มาจากภาคีและเปิดปากขอบคุณเขา "ขอบคุณที่มานะลุค"
“คุณไม่จำเป็นต้องขอบคุณผมหรอกครับ คุณผู้หญิง” เห็นได้ชัดว่าลุคกับเวสลีย์ต่างกันอย่างสิ้นเชิง เมื่อได้ยินคำพูดของเจสซิก้า ลุคก็ถอดหมวกคาวบอยออกและตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า "เรามีจุดประสงค์เดียวกันในการต่อสู้กับจิ่วโยว"
“แล้วนายทำอะไรได้ล่ะ? เปลี่ยนวิถีกระสุนได้เหมือนกันงั้นเหรอ?”
แฟรงค์ก็พูดขึ้นทันทีโดยไม่สนใจบรรยากาศ เขาจ้องไปที่ลัคกี้ลุคและถามตรงๆ ก่อนหน้านี้เขามีเรื่องอะไรกับเวสลีย์อยู่นิดหน่อย ทั้งยังรู้สึกสงสัยวิธีการยิงกระสุนโค้งเปลี่ยนวิถีด้วย
แต่ไม่คาดคิดเลยว่าเมื่อเขามาที่นี่ เวสลีย์กลับ...
ทว่าการปรากฏตัวของลัคกี้ลุคได้จุดประกายความปรารถนาของพันนิชเชอร์ที่จะต่อสู้อีกครั้ง
เขาส่ายศีรษะเบาๆ คำตอบของลุคได้ทำให้พันนิชเชอร์ผิดหวัง "ขอโทษนะ ผมทำอะไรแบบนั้นไม่ได้หรอก อย่างดีที่สุดผมก็แค่ยิงได้เร็วนิดหน่อย"
"เร็วแค่ไหน?" เมื่อได้ยินคำพูดของลุค สีหน้าผิดหวังอย่างเห็นได้ชัดก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของแฟรงก์ ในฐานะอดีตนาวิกโยธินสหรัฐฯ เขานั้นเป็นมือปืนที่ยิงได้เร็วมากเช่นกัน
ปัง--
ทว่าในวินาทีต่อมา แฟรงค์ก็เข้าใจว่าอีกฝ่ายสามารถยิงได้เร็วแค่ไหน
ด้วยเสียงปืนที่ดังกึกก้อง พันนิชเชอร์ไม่ได้เห็นด้วยซ้ำว่าลุคที่อยู่อีกด้านหนึ่งของห้องยิงอย่างไร เขาสังเกตเห็นเพียงว่าฝ่ายตรงข้ามยกแขนขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงทื่อของกระสุนเจาะวัตถุที่อยู่ข้างหลังเขา เมื่อเขามองย้อนกลับไป เขาก็ตระหนักว่ามีรอยกระสุนที่ชัดเจนปรากฏขึ้นบนหุ่นไม้ที่ด้านหนึ่งของโรงฝึก
[คะแนนชื่อเสียงจากแฟรงก์ แคสเซิล +150]
ด้วยไม้จิ้มฟันในปากของเขา มือซ้ายของลุคกดหมวกคาวบอยของเขาเบาๆ และเขาก็หัวเราะออกมา "ก็แค่นั้นแหละ"
[คะแนนชื่อเสียงจากแมตต์ เมอร์ด็อค +200]
มีเพียงสองคนในโรงฝึกเท่านั้นที่สังเกตเห็นการยิงของลุค ไม่สิ มีเพียงแมตต์เท่านั้นที่รู้ได้ ยิปมันเองก็รู้ เพราะเขาเป็นร่างแยก ด้วยประสาทสัมผัสชั้นยอดของเขา แมตต์สามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวของลุคได้อย่างชัดเจนในตอนที่เขาหยิบปืนลูกโม่ขึ้นมายิง กระทั่งเขาก็ทำได้เพียงสังเกตเห็นมันเท่านั้น เขาไม่สามารถหลบกระสุนนั้นได้ในช่วงเวลาสั้นๆ เลย
“ภาคีสินะ”
แมตต์พูดพึมพำและพูดชื่อองค์กรนี้ทวนซ้ำไป รูปร่างหน้าตาของลุคและทักษะการใช้ปืนที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ ไม่จำเป็นต้องสงสัยเลย
'บางทีเราอาจจะหยุดจิ่วโยวได้จริงๆ'
...
“นรกโลกัน ดวงวิญญาณลุกโชน!”
ด้วยการฟันเพียงครั้งเดียว ดาบหนึ่งก็ถูกฟันผ่านสมาชิกแก๊ง ไรอันไม่ได้คิดมากเลยที่ต้องฟันดาบใส่แก๊งในย่านเฮลคิทเช่น ก่อนที่เขาจะมาที่นี่ เขาก็ได้รู้แล้วว่าแก๊งพวกนี้มีส่วนร่วมในการค้ามนุษย์มาเป็นเวลานาน พวกมันไม่สมควรได้รับความเห็นอกเห็นใจ
เมื่อมองไปที่ซากศพที่ลุกไหม้อยู่ตรงหน้าเขา ชิชิโอะก็หัวเราะออกมาอย่างชั่วร้าย “รู้ไหมว่าในโลกนี้คนอ่อนแอล้วนเป็นอาหารของคนที่แข็งแกร่ง ผู้แข็งแกร่งที่แท้จริง...” เขาชูใบมีดในมือของเขาและชี้ไปที่ศพบนพื้น จากนั้นชิชิโอะก็พูดด้วยน้ำเสียงที่ลึกล้ำและโหดร้าย "ดังนั้นคนอ่อนแอ...สมควรจะตาย แกน่ะมีคุณค่าพอที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้หรือเปล่า? ”
ขณะที่เขาพูด ชิชิโอะค่อยๆ หันหน้าไปทางบูลส์อายข้างหลังเขา
เมื่อต้องเผชิญกับรูปลักษณ์ที่เหมือนปีศาจที่น่าสะพรึงกลัวของชิชิโอะ กระทั่งบูลส์อายผู้ซึ่งเป็นฆาตกรก็รู้สึกสั่นสะท้านในใจ เขาหลบตาอย่างไม่เป็นธรรมชาติและตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ผมไม่ต้องการให้คุณตัดสินใจคุณค่าของผมหรอก"
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเหลือบมองร่างของสมาชิกแก๊งที่คลานอยู่ตรงหน้า ซึ่งส่วนใหญ่ถูกชิชิโอะตัดหัวไปหมดแล้ว
"แผนของคิงพินคือการผนวกกลุ่มอื่นๆ เข้าด้วยกัน" วิธีการของชิชิโอะโหดเกินไป เขาไม่ได้ทำตามแผนของคิงพินเลยสักนิดเดียว
ชิชิโอะตอกกลับด้วยสีหน้าเย็นชา “คนอ่อนแอล้วนสิ้นเปลืองอากาศ ไม่มีค่าอะไรที่จะปล่อยให้พวกมันมีชีวิตอยู่”
“บอกคิงพินด้วยว่าฉันชอบความทะเยอทะยานของเขา แต่หวังว่าครั้งต่อไปเขาจะหาอะไรที่มีประโยชน์มากกว่าไอ้พวกขี้แพ้ไร้ค่าเหล่านี้”
เมื่อพูดจบ เขาก็ไม่สนใจปฏิกิริยาของบูลส์อายเลย ชิชิโอะหันกลับไปและเดินออกจากที่นี่
ในฐานะสมาชิกของจิ่วโยว เขาไม่จำเป็นต้องแสดงความเคารพต่อคิงพิน