บทที่ 110 : พิธีรายงานตัว (2-2)
บทที่ 110 : พิธีรายงานตัว (2-2)
“มันบอกให้ฉันฆ่าพวกแกให้หมด!”
ผู้นำได้ดึงกริชออกมาจากเข็มขัดของเขา
ทั้งสองคนที่อยู่ข้างๆ เขาดึงหน้าไม้เล็กๆ ออกมาเหมือนกัน
ฉันเตะดาบของฉันขึ้นมาด้วยหลังเท้าแล้วส่งมันลอยขึ้นไปในอากาศ ขณะที่มันหมุนในอากาศนั้นฉันก็จับดาบเอาไว้ในมือ ฉันหลบเลี่ยงกริชที่พุ่งเข้ามาหาฉัน และแทงดาบเข้าที่หลังคอของชายคนหนึ่ง มือซ้ายของฉันดึงกริชออกมาจากเข็มขัดแล้วโยนมันออกไป กริชของฉันฝังอยู่ในดวงตาของทหารที่เล็งหน้าไม้มาทางฉัน ฉันดึงดาบออกจากคอชายคนนั้นและฟันมันลงที่ท่อนบนของทหารทั้งหมด ในขณะเดียวกันมีดของอีดิสก็ซัดเข้าไปที่หน้าผากของชายคนที่สามราวกับว่ากำลังปาลูกดอก
ร่างของมนุษย์ทั้งสามกระอักเลือดออกมาขณะที่พวกมันจะตาย ท่ามกลางซากศพฉันยืนถือดาบที่เลือดสดๆหยดลงมา กลิ่นคาวเลือดพุ่งเข้ามาในจมูกของฉัน
ฉันยกที่โชกเลือดขึ้นมาแล้วพูดว่า “ไง พวกนายยังตั้งใจจะพูดคุยอยู่ไหม?”
ฉันเคยเห็นเหตุการณ์คล้ายๆ กันนี้ ตั้งแต่ตอนที่เป็นนายท่านแล้ว
ศัตรูเป็นมนุษย์ และฮีโร่ที่ผู้ลังเลก็จะโดนสังหารทันที
ไม่มีการเจรจา
ไม่ว่าใครจะโผล่ออกมา ไม่ว่าพวกเขาจะโผล่ออกมาอย่างไร
ต้องเลือกว่าจะฆ่าหรือถูกฆ่า
อารอนเงยหน้าขึ้นแล้วหยิบหอกขึ้นมาจากพื้นอย่างเงียบ ๆ
เสียงไร้อารมณ์ไหลออกมาจากปากของเขา
“เราต้องฆ่าพวกเขาทั้งหมดเลยเหรอครับ?”
"ใช่ การเจรจาไม่ได้ผลหรอก”
“เข้าใจแล้ว”
อารอนจับหอกแน่นขึ้นและเล็งไปที่ศัตรู
ทหารทั้งห้าอยู่ในท่าทางการต่อสู้แล้ว
“เจนน่า เธอมีความตั้งใจที่จะไว้ชีวิตพวกเขาไหม?”
“ถ้าเราไม่ฆ่าพวกเขา เราก็จะถูกฆ่า”
“ใช่แล้ว”
“ถ้างั้น เราไม่มีทางเลือก ฉันตัดสินใจได้แล้ว!”
ชึ้บ!
ลูกธนูพุ่งออกไปโดนหน้าอกของทหาร เขาล้มลงด้วยดวงตาเบิกกว้าง และลูกธนูจึงเจาะทะลุหน้าอกของเขาและก้านขอมันยังโผล่ออกมาจากด้านหลังของเขา
“…”
ออลก้าก็เหมือนกัน
เธอเริ่มร่ายเวทย์ไฟ
อีดิสเมื่อเห็นสิ่งนี้ก็พึมพำออกมา
“ดูเหมือนว่าฉันจะกังวลไปเอง”
“แน่นอน”
สิ่งที่ฉันให้ความสำคัญมากที่สุดในการเลือกสมาชิกปาร์ตี้ไม่ใช่พรสวรรค์หรือความแข็งแกร่ง แต่เป็นสภาพจิตใจ มันเป็นความปรารถนา และความมุ่งมั่นที่จะทำทุกอย่างเพื่อความอยู่รอด
“เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้”
พวกเราจัดรูปแบบการต่อสู้เสร็จสมบูรณ์
อารอนกับฉันอยู่ข้างหน้า เจนน่าและอีดิสอยู่ตรงกลาง และออลก้าอยู่ด้านหลัง เมื่อศัตรูสี่คนตายไป ทหารอีจำนวนหนึ่งก็พุ่งเข้าใส่พวกเรา เสียงโห่ร้องและเสียงโลหะปะทะกันดีงกึกก้องไปทั่ว
“คนพวกนี้ไม่ปกติ”
อีดิสหมุนกริชของเธอในมือของเธอ
ผิดปกติจริงๆเส้นเลือดดำที่มีลักษณะคล้ายรอยสักที่น่ากลัว แผ่ขยายไปทั่วใบหน้าและผิวหนัง ความบ้าคลั่งอยู่ในม่านตาของพวกเขา
【อิกไนท์!】
ฟู้ววววว
กำแพงไฟพุ่งออกมาต่อหน้าเรา
"อ๊าาาก!"
ทหารสองคนถูกไฟลุกโชนทั่วร่าง พวกเขาร้องด้วยความเจ็บปวดและตายไปทันที
แผ่นโลหะของชุดเกราะของพวกมันเรืองแสงสีแดง
ลูกธนูของเจนน่าทะลุผ่านเปลวไฟไปในอากาศ
ทหารวัยกลางคนที่มีหนวดเคราพุ่งหอกเข้ามาหาฉัน
ฉันสกัดกั้นด้วยโล่ หัวของหอกหลุดออกมา ทำให้ทหารนั้นเดินโซเซ ฉันเหวี่ยงดาบออกไปข้างหน้าเขาเลือดสาดกระเซ็นและคอของเขาเกือบจะขาด จากนั้นเขาก็ล้มลงขณะกำคอแน่นและตายไปทันที
'อ่อนแอ'
พวกเขาอาจมีอุปกรณ์ครบครัน แต่ขาดรูปแบบการรบและระเบียบวินัย
พวกเขาพุ่งเข้าใส่อย่างไม่มีแบบแผนและแกว่งอาวุธไปมา ใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีในการจัดการพวกมัน ทันใดนั้นศพทั้ง 12 ศพเกลื่อนไปทั่วจัตุรัสกลางเมือง
เหลือเพียงคนเดียวเท่านั้น
เขานั่งตัวสั่นด้วยความกลัว
ฉันเช็ดเลือดออกจากดาบแล้วเข้าไปหาทหาร เขาถ่มน้ำลายและพูดเสียงดัง
“ได้โปรดไว้ชีวิตฉันด้วย! ไว้ชีวิตฉัน! ฉันมีภรรยาและลูกสาวรอฉันอยู่ ฉันต้องกลับไป! บ-กลับบ้าน ฉันต้องกลับบ้าน!”
“นายมีแผนว่าจะกลับยังไง?”
“นั่น… อ๊า!”
ทหารทึ่งหัวแล้วกรีดร้อง
ขณะที่ทหารกรีดร้อง เลือดสีดำก็พุ่งออกมาจากปากของเขา และเขาก็ล้มลง จากนั้นไม่กี่วิเขาตายแล้ว
ออลก้าทำหน้าบูดบึ้งและแสดงความคิดเห็นว่า “คนพวกนี้แปลก”
อีดิสเก็บมีดสั้นไว้บนเข็มขัด
“พวกเขาถูกล้างสมอง ฉันเคยเห็นมันสองสามครั้ง การล้างสมองคนจำนวนมากพร้อมกันแบบนี้เพิ่งเคยเห็นมาก่อน…”
“พวกเขาเป็นคนกลุ่มเดิมกับที่เธอเจอหรือเปล่า?”
"ใช่ เราฆ่าพวกมันไปหมดแล้ว แต่พวกมันเป็นคนเดียวกันกับที่ปรากฏตัวขึ้นมาคราวที่แล้วแน่ๆ”
ฉันเช็ดเลือดสีดำที่มีลักษณะคล้ายน้ำมันดิบและข้นออกจากตัว
มันก็เหมือนกับของยัยนั่น
ฉันยังคิดไม่ออก มีเบาะแสน้อยเกินไป
แต่คนพวกนี้ไม่ได้มีอะไรพิเศษ พวกเขาแค่ติดอยู่ที่ชั้น 12
ไม่นานแสงก็ปกคลุมเรา
มันเป็นสัญญาณของการผ่านด่าน
[ผ่านด่าน!]
['เจนน่า (★★)', 'อีดิส (★★★)' เลเวลเพิ่มขึ้น!]
[รางวัล – 3500 ทองคำ หนัง (C) X 1]
[ฮีโร่ยอดเยี่ยม – 'ฮาน (★★)']
เรากลับมาที่จตุรัส
อีดิสเดินหายไปแล้วหลังจากการต่อสู้ที่แสนง่ายดายนั้น แต่ความเหนื่อยล้าก็ปรากฏบนใบหน้าของทั้งสาม ฉันเก็บดาบของฉันแล้วพูดขึ้นมา
“ทำตัวให้ชินซะ ฉันเองก็จะทำเหมือนกัน”
"ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ประหลาดหรือมนุษย์ ก็ไม่มีความแตกต่างกันมากเท่าไรนักหรอก”
แผลที่ร่างกายของฉันหายไปอย่างไร้ร่องรอย
อย่างไรก็ตาม กลิ่นคาวเลือดยังคงอยู่ที่ปลายจมูกของฉัน
แค่มีชีวิตรอด
ไม่มีความลังเล ไม่มีความตื่นเต้น นั้นคือสิ่งที่ฉันคิดไว้และในอนาคตก็คงจะเป็นแบบนี้ มันน่าขำที่คิดว่าหลังจากฆ่าสัตว์ประหลาดไปมากมายแล้ว ฉันจะมีปัญหาในการฆ่ามนุษย์ ฉันจะทำมันถ้าจำเป็น ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะเป็นใครก็ตาม
ฉันได้กลับมาที่ห้องของฉันอีกครั้ง
สิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ปรากฏตัวบนชั้นที่ 12 ถ้าศัตรูที่คล้ายคนแบบเดียวกันปรากฏตัวบนชั้นที่ 13 และชั้นที่ 14 ฉันคงงสามารถเดาสัตว์ประหลาดและลักษณะของภารกิจที่จะปรากฏตัวบนชั้นที่ 15 ได้แล้ว
“….”
ฉันอดไม่ได้เลยที่จะคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอีกครั้ง
ทันใดนั้นก็มีความคิดหนึ่งได้ผุดขึ้นมา
“ฉันเปลี่ยนไปหรือเปล่า?”
ถ้าฉันเปลี่ยนไป มันก็สมเหตุสมผล
ตัวฉันบนโลกและฉันในห้องรอของเกมมีความแตกต่างหลายประการ
แต่ฉันไม่เสียใจเลย ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเปลี่ยนแปลง ถ้าไม่งั้นฉันคงตายไปแล้ว มันหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย
“ก็คงปกติแหละนะ มันเป็นสิ่งที่ต้องเปลี่ยนแปลงกันอยู่แล้ว”
ฉันถอนหายใจและทำงานต่อ