ตอนที่แล้ว1221 - ชุมนุมราชาผู้ยิ่งใหญ่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป1223 - บุปผาเทพอสูร

1222 - วิญญาณชั่วร้ายที่ติดตามมาด้วย 


1222 - วิญญาณชั่วร้ายที่ติดตามมาด้วย

“ผู้อาวุโสในตระกูลของเรากล่าวว่าประตูหนานเทียนตกลงไปในเหมืองโบราณต้นกำเนิดหลายแสนปีแล้ว มันไม่มีทางปรากฏขึ้นที่นี่” จี้จื่อเยว่กล่าวด้วยความกังวล

“เราต้องใจเย็นๆ สิ่งที่เห็นตรงหน้าไม่ได้ว่าจะเป็นความจริง!” เย่ฟ่านตะโกนเรียกสติของทุกคน

“อย่างไรก็ตามวังสวรรค์อันงดงามนั้นยังคงลอยอยู่บนท้องฟ้า ศพที่น่าสะพรึงกลัวเหล่านี้เป็นเรื่องจริงแท้อย่างแน่นอน ให้ตายเถอะ หากนี่เป็นวังสวรรค์จริงๆ มันก็สมเหตุสมผลที่จะมีซากศพของราชาผู้ยิ่งใหญ่มากหมายถึงขนาดนั้น?” จักรพรรดิดำกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นสะท้าน

“จักรพรรดิอู่ซื่อปราบปรามเก้าสวรรค์สิบพิภพด้วยความแข็งแกร่งที่เหนือชั้น แม้แต่สิ่งมีชีวิตอมตะที่แท้จริงยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดังนั้นค่ายกลสังหารจักรพรรดินี้เพียงพอที่จะปกป้องเราอย่างแน่นอน”

เมื่อพูดจบจักรพรรดิดำก็ลงมือสร้างค่ายกลขึ้นอีกครั้ง

“บูม”

ในขณะนี้ หยกที่ลอยอยู่เหนือศีรษะของพวกเขาปะทุขึ้นด้วยแสงสีแดงฉาน มันยิงสังหารซากศพของราชาผู้ยิ่งใหญ่มากมายนับไม่ถ้วน

เมื่อค่ายกลของจักรพรรดิทำการโจมตีแล้วมันก็เริ่มดึงดูดพลังปราณสวรรค์พิภพกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง

ภายใต้การโจมตีอย่างบ้าคลั่งทุกสิ่งทุกอย่างหายไปเหลือเพียงเลือดเนื้อที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้น ซากศพของราชาผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหมดถูกทำลายจนสิ้นซาก

เย่ฟ่านก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับสะบัดแขนเสื้ออย่างรุนแรง จากนั้นกระท่อมมุงจากก็ถูกกวาดออกไปทั้งหมด และสิ่งที่ปรากฏขึ้นคือโครงกระดูกของหญิงสาวที่ตายมาแล้วไม่ต่ำกว่าสองปี

“นี่...”

หัวใจของเย่ฟ่านจมลงและเต็มไปด้วยความเศร้าโศกอย่างถึงที่สุด หวังเจี๋ยหญิงสาวผู้กระตือรือร้นต้องตายเช่นนี้หรือ?

เย่ฟ่านรู้สึกอึดอัดในหัวใจ เขารู้ดีว่าสถานการณ์จะต้องรุนแรงอย่างยิ่ง หลังจากที่เห็นหลี่เสี่ยวม่านปรากฏตัวขึ้น มันมีโอกาสสูงมากที่นางจะลงมือสังหารเพื่อนๆ ทุกคน

“เพื่อนเก่าอีกคนจากไปแล้ว” ผังป๋อก็ถอนหายใจเช่นกัน

“ไม่ นี่เป็นเพียงเด็กหญิงเท่านั้น กระดูกของนางไม่น่าจะมีอายุเกินสิบเจ็ดปี” จักรพรรดิดำกล่าว

