ตอนที่แล้ว1216 - ศิษย์น้องของชายชราผู้บ้าคลั่ง 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป1218 - ซากเทวะ 

1217 - จักรพรรดิเหลือง 


1217 - จักรพรรดิเหลือง

การลงมือของเซียนเฒ่าจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนซวนทำให้ผู้คนเกิดความหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด

“นี่คือการดวนที่ยุติธรรม แม้แต่ผู้คนจากทะเลสาบหยวนหูยังไม่ใส่ใจผลแพ้ชนะเรื่องนี้ เจ้าเป็นคนอื่นก็ควรพอได้แล้ว”

“เจ้าทำสิ่งนี้เพื่ออะไร? สันติภาพในโลกนี้เกิดขึ้นได้ยาก อย่าพยายามทำลายมันอีกเลย?”

เสียงของราชาจิ่วหวงดังมาจากท้องฟ้าคำพูดของเขาเห็นได้ชัดว่าเป็นการตักเตือนราชาบรรพชนที่สวมมงกุฎสีม่วงทอง

ทุกคนตกตะลึง พวกเขาไม่คาดคิดว่าแม้แต่ยักษ์ใหญ่อย่างราชาจิ่วหวงยังมีทัศนคติเช่นนี้ แล้วใครจะยังกล้าเปิดสงครามขึ้นอีก?

“ร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณ ผู้ยิ่งใหญ่หุนโถวขอให้ข้าถ่ายทอดความรู้สึกขอบคุณของเขามาให้เจ้า หากเจ้ามีเวลาว่างเจ้าสามารถไปเดินเล่นที่เทียนฟางได้เสมอ”

สิ้นเสียงสัตว์อสูรทั้งเก้าก็ส่งเสียงคำรามดังลั่น จากนั้นมันได้ลากรถศึกของราชาจิ่วหวงออกจากที่ราบซีเซี่ยอย่างรวดเร็ว

เย่ฟ่านยิ้มอย่างขมขื่น ผู้ยิ่งใหญ่หุนโถวจะมีชีวิตต่อไปได้อีกถึงแปดร้อยปี เขาไม่รู้ว่าจะมีปัญหาใหญ่เกิดขึ้นในอนาคตหรือไม่ คนผู้นี้สามารถทำลายโลกอำพรางสวรรค์ได้ด้วยมือข้างเดียวเท่านั้น

ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวสดใส และแสงจันทร์ก็ตกลงมาราวกับควันบางๆ บนร่างกายของเย่ฟ่าน ทำให้ลักษณะภายนอกของเขาดูโดดเด่นอย่างยิ่ง

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าในการต่อสู้ครั้งนี้ ร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณมีชื่อเสียงไปทั่วโลกไปอีกครั้ง เขาเอาชนะสายเลือดของจักรพรรดิโบราณ สังหารสิ่งมีชีวิตโบราณรุ่นหลังที่ได้ชื่อว่ามีพรสวรรค์สูงสุด

บุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วง เอี๋ยนหรูอวี้ หวงซูเต๋า สตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยก จงหวง นักพรตเสิ่น สตรีศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์ม่วง เทียนหวงจื่อ

ในบรรดายอดฝีมือรุ่นเยาว์ทั้งหมดในโลกนี้พวกเขาแทบจะเข้าชมการต่อสู้ครั้งนี้ทั้งสิ้น

คนรุ่นใหม่ต่อสู้เพื่ออำนาจสูงสุดและไม่มีใครรู้ว่าในอนาคตจะมีคนตายอีกกี่คน กระบวนการนี้ไม่มีถูกไม่มีผิด มีเพียงความโหดเหี้ยมและความโหดร้ายเท่านั้น

สุดท้ายจะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่กลายเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ ในขณะที่คนอื่นๆ จะต้องตายอยู่บนเส้นทางนี้

“การพิสูจน์เต๋ายังคงเปิดกว้างสำหรับทุกคน ขอเพียงมีโชควาสนาก็พอ ทุกคนล้วนมีชะตากรรมเป็นของตัวเอง ทุกยุคทุกสมัยใช่ว่าจะมีเฉพาะอัจฉริยะรุ่นเยาว์เท่านั้นที่บรรลุความสำเร็จได้”

“โอกาสนั้นมีอยู่เพียงชั่วครู่ เส้นทางสู่ความเป็นอมตะอาจเปิดขึ้นเมื่อใดก็ได้ ใครจะอยากพลาดโอกาสนี้”

ในความมืด ราชาบรรพชนหลายคนพูดคุยกันเล็กน้อยก่อนจะหายตัวไปอย่างเงียบๆ

หลังจากคืนนี้ ทั้งโลกต่างตกตะลึง อาณาจักรทั้งห้ากำลังเดือดพล่าน หยวนกู่ถูกตัดศีรษะ ร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณได้รับชัยชนะ

ข่าวนี้แพร่กระจายไปทั่วทุกมุมของดาวโบราณ การต่อสู้ครั้งนี้สั่นสะเทือนโลกทั้งใบอย่างแท้จริง

ในเวลาต่อมาวัดต้าเล่ยหยินแห่งเขาพระสุเมรุได้กล่าวว่าแม้กระทั่งพระพุทธเจ้าโต้วจ้านยังสอบถามข่าวเกี่ยวกับการต่อสู้ครั้งนี้ด้วยตนเอง

เมื่อฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้วพระพุทธเจ้าโต้วจ้านได้กล่าวว่า

“ในโลกนี้จะไม่มีใครขัดขวางการเติบโตขึ้นของร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณได้อีกต่อไป ในอนาคตไม่ว่าเขาจะบรรลุขอบเขตการเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่หรือไม่ เขาจะกลายเป็นผู้ปกครองสูงสุดของโลกใบนี้ไปอีกหมื่นปี!”

คำพูดนี้สร้างความโกลาหลครั้งใหญ่ไปทั่วโลก ผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้กันอย่างดุเดือด

การต่อสู้ครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อชนเผ่าโบราณทั้งหมดทำให้พวกเขาตระหนักอย่างแท้จริงว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์คู่ควรแก่การเป็นสิ่งมีชีวิตในระดับเดียวกันกับพวกเขาอย่างแท้จริง และชื่อของเย่ฟ่านแพร่กระจายไปยังทุกเผ่า

น้ำบนเตาในลานพนันหินเทียนซวนใน “เมืองศักดิ์สิทธิ์” เดือดแล้ว เย่ฟ่านใส่ใบชาแห่งการรู้แจ้งสามใบลงในหม้อ และจู่ๆ กลิ่นหอมก็อบอวลไปในอากาศ

“กลิ่นหอมมาก”

เย่ฟ่าน ผังป๋อ เอี๋ยนอี้ซี หลี่เทียน หลี่เหอสุ่ย กำลังดื่มชากันอย่างมีความสุข ในขณะที่ต้วนเต๋อไม่กล้าโผล่ศีรษะมาที่นี่ เพราะในอดีตเขาเคยขุดค้นหลุมศพของบรรพชนดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนซวน

“ตำหนักเซียน…”

เย่ฟ่านวางถ้วยชาลง และอดไม่ได้ที่จะไตร่ตรองเมื่อได้ยินเกี่ยวกับประสบการณ์ของผังป๋อ

ผังป๋อถูกล่าไม่มีหนทางใด เขาหนีเข้าไปใกล้ดินแดนต้องห้ามโบราณและเข้าไปในตำหนักเซียนโดยบังเอิญ เขามีโอกาสที่ดี ขณะเดียวกันก็ค้นพบร่องรอยที่เพื่อนเก่าทิ้งไว้

“มีโอกาสมากที่โจวอี้และคนอื่นๆ จะเข้าไปในตำหนักเซียนข้าเห็นเบาะแสบางอย่าง”

“หลินเจี๋ยอาจอยู่ทางใต้ ครั้งหนึ่งนางฝากข้อความไว้บนกำแพงให้ข้า ข้าอยากจะไปค้นหานางอีกสักครั้งไม่รู้ว่าตอนนี้นางเป็นอย่างไรบ้าง?” เย่ฟ่านมองไปทางทิศใต้

ร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณปรากฏตัวขึ้นในเมืองศักดิ์สิทธิ์ ดึงดูดความสนใจจากทุกทิศทุกทาง แม้แต่สิ่งมีชีวิตในเผ่าพันธุ์โบราณก็ยังหลีกเลี่ยงเส้นทางการเดินให้กับเขา

นับตั้งแต่สังหารหยวนกู่ชื่อเสียงของเย่ฟ่านก็โด่งดังไปไกล เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดของโลกร่วมกับเหล่าสิ่งมีชีวิตระดับปราชญ์ทั้งหมด

ในความเป็นจริงเมื่ออยู่กับผู้บ่มเพาะเผ่าพันธุ์มนุษย์เขาได้รับการดูแลและให้เกียรติไม่เป็นรองเซียนผู้ยิ่งใหญ่อย่างแม้แต่น้อย

ในวันนี้ผังป๋อประกาศในเมืองศักดิ์สิทธิ์เสียงดังก้อง “หัวใจของต้นชาแห่งการรู้แจ้งควรมอบออกมาได้แล้ว” คำพูดของเขาทำให้เผ่าพันธุ์โบราณทั้งหมดรู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก

ที่แท้เทียนหวงจื่อผู้ยิ่งใหญ่ก็เลือกที่จะบิดพริ้วคำพูดโดยการไม่จ่ายหนี้พนันของตัวเอง ซึ่งการกระทำของเขาทำให้เผ่าพันธุ์โบราณรู้สึกหน้าชาไปด้วย

ผังป๋อตะโกนเกือบทั้งวัน “ข้าเป็นนักพรตที่ยากจน ข้าไม่มีทางเชื่อว่าทายาทของจักรพรรดิอมตะผู้ยิ่งใหญ่จะเป็นคนหน้าด้านไม่ยอมจ่ายหนี้ได้ ดังนั้นหวังว่าสหายเทียนหวงจื่อจะไม่ให้ข้ารอนานเกินไป”

