บทที่ 207-2 แอบมอง (แถมฟรี)
บทที่ 207-2 แอบมอง (แถมฟรี)
.
ซูฉางซิงคิดไม่ถึงว่านักล่าเหล่านี้จะกำหนดเป้าหมายมายังพวกเขาก่อนค่ำและเริ่มดำเนินการแล้ว
เขารีบพุ่งไปหาชายคนนั้นโดยไม่ต้องคิดอะไรมาก และทันทีที่เขาเคลื่อนไหว ชายคนนั้นก็เริ่มเคลื่อนไหวและรีบหลบไปทางข้างหลังทันที
เมื่อมาถึงตำแหน่งนั้น ซูฉางซิงพบว่าชายคนนั้นได้หายไปแล้ว ดูเหมือนจะหลบเข้าไปในตรอกข้างๆ:
“เร็วมาก น่าจะเป็นคนพิเศษประเภทความเร็ว นายสัมผัสตำแหน่งของเขาได้ไหม?”
หัวกล่าวว่า “เขาอยู่นอกขอบเขตการรับรู้ของฉัน แต่ถ้านายเข้าไปในตรอก เมื่อเข้าใกล้ฉันจะรู้สึกได้”
ซูฉางซิงพยักหน้าและวิ่งเข้าไปในตรอก ความจริงเส้นทางนี้ไม่ควรนับว่าเป็นตรอก แต่ควรเรียกมันว่า ถนนคนเดิน ที่มีอาคารต่างๆ กระจายตัวกันอยู่ค่อนข้างหนาแน่น ซึ่งง่ายต่อการซ่อนคน
นักล่าดูเหมือนจะมีความสามารถบางอย่างที่จะไม่ดึงดูดซอมบี้ และไม่ได้ทิ้งร่องรอยที่ชัดเจนใดๆในระหว่างทาง ซูฉางซิงทำได้เพียงพึ่งพาประสาทสัมผัสของตัวเองในการติดตาม
ผ่านไปกว่าสิบนาที เขาก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของนักล่าคนนั้นเลย นักล่าหายไปแล้ว เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันหลังและเดินกลับไป
“โชคไม่ดี ฉันคงมาผิดทาง แล้วซอมบี้พวกนี้ก็ไม่ตอบสนองเลย…”
ซูฉางซิงรู้สึกรำคาญเล็กน้อย เขาเห็นหน้าชายคนนั้นอย่างชัดเจน แต่กลับปล่อยให้หลบหนีไปได้ เหมือนกับเห็นหนูเดินผ่านกลางบ้าน แต่กลับจับมันไม่ได้
ระหว่างทางกลับ ในขณะผ่านร้านก๋วยเตี๋ยว จู่ๆ หัวก็พูดขึ้นว่า “เขาอยู่ที่ชั้นบนของอาคารข้างๆ ดูเหมือนกำลังแอบมองนายอยู่ที่ชั้นสาม”
ช่างกล้ามาก
ดวงตาของซูฉางซิงเย็นเยียบ แต่เขาไม่ได้ไล่ตามขึ้นไปชั้นบนทันที และเดินไปในทิศทางอื่นราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ภายในห้องสลัว ชายสวมหมวกและพันผ้าพันคอนั่งหมอบอยู่ข้างหน้าต่าง มองดูแผ่นหลังของซูฉางซิงด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า
“ไม่มีอะไรมากไปกว่า ‘สัตว์หลับ’”
เขารู้คร่าวๆ ว่าซูฉางซิงคือใคร นี่คือคนที่สามารถหนีจากการถูกล้อมปราบปราม และยังเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งของพวกเขา
เขาเตรียมจะรายงานข่าวนี้ให้ผู้นำทราบในภายหลัง และเขาอาจได้รับผลประโยชน์จำนวนมาก
“อีกอย่าง สถานที่ชุมนุมแห่งนี้ไม่เล็กจริงๆ คงมีคนเป็นร้อย …”
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวทางด้านหลัง เพียงหันไปมองก็เห็นชายคนหนึ่งถือมีดเหล็กปรากฏอยู่ด้านหลังเหมือนภูติผี
ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากซูฉางซิง
“ไง? กลัวเหรอ? ดูเหมือนฉันจะจำได้ว่าก่อนหน้านี้เคยฆ่าพวกแกไปหลายคน”
ซูฉางซิงแสดงรอยยิ้มอันอบอุ่นและพูดอย่างใจเย็น ไม่มีการรีบเร่งใดๆ ราวกับต้องการพูดกันดีๆ
นักล่าคนนั้นพิงกำแพง ค่อยๆยืนขึ้นช้าๆ ด้วยร่างกายแข็งทื่อ รูม่านตาของเขาขยายออกภายใต้การเปลี่ยนแปลงของแสงเงา และภายใต้แรงกดดันทางจิตใจอย่างมาก
ความแข็งแกร่งของซูฉางซิงแพร่กระจายในหมู่พวกเขา คนผู้นี้อย่างน้อยก็มีความสามารถสูงและมีความแข็งแกร่งระดับเดียวกับผู้นำของพวกเขา นี่ไม่ใช่คนที่เขาจะสามารถรับมือได้อย่างแน่นอน
ที่ร้ายแรงที่สุดก็คือ ความแข็งแกร่งของพวกเขาจะลดลงอย่างมากในตอนกลางวัน ตรงกันข้ามกับตอนกลางคืนที่ความแข็งแกร่งจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
นักล่ากลั้นหายใจ ตั้งสมาธิ และพูดขึ้นช้าๆ “อย่าเพิ่งลงมือ เรายังมีที่ว่างสำหรับการเจรจา หากคุณมีเงื่อนไขอะไรก็โปรดบอกมา”
สมเหตุสมผลมาก
ซูฉางซิงมองไปยังนักล่าที่อยู่ตรงหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม “ฉันแค่อยากรู้จักพวกแก พวกแกควรถือว่าเป็นองค์กร องค์กรของพวกแกมีกี่คน?”
“พวกเรามีคนค่อนข้างมาก และมีไม่น้อยที่…”
ทันใดนั้นนักล่าก็หันหลังกลับและใช้กำลังขา กระโดดไปที่ขอบหน้าต่างอย่างฉับพลัน เขาพยายามหลบหนีโดยการกระโดดลงจากอาคาร
ซูฉางซิงพุ่งออกนอกหน้าต่างติดตามไปจับร่างของนักล่าด้วยมือข้างเดียว และพูดว่า “อยากตายมากสินะ!” แล้วใช้มีดเหล็กแทงทะลุหัวใจนักล่าทันที
นักล่ากัดฟันแน่น เขาต้องการต่อสู้ แต่ความแข็งแกร่งของเขายังด้อยกว่าซูฉางซิงมาก
“ปัง~”
มีดเหล็กแทงทะลุหน้าอกของนักล่าปักตรึงลงกับพื้น ภายใต้แรงกระแทกอย่างรุนแรง หน้าอกของนักล่าก็แหลกเละ
ซูฉางซิงฟันซอมบี้ที่อยู่โดยรอบด้วยมีดเหล็กสองสามครั้ง เขามองดูศพบนพื้นตรงหน้าแล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็ลากศพไปซ่อนไว้ในห้องที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้นักล่าคนอื่นค้นพบได้โดยง่าย
“ตอนกลางวันนักล่าพวกนี้อ่อนแอมาก ค่อนข้างคล้ายกับซอมบี้ ดูเหมือนอิทธิพลของมือยักษ์จะถูกจารึกไว้ใน DNA ของพวกมัน”
ซูฉางซิงวิเคราะห์ แล้วเก็บคริสตัลพิเศษของนักล่าคนนี้ใส่กระเป๋าเป้สะพายหลัง
เสียงของหัวดังขึ้น “เหอ เหอ พวกมันถือได้ว่าเป็นคนพิเศษของระบบกำหนดตำแหน่ง ซึ่งมีข้อจำกัดอย่างมากในการก้าวหน้าและทิศทางการเลื่อนตำแหน่ง”
“พวกมันอยู่ในระยะของมือยักษ์งั้นเหรอ?”
“อืม ใกล้เคียง”
ซูฉางซิงพบว่าเป็นเรื่องง่ายที่เขาจะเปิดเผยตัวเอง เขาเป็นคนพิเศษ และคนพิเศษก็สามารถระบุตัวตนของผู้ที่เป็นคนพิเศษเหมือนกันได้ ดังนั้นพวกมันจึงสามารถระบุตัวตนของเขาได้ทันทีที่เห็น
แน่นอนว่าเป็นไปได้ที่พวกมันจะระบุตัวตนของจูเหวินหวู่ได้ทันทีเช่นกัน
หลังจากพระจันทร์สีเลือดครั้งนี้ ก็น่าจะมีคนพิเศษคนอื่นปรากฏตัวขึ้นเช่นกัน แม้จะไม่มาก แต่ก็คงไม่ใช่คนเดียวอย่างแน่นอน
ซูฉางซิงเดินออกไปและมองไปรอบๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรผิดปกติ จากนั้นก็จากไป
เมื่อกลับมายังทางเข้าออกสถานที่ชุมนุมก็พบว่าจูซินเสวี่ยยังคงยืนรออยู่ตรงนั้น โดยมีหยางซูและคนอื่นๆยืนอยู่ข้างๆ และมองมาทางเขา
เมื่อเห็นซูฉางซิงกลับมา จูซินเสวี่ยก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในเวลาเดียวกันก็สังเกตเห็นรอยเลือดที่ไม่เคยมีมาก่อนบนหน้าอกของซูฉางซิง เธอจึงถามว่า:
“อาจารย์ เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น คุณพบคนรู้จักเหรอ?”
ซูฉางซิงพูดราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ก็ประมาณนั้น แต่เขาจากไปแล้ว เขาไม่อยากเข้าร่วมกับเรา”
จากนั้น ซูฉางซิงก็มองหยางซู และสั่งว่า “ตรวจสอบผู้มาเข้าร่วมทุกคนให้เข้มงวดมากขึ้น ป้องกันไม่ให้นักล่าเข้ามาได้”
หยางซูเข้าใจทันทีว่าซูฉางซิงหมายถึงอะไร หัวใจของเขาดิ่งลง และเดาได้ว่า คนที่ซูฉางซิงตามไปคือนักล่า ไม่น่าแปลกใจเลยที่ชายคนนั้นเอาแต่มองพวกเขามาจากระยะไกล เขาพยักหน้าและพูดว่า:
“ผมจะตรวจสอบอย่างระมัดระวัง ไม่ให้ผู้ต้องสงสัยเข้ามาในสถานที่ชุมนุม”
ความจริง เขาก็ตรวจสอบอย่างระมัดระวังอย่างมากอยู่แล้ว ซึ่งส่งผลให้มีผู้คนจำนวนมากถูกขวางอยู่ด้านนอกทางเข้าออก
.
********
ผู้แปล - ขอโทษที่ช้า ป่วยจ้า