เมื่อเย่ฟ่านได้ยินสิ่งนี้เขาก็นั่งลงและสำรวจกระดูกอย่างระมัดระวัง “เป็นหญิงสาว ไม่ใช่หลินเจี๋ย”

“จะเป็นใครได้ถ้าไม่ใช่หลินเจี๋ย นางตายไปแล้วนั่นแสดงให้เห็นว่ามีใครบางคนยืมมือของนางวางแผนฆ่าเรา” ผังป๋อพึมพำ

“หากไม่ใช่เพราะค่ายกลจักรพรรดิคอยช่วยเหลือ ใครก็ตามที่เข้ามาในเวลานี้คงตายไปแล้ว ชัดเจนว่าอีกฝ่ายไม่ได้ต้องการให้ข้ามีชีวิตอยู่อีกต่อไป” เย่ฟ่านถอนหายใจ

เมื่อกระท่อมถูกกวาดล้างออกไปทั้งหมด อันตรายที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ก็หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย จักรพรรดิดำสำรวจพื้นที่โดยรอบและกล่าวว่า

“ทุกสิ่งเป็นของปลอม วังสวรรค์ก็เป็นของปลอม ซากเทวะก็เป็นของปลอม อย่างไรก็ตามมันมีพลังของวังสวรรค์อยู่เล็กน้อยเห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้เคยเข้าไปในวังสวรรค์มาแล้ว”

ทันใดนั้นมันก็อุทานด้วยความตกใจก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นสะท้าน “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง!”

เมื่อได้ยินคำพูดของจักรพรรดิดำทุกคนก็หันกลับไปมองด้วยความสนใจ จักรพรรดิดำค้นพบอะไรกันแน่?

ดวงตากลมโตที่เต็มไปด้วยความสงสัยของจี้จื่อเยว่จ้องมองจักรพรรดิดำด้วยความระมัดระวัง จากนั้นนางก็ซ่อนไข่ศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองไว้ด้านหลังเพราะกลัวว่ามันจะขโมยไป

“หากข้าได้รับสมบัติชิ้นนี้บางทีมันอาจจะทำให้ข้ากลายเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ได้จริงๆ!” จักรพรรดิดำหัวเราะด้วยความกระตือรือร้น

“เจ้าพูดเรื่องบ้าอะไรอยู่?” ผังป๋อถาม

“สมบัติที่สร้างโดยเสมือนจักรพรรดิ!” คำพูดของสุนัขสีดำตัวใหญ่ทำให้ทุกคนอ้าปากค้าง

“หวือ”

จากนั้นจักรพรรดิดำได้เหยียดอุ้งเท้าของตัวเองออกและเริ่มขุดค้นลงไปที่บริเวณซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของกระท่อมมุงจาก

“บูม”

พลังชั่วร้ายและน่าสะพรึงกลัวระเบิดออกมา ทำให้ทุกคนเกิดความตกใจอย่างถึงที่สุด กลิ่นอายที่รุนแรงนี้ทำให้เส้นขนของพวกเขาตั้งตรงขึ้นทันที

นี่คือพลังที่เต็มไปด้วยความชั่วร้าย มันมีอำนาจที่จะทำลายชีวิตทั้งมวลเพียงแค่สัมผัสอย่างแผ่วเบา หากไม่ใช่ว่าทุกคนได้รับการปกป้องจากค่ายกลจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่พวกเขาคงตายไปตั้งแต่แรกแล้ว

“วิญญาณชั่วร้ายนี่คืออะไร?” หลี่เทียนถามในขณะที่ก้าวเข้าหาหลุมที่จักรพรรดิดำขุดค้นขึ้นเมื่อครู่

“น่าเสียดายที่สมบัติชิ้นนี้ถูกทำลายแล้ว” สุนัขสีดำตัวใหญ่ตีอกชกหัวด้วยความเจ็บปวดใจ

จากนั้นทุกคนก็เห็นรูปปั้นปีศาจสีดำสนิทที่มีรอยแตกปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน มันมีขนาดประมาณครึ่งหนึ่งของร่างกายมนุษย์ มีลวดลายถูกแกะสลักไว้รอบตัวของรูปปั้น เห็นได้ชัดว่านี่คือค่ายกลรูปแบบหนึ่ง

“นี่มันอะไรกัน?”