ในที่สุดเย่ฟ่านก็บอกว่าเขาไม่ต้องการรออีกต่อไป และต้องการไปที่ภาคใต้เพื่อค้นหาหวังเจี๋ยให้เร็วที่สุด

ในวันนี้พวกเขา “ข้ามความว่างเปล่า” และมาถึงภาคใต้ แต่หลังจากสอบถามเรื่องราวมากมายกลับไม่มีใครรู้ว่าหุบเขาแห่งความเป็นอมตะอยู่ที่ไหน (อวี้ฮั่วเซียนเหอ)

“ไปที่บ้านของหญิงสาวตาโตสหายของเจ้ากันเถอะ บ้านของนางอยู่ภาคใต้ไม่ใช่หรือ?” วานรศักดิ์สิทธิ์กล่าว

เห็นได้ชัดว่าเขากระตือรือร้นมาก อย่างไรก็ตามคำเรียกหาของเขาที่มีต่อจี้จื่อเยว่นั้นค่อนข้างล้าสมัยอย่างแท้จริง

“ใช่ ไปที่บ้านตระกูลจี้แล้วค่อยถามเรื่องนี้กัน”

หลี่เทียนพยักหน้า เขาก็ต้องการไปสัมผัสกับรัศมีอันยิ่งใหญ่ของจักรพรรดิโบราณเช่นกัน

เย่ฟ่าน ผังป๋อ วานรศักดิ์สิทธิ์ จักรพรรดิ์ดำ และคนอื่นๆ ข้ามความว่างเปล่าไปถึงดินแดนบรรพชนตระกูลจี้

เมื่อแจ้งต่อผู้ที่ทำหน้าที่ดูแลประตูภูเขา ในเวลาไม่นานประมุขตระกูลจี้ก็ได้นำยอดฝีมืออาวุโสหลายคนออกมาต้อนรับพวกเขาโดยตรง

สถานะของเย่ฟ่านในตอนนี้เขากลายเป็นหนึ่งในยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดของโลกแล้ว ในความเป็นจริงเขาแข็งแกร่งมากกว่าราชันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นผู้ปกครองสูงสุดของตระกูลจี้ด้วยซ้ำ

“เย่จื่อน้อย เจ้ามาที่นี่เพื่อพบข้าหรือเปล่า”

จี้จือเยว่ยืนยิ้มท่ามกลางฝูงชน ด้วยดวงตาที่สดใสของนางเปล่งประกายอย่างมีความสุข

สถานการณ์ตอนนี้เปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิง ในอดีตจี้จื่อเยว่และเย่ฟ่านจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าใกล้กันเกินไปและผู้คนของตระกูลจี้ไม่มีทางยอมรับเรื่องของพวกเขาได้

อย่างไรก็ตามตอนนี้ทุกคนกลับเฝ้าดูหนุ่มสาวทั้งสองคนอย่างยิ้มแย้ม

“แม่น้ำสายนี้เรียกว่าจี้สุ่ยหรือ ทำไมมันถึงเหมือนกับที่บันทึกไว้ในบันทึกประวัติศาสตร์โลกของเรา” ผังป๋อมองไปที่แม่น้ำซึ่งล้อมรอบตระกูลจี้และสอบถามเย่ฟ่านที่อยู่ข้างๆ

“ข้าถามจื่อเยว่แล้ว แต่นางไม่รู้” เย่ฟ่านกล่าว

“โอ้ เจ้ากำลังบอกว่ามีแม่น้ำจี้สุ่ยอยู่อีกฟากหนึ่งของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวด้วยหรือ? มันอาจเป็นสถานที่ลึกลับที่จักรพรรดิแห่งความว่างเปล่าของเราพักอาศัยอยู่หรือไม่?”

ราชันศักดิ์สิทธิ์ตระกูลจี้ได้ยินเสียงกระซิบของพวกเขาและอุทานออกมาด้วยความตกใจ

“อะไรนะ?”เย่ฟ่านและผังป๋อต่างกรีดร้อง

จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งความว่างเปล่าน่าจะเคยไปจีนโบราณ เย่ฟ่านและผังป๋อตกตะลึงกับความลับนี้และจ้องมองกัน พวกเขาเงียบไปนาน ในขณะนี้ ชื่อหนึ่งก็ผุดขึ้นในใจของพวกเขาที่

จักรพรรดิเหลือง!

อย่างไรก็ตาม หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง พวกเขาก็ส่ายหน้าและปฏิเสธ เวลาไม่สอดคล้องกันเท่าใด จักรพรรดิเหลืองเป็นคนโบราณเมื่อประมาณสี่พันปีก่อน และจักรพรรดิแห่งความว่างเปล่าสิ้นพระชนม์ไปหลายแสนปีแล้ว

…………..

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด