บทที่ 320: ต่อให้ติดปีกบินก็หนีไม่ได้!
ตอนแรกมีทหารม้าที่พุ่งเข้ามาอยู่หลายร้อยนาย แต่เหลือรอดเข้ามายังแนวป้องกันของฝ่ายเชิ่งหลงได้สำเร็จเพียงไม่ถึง 50 นาย!
หรือก็คือในระยะทางเพียงไม่กี่ร้อยเมตร ระยะทางที่มอนสเตอร์สูดหายใจเข้าทีเดียวก็เข้าชาร์จถึงได้ทำให้ต้องสูญเสียกำลังพลไปมากถึง 80%!
การสูญเสียที่เกินจินตนาการนี้มันน่าสยดสยองเกินกว่าที่จิตใจของหัวหน้าหน่วยเกราะแดงที่ว่าฝึกมาดีแล้วจะยอมรับได้
และตอนนี้มันคิดว่าตัวเองโชคดีแล้ว สามารถบุกทะลวงเข้ามากลางวงของไอ้พวกเชิ่งหลงได้แล้ว ทีนี้จะได้เข่นฆ่าพวกมันจนกว่าจะสาแก่ใจ
‘ไม่ว่ายังไงวันนี้ไอ้พวกหมาขี้เรื้อนเชิ่งหลงจะต้องได้กินดาบโลหิตสังหารของกู!’
ไม่รอช้ามันเริ่งมองดูรอบตัวเพื่อหาเหยื่อรายแรก... แต่พอดูชัด ๆ แล้วมันกลับรู้สึกว่าตัวเองติดกับเข้าให้แล้วและหัวใจถึงกับหล่นไปอยู่ตาตุ่ม เพราะมันไม่เห็นว่ามีใครเลยนอกจากยานพาหนะแปลก ๆ หลายสิบคันที่อยู่รอบตัวแล้วก็ไม่เห็นทหารเชิ่งหลงนายใดอยู่โดยรอบเลย แต่เห็นว่าบนยานพาหนะเหล่านั้นมีทหารเชิ่งหลงคันละ 10 นายกำลังเล็งปืนกลที่ติดตั้งอยู่บนยานพาหนะดังกล่าวมาใส่พวกตนด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย
“ไอ่สัดเอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยย!” หัวหน้าเกราะแดงแหกปากแล้วควบมอนสเตอร์ตรงไปยังรถศึกสไตล์แดนร้างคันหนึ่ง
ซึ่งในขณะที่มันวิ่งทางฝั่งเชิ่งหลงก็ไม่ได้นั่งเล็งโง่ ๆ ให้พวกมันมาฆ่า แต่ละนายต่างเล็งเป้าของตนกระจาย ๆ กันไปตามจำนวนศัตรูที่ฝ่าดงกระสุนเข้ามาได้
ปัง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ...
เปลวไฟที่กระบอกปืนกระพริบรัว ๆ พร้อมกับเสียงปืนกลที่รัวขึ้นอีกรอบพร้อมห่ากระสุนอีกระลอกที่เข้าปะทะกับร่างกายของกองทหารม้าโลหิตสังหาร
ห่ากระสุนได้บินเข้าใส่พวกมันจากหลายทิศทางแปรสภาพร่างคนของพวกมันให้กลายเป็นรังผึ้งแล้วร่วงลงไปนอนกองกับพื้นทั้งคนทั้งมอนสเตอร์
ครั้งนี้กระสุนระลอกแรกได้เปลี่ยนกองทหารม้าโลหิตสังหารกว่าครึ่งจากคนเป็นให้เป็นคนตาย!
ใบหน้าของตัวหัวหน้าตอนนี้เปรอะเลือดไปหมด ทั่วทั้งร่างเจ็บปวดแสนสาหัส สัตว์พาหนะก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหวจนล้มลงกับพื้น ขนถูกเลือดย้อมจนไม่เหลือสีเดิม
เมื่อเป็นแบบนี้มันเลยพยายามพยุงตัวเองเพื่อลุกขึ้นจากพื้น และเมื่อมันลุกขึ้นยืนได้สำเร็จพวกลูกน้องที่เหลือก็ลงไปกองกันหมดแล้ว ตอนนี้มีทั้งเสียงกรีดร้องทั้งของสัตว์และของคนดังระงมอยู่ในหูทำให้มันที่แต่เดิมเจ็บปวดทรมานทั้งกายและใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้วยิ่งแย่เข้าไปอีก
ต้องเห็นซากศพที่สภาพเป็นชิ้น ๆ ของลูกน้องกับพื้นดินที่กลายเป็นโคลนเพราะเปียกเลือดจากศพเหล่านั้นก็ทำให้มันทั้งเจ็บทั้งแค้นจนลูกตามีเส้นเลือดแตกแดงก่ำไปหมด
แล้วจากนั้นก็ได้ยินเสียงที่เปลี่ยนไป นั่นคือเสียงของทหารเชิ่งหลงที่ลงจากรถศึกพร้อมกับอาวุธครบมือแล้วมายืนมองหัวหน้าหน่วยเกราะแดงอย่างเย็นชา
ชายฉกรรจ์คนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้ตัวมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งห่าจากมันประมาณ 10 ก้าวจึงหยุด
“กองทหารม้าโลหิตสังหารอันเลื่องชื่อที่เข่นฆ่าทุกคนที่อยากฆ่าได้โดยไม่สนหน้าใครแต่... สุดท้ายก็แค่เนี้ย!” ชายฉกรรจ์พูดพลางยิ้มเยาะด้วยน้ำเสียงดูถูก
หัวหน้าหน่วยเกราะแดงได้ยินแบบนั้นก็กัดฟันกรอด ๆ เส้นเลือดที่หน้าผากเต้นตุบ ๆ อย่างแรง
มันลากดาบในมือเดินตรงไปหาชายฉกรรจ์ฝ่ายเชิ่งหลงตรงหน้าด้วยรอยเท้าเปื้อนเลือดทีละก้าว ๆ
“โคตรพ่อโคตรแม่มึงตายไอ้พวกเชิ่งหลงงงงงงงงงงง!”
หัวหน้าหน่วยเกราะแดงแหกปากแล้วเงื้อดาบฟันใส่ไทสัน
แต่ก็ดูเหมือนว่าเสียงแหกปากเมื่อกี๊จะเป็นเรี่ยวแรงสุดท้ายของชีวิตมันแล้วทำให้แรงจะประคองดาบให้ดี ๆ ก็ยังไม่เหลือและร่วงตกลงบนพื้น
เข่าของมันอ่อนลงจนสุดท้ายก็ประคองน้ำหนักตัวไม่อยู่และคุกเข่าลงไปกับพื้นที่เต็มไปด้วยก้อนหินขรุขระอย่างแรง
คอของมันตกลง เลือดหยดลงจากคางตงลงไปเปื้อนพื้นดินตรงหน้าเปลี่ยนให้เป็นหยดแดงเป็นจุด ๆ
“พี่น้องเอ๋ย... กูไปหาพวกมึงแล้ว...”
หัวหน้าหน่วยเกราะแดงพึมพำอยู่คนเดียวก่อนจะเงียบเสียงไปในที่สุด
ไทสันมองดูอีกฝ่ายโดยไม่มีความรู้สึกอะไรใด ๆ ซึ่งหลังจากเงียบไปสองสามวิเขาก็โบกมือให้ลูกน้อง
“เคลียร์สนามรบ ไอ้พวกที่ยังไม่ตายก็ส่งไปอยู่กับพี่น้องพวกมันซะ!”
หลังจากออกคำสั่งแล้วไทสันก็จุดบุหรี่สูบแล้วเงยหน้าขึ้นมองยังท้องฟ้าไกลอันมืดมิด
ซึ่งบนฟ้านั่นได้ยินเสียงของเครื่องยนต์และแสงไฟกระพริบวิบ ๆ ซึ่งเขารู้ได้ทันทีเลยว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธ
มีไอ้นี่มาด้วยไอ้พวกชุดดำก็หมดทางรอดแล้วล่ะ
โดยที่ความเป็นจริงก็เป็นอย่างที่คาดไว้นั่นแหละ นับตั้งแต่ที่เฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธบินมาถึงสนามรบก็ทำเอาไอ้พวกชุดดำตกอยู่ในสภาพจนตรอกโดยสิ้นเชิง
เมื่อเสียงปืนที่ติดตั้งบนตัวเครื่องคำรามออกมาประกอบกับนักรบที่นั่งมาช่วยยิงซ้ำทำให้พวกชุดดำที่แต่เดิมก็เหนือยจนแทบจะขาดใจตายอยู่แล้วเป็นต้องลดจำนวนสมาชิกลงไปอีก
จนตอนนี้เหลือแค่ 5 คนเท่านั้นที่ยังคงวิ่งอยู่โดยสภาพแต่ละคนต่างก็บาดเจ็บกันครบถ้วนหน้า
เกรงว่าในอีกเพียงไม่กี่นาทีก็จะไม่มีใครเหลือรอดแล้ว!
ผู้อาวุโสใหญ่แห่งเมืองทรายโลหิตผู้ยิ่งใหญ่ตอนนี้ได้แต่เจ็บปวดและเสียใจที่เอาตัวเองมาเข้าร่วมกับปฏิบัติการในครั้งนี้
เดิมทีด้วยสถานะของตนเองแล้วไม่จำเป็นต้องมาลงมือเองเลยด้วยซ้ำ
แต่เพราะลูกชู้ของตนถูกเมืองเชิ่งหลงฆ่าตายทำให้มันโกรธจัดจนไม่อาจปล่อยวางได้ ดังนั้นมันจึงได้เสนอตัวมานำทีมปฏิบัติการในครั้งนี้เพื่อจะแก้แค้นเมืองเชิ่งหลงซึ่งเป็นแค้นส่วนตัวไปด้วยเลย
ลูกชู้ของมันก็คือเจ้าเมืองหนุ่มของเมืองจู้กู๋ที่ถูกไทสันจับตัวได้ขณะหลบหนีและโดนฆ่าต่อหน้าประชาชี!
ตอนนั้นหากไม่ใช่เพราะไอ้เจ้าเมืองหนุ่มมันแหกปากเปิดเผยว่าจริง ๆ แล้วตัวเองไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของเจ้าเมืองจู้กู๋แต่เป็นลูกของผู้อาวุโสใหญ่แห่งเมืองทรายโลหิตล่ะก็ ป่านนี้ชาวเมืองจู้กู๋ก็คงจะยังหน้ามืดตามัวไม่ยอมจำนนต่อเมืองเชิ่งหลงแต่โดยดีแน่ ๆ
แต่ผลกลับปรากฏว่าเจ้าเมืองจู้กู๋ผู้ที่สะกดข่มผู้คนอยู่ตลอดเวลานั้นกลับกลายเป็นว่าเมียดันไม่โดนข่มเหมือนคนอื่น ๆ และลอบไปมีชู้ แถมไอ้ชายชู้คนที่ว่าดันเป็นพี่ชายของมันเอง! ไม่พออีเมียคนนั้นยังตั้งท้องลูกของพี่ชายแล้วคลอดออกมาให้มันเลี้ยงดูด้วย!!!
จนสรุปว่าตอนนี้ทั้งน้องชายและลูกชายของผู้อาวุโสใหญ่แห่งเมืองทรายโลหิตล้วนถูกเมืองเชิ่งหลงฆ่าทิ้งทั้งสิ้น ความแค้นใหญ่หลวงขนาดนี้ไม่ชำระก็ไม่ใช่คนแล้ว!
เจ้าตัวก็เอาแต่คิดแผนจะแก้แค้นให้ลูกชายจนหน้ามืดตามัวตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา ถึงขั้นจะส่งกองกำลังไปถล่มเมืองเชิ่งหลงมันตรง ๆ แล้วจัดการละเลงเลือดชาวเมืองทั้งหมดเพื่อเซ่นให้วิญญาณของลูกชายที่อยู่บนสวรรค์
แต่ก็ติดปัญหาอยู่ตรงที่อำนาจของตัวมันเองยังคงมีจำกัดอยู่ ไม่ได้มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของเจ้าเมืองในเรื่องใหญ่ ๆ อย่างการส่งกำลังรบไปถล่มเมืองเชิ่งหลงเลย ทำให้แม้จะอยากละเลงเลือดซักเพียงใดก็ทำไม่ได้
แต่แล้วจู่ ๆ โอกาสที่เป็นดังโชคหล่นทับก็โผล่มา เมื่อเกิดแผนการช่วงชิงการ์ดแอปพลิเคชันขึ้น ผู้อาวุโสใหญ่ที่ในใจวกวนอยู่แต่วิธีที่จะทำให้เมืองเชิ่งหลงต้องล่มสลายมาโดยตลอดก็กระโดดงับโอกาสดังกล่าวเพื่อแก้แค้นส่วนตัวทันที!
แต่ใครมันจะไปคิดล่ะว่ายังไม่ทันได้ทำห่าอะไรเลยก็เกิดเรื่องบัดซบนี่ขึ้นมาก่อนซะแล้ว?
นักรบที่ที่ตนเองเอามาด้วยโดนฆ่าตายไปเรื่อย ๆ ไม่พอตัวเองยังโดนไอ้พวกหมาขี้เรื้อนเชิ่งหลงไล่กวดเป็นหมาจรจัดอีกต่างหาก เรื่องแบบนี้ผู้อาวุโสใหญ่รับไม่ได้
ถึงอย่างนั้นอย่าว่าแต่หยุดวิ่งเลย แม้แต่ชะลอความเร็วมันก็ไม่กล้า เพราะนั่นเท่ากับถวายชีวิตให้กับศัตรูน่ะสิ!
ความโกรธที่คุกรุ่นอยู่ในใจได้มาถึงขีดจำกัดแล้ว และสบถสาบานกับตัวเองในใจว่าจะยอมทำทุกอย่างให้ตัวเองกลับไปถึงเมืองทรายโลหิตให้ได้แล้วร้องขอต่อเจ้าเมืองให้กรีธาทัพไปล้างบางไอ้พวกเชิ่งหลงให้หมดเมือง!
กระสุนอีกพุ่งมา แต่มันก็เบี่ยงหลบได้ทำให้ไม่เกิดบาดแผลอะไร
แต่ลูกน้องที่วิ่งอยู่ข้าง ๆ กันกลับไม่ได้เก่งเหมือนมัน กระสุนปืนใหญ่จากกลางอากาศได้ฉีกร่างพวกที่เหลือออกจากกัน เศษชิ้นเนื้อและละอองหมอกเลือดปลิดปลิวฟุ้งกระจายไปทั่ว
เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัสจากด้านหลังไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความเร็วของผู้อาวุโสใหญ่เลย ตลอด 10 นาทีมานี้มันวิ่งด้วยความเร็วเต็มสปีดต่อเนื่องไม่หยุดหนีการไล่ล่าของรถมอเตอร์ไซค์วิบากนั้นได้แสดงให้เห็นถึงความถึกทนของนักรบเลเวล 5 อย่างชัดเจนมาก ๆ
‘ต้องเร็วกว่านี้อีก กองทหารม้าโลหิตสังหารใกล้จะถึงแล้ว!’
ผู้อาวุโสใหญ่คอยคำนวณเวลาอยู่ในใจและมองไปไกล ๆ ในทิศตรงหน้า
กระนั้นไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนกองทหารม้าโลหิตสังหารก็ยังไม่ปรากฏตัวซักทีทำให้ความไม่สบายใจเริ่มเกิด
‘จากความเร็วของกองทหารม้าโลหิตสังหารมันน่าจะมาถึงกันแล้วนี่หว่า!
จนป่านนี้แล้วยังไม่โผล่มา... หรือว่าจา...’
ทันทีที่ความคิดนี้เกิดขึ้นมันก็เข้ากัดกินจิตใจของผู้อาวุโสใหญ่อย่างรวดเร็วทำให้ความเร็วในการวิ่งตกลงเล็กน้อย
ซึ่งนักรบเชิ่งหลงที่อยู่บนเครื่องบินก็ได้อาศัยจังหวะนี้แหละยิงถล่ม
“อา!”
กระสุนจากปืนที่ติดกับเครื่องได้ยิงถูกไหล่ของมัน ผลคือเกราะเวทมนตร์ใต้ชุดคลุมดำของมันถึงกับแตก แรงกระแทกอันมหาศาลทำให้มันต้องกระอักเลือดออกมาคำใหญ่
แขนที่คลุมไปด้วยเกราะเวทมนตร์รูปแบบเชนเมลล์แม้จะถูกกระสุนเข้าไปเต็ม ๆ แต่ก็ไม่ได้แตกหักเพียงแต่บิดผิดรูปไปเท่านั้น
มีเลือดสด ๆ หยดไหลไปตามซี่ของโซ่
ผู้อาวุโสใหญ่แหกปากร้องอย่างโกรธแค้นแล้วชักกริชที่เป็นอาวุธเวทมนตร์ออกมาจากเอวแล้วปาใส่เฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธที่อยู่บนฟ้า
การลงมือด้วยความโกรธเกลียดเคียดแค้นของนักรบเลเวล 5 นั้นย่อมเลิศทั้งด้านความเร็วและความแรง!
นักบินเห็นดังนั้นก็รีบหักหลบ แต่ว่ากริชก็ยังสามารถเจาะเข้าตัวถังของเครื่องได้สำเร็จ
นักบินที่รอดมาได้ก็กำลังจะยิงสวนแต่กลับพบว่าเป้าหมายได้หยุดวิ่งและยืนนิ่งอยู่กับที่ไปแล้ว
เนื่องจากตรงหน้ามันมีแสงสว่างจ้าสาดส่องเข้ามาใส่จากรถศึกสไตล์แดนร้างที่จอดเรียงแถวหน้ากระดานปิดกั้นเส้นทางการหนีของมัน
ด้วยแสงสว่างจากไฟรถที่สาดส่องทำให้เห็นศพนับไม้ถ้วนนอนเกลื่อนอยู่กับพื้น ซึ่งมองแค่แว้บเดียวก็รู้เลยว่าทั้งหมดคือศพของกองทหารม้าโลหิตสังหารที่มันกำลังรอคอยการมาถึงอยู่นั่นเอง!
เสียงเครื่องยนต์คำรามไล่หลังใกล้เข้ามาอีกรอบ ในที่สุดพวกเฉียนหลงที่บิดมอเตอร์ไซค์ไล่ตามก็ตามมาทัน เฉียนหลงแค่เสียงเย็นชาแล้วกระโดดลงจากรถมาเผชิญหน้า
ถึงตอนนี้แล้วทางบนฟ้าก็ไม่มี ทางพื้นดินก็ไม่เหลือ ไม่มีทางไหนที่จะใช้หนีได้เลย!
ผู้อาวุโสใหญ่แห่งเมืองทรายโลหิตอันเกรียงไกรถูกกลุ่มคนจำนวนมากปิดล้อม ถึงกระนั้นดวงตาภายใต้หน้ากากของมันก็ยังคงแสดงให้เห็นถึงความบ้าคลั่ง
“ในเมื่อหนีไม่ได้พวกมึงก็ตาย ๆ ไปพร้อมกับกูนี่ซะเถอะ----------!”
มันตะคอกเสียงดังลั่นพร้อมกับหยิบเอาลูกบอลโลหะขนาดเท่าแตงโมออกจากกระเป๋ามาลูกหนึ่งแล้วเงื้อมือจะปาลงพื้นเต็มแรง!