“หุ่นเชิดรูปร่างมนุษย์!” จักรพรรดิดำอธิบาย

“กล่าวให้ถูกคือมันเป็นรูปปั้นที่ถูกสลักไว้ด้วยวงเวทย์ของเสมือนจักรพรรดิ พลังไม่มีที่สิ้นสุดและความลับอันยิ่งใหญ่ทั้งหมดถูกแกะสลักไว้ในรูปปั้นหินนี้ มันเป็นหุ่นเชิดที่มีพลังทำลายล้างน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง ต่อให้เป็นราชาเซียนยังยากที่จะรอดชีวิตได้”

“มันสามารถฆ่าเซียนได้ด้วยหรือ?” หลายคนประหลาดใจ

“แน่นอน นี่คือสิ่งที่เสมือนจักรพรรดิใช้วิญญาณของตัวเองขัดเกลาขึ้น น่าเสียดายที่หลังจากสร้างมันขึ้นมาแล้วแม้แต่ตัวเขาก็ยังถูกพลังสะท้อนกลับของมันสังหารไปด้วย” จักรพรรดิดำกล่าว

“มันไร้สาระเกินไปแล้ว เสมือนจักรพรรดิที่ไหนจะโง่เขลาขนาดนั้น?” ไม่มีใครยอมเชื่อเรื่องนี้

“แน่นอนว่าหากมันต้องการฆ่าเสมือนจักรพรรดิจะต้องมีรูปปั้นหินมากกว่าที่ฝังอยู่ใต้กระท่อม ตามที่ควรจะเป็นนี่เป็นหนึ่งในรูปปั้นหินตัวแทนของค่ายกลเท่านั้น” สุนัขสีดำตัวใหญ่กล่าว

รูปปั้นปีศาจนี้ปลดปล่อยกลิ่นอายที่เต็มไปด้วยความชั่วร้ายออกมาอย่างต่อเนื่อง ตามที่ควรจะเป็นมันควรจะมีรูปปั้นลักษณะเดียวกันอยู่เก้าตัวจึงจะแสดงอำนาจที่แข็งแกร่งเทียบเท่ากับการโจมตีของเสมือนจักรพรรดิออกมาได้

เมื่อรูปปั้นหินผีถูกขุดออกมา หุบเขาอมตะก็กลับสู่ความเงียบสงบ ดินแดนอันงดงามและทุกสิ่งทุกอย่างที่ปรากฏอยู่ในสายตาของทุกคนหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย เหลือเพียงดินแดนที่เต็มไปด้วยความรกร้างเท่านั้น

ทันใดนั้นผังป๋อก็ตบหัวศีรษะของตัวเองอย่างรำคาญใจและกล่าวว่า “ข้าพลาดอะไรไปสักอย่าง ข้าเคยเห็นรูปปั้นแบบนี้ที่ไหนสักแห่ง?”

“อะไรนะ” จักรพรรดิดำเริ่มกระตือรือร้นทันทีและถามว่าเขาเห็นมันที่ไหน

“ตอนนั้นข้าไม่ได้สนใจ มันน่าจะเป็นตำหนักเซียนที่อยู่นอกดินแดนต้องห้ามโบราณ ข้าเห็นรูปปั้นที่มีรอยแตกกระจายอยู่ทั่วลักษณะของมันเหมือนรูปปั้นนี้ไม่มีผิดเพี้ยน ในเมื่อมันเป็นของที่ถูกทำลายไปแล้วข้าย่อมไม่ได้ใส่ใจมากนัก”

