1219 - ไข่ของเฟิ่งหวง
1219 - ไข่ของเฟิ่งหวง
เย่ฟ่านต้องการพบหลินเจี๋ยแต่เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนางในตอนนี้และไม่สามารถลืมเหตุการณ์ในอดีตบางอย่างได้
พวกเขาเหล่าเพื่อนร่วมชั้นมาที่โลกใบนี้ด้วยกันหลายคน แต่เมื่อเวลาผ่านไปคนจำนวนมากกลับหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอยไม่มีข่าวคราวของพวกเขาอีก
“ตอนนั้นมีพวกเรากี่คนที่เข้ามาในโลกนี้ น่าจะประมาณสิบคนได้?” ผังป๋อกล่าวกับตัวเอง
“ใช่แล้วบนดาวอังคารมีคนเสียชีวิตไปไม่น้อย และมีเพียงสิบหกคนที่รอดมาถึงโลกใบนี้” เย่ฟ่านกล่าว
“หลิวอวิ๋นจื่อ หลี่ฉางชิงและหวังเอี๋ยนล้มเหลวที่จะทำร้ายพวกเรา พวกเขาตายในถ้ำเสือนอกดินแดนต้องห้ามโบราณตั้งแต่ที่พวกเราเหยียบเข้ามาในโลกใบนี้” ผังป๋อพยักหน้า
จากนั้นพวกเขาก็ถูกนำตัวไปฝึกฝนในถ้ำสวรรค์ทั้งห้าแห่ง สามคนเสียชีวิตภายในเวลาไม่กี่ปี คนหนึ่งเสียชีวิตในระหว่างบ่มเพาะ คนหนึ่งถูกฆ่าตายอย่างลึกลับ และอีกคนถูกสัตว์อสูรสังหารขณะเก็บยา
วันนี้มีเพียงสิบคนที่รอดชีวิตอย่างแท้จริง หลี่เสี่ยวม่านกลายเป็นศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเย่ฟ่าน จางเหวินชางอยู่ในสำนักไท่ซวน หลิวอี่อี้้อยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาปหยก
เคฟกลายเป็นผู้พิทักษ์ธรรมแห่งนิกายพุทธของทะเลสาบตะวันตก ส่วนอีกหลายคนไม่เคยมีใครได้ยินเรื่องราวของพวกเขาอีก ทั้งโจวอี้ หวังจื่อเหวิน หลินเจี๋ย และจางจื่อหลิง ไม่รู้ว่าชะตากรรมของพวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง
ตงหวงคือดินแดนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาห้าภูมิภาคของโลก มันเต็มไปด้วยสถานที่อันรกร้างเพียงเช่นเดียวกับชื่อของมัน(ดินแดนรกค้างตะวันออก)
ภูเขาและแม่น้ำอันงดงาม และป่าดงดิบอันหนาแน่น ในรัศมีหลายแสนลี้ไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่แม้แต่คนเดียว และดินแดนรกร้างจำนวนมากยังไม่เคยมีใครเข้าไปสำรวจ
เย่ฟ่านและพรรคพวกของเขาเดินลึกเข้าไปในภูเขาที่แห้งแล้ง และพวกเขาไม่รู้ว่าจะต้องเดินทางอีกไกลแค่ไหน พวกเขากำลังตามหาหุบเขาอมตะซึ่งเป็นที่ตั้งของตำหนักเซียนตามที่ตระกูลจี้ชี้นำ
มีสมุนไพรหายากมากมายที่เติบโตในดินแดนแห่งนี้ซึ่งมันเป็นสถานที่ที่ไม่มีมนุษย์เข้ามาสร้างความวุ่นวายนานนับหมื่นปีแล้ว หากเจ้าโชคดีเจ้าอาจจะขุดค้นยาหายากและมีค่าที่มีอายุมากได้
ข้างหน้า เมฆรูปเห็ดก่อตัวขึ้นบนท้องฟ้า ทันใดนั้นสายฟ้าสีดำสนิทได้ฟาดลงน้ำ มีจระเข้ตัวหนึ่งตกเป็นเป้าหมายของสายฟ้านั้น
“อะไรนะ นั่นคือหายนะของการตัดเต๋า!”
จักรพรรดิดำประหลาดใจอย่างมาก มีจระเข้ที่น่าทึ่งอยู่ข้างหน้าพวกเขา มันมีสีดำสนิท มันตัดโซ่ตรวนที่ผูกมัดอดีตของตนเองออก และพยายามจะทะลวงเข้าสู่อาณาจักรเซียนเทียมขั้นสาม
ไม่มีใครคิดว่าพวกเขาจะได้เห็นสิ่งมีชีวิตเช่นนี้ในทันทีที่ก้าวเข้ามาในดินแดนอันรกร้าง กล่าวกันตามตรงหากไม่ใช่สัตว์อสูรลากรถของสิ่งมีชีวิตระดับปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ พวกเขาก็แทบไม่เคยเห็นสัตว์อสูรในระดับเซียนเทียมขั้นสามเลย
ไม่มีใครเข้าไปใกล้ แต่เฝ้าดูจากระยะไกล จระเข้ศักดิ์สิทธิ์สีดำคำรามขึ้นไปบนฟ้า และต่อสู้กับสายฟ้าที่โหมกระหน่ำลงมาอย่างบ้าคลั่ง ภูเขาโดยรอบพังทลายลง หนองน้ำในบริเวณใกล้เคียงก็ระเหยกลายเป็นไอทั้งหมด
หนึ่งชั่วยามต่อมา ภัยพิบัติเริ่มน่ากลัวมากขึ้นเรื่อยๆ และในที่สุดจระเข้ก็กรีดร้องอย่างน่าสังเวช ก่อนที่ร่างกายเขามันจะถูกทำลายไม่เหลือชิ้นดี
“บททดสอบกำลังจบลง น่าเสียดายที่มันยังคงล้มเหลวในช่วงสุดท้าย” วานรศักดิ์สิทธิ์ถอนหายใจ
จระเข้สีดำตัวใหญ่ถูกทำลายอย่างเด็ดขาด วิญญาณศักดิ์สิทธิ์โผล่ออกมาจากหน้าผากของมัน แต่ในเวลาไม่นานวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ตนนั้นยังคงไม่อาจหลีกเลี่ยงหายนะกลายเป็นฝุ่นผงได้
ในดินแดนรกร้าง สิ่งเหล่านี้ไม่น่าแปลกใจ สัตว์โบราณมักล้มเหลวในการข้ามบททดสอบแห่งสวรรค์ โดยเฉพาะในสถานที่ลับที่ไม่มีใครย่างเท้ามานับหมื่นปี
ความจริงแล้ว มนุษย์ก็เช่นเดียวกัน ผู้บ่มเพาะทุกคนมักจะประสบความล้มเหลวในขณะที่พยายามทะลวงเข้าสู่อาณาจักรที่ยิ่งใหญ่กว่า ความตายของพวกเขายังน่าสังเวชยิ่งกว่าจระเข้ศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้ด้วยซ้ำ
พวกเขาเดินไปตามถนนสายโบราณสู่ป่าภูเขาดึกดำบรรพ์ ผ่านสันเขา และหุบเขาใหญ่น้อยมากมาย ทันใดนั้นได้มีลูกไฟสีทองพุ่งผ่านใบหน้าของพวกเขาไปอย่างรวดเร็ว
“นั่นคืออะไร?”
สีหน้าของเย่ฟ่านแข็งทื่อ รู้สึกว่าลมหนาวพัดมากระทบหลังของเขาทำให้เกิดความรู้สึกไม่ดี
“เหมือนมังกรตัวน้อย” หลี่เทียนกล่าวเขาเป็นคนแรกที่ไล่ตามไป แต่กลับไม่พบอะไรเลย
“มันควรจะเป็นนกสายฟ้า พวกมันมีความเร็วที่สุดในโลก ถ้าเป็นสัตว์อสูรชนิดอื่นเย่จื่อน้อยจะต้องตามทันอย่างแน่นอน” หลี่เหอสุ่ยกล่าว
“ข้าก็หวังเช่นนั้น”
เย่ฟ่านไม่ได้กล่าวอะไรอีก และพวกเขาก็เดินหน้าต่อไป
“แคร็ก!”
ในระยะไกล มีฉากที่น่ากลัวปรากฏขึ้นอีกครั้ง มีสายฟ้าสีทองสาดส่องออกไปทุกทิศทาง มันเป็นเหมือนทะเลสายฟ้าที่มีรัศมีความยาวหลายร้อยลี้และทำให้เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นอยู่ตลอดเวลา
ทุกคนต่างรีบวิ่งไปข้างหน้าข้ามภูเขาใหญ่หลายสิบลูกจนกระทั่งมองเห็นสถานที่เกิดเหตุ
ที่นั่นเป็นภูเขาอันรกร้างไม่มีหญ้าไม่มีหิน มีเพียงกองดินขนาดใหญ่ที่กองสุมอยู่ที่นี่หลายล้านปีแล้ว
บนยอดเขามีรังนกขนาดใหญ่ที่สามารถมองเห็นได้ได้ชัดเจน ในรังนกนั้นมีสายฟ้าถูกยิงออกมาอยู่ตลอดเวลา ในบางครั้งมันให้ความรู้สึกราวกับเป็นน้ำตกสดใส
“รังนกอะไร หากไม่ใช่วิหคศักดิ์สิทธิ์ก็คงเป็นอาวุธที่ล้ำค่าอย่างยิ่ง”
จักรพรรดิดำก็อดที่จะกรีดร้องออกมาไม่ได้ ถ้าผังป๋อไม่รีบจับตัวมันไว้ จักรพรรดิดำคงวิ่งเข้าหารังนกนั้นแล้ว
“มีอะไรผิดปกติ!”
มีสิ่งมีชีวิตอยู่ในรังนก ในทันทีที่มันสัมผัสได้ถึงสิ่งมีชีวิตลุกล้ำเข้ามา เจ้าของรังก็พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับกรีดร้องด้วยความโกรธเกรี้ยว
สิ่งมีชีวิตที่ดูเหมือนนกเฟิ่งหวงกำลังกลายร่างเป็นเต๋า มันโปรดปล่อยสายฟ้าอันน่าสะพรึงกลัวให้กวาดออกไปรอบทิศทาง สาเหตุกระเพาะมันกำลังดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง
รูปร่างของมันไม่ใหญ่โตมากนักเพียงมีขนาดประมาณสิบฉื่อเท่านั้น ขนหางของมันเปล่งประกายแวววาวในขณะที่ร่างกายโอบล้อมไปด้วยเพลิงสีทอง
“เป็นไปได้ไหมว่ามันเป็นเซียนอสูรที่มีเลือดของเฟิ่งหวงจริงๆ? น่าเสียดายที่มันกำลังจะกลับคืนสู่เต๋าผู้ยิ่งใหญ่!” หลายคนตกตะลึง
“นี่คือนกเฟิ่งหวงสายฟ้าที่มีเลือดเฟิ่งหวงเข้มข้นอย่างยิ่ง” จักรพรรดิดำกล่าวหลังจากเฝ้าดูมาเป็นเวลานาน
ในอดีตยอดฝีมือระดับเซียนผู้ยิ่งใหญ่ต่างค้นหาสัตว์อสูรประเภทนี้มาเป็นพาหนะเพราะมันคือสัตว์อสูรที่รวดเร็วมากที่สุดของโลก น่าเสียดายที่เฟิ่งหวงสายฟ้าเป็นหนึ่งในสัตว์อสูรที่ทำให้เชื่องได้ยากที่สุด
สาเหตุก็เพราะพวกมันมีสายเลือดของเฟิ่งหวงซึ่งเป็นหนึ่งในอสูรอมตะ พวกมันต่างหยิ่งผยองในสายเลือดของตัวเองเพราะบรรพชนสูงสุดของพวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตระดับผู้อมตะที่แท้จริง
“ข้าจะต้องเอานกหายากตัวนี้มาเป็นสัตว์เลี้ยงให้ได้” จักรพรรดิดำอุทานแล้ววิ่งไปข้างหน้าด้วยความกระตือรือร้น
ไม่มีผู้อมตะในโลกนี้ มังกรที่แท้จริง เฟิ่งหวงอมตะ ฯลฯ ทุกสิ่งเป็นเพียงการดำรงอยู่ในตำนาน ดังนั้นเฟิ่งหวงสายฟ้าตัวนี้จะต้องเป็นสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกอย่างไม่ต้องสงสัย
“เราต้องช่วยเหลือมัน นกตัวนี้กำลังจะกลับคืนสู่เต๋า เราต้องทำให้มันประสบความสำเร็จในการเป็นเซียนให้ได้” ผังป๋อก็ถูกล่อลวงเช่นกัน
“เฟิ่งหวงสายฟ้าตัวนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เราไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว”
วานรศักดิ์สิทธิ์เป็นราชาผู้ยิ่งใหญ่ดังนั้นเขาจึงสามารถมองเห็นสถานการณ์อันเลวร้ายของนกที่อยู่ตรงหน้าได้เป็นอย่างดี
“นี่คือราชาที่กำลังจะกลายเป็นเซียนแล้วแต่มันกลับได้รับบาดเจ็บและอาจกลับคืนสู่เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ได้ตลอดเวลา สถานที่แห่งนี้ดูเหมือนจะอันตรายมากกว่าที่เราคิด” เย่ฟ่านเตือน
จากนั้นเขาก็คิดถึงแสงสีทองที่เขาเห็นก่อนหน้านี้ มันจะเป็นนกสายฟ้าจริงหรือ? ดูเหมือนว่าบนเขาลูกนี้จะมีสัตว์อสูรที่ทรงพลังหลายตัวอาศัยอยู่
“บูม!”
เสียงแผ่วเบาดังมาจากรังนก และการเปลี่ยนแปลงของนกเฟิ่งหวงสายฟ้าก็สิ้นสุดลง ในขณะนั้นสายฝนได้โปรยปรายลงมาจากท้องฟ้าอย่างน่าเศร้า
“มันน่าสงสารมาก ย้อนกลับไปตอนนั้นข้าเลี้ยงนกสายฟ้าหงอนไก่ตัวหนึ่งขึ้นมา และมันถูกจี้ปี้เยว่ฆ่าทิ้ง แม้ว่ามันไม่มีสายเลือดที่แข็งแกร่งเท่านกตัวนี้ แต่มันยังคงมีสติปัญญาสูงส่งไม่เป็นรองมนุษย์ มันส่งเสียงครวญครางและจิกนิ้วมือของข้าก่อนตาย” จี้จื่อเยว่กล่าวเบาๆ ดูเศร้าโศกอย่างยิ่ง
“บูม”
มีแสงเจิดจ้าระเบิดออกมา จากนั้นเฟิ่งสายฟ้าก็กลับคืนสู่เต๋าโดยสมบูรณ์ แม้กระทั่งกระดูกและเลือดเนื้อของมันก็ยังถูกบดขยี้จนแหลกละเอียดไม่มีสิ่งใดหลงเหลืออยู่
ภายใต้การกรีดร้องครั้งสุดท้ายในที่สุดนกศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้ก็หายสาบสูญไปจากโลก
“ยังมีไข่สีทองเหลืออยู่ในรัง!” หลายคนอุทาน
………