ตอนที่ 45 การ์ดสีขาว
การ์ดสีขาวที่ดูธรรมดาอย่างยิ่งแอบซ่อนอยู่ในฝ่ามือของออสบอร์น ภายในใจของพ่อมดเฒ่าท่องคำว่าเปิดใช้งานอยู่เงียบๆ แผ่นกระดาษแข็งแผ่นนั้นก็หายวับไป
ในทันทีพลังเวทย์อันมหาศาลก็ไหล่บ่าออกมาจากร่างของพ่อมดเฒ่า มันไม่มีจุดสิ้นสุดและจุดจบ ราวกับสามารถเติมเต็มออกมาได้เรื่อยๆ
ออสบอร์นไม่เคยรู้สึกยิ่งใหญ่เช่นนี้มาก่อน คล้ายกับว่าเขาสามารถทำได้ทุกสิ่งในโลกนี้
มันคือการ์ดพลังเวทย์ไม่จำกัดหนึ่งชั่วโมง!
มืออีกข้างที่ถือถุงผ้าใส่ก้อนหินวิเศษเอาไว้ชูขึ้นเหนือศรีษะ
ออสบอร์นเคยสงสัยมานานแล้วว่าหินสีขาวที่ติดตามเขามาอย่างยาวนานก้อนนี้อยู่ในระดับใดกันแน่ แต่เขาก็ไม่ได้รับคำตอบแต่อย่างใด ดูเหมือนว่ามันจะมีความเป็นมาลึกลับเกินกว่าเขาจะคาดคิด
แต่วันนี้เมื่อที่มีพลังเวทย์ให้ทดลองไม่สิ้นสุด เขาก็พร้อมที่จะพิสูจน์ถึงระดับของมันอีกครั้ง
ถ้าวัตถุมีระดับสูงมากเท่าไหร่ มันจะสามารถรองรับพลังเวทย์ได้มากเท่านั้น วัตถุเวทย์มนระดับตำนานควรรองรับพลังเวทย์เต็มที่ของจอมเวทย์ระดับตำนานขั้นบนสุดได้สามถึงสี่เท่า
ยิ่งผู้ใช้มีพลังเวทย์ทรงพลังเท่าไหร่ วัตถุเวทมนตร์ก็ยิ่งแสดงพลังออกมาได้มากเท่านั้น
และเมื่อเทียบกับพลังเวทย์เป็นหน่วยของบลังโกไซราแกรนด์ที่อยู่ระหว่างสามหมื่นถึงสี่หมื่นหน่วย ซึ่งเป็นมาตรฐานของระดับตำนานขั้นแรกแล้วละก็
หากหินก้อนนี้เป็นระดับตำนานจริงอย่างที่เขาคิดเอาไว้ พลังเวทย์ที่เขาสามารถใส่ลงไปได้ไม่ควรต่ำกว่าห้าแสนถึงหนึ่งล้านหน่วย
พ่อมดเฒ่าคิดคำนวณในใจเรียบร้อยก็เริ่มถ่ายเทพลังเวทย์ลงในก้อนหินอย่างจริงจัง
น้ำศักดิ์สิทธิ์ปริมาณมหาศาลขนาดนี้ยังไม่สามารถทำอะไรโลหิตพระเจ้าหยดนี้ได้ เขาได้แต่หวังพึ่งสมบัติชิ้นนี้ได้เท่านั้น
ฉับพรันแสงสีขาวก็กระจายออกมาจากก้อนหินในมือออสบอร์น ถุงผ้าเลื่อนหล่นลงมา เผยให้เห็นหินก้อนสีขาวที่เริ่มแสดงถึงความโปร่งใสออกมาทีละน้อย
พลังงานแห่งชีวิตมากมายถาโถมออกมาราวกับควันเผาไหม้ของภูเขาไฟลูกยักษ์ มันเป็นพลังงานที่บริสุทธิ์ไร้สีไร้กลิ่นแต่กลับเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา ราวกลับว่าสามารถปลุกคนตายให้ฟื้นได้
ไม่มีของวิเศษใดเสมอเหมือน ไม่มีวัตถุใดจะเปรียบเทียบ
นี่คือความหัศจรรย์แห่งเดียวในมหาทวีป หรืออาจเป็นทั้งเอกภพ
สายน้ำที่เริ่มหม่นหมองลงจากการต่อสู้กับโลหิตพระเจ้ าเริ่มกลับมาแจ่มใสและส่องแสงแสบตาอีกครั้ง
เจตจำนงลึกลับในหยดโลหิตถึงกับร้อนรนปานโดนไฟเผา มันกำลังหวาดเกรงและตื่นกลัว
พลังเวทย์มหาศาลระลอกแล้วระลอกเล่าไหลเข้าไปในหินสีขาวอย่างบ้าคลั่ง ในใจของพ่อมดนึกหวั่นไหวอยู่ลึกๆ
นี่ควรเกินระดับตำนานไปแล้ว!
ตามที่เขาคำนวณเอาไว้ จนถึงตอนนี้พลังเวทย์ที่ใส่ลงไปเกินล้านหน่วยไปเรียบร้อย หินก้อนนี้ไม่ธรรมดา
กอสมูว์ตอนนี้ไม่ได้อยู่ในสภาพของควันดำอีก มันหดตัวลงเหลือเพียงพลังงานสีดำเท่ากำปั้น ไม่อาจแสดงความยโสโอหังใดๆได้อีก
แต่ที่ออสบอร์นกังวลอย่างแท้จริงคือโลหิตพระเจ้าหยดนั้น มันยังไม่ยอมแพ้
แสงสว่างยังคงส่องออกมาอย่างต่อเนื่อง พยายามโอบล้อมกอสมูว์และโลหิตนั่นเอาไว้ทุกทิศทุกทาง เสียงกรีดร้องดังออกมาอย่างไม่หยุดนิ่ง บางที่หากเป็นกายเนื้อของสิ่งมีชีวิตมันคงเสียงแหบแห้งไปหมดแล้ว
บนฟ้าเบื้องบน ท่านผู้หญิงกรีมัวร์บังคับรถม้าออกไปยังทิศทางนอกป้อมร้าง หล่อนเห็นการลงมือของออสบอร์นทั้งหมดแล้ว ในใจเต็มไปด้วยความหวาดผวา
พลังเวทย์มหาศาลที่พ่อมดชราเผยออกมานั้น เป็นระดับตำนานไม่ผิดแน่ สายตาเธอแหลมคมนักที่ได้ผูกมิตรกับบุคคลนี้เอาไว้
ในใจที่กรีดร้องออกมาก่อนหน้าเพราะเห็นรถม้าเกือบพังทลายก็สำรวมลงหลายส่วน โชคดีว่าก่อนหน้านี้เธอไม่ได้พลั้งปากตำหนิเขาออกไป ไม่เช่นนั้นอาจสร้างปัญหาให้กับความสัมพันธ์ของพวกเขาสองคน
เกือบไปแล้ว เกือบทำให้ระดับตำนานโกรธแล้ว
พ่อมดเฒ่านี่ก็เจ้าเล่ห์นักป แกล้งทำเป็นหมูหลอกกินเสือ เขาไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องของเบอส์มัวส์ด้วยซ้ำ แล้วทำไมตาแก่นี่ถึงยอมรับข้อเสนอของเธอ
เขาอาจเป็นคนดีที่ทนเห็นความทุกข์ของหญิงชรางดงามอย่างฉันไม่ได้ เลยลงมือช่วยเหลือสินะ ช่างเป็นผู้มีจิตใจงดงามเสียจริง
ในระหว่างที่กรีมัวร์กำลังเพ้อเจ้อไปตามประสาวัยทอง ออสบอร์นที่อยู่ด้านล่างก็สังเกตเห็นว่าสถานการณ์เริ่มเปลี่ยนแปลงไป
เสียงกรีดร้องหยุดลงพร้อมกัลสติของกอสมูว์ที่ดับวูบ จิตวิญญาณของเขาเข้าสู่สภาวะผนึกตนเองโดยสมบูรณ์ ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานอีกเท่าไหร่เขาถึงจะฟื้นจิตสำนึกขึ้นได้อีกครั้ง
เส้นสายสีแดงที่แตกต่างไปจากดวงวิญญาณสีดำของกอสมูว์ อาศัยจังหวะนี้พุ่งหนีออกไปทางทิศใต้ของป้อมปราการ มันรวบรวมพลังงานที่เหลืออยู่ฝ่าทะลุกำแพงแสงของหินสีขาวออกไปได้
ช่างทรงอำนาจนัก!
ออสบอร์นคิดในใจ ขนาดเขาถ่ายเทพลังเวทย์ลงไปหลายล้านหน่วย เพื่อเปิดใช้แสงศักดิ์์สิทธิ์ภายในก้อนหินก้อนนี้ออกมาซ้อนทับกันหลายชั้นก็ยังไม่อาจกำราบโลหิตพระเจ้าหยดนี้ได้
ตัวตนของผู้เป็นเจ้าของสิ่งนี้อยู่ในระดับใดกันแน่?
พ่อมดเฒ่าไม่ดันทุรังกำจัดมันอีกต่อไป เขาจำเป็นต้องปล่อยให้มันหนี
แต่บัตรพลังเวทย์ไม่จำกัดยังคงมีเวลาเหลืออยู่ ออสบอร์นใช้โอกาสนี้แปลงพลังแห่งแสงและพลังแห่งชีวิตเป็นกล่องสีขาวใบใหญ่และเก็บเอาดวงวิญญาณของกอสมูว์เอาไว้ภายใน
แต่เมื่อเขาจะเดินเข้าไปเก็บกล่องแสงใบนั้น พลังงานบางอย่างก็มาห้ามเขาเอาไว้ เขาไม่สามารถหยิบกล่องใบนั้นหรือเคลื่อนย้ายดวงวิญญาณของกอสมูว์ออกมาได้
นี่อาจเป็นผลจากพลังของหอคอย การเป็นทาสชั่วนิรันดร์
ไม่มีผู้ใดจะเอาสิ่งของหรือสิ่งมีชีวิตที่มีพันธะของหอคอยไปได้ ก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าเจ้าของโลหิตหยดนั้นทำอย่างไร จึงสามารถฝังโลหิตควบคุมวิญญาณของกอสมูว์หยดลงไป
อาจเป็นพลังของเทพเจ้า?
และอาจเป็นเทพเจ้าที่ทรงพลังด้วย นี่เขาไปสร้างปัญหากับเทพเจ้ามาแล้วใช่ไหม? ชักจะวุ่นวายแล้วสิ
ออสบอร์นไม่เอากล่องแสงไปอีก แต่อัญเชิญโกเลมดินนับร้อยตัวออกมาแทน เขาสั่งให้พวกมันเอาก้อนหินขนาดต่างๆมาทับกล่องแสงเอาไว้ จนกลายเป็นภูเขาสูง
ในอนาคตเขาจะหาวิธีการจัดการกับกอสมูว์แน่นอน
แต่ตอนนี้เขาต้องทำบางอย่างก่อน ตอนแรกที่พ่อมดเฒ่าเห็นอักขระจารึกและวงแหวนเวทมนตร์ที่สลักลงบนสิ่งปลูกสร้างของป้อมปราการเขาก็รู้สึกสนใจมาก สิ่งนี้มีค่าอย่างยิ่ง
และเขายังสัมผัสได้ถึงรูปแบบเวทมนตร์ที่ไร้เจ้าของโดยรอบ เพราะพลังงานน่าอึดอัดที่คอยกำราบเขาเอาไว้ ได้หายไปจนหมดสิ้นแล้ว หมายความว่าป้อมร้างนี้ไม่มีเจ้าของแล้วใช่ไหม
ในขณะที่ออสบอร์นกำลังถูกความโลภบังตาอยู่นั้น เสียงที่เขารอคอยก็ดังขั้น
[ติ้ง!..