สุนัขสีดำตัวใหญ่แยกเขี้ยวและอยากจะกัดเขาสองสามครั้ง “ช่างเป็นคนปัญญาอ่อนที่โง่เขลาเหลือเกิน หากเจ้ายินยอมเก็บรูปปั้นนั้นมาด้วยป่านนี้เราคงมีอาวุธที่สามารถสังหารเซียนผู้ยิ่งใหญ่อย่างง่ายดายแล้ว”

“ถ้าอย่างนั้นรูปปั้นหินก้อนนี้ก็ควรจะมาจากตำหนักเซียน?” เย่ฟ่านคิด

หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็เดินเข้าไปในป่าไผ่เพื่อสำรวจพื้นที่ ไผ่ทุกต้นเป็นสีขาวราวกับหิมะ แม้แต่ใบของมันก็ยังเป็นสีขาวไปด้วย

เย่ฟ่านเดินไปที่ด้านหน้าแท่นหินและหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เขาใช้พลังศักดิ์สิทธิ์เพื่อเปลี่ยนให้เป็นกระแสไฟฟ้าและเปิดมือถือขึ้นอีกครั้ง

ในขณะนี้ เย่ฟ่านและผังป๋อเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น ความทรงจำเกือบยี่สิบปีของพวกเขาถูกฟื้นกลับคืนมาอีกครั้ง

“เย่ฟ่าน เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า?” จี้จื่อเยว่กังวลอย่างมากเมื่อเห็นท่าทีของเขา

“ข้าสบายดี”

เย่ฟ่านยิ้มให้นางจางๆ จากนั้นเขาก็เล่าให้นางฟังว่ามันคืออะไรและอธิบายวิธีใช้งานอย่างละเอียด เย่ฟ่านพบรูปถ่ายบางรูป และหลายรูปก็เป็นรูปของเขา

เมื่อเห็นใบหน้าของหลินเจี๋ยทั้งสองคนก็เกิดความเศร้าโศกขึ้นอีกครั้ง

“นี่คือ…”

ทันใดนั้นดวงตาของเย่ฟ่านก็แข็งทื่อ และสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างรุนแรง ผังป๋อที่อยู่ข้างๆ สูดลมหายใจอย่างหนาวเหน็บ หลังจากที่ทุกคนเห็นรูปในมือถือใบหน้าของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความตกใจเช่นกัน

ภาพนี้สลัวมาก มีคนจำนวนมากที่มีสีหน้าหวาดกลัวในตอนที่รูปถูกถ่ายขึ้น

“หลินเจี๋ยถ่ายรูปด้วยโทรศัพท์มือถือของนางในโลงทองแดง” เย่ฟ่านกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก

“ไม่น่าเชื่อจริงๆ ผีร้ายตัวนั้นอยู่ข้างเรามาโดยตลอดแต่เรากลับไม่รู้ตัวเลย” ผังป๋อรู้สึกว่าแผ่นหลังของเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ

ภาพที่หลินเจี๋ยถ่ายนั้นไม่ชัดเจนเท่าใด อย่างไรก็ตามขนาดของดวงตาอันใหญ่โตผู้นั้นก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นแล้วว่า ปีศาจที่ติดตามพวกเขามามีร่างกายใหญ่โตมากเพียงใด

เย่ฟ่านก็ตกใจเช่นกัน “มีอีกคนอยู่ในโลงศพแต่เรากลับไม่รู้ตัวเลย หลินเจี๋ยถ่ายภาพฉากดังกล่าวแต่ไม่ได้บอกใคร เห็นได้ชัดว่านางไม่ต้องการให้เราทุกคนเกิดความหวาดกลัว และผีร้ายตนนั้นจะต้องรู้ตัวอยู่แล้วว่านางมองเห็นมัน ดังนั้นมันจึงเลือกนางเป็นเป้าหมายแรก”

……….

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด