บทที่ 117 สิ้นสุดการสอบเอาชีวิตรอดถิ่นทุรกันดาร
สองทักษะระดับต่ำ หนึ่งทักษะระดับกลาง สองทักษะระดับสูง และหนึ่งทักษะระดับสุดยอด…
อสูรศิลาแผงคอมีทักษะเผ่าพันธุ์จำนวนมาก และสามทักษะที่มีระดับสูงที่สุดก็ล้วนเป็นทักษะโจมตีอันทรงพลัง
นี่เป็นตัวอย่างของสัตว์อสูรที่ทรงพลัง
มันดูทรงพลัง และมันก็ทรงพลังอย่างแท้จริงเมื่อต่อสู้ ทว่ามันไม่มีค่าให้จำลองเลย มันไม่ทำให้เขาประหลาดใจมากนัก
ท้ายที่สุด การสนับสนุนที่ดีและการสร้างความเสียหายอย่างรวดเร็วนั้นดีกว่า ซืออวี๋เชื่อว่าทักษะเสริมพลังและทักษะสนับสนุนมีหนทางข้างหน้า
ตัวอย่างเช่น อีเลฟเว่น การเคลือบแข็งเป็นทักษะเสริมพลัง ในขณะที่การทวีคูณก็เป็นทักษะเสริมพลังเช่นกัน พลังภายในก็ยังเป็นทักษะเสริมพลัง เมื่อถึงเวลา ทักษะเสริมพลังทั้งสามจะไม่ยิ่งใหญ่ขึ้นเหรอ?
เมื่อเทียบกันเลย เขาไม่สามารถปล่อยให้อีเลฟเว่นเรียนรู้ระเบิดลาวาได้หรอกใช่ไหม?
ทักษะนี้ไม่เหมาะกับการเคลื่อนไหวในปัจจุบันของอีเลฟเว่นเลย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่ซืออวี๋ก็ยังคงยิ้มออกมาเมื่อเขาเห็นพวกมัน
นักฝึกสัตว์อสูรมีสามองค์ประกอบ : ระดับนักฝึกสัตว์อสูร พรสวรรค์ฝึกสัตว์อสูร และฐานความรู้
ฐานความรู้ของเขานั้นรวมไปถึงวิธีการฝึกที่มีประสิทธิภาพและพิเศษสำหรับทักษะในคู่มือลับ และวิธีการบ่มเพาะพิเศษสำหรับสัตว์อสูรที่จะวิวัฒนาการ
มีสัตว์อสูรจำนวนมากของเผ่าพันธุ์ระดับราชันย์ขั้นต่ำ ทว่าหยินเจิ้งฟานได้เลือกตัวที่โง่เขลาที่สุด เขาน่าจะเชี่ยวชาญวิธีบ่มเพาะบางอย่างที่เหมาะสมกับอสูรศิลาแผงคอ
บางทีอาจมีทักษะเผ่าพันธุ์ที่หายาก
นี่เป็นเด็กที่ร่ำรวย เขาไม่สามารถมองด้วยสามัญสำนึกได้
“พวกเจ้ามาถึงแล้ว”
เมื่อเห็นว่าซืออวี๋และสัตว์อสูรของซืออวี๋มาถึงแล้ว หยินเจิ้งฟานก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขากระโดดลงมาจากมือหินของอสูรศิลาแผงคอ
“ขอโทษที่ให้รอ…”
“นี่คืออสูรศิลาแผงคอเหรอ? น่าประทับใจ…”
ซืออวี๋มองไปที่อสูรศิลาแผงคอที่ตัวสูงและเปรียบเทียบมัน เขารู้สึกว่าอสูรกินเหล็กของเขาดีกว่า ท้ายที่สุด เรื่องนี้ไม่สามารถวัดอะไรได้นอกจากต่อสู้ อย่างไรก็ตาม บางทีมันอาจเก่งขึ้นหากมันมาเป็นของเขา?
“ใช่แล้ว” หยินเจิ้งฟานก็มองไปที่อสูรศิลาแผงคอที่กำลังพักผ่อนและยิ้มออกมาเช่นกัน ปล่อยให้มันอยู่เช่นนั้นต่อไป
“เจ้าพร้อมไหม?”
“เจ้าอยากพักก่อนไหม?”
เขามองไปที่อสูรกินเหล็กที่ซืออวี๋ใช้เป็นสัตว์ขี่และเอ่ยถามซืออวี๋และสัตว์อสูรของเขา
แม้ว่าหยินเจิ้งฟานจะตั้งตารอการต่อสู้ครั้งนี้มานานมากเพียงใด แต่เขาก็ไม่รังเกียจที่จะรออีกสักพักหนึ่ง
“ไม่จำเป็น” ซืออวี๋เหลือบมองไปที่เวลา ตอนนี้ใกล้จะสิ้นสุดการสอบแล้ว การเริ่มให้เร็วที่สุดนั้นจะดีกว่า
“ข้าคิดว่ามันรอไม่ไหวที่จะได้ต่อสู้กับคู่ต่อสู้ประเภทมิติแล้วเช่นกัน” ซืออวี๋ตบอีเลฟเว่นข้างเขา
“อู๋” อีเลฟเว่นยิ้มอย่างโง่เขลา เผยให้เห็นถึงเจตจำนงต่อสู้!
เนื่องจากมันไม่เคยต่อสู้กับคู่ต่อสู้ประเภทมิติมาก่อน อีเลฟเว่นจึงรู้สึกสงสัยเล็กน้อย การฝึกฝนของมันไม่ดีมากพอ!
…
เมื่อการสอบใกล้สิ้นสุดลง ผู้คุมสอบหลักทั้งเก้าคนก็รวมตัวกัน
นอกเหนือจากนั้น แขกที่ไม่คาดคิดก็มาถึงในเครื่องบินจักรกลขนาดใหญ่บนท้องฟ้าเหนือเกราะทดสอบเช่นกัน
ชายวัยกลางคนที่ดูมั่นงคงราวกับภูเขาไทซานและดูเหมือนจะเกิดมาพร้อมกับออร่าแห่งราชาก็ได้มาถึง
“ตำนานหยิน…” ปรมจารย์ฉู่เจี่ยและคนอื่นมองไปที่ชายผู้นี้และยิ้มอย่างช่วยไม่ได้
ทำไมคนผู้นี้จึงมาที่นี่กัน?
“อย่ากังวล” หยินจงกรงไร้สีหน้า
พวกเขาจะไม่กังวลได้ยังไงกัน?
ผู้คุมสอบหลักทั้งเก้าคนพึมพำในใจของพวกเขา
อย่างไรก็๖าม แม้ว่านี่จะไม่เป็นไปตามกฎ แต่ก็ไม่มีใครกล้ากล่าวอะไร
ท้ายที่สุด ทุกคนก็รู้จักนิสัยในตำนานหยินจงกรง เขาไม่สนใจกฎเลย ตำนานหยินผู้นี้แข็งแกร่งแม้แต่ในบรรดานักฝึกสัตว์อสูรตำนาน และไล่ตามเพียงแค่จุดสูงสุดของอาณาเขตนักฝึกสัตว์อสูรเท่านั้น นี่คือสิ่งที่เขาให้ความสำคัญมากที่สุด
นอกเหนือจากนั้น เขาก็ห่วงลูกชายผู้นี้ของเขามาก หยินจงกรงมีลูกชายเพียงคนเดียวในวัย 50 ปี เขายกย่องหยินเจิ้งฟาน เด็กผู้ที่ได้รับการสืบทอดพรสวรรค์ฝึกสัตว์อสูรของเขาไว้สูงมาก ตอนนี้เขาน่าจะมาที่นี่เรื่องหยินเจิ้งฟาน
เขานั่งในเครื่องบินจักรกลและชงชาด้วยตัวเอง จากนั้นเเขาก็กล่าวว่า “เนตรแห่งนภา ข้าต้องการเห็นว่าหยินเจิ้งฟานกำลังทำอะไรอยู่ในเวลานี้”
เนตรแห่งนภาหยุดลงชั่วขณะหนึ่ง
แม้แต่ผู้คุมสอบหลักทั้งเก้าคนก็ไม่สามารถสั่งเนตรแห่งนภาได้ พวกเขาทำได้เพียงแค่รอให้มันอัปเดตข้อมูลของมันและอัปโหลดสถานการณ์ของผู้เข้าร่วมเท่านั้น
ทว่าในขณะนี้ เมื่อหยินจงกรงกล่าวจบ เนตรแห่งนภาก็จับภาพตามคำสั่งของเขาทันที
นั่นช่วยไม่ได้ นี่เป็นพี่ใหญ่ แม้แต่นักฝึกสัตว์อสูรของมันก็ยังให้ความเคารพต่อตำนานหยินอย่างมาก กล่าวให้ชัดเจน มันเคยถูกตำนานหยินทุบตีมาก่อน ดังนั้นมันจึงกลัวลุงผู้ที่สง่างามคนนี้มาก
“การสอบใกล้จะจบลงแล้ว เขาควรจะจัดเก็บสินสงครามของเขาอยู่ในเวลานี้” ปรมจารย์คนหนึ่งกล่าวออกมา
“ผลงานของเขาเป็นยังไงบ้างในช่วงสามวันนี้?” หยินจงกรงเอ่ยถามออกมา
ปรมจารย์ฉู่เจี่ยกล่าวว่า “เขาทำภารกิจการสอบทั้งสามเสร็จสมบูรณ์และได้อันดับสี่ ส่วนใหญ่เป็นเพราะเขาฝึกฝนผีเสื้อคริสตัลมิติตั้งแต่เริ่มจนจบและไม่ได้ส่งอสูรศิลาแผงคอออกมาสู้เลย”
เมื่อภารกิจการสอบเสร็จ ผู้เข้าร่วมเหล่านี้จึงไม่สนใจว่าพวกเขาจะล่าสัตว์อสูรดุร้ายระดับเหนือธรรมชาติไปกี่ตัว
ผู้ที่ควรสนใจก็คือผู้เข้าร่วมที่ยังทำภารกิจการสอบไม่เสร็จและทำได้เพียงแค่พึ่งพาแต้มอันดับของพวกเขาเพื่อตัดสินว่าพวกเขาจะสามารถเป็นนักฝึกสัตว์อสูรมืออาชีพได้ไหม
สิ่งที่ควรกังวลสำหรับผู้เข้าร่วมเช่นลูกชายของตำนานหยินนั้นคือการต่อสู้จัดอันดับสุดท้าย
“ข้าเข้าใจแล้ว” หยินจงกรงหลับตาลงเล็กน้อยและลืมตาขึ้นมา ในขณะนี้ เนตรแห่งนภาได้ถ่านโอนสถานการณ์ในปัจจุบันของหยินเจิ้งฟานมาแล้ว
เมื่อภาพใหม่ปรากฎขึ้นบนหน้าจอหลักของเครื่องบิน หยินจงกรงและผู้คุมสอบทุกคนก็มองดู
เหล่าผู้คุมสอบตกตะลึง
นั่นเป็นเพราะในวิดีโอ หยินเจิ้งฟานสั่งให้ผีเสื้อคริสตัลมิติเผชิญหน้ากับอสูรกินเหล็กของซืออวี๋! ราวกับว่าเขาเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้!
บัดซ*!
เหล่าปรมจารย์ตกตะลึง เกิดอะไรขึ้น? ทำไมสองคนนี้ถึงมาเจอกันล่ะ?
“หยินเจิ้งฟานและซืออวี๋กำลังแย่งชิงทรัพยากรกันเหรอ…? ไม่สิ สภาพแวดล้อมไม่ใช่จุดทรัพยากร” ผู้คุมสอบคนหนึ่งกล่าวด้วยความประหลาดใจ
“คนผู้นี้คือใคร?” หยินจงกรงมองดูฉากและเอ่ยถามออกมา
เขารู้จักนิสัยของลูกชายเขาดีซึ่งเป็นเช่นเดียวกับเขา ลูกชายของเขาไม่ต่อสู้กับคนที่ไม่น่าสนใจ
ปรมจารย์ฉู่เจี่ยกล่าวออกมาว่า “ชื่อของเขาคือซืออวี๋ ผลลัพธ์การสอบพื้นฐานของเขาอยู่อันดับสี่ในการประเมินนี้ เขาเป็นนักโบราณคดีอัจฉริยะ”
นักโบราณคดี…
หยินจงกรงมองดูหน้าจออย่างเงียบสงบ
“ถ้าเช่นนั้นความแข็งแกร่งของเขาค่อนข้างดีใช่ไหม?”
เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามนี้ เหล่าปรมจารย์มองหน้ากัน ไม่รู้ว่าจะตอบว่ายังไง
ไม่เพียงแค่ไม่แย่ หากหยินเจิ้งฟานวางแผนที่จะใช้ผีเสื้อคริสตัลเพื่อต่อสู้กับอสูรกินเหล็ก เขาก็จะพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!!
เขาน่าจะใช้อสูรศิลาแผงคอ!
บางทีพวกเขาควรหยุดดู…
“ใช่แล้ว… ใช่แล้ว ไม่เลวเลย และก็ผิดหลักวิทยาศาสตร์มาก มันเป็นอสูรกินเหล็กที่ได้อันดับที่สี่ในการสอบครั้งแรก…”
อสูรกินเหล็กเหรอ?
หยินจงกรงรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เขายังไม่คิดว่าหยินเจิ้งฟานจะพ่ายแพ้ ท้ายที่สุด ความแตกต่างระหว่างเผ่าพันธุ์ของผีเสื้อคริสตัลมิติและอสูรกินเหล็กก็ใหญ่เกินไป
…
ในฉากนั้น หยินเจิ้งฟานและซืออวี๋ได้เริ่มต่อสู้กันแล้ว
ผีเสื้อคริสตัลมิติ ปะทะ อสูรกินเหล็ก!
“มิ๋~”
ผีเสื้อคริสตัลมิติที่มีลำตัวสีขาวและปีกโปร่งใสซึ่งใหญ่ได้ค่อยๆ บินไปยังสถานที่อันว่างเปล่า
หยินเจิ้งฟานเดินเข้าไปใกล้มัน ดวงตาของเขาเปล่งประกาย
ผีเสื้อคริสตัลมิติของเขาเพิ่งวิวัฒนาการและจำเป็นต้องฝึกฝน เขาหวังว่าซืออวี๋และอสูรกินเหล็กตรงหน้าเขาจะเป็นคู่ต่อสู่ที่ค่อนข้างดี
“พวกเขาไม่อ่อนแอ เราต้องจริงจัง!”
หยินเจิ้งฟานครุ่นคิด
ท้ายที่สุด ซืออวี๋และสัตว์อสูรของเขาก็อยู่อันดับที่สี่ในการสอบพื้นฐาน
ตรงหน้าหยินเจิ้งฟาน อีเลฟเว่นเหยียดร่างกายของมันเป็นเวลานาน สายตาของมันจริงจังมากเมื่อมันมองไปที่ผีเสื้อคริสตัลมิติที่อยู่ตรงข้ามมัน
ในทางกลับกัน ซืออวี๋สังเกตอย่างละเอียดจากระยะไกล
นอกจากสัตว์อสูรและนักฝึกสัตว์อสูรคู่นี้แล้ว อสูรศิลาแผงคออยู่ไม่ไกลนัก และหนอนไหมเขียวบนไหล่ของซืออวี๋ก็เป็นผู้ชมเช่นเดียวกัน พวกเขาประเมินสนามรบ ในบรรดาพวกเขา หนอนไหมเขียวสงสัยเกี่ยวกับพี่สาวใหญ่ผีเสื้อซึ่งเชี่ยวชาญด้านทักษะมิติที่สามารถสร้างแรงกดดันให้แก่ผู้นำได้
“จิ๋…”
บักกี้ร้องเสียงต่ำ ในอีกด้านหนึ่ง ร่องรอยของออร่าที่ดุร้ายไหลออกมาจากท่าทางอันสงบนิ่งของหยินเจิ้งฟาน เมื่อเทียบกับวันปกติแล้ว เขาดูราวกับคนที่แตกต่างไปจากเดินอย่างสิ้นเชิง
“ถ้าเช่นนั้นเราโจมตีก่อน”
หยินเจิ้งฟานโบกมือ และความสูงในการบินของผีเสื้อคริสตัลมิติก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับเสียง “มิ๋~” ในช่วงเวลานี้ ปีกของมันกระพือ และแสงสีเขียวรูปเสี้ยวจันทราก็ลอยออกมา!
ทักษะธาตุลมระดับต่ำ ใบมีดสายลม!
นอกจากสามทักษะเผ่าพันธุ์ประเภทมิติแล้ว มันก็เรียนรู้ทักษะเผ่าพันธุ์ของผีเสื้อคริสตัลสายลมผ่านวิธีอื่นมาเช่นกัน!
ทักษะถูกใช้งานในชั่วพริบตา และแสงสีเขียวก็ควบแน่น มันเป็นใบมีดสายลมขั้นชำนาญ!
ตอนนี้ หยินเจิ้งฟานต้องการใช้การเคลื่อนไหวนี้เพื่อทดสอบอสูรกินเหล็ก
“อู๋!!!” ในทางกลับกัน เจตจำนงต่อสู้ของอีเลฟเว่นสูงมากก
ใบมีดสายลมโจมตี ทำให้กระแสลมโดยรอบโพยพุ่งอย่างบ้าคลั่ง เสียงของใบมีดสายลมที่กระฉากอากาศนั้นรุนแรงราวกับว่ามันสามารถตัดโหละได้ ภายใต้แรงกดดันจากลมอันรุนแรง อีเลฟเว่นผู้ที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากผีเสื้อคริสตัลมิติก็สั่นไหวอย่างรวดเร็ว ทว่าสีหน้าของอีเลฟเว่นนั้นมุ่งมั่นมาก
โดยเฉพาะดวงตาของมัน เมื่อมันตั้งมั่น จิตใจของมันก็สว่างไสวราวกับว่ามันได้เห็นอีกโลกหนึ่ง
ทักษะประเภทจิตวิญญาณระดับกลาง สุดยอดการมองเห็นขั้นสมบูรณ์!
ภายใต้การเปิดใช้งานของสุดยอดการมองเห็นของมัน พลังทำลายล้างของใบมีดสายลมนั้นชัดเจนมาก ความเร็วของใบมีดสายลมก็ช้าลงอย่างมากในสายตาของมัน
ปัง!!!
อีเลฟเว่นเคลือบแข็งฝ่ามือของมันและหนีบใบมีดสายลมที่เข้ามาได้ในทันที การเคลื่อนไหวที่ดูธรรมดาของมันหยุดใบมีดสายลม อย่างไรก็ตาม หลังจากที่อีเลฟเว่นหนีบใบมีดสายลม ร่างกายของมันก็หลบใบมีดสายลมอีกสองอันที่พุ่งเข้ามาหามันอย่างเชี่ยวชาญในชั่วพริบตา ทำให้ใบมีดสายลมพลาดเป้าและเฉียดผ่านร่างกายของมันไป
“บังเอิญ หรือ…”
ในขณะนี้ นัยน์ตาของหยินเจิ้งฟานตีบตัน
ไม่เพียงแค่เขาจะตระหนักได้ว่าอสูรกินเหล็กได้บดขยี้ใบมีดสายลมขั้นชำนาญเท่านั้น ทว่ามันยังไม่ได้รับบาดเจ็บอีกด้วย
เขาค้นพบว่ามันหลบการโจมตีของสองใบมีดสายลมได้อย่างแม่นยำ ทำให้การทดสอบของพวกเขาแทบจะไร้ผล
ความเชี่ยวชาญการเคลือบแข็งนี้อยู่ในขั้นสมบูรณ์!
ในตอนนี้ สีหน้าของซืออวี๋สงบนิ่งมาก หากหยินเจิ้งฟานต้องการฝึกฝนผีเสื้อคริสตัลมิติ การให้อีเลฟเว่นปลดปล่อยพลังต่อสู้ทั้งหมดของมันคงไร้ความหมาย เขายังมีความคิดที่จะฝึกฝนอีเลฟเว่นเช่นกัน เขาไม่ปล่อยให้มันใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดของมันออกมา ทว่าวางแผนที่จะชนะด้วยทักษะ
ด้วยวิธีนี้ การต่อสู้นี้จะไม่ไร้ความหมายซึ่งอาจส่งผลดีต่อสัตว์อสูรทั้งสองตัว!!
“สัมผัสต่อสู้ไม่เลวเลย”
ในเวลาเดียวกัน การเผชิญหน้าครั้งแรกทำให้ตำนานหยินเห็นว่าอสูรกินเหล็กตัวนี้พิเศษยังไง
เขาพยักหน้า ทักษะเผ่าพันธุ์ขั้นสมบูรณ์เหรอ?
และความเร็วในการตอบสนองที่เกินจริงนั่น สำหรับเผ่าพันธุ์อสูรกินเหล็กแล้ว นั่นเป็นไปตามที่ผู้คุมสอบกล่าวอย่างแท้จริง มันไร้ผิดหลักวิทยาศาสตร์เล็กน้ย
ในตอนนั้น เมื่อพวกเขาเห็นตำนานหยินพยักหน้าอย่างสงบ เหล่าปรมจารย์ก็ยิ้มอย่างขมขื่น นี่คือจุดเริ่มต้นของสิ่งไร้เหตุผล!
ในฉาก หยินเจิ้งฟานและผีเสื้อคริสตัลมิติเปิดการโจมตีครั้งที่สองอย่างรวดเร็ว!
“ห่วงมิติ!”
ใบมีดสายลมไม่สามารถส่งผลกระทบต่ออีเลฟเว่นได้ ดังนั้นหยินเจิ้งฟานจึงไม่รีบร้อน
ท้ายที่สุด ความตั้งใจเดิมของเขาก็คือการใช้ความเร็วของใบมีดสายลมเพื่อขัดขวางอสูรกินเหล็ก
คุณสมบัติที่ใช้ได้ในชั่วพริบตาของใบมีดสายลมร่วมกับความเร็วสูงของผีเสื้อคริสตัลมิติจึงเหมาะสมมากสำหรับการก่อกวนคู่ต่อสู้ก่อนที่ผีเสื้อคริสตัลมิติจะใช้ทักษะระดับสูง
ตามที่คาดไว้ ในขณะที่อีเลฟเว่นกำลังต่อสู้กับใบมีดสายลม ผีเสื้อคริสตัลมิติได้สะสมพลังเป็นเวลาสามวินาทีและสร้างอาณาเขตมิติโดยตรง กักขังอีเลฟเว่นไว้ข้างใน
บู่ซซ!
ในขณะนี้ อีเลฟเว่นรู้สึกถึงการไหลเวียนของอากาศที่เร็วขึ้น ทันใดนั้น สภาพแวดล้อมก็กดดันอย่างหนักหน่วง
มันรู้สึกราวกับว่ามันอยู่ในอีกมิติหนึ่ง
ด้วยสุดยอดการมองเห็นขั้นสมบูรณ์ของมัน อีเลฟเว่นจึงยังคงมองเห็นการไหลเวียนของพลังงานของมิติโดยรอบได้อย่างคลุมเครือ การเคลื่อนไหวนี้แปลกมาก ในฐานะทักษะประเภทมิติ มันอาจไม่สามารถทำลายห่วงมิติด้วยทักษะผสานของการเคลือบแข็งและฝ่ามือสายฟ้าได้
อย่างไรก็ตาม ไม่จำเป็นต้องทำลายห่วงมิติเลย นี่เป็นเพราะห่วงมิติไม่สามารถสร้างความเสียหายได้โดยตรง หากผีเสื้อคริสตัลมิติต้องการสร้างความเสียหายผ่านการเคลื่อนไหวนี้ มันต้องทำให้อาณาเขตมิติสั่นสะเทือน จากนั้นมันก็สามารถใช้คลื่นมิติที่แตกสลายเพื่อสร้างความเสียหายให้แก่ศัตรูได้!!
“มิ๋!!”
เมื่อผีเสื้อคริสตัลมิติกระพือปีกของมัน มิติที่พันธนาการอีเลฟเว่นไว้ก็เริ่มสั่นสะเทือน รอยแตกที่คล้ายกับใยแมงมุมโปร่งใสเริ่มปรากฏขึ้นรอบตัวมัน ในช่วงเวลาต่อมา คลื่นโปร่งใสก็แผ่ไปยังอีเลฟเว่น!
“แม้ว่ามันจะสามารถป้องกันได้ด้วยการเคลือบแข็งขั้นสมบูรณ์ แต่มันก็ควรจะได้รับผลกระทบอย่างมาก”
สีหน้าของหยินเจิ้งฟานจริงจัง แม้กระทั่งอสูรศิลาแผงคอของเขาก็ต้องพึ่งพากลายร่างหินขั้นชำนาญของมันและร่างกายของเผ่าพันธุ์ระดับราชันย์เพื่อรับการเคลื่อนไหวนี้โดยตรง มันก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน
สำหรับอสูรกินเหล็กตัวนี้…
ในขณะที่หยินเจิ้งฟานได้ตัดสิน ฉากที่ทำให้เขาเงียบได้เกิดขึ้นกับอีเลฟเว่น
“อู๋!!”
หลังจากเกิดคลื่นกระแทก สีหน้าของอีเลฟเว่นก็กลายเป็นจริงจัง พื้นใต้ฝ่าเท้าของมันกลายเป็นสีดำทันทีราวกับว่าพื้นกลายเป็นโลหะ จากนั้นสารเคลือบแข็งสีดำที่คล้ายกับโลหะเหลวก็ได้ก่อตัวเป็นโล่เคลือบแข็งครึ่งวงกลมในชั่วพริบตาซึ่งแยกมันออกจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง!
การเคลือบแข็งขั้นเหนือธรรมชาติ ปลดปล่อยสารเคลือบแข็ง!
สารเคลือบแข็งขนาดใหญ่ไม่ได้สัมผัสกับอีเลฟเว่นและก่อตัวเป็นโล่เคลือบแข็งรอบร่างกายของมัน คลื่นกระแทกมาพร้อมกับเสียงอันดังกึกก้อง และรอยแตกก็ปรากฏขึ้นมาอย่างรวดเร็วบนโล่เคลือบแข็ง โล่ครึ่งวงกลมเคลือบแข็งแทบจะแตกกเป็นเสี่ยงๆ ทว่าก่อนที่คลื่นกระแทกกจะผ่านไปได้ สารเคลือบแข็งก็ซ่อมแซมโล่เคลือบแข็งครึ่งวงกลมอย่างรวดเร็วและสลายคลื่นกระแทกไปจนหมดสิ้น ในเวลานี้ สีหน้าของหยินเจิ้งฟานเปลี่ยนไปอย่างมาก
“นี่เป็นไปได้ยังไงกัน…”
มันไม่ใช่การเคลือบแข็งขั้นสมบูรณ์ ทว่า… ขั้นเหนือธรรมชาติ!
ในฉาก สีหน้าที่ไม่สามารถเข้าใจได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหยินเจิ้งฟาน
เขาไม่ได้คาดหวังว่าซืออวี๋และอสูรกินเหล็กจะยังมีไพ่ตายดังกล่าว
เมื่อเห็นการแลกเปลี่ยนนี้ ตำนานหยินก็แสดงสีหน้าจริงจังและกล่าวว่า “การเคลือบแข็งขั้นเหนือธรรมชาติ… เขาเป็นแค่มือใหม่เหรอ?”
ขั้นเหนือธรรมชาติเป็นตัวแทนของจุดสูงสุดของทักษะ แม้ว่าจะมีวิธีการฝึกฝนพิเศษ วิธีบ่มเพาะพิเศษ หรือแม้ว่าจะเป็นทักษะระดับต่ำ แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่มันจะปรากฏในการประเมินมืออาชีพและปรากฏในรุ่นเยาว์เช่นนี้
“ใช่แล้ว” เหล่าปรมจารย์รู้สึกว่านั่นไม่นับว่าเป็นอะไร เนื่องจากหยินเจิ้งฟานวัย 12 ปีก็ไร้สาระอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อหยินเจิ้งฟานอายุ 18 ปี ใครจะรู้ว่าเขาจะกลายเป็นปรมจารย์ไหม
แครก!!!
ในฉาก ห่วงมิติแตกสลาย และสารเคลือบแข็งก็ไหลกลับและหายไป อสูรกินเหล็กน้อยปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง
ในขณะนี้ สารเคลือบแข็งได้ไหลเข้าสู่ฝ่ามือของอีเลฟเว่นและสร้างบอลโลหะขนาดเท่าลูกปิงปอง อีเลฟเว่นบีบอย่างหนักหน่วง และสุดยอดการมองเห็นของเขาก็เล็งไปที่ผีเสื้อคริสตัลมิติที่สับสนเล็กน้อยซึ่งอยู่ไม่ไกล และโยนบอลโลหะออกไป!
บูม!!!
บอลเคลือบแข็งพุ่งเข้าหาผีเสื้อคริสตัลมิติราวกับกระสุนปืนใหญ่ ด้วยพลังของอีเลฟเว่น แม้ว่ามันจะไม่เร็วเท่ากับใบมีดสายลมก่อนหน้านี้ แต่มันก็ไม่ได้ช้าเลย
“มิ๋!”
อุกกาบาตสีดำพุ่งเข้าหา ทำให้ผีเสื้อคริสตัลมิติหายไปทันที บอลเคลือบแข็งผ่านร่างกายของผีเสื้อคริสตัลมิติไปโดยตรงและกระแทกภูเขาด้านหลังโดยตรง และหินที่แตกกระจายจำนวนนับไม่ถ้วนก็ร่วงหล่นลงมา
เสียงอันดังกึกก้องได้เข้ามาในหูของหยินเจิ้งฟาน ทำให้เขาเงยหน้าขึ้นและมองไปที่ซืออวี๋ตรงข้ามเขา
ในตอนนี้ ซืออวี๋ได้รุกฆาตเขาแล้ว
หยินเจิ้งฟานสัมผัสได้ถึงเรื่องนี้
“ข้าประเมินพวกเขาต่ำไป…” เขาเข้าใจเรื่องนี้ และหัวใจของเขาก็หนักอึ้ง อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้วางแผนที่จะยอมแพ้เช่นนี้
ตำนานหยินและเหล่าผู้คุมสอบที่เฝ้าดูจากด้านหลังก็สัมผัสได้ถึงเรื่องนี้เช่นกัน
ห่วงมิติของผีเสื้อคริสตัลมิติไม่สามารถทำลายการป้องกันอันสมบูรณ์แบบของการเคลือบแข็งขั้นเหนือธรรมชาติได้
นี่หมายความว่าผีเสื้อคริสตัลมิติไม่สามารถทำร้ายอสูรกินเหล็กได้เลย
และแม้ว่าอสูรกินเหล็กก็ดูราวกับจะไม่สามารถสร้างความเสียหายให้แก่ผีเสื้อคริสตัลมิติซึ่งมีทักษะปกปิดมิติและการเทเลพอร์ตได้
อย่างไรก็ตาม ทักษะทั้งสองนี้มีข้อเสียอย่างมาก
ในสถานะซ่อนเร้น ผีเสื้อคริสตัลมิติไม่สามารถใช้ทักษะอื่นได้ และการใช้เทเลพอร์ตก็กินพละกำลังมากเกินไป
เป็นไปได้ไหมว่ามันกำลังจะกลายเป็นการต่อสู้ล้างผลาญระหว่างผีเสื้อคริสตัลมิติและอสูรกินเหล็กกัน?
การต่อสู้ล้างผลาญไม่ใช่ทางเลือกที่ดีสำหรับผีเสื้อคริสตัลมิติ
เหงื่อไหลหยดลงมาจากหน้าผากของหยินเจิ้งฟานในขณะที่เขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดันอันแข็งแกร่งจากคู่ต่อสู้ของเขา
“เขาจะแพ้เหรอ?” ตำนานหยินถือถ้วยชาไว้แน่นและยังคงจ้องไปที่หน้าจอ
ในตอนนี้ นอกจากเนตรแห่งนภาแล้ว ยังไม่มีใครรู้ว่าผีเสื้อคริสตัลมิติกำลังเผชิญหน้ากับการผสานของการเคลือบแข็งขั้นเหนือธรรมชาติและสุดยอดการมองเห็นขั้นสมบูรณ์!
ในมุมมองหนึ่ง นี่ก็คือความล้ำลึกเช่นกัน!
ในวิดีโอ การต่อสู้ระหว่างทั้งสองยังคงดำเนินต่อไป
ภายใต้การเล็งของสุดยอดการมองเห็นขั้นสมบูรณ์ ผีเสื้อคริสตัลมิติเพิ่งออกมาจากสถานะซ่อนเร้นของมันได้ครึ่งวินาที…
ปัง!
อีเลฟเว่นโยนสารเคลือบแข็งซึ่งควบแน่นเป็นบอลด้วยมือหนึ่งข้างและบังคับให้ผีเสื้อคริสตัลมิติเทเลพอร์ตอย่างเร่งรีบ…
ในวินาทีต่อมา ขณะที่ร่างของผีเสื้อคริสตัลมิติปรากฏขึ้นหลังจากที่มันเทเลพอร์ต อุกกาบาตสีดำก็โจมตีผีเสื้อคริสตัลมิติถูกบังคับให้เข้าสู่สถานะซ่อนเร้นเพื่อหลบอีกครั้ง!
ในฉาก อีเลฟเว่นผู้ที่เผชิญหน้ากับผีเสื้อคริสตัลมิตินั้นค่อนข้างสงบเล็กน้อย มันยับยั้งคู่ต่อสู้ของมันตลอดเวลา
ผีเสื้อคริสตัลมิติใช้เวลาสามวินาทีในการโยนห่วงมิติที่เป็นภัยคุกคามต่อมัน ในเวลาสามวินาทีนี้ นั่นก็เพียงพอที่จะโต้กลับ
มันเพียงแค่พึ่งพาทักษะการเคลือบแข็งและสุดยอดการมองเห็นเท่านั้น
สีหน้าของซืออวี๋ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ผีเสื้อคริสตัลมิติสามารถบังคับให้อีเลฟเว่นใช้ทักษะที่สามได้ไหม?
“จิ๋…” บักกี้กรีดร้องออกมาราวกับว่ามันเห็นอนาคตของมัน
ในอีกด้านหนึ่ง หยินเจิ้งฟานจ้องมองอย่างแน่วแน่ไปยังสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป สมองของเขาพยายามหาทางออกจากสถานการณ์นี้อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม เขาก็ทำได้เพียงแค่สัมผัสแรงกดดันจากซืออวี๋และอสูรกินเหล็กที่เติบโตยิ่งขึ้นเท่านั้น
ภายใต้การเล็งของสุดยอดการมองเห็นขั้นสมบูรณ์ แม้ว่าผีเสื้อคริสตัลมิติจะมีธาตุมิติ แต่ก็ดูราวกับว่ามันจะจมดิ่งสู่ก้นบึ้งอันไร้ที่สิ้นสุด
ยิ่งมันดิ้นรนมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งจมลึกลงไปเท่านั้น มันไม่สามารถหลบหนีจากมือยักษ์ที่อยู่ข้างบนได้
นี่ไม่ใช่การข่มจากคุณสมบัติ และไม่ใช่การข่มจากความแข็งแกร่ง แต่เป็นการข่มจากทักกษะ มันพึ่งพาเพียงแค่ความเชี่ยวชาญของทักษะที่สูงในการดูแคลนคู่ต่อสู้
ผีเสื้อคริสตัลมิติซึ่งเพิ่งวิวัฒนาการและยังไม่เชี่ยวชาญทักษะของมันเปรียบเสมือนเด็กน้อยเมื่อเทียบกับอสูรกินเหล็กที่ฝึกฝนทักษะของตัวเองจนถึงขีดสุด
“ผู้เข้าร่วมคนนี้…”
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ตำนานหยินก็รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องดูต่อไปแล้ว
เขากล่าวว่า “เนตรแห่งนภา นอกเหนือจากการเคลือบแข็แงล้ว อสูรกินเหล็กตัวนั้นอาจใช้ทักษะที่สามารถเล็งเป้าใส่ศัตรูได้เช่นกัน”
มันตอบกลับตำนานหยินจงกรงผ่านรูปแบบของคำบรรยาย
ทักษะประเภทจิตวิญญาณระดับกลาง สุดยอดการมองเห็น
แม้ว่ามันจะไม่ดีเท่ากับเนตรสวรรค์ แต่ก็ยังเป็นทักษะที่ค่อนข้างดี
ที่สำคัญที่สุด การพัฒนาสุดยอดการมองเห็นของอสูรกินเหล็กตัวนี้นั้นสูงจนน่าขัน
…
ไม่กี่นาทีต่อมา
ในที่สุดผีเสื้อคริสตัลมิติก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป มันไม่สามารถทนต่อแรงกดดันได้และพละกำลังก็หมดลง
ซืออวี๋และอีเลฟเว่นไม่ได้โจมตีต่อเพราะอีเลฟเว่นควบคุมพลังงานที่ผีเสื้อคริสตัลมิติเหลือมาโดยตลอด
“ข้าแพ้แล้ว”
หลังจากการตอบสนองจากผีเสื้อคริสตัลมิติว่ามันไม่สามารถต่อสู้ได้อีกต่อไป หยินเจิ้งฟานก็ยอมรับความพ่ายแพ้ทันที
เขาดูสับสนและไม่พอใจมาก
เจ็บปวดและทรมาณ
นี่คือสิ่งที่เขารู้สึกในตอนนี้
นอกเหนือจากครั้งแรกที่ผีเสื้อคริสตัลมิติโจมตีอสูรกินเหล็ก มันก็ถูกยับยั้งโดยอสูรกินเหล็กตลอดเวลา
ความรู้สึกนี้ทำให้หยินเจิ้งฟานแทบจะหายใจไม่ออก
หลังจากการต่อสู้ เขาก็เปียกโชกไปด้วยเหงื่อ
“ตกลง” ซืออวี๋กล่าวว่า “บางทีสถานการณ์อาจเปลี่ยนไปหากความเชี่ยวชาญทักษะของผีเสื้อคริสตัลสูงขึ้น”
เขากำลังกล่าวความจริง
อย่างไรก็ตาม นั่นทำให้หยินเจิ้งฟานรู้สึกว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นซืออวี๋ผู้ที่เคยกล่าวกับเขาอย่างเป็นกันเองมาก่อน
หยินเจิ้งฟานไม่มีรอยยิ้มเช่นเดียวกับก่อนหน้านี้อีกต่อไป
เขาสามารถพูดคุยและหัวเราะกับคนที่อ่อนแอกว่าเขาได้
ทว่าเมื่อเผชิญหน้ากับคนที่แข็งแกร่งกว่าเขา หัวใจของเขาก็หนักอึ้งทันที
เขาเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองจนหาตัวจับได้ยาก เป้าหมายของเขาก็คือการได้อันดับหนึ่งในการประเมินนี้ แม้ว่านี่จะไม่ใช่การต่อสู้อย่างเป็นทางการ แต่ในเวลานี้ หยินเจิ้งฟานยังคงต้องยอมรับว่าซืออวี๋และอสูรกินเหล็กน้อยที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นแข็งแกร่งมาก
“กรร…” อสูรศิลาแผงคอมองไปที่ผีเสื้อคริสตัลมิติที่เหนื่อยล้าและนักฝึกสัตว์อสูรของมันที่พ่ายแพ้ มันลุกขึ้นยืน ร่างกายสูงสี่เมตรตั้งตระหง่านราวกับภูเขาขนาดเล็ก
มันถามว่าอยากสู้ไหม
มันมองไปที่อีเลฟเว่นขนาดพกพา หากเป็นมัน มันจะไม่หลบทักษะเหล่านั้นเลย การป้องกันของมันแข็งแกร่งกว่าผีเสื้อคริสตัลมิติหลายสิบเท่า แม้ว่าอสูรกินเหล็กจะใช้การโจมตีเคลือบแข็งในระยะประชิด แต่มันก็ไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก มันสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ทั้งหมดด้วยพลังอันดุร้าย
“อู๋?” อีเลฟเว่นเงยหน้าขึ้นมองเจ้าร่างใหญ่
พวกมันจะต่อสู้กันได้เลยไหม?
“จิ๋!” เมื่อเห็นอสูรศิลาแผงคอตัวใหญ่ลุกขึ้น บักกี้ที่กำลังเฝ้าดูก็ถอนหายใจด้วยอารมณ์ที่ว่าพี่สาวใหญ่ผีเสื้อคริสตัลมิติไม่สามารถบังคับให้ผู้นำใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดได้ และแนะนำไม่ให้อสูรศิลาแผงคอไปแส่หาความพ่ายแพ้
มันคิดว่านี่คือพลังต่อสู้เต็มกำลังของผู้นำเหรอ?
“ไม่จำเป็น” หยินเจิ้งฟานโบกมือเป็นสัญญาณว่าการต่อสู้สิ้นสุดลงแล้ว
เมื่อกล่าวจบ เขาก็แสดงสีหน้าอันมุ่งมั่นและมองไปที่ซืออวี๋และสัตว์อสูรของซืออวี๋
“แม้ว่าคราวนี้ข้าจะพ่ายแพ้ แต่ข้าก็จะชนะในการต่อสู้จัดอันดับอย่างแน่นอน”
“เมื่อถึงเวลานั้น นั่นจะเป็นการต่อสู้แบบสองต่อสอง” ซืออวี๋มองไปที่อสูรศิลาแผงคอและผีเสื้อคริสตัลมิติ เขาไม่รู้ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นยังไงงจากความร่วมมือกันของสัตว์อสูรทั้งสองตัว
“ตกลง ในตอนนั้น ข้าจะไม่พ่ายแพ้อย่างแน่นอน” หยินเจิ้งฟานกำหมัดแน่นและยืนยัน
เขาไม่เสียใจที่ท้าทายซืออวี๋ ทว่ารู้สึกเสียใจที่ทำไมเขาจึงประเมินคู่ต่อสู้ต่ำเกินไป เขาไม่สามารถสั่งให้สัตว์อสูรของเขาใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดของมันได้ในการต่อสู้ครั้งแรก
เขาพ่ายแพ้แล้ว…
“เอาล่ะ มาต่อสู้กันอีกครั้งเมื่อถึงตอนนั้น” ในขณะนั้นเอง ซืออวี๋ก็สัมผัสได้ถึงน้ำเสียงของหยินเจิ้งฟานและมองไปที่สีหน้าของหยินเจิ้งฟาน เขารู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้ออย
บัดซ*
เขายังคงยิ้มอย่างเป็นมิตรก่อนหน้านี้ ทำไมตอนนี้เขาจึงจริงจังล่ะ?
คงไม่ใช่ว่าเขาเด็กเกินไปและรับไม่ได้ใช่ไหม? ตอนนี้ ความรู้สึกที่หยินเจิ้งฟานมอบให้แก่ซืออวี๋ก็ราวกับว่าเขาสามารถร้องไห้ได้ทุกเมื่อ ทำให้ซืออวี๋รู้สึกเสียใจเล็กน้อยในการต่อสู้นี้
“การสอบกำลังจะสิ้นสุด ในที่สุดเราก็ออกจากสถานที่บัดซ*นี้ได้” ซืออวี๋ดูเวลาและเปลี่ยนหัวข้ออย่างรวดเร็ว
…
หยินเจิ้งฟานพ่ายแพ้
บนเครื่องบินจักรกลบนท้องฟ้า ผู้คุมสอบหลักยังคงมีเนตรแห่งนภา พวกเขาไม่คาดคิดเลยว่าตำนานหยินที่เพิ่งมาดูลูกชายของเขาจะพบกับเหตุการณ์ที่ระเบิดเช่นนี้
พวกเขาแอบมองไปที่ตำนานหยินผู้ที่กำลังดูฉากนี้อย่างเงียบเชียบและไม่ได้กล่าวอะไร
จนกระทั่งเขากล่าวขึ้นมาเอง
“ข้าขอดูการผลงานของซืออวี๋ได้ไหม?”
ตำนานหยินดูไม่ค่อยสบอารมณ์มากนัก แม้ว่าหยินเจิ้งฟานจะพ่ายแพ้ แต่เขาก็ไม่ใส่ใจ ท้ายที่สุด นี่เป็นเพียงการต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่งเท่านั้น ยิ่งกว่านั้น การปล่อยให้หยินเจิ้งฟานน้อยพบกับความพ่ายแพ้ก็เป็นเรื่องดีเช่นเดียวกัน
ภายใต้การคุ้มครองของเขา หยินเจิ้งฟานถูกกำหนดให้ไม่มีประสบการณ์ในการเติบโตเช่นเดียวกับเขาในตอนนั้น ยิ่งกว่านั้น ยุคสมัยก็เปลี่ยนไปแล้ว ความวุ่นวายและการแก่งแย่งชิงดีทั้งในประเทศและต่างประเทศก็ได้สงบลงชั่วครามแล้ว ในความเห็นของเขา การต่อสู้ระหว่างสหายในช่วงสิบปีนี้เหมาะแก่การเติบโตสำหรับหยินเจิ้งฟาน
“อ่าา นี่…” ในตอนนี้ เมื่อหยินจงกรงกล่าวจบ ผู้คุมสอบหลักก็เสียสูญเล็กน้อย
ตำนานหยิน หากไม่ดูจะดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ได้อยู่ในอำนาจของผู้คุมสอบ เมื่อได้ยินคำกล่าวของหยินจงกรง เนตรแห่งนภาก็ได้แสดงส่วนของวิดีโอที่ถูกตัดต่ออย่างรอบคอบทันทีซึ่งครอบคลุมถึงฉากในปัจจุบันด้วย
หยินจงกรงผู้มีสีหน้าจริงจังมองหน้าจออีกครั้ง ต้องการเห็นความสามารถที่ซ่อนอยู่ของผู้เข้าร่วมคนนี้ที่ทำให้ลูกชายของเขาต้องประสบกับความพ่ายแพ้ครั้งแรก
จากนั้นในวิดีโอ ชายหนุ่มขี่อสูรกินเหล็ก ถือกระบี่ไม้ และมีความสุขค่อยๆ ปรากฏตัวขึ้น ฉากอันโดดเด่นของเขาตัดจากป่าไปยังทะเลสาบ ตัดจากทะเลสาบไปยังหุบเขา
ตำนานหยินไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้เป็นเวลานาน
“ดูเหมือนว่าภารกิจการฝึกที่มอบให้แก่เจิ้งฟานจะน้อยเกินไป”
…
ไม่นานนัก การสอบเอาชีวิตรอดสามวันก็ได้สิ้นสุดลงในที่สุด
หลังจากหมดเวลา เนตรแห่งนภาก็เริ่มทำงานเก่าของมัน
มันเคลื่อนย้ายผู้เข้าร่วมบนเกาะไปยังเครื่องบินขนส่งบนท้องฟ้า
ในขณะนี้ จุดสีดำขนาดเล็กนับพันซึ่งถูกปกคลุมด้วยแสงสีฟ้าเริ่มลอยขึ้นมาสู่ท้องฟ้า
ภายใต้การห่อหุ้มของพลังจิต ผู้เข้าร่วมบางคนหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง และผู้เข้าร่วมบางคนดูราวกับสูญเสียพ่อแม่ของพวกเขา
ซืออวี๋ค่อนข้างอารมณ์ดี ท้ายที่สุด เขาก็ได้รับประโยชน์มหาศาลในคราวนี้
สามทักษะมิติ! หญ้าวิญญาณมังกร! บักกี้ยังปลุกการปราบปราม!
ยังมีเศษทรัพยากรในลูกปัดซากปรักหักพังที่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นถั่วเซียนได้มหาศาล!
แน่นอน หากซืออวี๋อยู่ในอารมณ์ดี ก็มีคนที่อารมณ์เสียเพราะเขาเช่นกัน
ตัวอย่างเช่น หยูซูผู้ที่พลาดหญ้าวิญญาณมังกรดูไม่มีความสุขเลยหลังจากการสอบ เขารู้สึกว่าเขาโชคร้ายที่พบกับสัตว์ประหลาดในการประเมินนี้
ยังมีหยินเจิ้งฟาน ก่อนการต่อสู้ยังไม่เป็นไรเพราะพวกเขาสามารถพูดคุยกันได้อย่างมีความสุย แต่หลังการต่อสู้… ซืออวี๋รู้สึกว่าหยินเจิ้งฟานน้อยของเขาได้ทำลายมิตรภาพของพวกเขาไปโดยตรง
การต่อสู้อันไร้จุดหมาย บัดซ* ซืออวี๋อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
เขาจะจำลองทักษะได้ยังไงในอนาคต…
“ลืมไปเถอะ ข้าจะไม่คิดมาก ต่อไป ในที่สุดข้าก็จะได้หลับสนิท!”
ไม่นานนัก ซืออวี่ก็ถูกย้ายไปยังเครื่องบิน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ซืออวี๋สับสนดูเหมือนจะไม่ใช่เครื่องบินลำที่เขานั่งอยู่ในตอนแรกใช่ไหม?
นอกเหนือจากซืออวี๋แล้ว ยังมีคนอีกสิบห้าคน รวมถึงหยูซูและหยินเจิ้งฟาน พวกเขาคือสิบหกผู้เข้าร่วมสำคัญที่ถูกเลือกในคราวนี้!
ในปัจจุบัน หลังจากได้พบกับซืออวี๋อีกครั้ง สีหน้าของหยูซูก็มืดลง…
Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน