1221 - ชุมนุมราชาผู้ยิ่งใหญ่
1221 - ชุมนุมราชาผู้ยิ่งใหญ่
หลังจากเดินทางไม่กี่ลี้ก็จะมีกระท่อมมุงจากตั้งอยู่ตรงหน้าพวกเขา มันมีความกลมกลืนและเงียบสงบ ในบริเวณโดยรอบคือน้ำตกอันงดงามที่ไหลรินลงมาอย่างต่อเนื่อง
เย่ฟ่านเร่งฝีเท้าแล้วเดินไปที่กระท่อม อย่างไรก็ตาม ดวงตาของเย่ฟ่านมืดลงชั่วขณะและไม่สามารถมองเห็นอะไรได้
นอกหุบเขาเย่ฟ่านตกตะลึงเป็นอย่างมาก เขาลืมตาขึ้นแล้วกล่าวว่า
“ร่างอวตารของข้าถูกทำลายแล้ว มันมีพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งอยู่ในบริเวณนั้น อย่างไรก็ตามข้าไม่สามารถตรวจจับพลังวิญญาณนั้นได้และร่างอวตารของข้าก็ถูกฆ่าทันที”
ทุกคนตกตะลึง หากเป็นร่างกายที่แท้จริงของพวกเขาเข้าไปข้างในเกรงว่าสถานการณ์อาจเลวร้ายกว่านี้ แม้ว่าร่างอวตารของเขาจะอ่อนแอมากกว่าร่างจริงหลายเท่า จากการที่มันถูกฆ่าตายทันทียังแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของศัตรูอย่างชัดเจน
สุนัขสีดำตัวใหญ่ได้จัดตั้งค่ายกลสังหารของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่อู่ซือเพื่อปกป้องทุกคน จากนั้นเย่ฟ่านก็นั่งสมาธิลงบนพื้นและเริ่มควบคุมอวตารของเขาให้เดินเข้าไปยังป่าไผ่อีกครั้ง
ไม้ไผ่แต่ละต้นแกะสลักเหมือนหยกเนื้อแกะ สีขาวนวล อบอุ่น โปร่งแสง แต่ละท่อนสดใสอย่างมาก ผืนป่าไม่ใหญ่มากนัก แต่เต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์อย่างถึงที่สุด
เห็นได้ชัดว่านี่เป็นไผ่ล้ำค่าอย่างยิ่ง เมื่อนำมันมาปลูกที่นี่มันจะทำให้ร่างกายของพวกเขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังแห่งเต๋าได้ง่ายกว่าด้านนอก
มีแท่นหินหลายแห่งในป่าไผ่ สีหน้าของเย่ฟ่านกลาแข็งทื่อเล็กน้อยเพราะเขามองเห็นโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งวางอยู่บนแท่นหินนั้น
ถ้าเขาจำไม่ผิด นี่น่าจะเป็นโทรศัพท์ของหลินเจี๋ย ใบไผ่บางเบาร่วงหล่นลงมาทับโทรศัพท์มือถือจนแท่งกรัง เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครแต่ต้องมันมานานหลายปีแล้ว
ปัง!
มีเสียงระเบิดดังขึ้นศีรษะของร่างอวตารเย่ฟ่านถูกบดขยี้จนแหลกละเอียดและดวงตาของเขาก็มืดดับลงไปอีกครั้ง
“มันคือตัวอะไรกันแน่?”
นอกหุบเขาร่างของเย่ฟ่านลืมตาตื่นขึ้น ในขณะนี้อารมณ์ของเขาเดือดพล่านอย่างถึงที่สุด เขาส่งร่างอวตารสองตนเข้าไปข้างในแต่สุดท้ายร่างอวตารของเขากลับถูกสังหารอย่างง่ายดาย
จากนั้น ร่างกายของเย่ฟ่านก็สั่นสะท้านและกล่าวว่า “ร่างอวตารที่สามของข้าถูกฆ่าแล้ว”
ในที่สุดร่างอวตารสุดท้ายของเย่ฟ่านก็มีโอกาสมองเห็นฝ่ามือสีดำคลุมเครือตบลงมาจากด้านบน และนั่นคือสิ่งเดียวที่ทำให้เขายืนยันการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิตตนนั้นได้
“ด้วยการตายถึงสี่ครั้ง ข้าเห็นเพียงเงาสีดำคลุมเครือ นี่คือหุบเขาอมตะที่ไหน มันเป็นแดนมรณะอย่างชัดเจน!”
หลี่เทียนสูดลมหายใจอย่างหนาวเหน็บ แม้แต่ร่างอวตารของเย่ฟ่านยังถูกฆ่าตายอย่างง่ายดาย หากเขาเข้าไปข้างในก็คงไม่อาจรอดชีวิตเช่นกัน
“ไม่น่าแปลกใจเลยที่เฟิ่งหวงสายฟ้าไม่สามารถหนีความตายได้แม้ว่าจะเป็นราชาก็ตาม” จี้จื่อเยว่กระซิบก่อนจะกอดไข่ทองคำไว้ด้วยความกลัว
“เย่จื่อน้อย เจ้าแน่ใจหรือว่านั่นเป็นลายมือที่หลินเจี๋ยทิ้งไว้”
ผังป๋อถาม ตัวหนังสือเหล่านั้นดูไม่เหมือนสิ่งที่หลินเจี๋ยทิ้งไว้เลย มันคล้ายกับเป็นกับดักที่ชักนำพวกเขามาหาความตายมากกว่า
มิหนำซ้ำยังเป็นกับดักที่ถูกวางไว้ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน
เย่ฟ่านกล่าวกับตัวเองว่า “เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ข้ามีความรู้สึกว่ามีสายตาชั่วร้ายบางคู่กำลังจับจ้องข้าอยู่ตลอดเวลา กับดักนั้นถูกกำหนดไว้เมื่อหลายปีก่อนเป้าหมายของมันอยู่ที่ข้าอย่างแน่นอน เขาทิ้งข้อความไว้เพราะรู้ว่าสักวันหนึ่งข้าจะต้องกลับมา”
“เจ้าจำเป็นต้องกลัวพวกมันด้วยหรือ ต่อให้มันแข็งแกร่งมากกว่านี้ก็ไม่มีทางแข็งแกร่งไปกว่าพลังของค่ายกลจักรพรรดิได้” จักรพรรดิดำกล่าวอย่างภาคภูมิใจตัดสินใจ จากนั้นมันก็เป็นคนแรกที่ก้าวเข้าไปในหุบเขา
แน่นอนว่าด้วยค่ายกลจักรพรรดิและเตาหลอมเซียนที่อยู่ในมือของเอี๋ยนอี้ซี พวกเขาไม่ได้พบอันตรายใดๆ ภายในหุบเขา หลังจากนั้นทุกคนก็มุ่งหน้าไปที่กระท่อมมุงจากอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามสุนัขสีดำตัวใหญ่จำเป็นต้องใช้ความพยายามอย่างมาก มันดื่มน้ำพุวิญญาณเข้าไปหลายครั้งและแกะสลักค่ายกลทรงพลังอย่างต่อเนื่อง เพราะมันรู้ดีว่าเจ้าของร่างสีดำนั้นน่าสะพรึงกลัวมากเพียงใด
“นี่คือค่ายกลสังหารของจักรพรรดิโบราณ แม้พลังของมันจะเหลือเพียงเล็กน้อยแต่ก็สามารถสังหารเสมือนจักรพรรดิได้อย่างแน่นอน”
“บูม!”
ทันใดนั้น ชิ้นส่วนหยกบนหลังของจักรพรรดิดำก็แตกสลายไปชิ้นนึง จากนั้นแสงศักดิ์สิทธิ์สีแดงฉานได้ยิงขึ้นสู่ท้องฟ้าและกระแทกร่างของสิ่งมีชีวิตตัวหนึ่งจนแหลกละเอียดกลายเป็นเพียงฝนเลือดที่กระจัดกระจายไปทั่ว
“ช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังจริงๆ มันเข้ามาใกล้เราโดยที่ข้าไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำ!” เย่ฟ่านสูดลมหายใจอย่างหนาวเหน็บ
“ราชา นี่คือราชาผู้ยิ่งใหญ่!”
“จะมีราชาผู้ยิ่งใหญ่มากมายที่นี่ได้อย่างไร?” ผังป๋อก็ตกตะลึงเช่นกัน
“ไม่ มันไม่มีพลังชีวิต ไม่เช่นนั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่จะหลีกหนีสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของข้าไปได้ แต่เหตุใดมันจึงกลายเป็นผลเลือด?” เย่ฟ่านกล่าวพลางขมวดคิ้ว
“บูม!”
หยกแกะสลักของจักรพรรดิดำระเบิดแสงสังหารออกไปอีกครั้ง มันบดขยี้สิ่งมีชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวในระดับเซียนเทียมขั้นสามอีกตัวอย่างรวดเร็ว
“เป็นไปได้อย่างไร จะมีราชาผู้ยิ่งใหญ่มากขนาดนี้ได้อย่างไร?” หลี่เทียนตะโกนออกมาด้วยความหวาดกลัว
หากไม่มีค่ายกลสังหารของอู่ซือพวกเขาทั้งหมดจะต้องถูกฆ่าอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ภายใต้เสียงคำรามของสัตว์อสูรมากมายนับไม่ถ้วน แสงสังหารของค่ายกลบดขยี้พวกมันอย่างไร้ความปรานี
ในเวลาเพียงไม่กี่ลมหายใจมีสัตว์อสูรระดับราชาถูกสังหารไปกว่าสิบตัวแล้วและสีหน้าของจักรพรรดิดำก็บิดเบี้ยวมากขึ้นเรื่อยๆ
“เกิดอะไรขึ้น? สิ่งมีชีวิตเหล่านี้เป็นใคร? เหตุใดพวกมันจ้องจะทำร้ายเรา!” ผังป๋อตะโกน
“บูม”
มีเงาของอาคารโบราณตกลงมาจากท้องฟ้า เงาสีดำทะมึนของพวกมันครอบคลุมเข้าหากลุ่มเย่ฟ่านอย่างรวดเร็ว
“บูม!”
ค่ายกลสังหารของจักรพรรดิอู่ซือนั้นไม่มีใครเทียบได้ มันทำลายมุมหนึ่งของอาคารขนาดใหญ่อย่างง่ายดาย
“อะไรนะ!”
จักรพรรดิดำกรีดร้องเมื่อมองไปยังมุมของอาคารสูงตระหง่านที่ตกลงบนพื้น เสียงของมันเสียขวัญอย่างถึงที่สุด
“นี่มันคือประตูหนานเทียนที่อยู่ในซากเทวะไม่ใช่หรือ!”
บนนั้นมีอักขระโบราณหลายตัวซึ่งแกะสลักจากข้อความศักดิ์สิทธิ์โบราณ วานรศักดิ์สิทธิ์เชี่ยวชาญภาษาเหล่านี้ดังนั้นเขาจึงอ่านพร้อมกับขมวดคิ้วอย่างกังวลใจ
“ประตูหนานเทียน!”
“หุบเขาเซียนมีความสัมพันธ์อย่างไรกับซากเทวะ? มีความลับอย่างไรซุกซ่อนอยู่ในเรื่องนี้!”
ภายใต้เศษฝุ่นที่ฟุ้งกระจายไปทั่วท้องฟ้า สายตาของทุกคนจับจ้องอยู่ที่อักขระ “หนานเทียนเหมิน” บนแผ่นโลหะเหนือประตูหินขนาดใหญ่
“เราอยู่ที่ไหน มันใช่ซากเทวะที่เต็มไปด้วยความลึกลับนั้นหรือไม่?”
“ข้าคิดว่าพวกเรากำลังก่อเรื่องใหญ่แล้วแน่ๆ?”
พวกเขายืนหันหลังชนกันและให้ความสนใจรอบทิศทาง การโจมตีจากสิ่งมีชีวิตระดับราชาผู้ยิ่งใหญ่อย่างระดมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
“ไม่ว่าพวกมันจะมีวิญญาณหรือไม่ ฆ่าให้หมดก็พอ” จักรพรรดิดำและวานรศักดิ์สิทธิ์เริ่มโจมตีราชาผู้ยิ่งใหญ่ที่รุมล้อมเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง
สิ่งมีชีวิตที่รุมล้อมพวกเขาเข้ามานั้นมีลักษณะคล้ายกับซากศพ ร่างกายของพวกมันคือราชาผู้ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่านี่จะเป็นเพียงซากศพไร้วิญญาณที่ถูกควบคุมโดยพลังลึกลับบางอย่าง!
“นี่มันไม่สอดคล้องกับสามัญสำนึกโดยสิ้นเชิง ต่อให้รวบรวมราชาผู้ยิ่งใหญ่ทั่วโลกอำพรางสวรรค์ก็ไม่มีทางรวบรวมได้ถึงครึ่งของสิ่งที่กำลังรุมล้อมเราเข้ามา!” ผังป๋อดูหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
สถานการณ์นี้แปลกประหลาดมากเกินไป สิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือซากศพของราชาผู้ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามในจำนวนที่รุมล้อมเข้ามานั้นมีมากกว่าร้อยศพ ซึ่งทำให้พวกเขาเริ่มหวาดกลัวมากขึ้นเรื่อยๆ
ใครเป็นผู้รวบรวมซากศพของราชาผู้ยิ่งใหญ่เหล่านี้มา? และจากร่างกายของพวกมันเห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่เผ่าพันธุ์ที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้อย่างแน่นอน!
“เป็นไปได้ไหมว่าสถานที่แห่งนี้คือสุสานของสิ่งมีชีวิตโบราณเมื่อหลายล้านปีก่อน เราบังเอิญเปิดสุสานนั้นขึ้นโดยไม่เจตนา!”
แม้แต่จักรพรรดิดำที่กำลังโกรธเคืองก็ยังสับสนและไม่เข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
…..