บทที่ 116 : ในเมื่อทำยังไงก็ไม่ตาย แล้วถ้ากลายเป็นเถ้าถ่านล่ะ?
บทที่ 116 : ในเมื่อทำยังไงก็ไม่ตาย แล้วถ้ากลายเป็นเถ้าถ่านล่ะ?
“ฉันจะจำหนัาแกไว้ ไม่ว่ายังไงครั้งหน้าฉันก็จะฆ่าแกให้ได้!”หลังจากที่ฮิดันพูดถ้อยคำที่ดูรุนแรงนั้นจบ เขาก็หันหลังจากไปโดยมีร่างสถิตย์ของหกหางอยู่ในมือ
“เพราะเราไม่มีแผนจะสู้ เช่นนั้นไว้คราวหน้าเจอกันใหม่” คาคุซึมองซาโตรุที่นิ่งไป จากนั้นก็หันหลังกลับและเดินจากไปอย่างรวดเร็วโดยมีร่างไร้วิญญาณทั้งสองอยู่ในวงแขนของเขา
เขารู้จักซาโตรุ และซาโตรุเองก็ไม่ได้มีความคิดจะโจมตีตั้งแต่แรก
หากเขาต้องการลงมือ เขาจะยังมีท่าทีที่สงบและพูดคุยกับศัตรูด้วยรอยยิ้มแบบนี้ได้ยังไง?
สิ่งสำคัญที่สุดคือ ซาโตรุไม่มีจิตสังหารใดๆ อยู่เลย
“บู้ม” ม่านสีแดงเข้มปกคลุมทั่วทั้งบริเวณ ปิดกั้นฮิดันและคาคุซึที่กำลังจะถอยออกไป
สีหน้าของคาคุซึและฮิดันเปลี่ยนไปทันที
คาคุซึหันไปมองซาโตรุ แล้วถามอย่างเคร่งขรึม “นายกำลังทำอะไร?”
“อย่าเข้าใจฉันผิดไป เหตุผลที่ฉันไม่ลงมือทันทีนั้นก็เพราะ….” ซาโตรุลุกขึ้นอย่างช้าๆ ล้วงมือในกระเป๋าด้วยท่าทีขี้เล่น และมองลงไปที่สมาชิกในองค์กรแสงอุษาที่อยู่ข้างล่าง
“นั่นก็เพราะ...พวกนายมันอ่อนแอยังไงล่ะ”
เขาไม่ได้มีความเย่อหยิ่งใดๆ แต่เขาคิดว่าฮิดันและคาคุซึทั้งคู่นั้นอ่อนแอจริงๆ
ความสามารถของฮิดันนั้นพิเศษมาก แต่ก็ยังอ่อนแอเกินไป
ส่วนคาคุสึ..มีหัวใจแค่ห้าดวงเท่านั้น
"อ่อนแองั้นเหรอ?"
สมาชิกจากแสงอุษาตกตะลึง พวกเขาล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งระดับคาเงะที่ทำให้โลกนินจาหวาดกลัว แต่ซาโตรุกลับบอกว่าพวกเขาอ่อนแองั้นเหรอ?
“ไอ้บัดซบ ยืนรอตรงนั้นและอย่าขยับเป็นเวลา 20 นาที รอให้ฉันได้สาปแช่งก่อนเถอะ”
“ฉันจะทำให้แกเละเป็นโจ๊ก ทุบแกให้เป็นชิ้นๆ แล้วทำให้มันแหลกคามือเอง!” ฮิดันถือเคียวสีแดงอยู่ในมือ กระโดดขึ้นและฟันไปที่คอของซาโตรุด้วยความโกรธ
เมื่อเห็นการโจมตีแบบไร้เหตุผลของฮิดัน คาคุซึก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
"ไอ้งี่เง่าเอ๊ย" เขาสบถ
องค์กรของแสงอุษาแข็งแกร่งมาก ทุกคนมีขีดจำกัดสายเลือดที่พิเศษมาก แต่นิสัยของแต่ล่ะคนนั้นล้วนเป็นปัญหาใหญ่
ทุกคนในองค์กรแสงอุษาเป็นตัวอันตราย
โดยเฉพาะฮิดันที่แข็งแกร่งมาก แต่ไอคิวของเขานั้นสวนทางกับความแข็งแกร่ง
“อย่าใช้คำพูดน่ารักแบบนั้นสิ มันทำให้ใจฉันสั่นได้เลยนะ” ซาโตรุยกนิ้วขึ้น และเคียวอันแหลมคมของฮิดันก็หยุดอยู่นิ่งตรงหน้านิ้วของเขา
“หมายความว่ายังไง? แกกำลังหัวเราะเยาะฉันเหรอ!” ฮิดันผงะเล็กน้อย ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยประหลาดใจ
ทำไมเคียวถึงหยุดนิ่งไป?
นี่คือขีดจำกัดทางสายเลือดของซาโตรุเหรอ?
รอบๆ ตัวของซาโตรุนั้นราวกับว่ามีกำแพงที่มองไม่เห็นปกคลุมอยู่
มันเป็นความรู้สึกที่แปลกมาก
“ถึงนายจะยังมีสมองเหลืออยู่นิดเดียว แต่ดูท่ายังคงสามารถได้ยินคำเยาะเย้ยได้ด้วยสินะ” ซาโตรุยิ้มเบาๆ แล้วพูดว่า "ฉันไม่ได้เป็นศัตรูกับนายหรอก ไม่เห็นจำเป็นต้องรุนแรงขนาดนั้นเลย"
"เรามาเล่นสนุกกันสักพักเถอะ"
"ฉันสาบานในนามของท่านจาชิน วันนี้ฉันจะฉีกหน้าขี้เล่นและยิ้มแย้มนั้นของแกออกเป็นชิ้นๆ !" ฮิดันดึงเคียวเหล็กแหลมคมออกมา และแทงมันเข้าไปในหัวของซาโตรุอย่างโหดเหี้ยม
เขาเกลียดคนที่มีรอยยิ้มแบบนี้ โดยเฉพาะอย่างซาโตรุที่คิดว่าตัวเองแข็งแกร่งเกินใคร และล้อเลียนศัตรูเช่นนี้!
“ปัง” แท่งเหล็กอันแหลมคมหยุดอยู่ตรงหน้าของซาโตรุอีกครั้ง
"คาถาไฟ · บั้นศีรษะ" คาคุซึประสานอินและพ่นเปลวไฟอุณหภูมิสูงออกจากปากของเขา
หลังจากที่เปลวไฟตกลงพื้น มันก็กลายเป็นทะเลเพลิงที่ยิ่งใหญ่ราวกับคลื่นขนาดใหญ่ กลืนกินซาโตรุและฮิดันไป
เขาไม่สนใจฮิดันอยู่แล้ว เพราะยังไงฮิดันก็ไม่ตาย
"ตู้ม" เปลวไฟลุกไหม้เผาทุกสิ่งในทั่วบริเวณจนกลายเป็นเถ้าถ่าน
คาถาไฟ · บั้นศีรษะ เป็นคาถาไฟระดับ B ที่ใช้หลักการเปลี่ยนพลังธาตุจักระ
มันจึงทรงพลังมาก
“มันเจ็บนะเว้ย ไอ้สารเลว!” ฮิดันกระโดดถอยหลัง ผิวหนังถูกเผาทั่วทั้งตัว เขากลิ้งออกมาลงบนพื้นด้วยความเจ็บปวด
ถึงจะไม่ตาย แต่มันก็ยังรู้สึกเจ็บอยู่ดี
ฮิดันจ้องไปที่คาคุซึด้วยความโกรธ และตะโกนว่า "คาคุสึ นายเองก็ต้องเย็บผิวฉันให้เรียบร้อยด้วย ไม่งั้นฉันจะสาปนายด้วย!"
“ระวังตัวไว้ เขายังมีชีวิตอยู่” คาคุซึจ้องเขม็ง ทันใดนั้นเขาก็มองเห็นร่างของซาโตรุในบริเวณที่เปลวเพลิงลุก
ซาโตรุไม่ได้รับอันตรายอะไรเลย เปลวไฟหยุดนิ่งอยู่รอบๆ ตัวของเขาและจากนั้นเปลวไฟก็พุ่งลงมาที่พื้น
“แค่ก แค่ก โอ้ย หายใจไม่ออก” ซาโตรุใช้มือพัดควันสีดำ ก่อนจะมองคาคุซึด้วยสีหน้ารังเกียจและพูดว่า “อย่าเล่นใหญ่สิ มันเป็นแค่การต่อสู้เล็กๆ แค่นี้เอง”
“ถ้าคิดอย่างนั้นก็ลองทนมันต่อไปสิ”
ซาโตรุชูสองนิ้วขึ้นมาและหัวเราะเบาๆ “ช่างเถอะ ยังไงการโจมตีของนายก็ไม่สามารถข้ามผ่านขอบเขตของอนันต์ได้”
การโจมตีทางกายภาพและธาตุนั้นไร้ความหมายในสายตาของเขาโดยสิ้นเชิง
เพราะกฏทางธรรมชาติ การโจมตีทั้งสองประเภทนี้จึงไม่มีทางข้ามเวลาที่เป็นอนันต์ได้
และแน่นอน
หากเป็นความเร็วแสงก็อีกเรื่องหนึ่ง
“ทำไมถึงพยายามทำตัวเหมือนตัวเองเก่งขนาดนั้นกัน? เทพเจ้าปีศาจจะสาปแช่งแกแน่!” ดวงตาของฮิดันเต็มไปด้วยความโกรธ เขาฟันเข้าไปซาโตรุด้วยเคียวแหลมคมอีกครั้ง
ไม่สำคัญหรอกว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บกี่ครั้ง แต่ซาโตรุต้องได้รับบาดเจ็บเพียงครั้งเดียวเท่านั้นก็พอ
หลั่งเลือดเพียงแค่หนึ่งหยด
ซาโตรุก็จะต้องตายแน่นอน!
“จะใช้คำสาปเหรอ? ฉันเชี่ยวชาญเรื่องคำสาปมากเลยนะ” ซาโตรุยกสองนิ้วขึ้น และสสารสีดำเข้มก็ปรากฏขึ้นระหว่างสองนิ้ว
“ไสยเวทหมุนทวนอากะ (แดง)”
สสารลอยออกไป ราวกับว่าจะฉีกท้องฟ้าและโลกออกจากกัน
“ตู้มมม” แรงกระแทกที่คล้ายซุปเปอร์โนวาขนาดเล็กได้พุ่งเข้าที่ตัวฮิดันโดยตรง หลังจากที่เขาโดนพลังนั้นจนลอยออกไปไกล เขาก็กระแทกเข้ากับกำแพงและตกลงบนพื้นอย่างแรง
ฮิดันได้รับบาดเจ็บสาหัสทั่วร่างกาย แขนของเขาหายไปและเขามีแผลฉกรรจ์บริเวณช่วงท้อง ทั้งยังมีเลือดพวยพุ่งออกมาไม่ขาดสาย
อาการบาดเจ็บสาหัสมาก ถ้าเป็นคนอื่นโดนขนาดนี้ก็คงจะตายไปแล้ว
แต่เขายังมีชีวิตอยู่
“พลังของซาโตรุนั้น... คล้ายกับเนตรสังสาระมาก”
เซนสึที่ซุ่มซ่อนอยู่ที่พื้น หลังจากเห็นกระบวนท่าที่ซาโตรุใช้ ก็เพ่งมองดูด้วยความประหลาด
พลังของซาโตรุเมื่อครู่คล้ายกับพลังของเนตรสังสาระมาก
ล้วนแต่เป็นวิชาที่มีแรงผลักเป็นแกนหลัก
เซนสึดำอาศัยอยู่บนโลกนินจามาเป็นเวลานาน เขาได้เห็นประวัติศาสตร์แห่งทั้งหมดของโลกนินจา และรู้จัดขีดจำกัดทางสายเลือดทั้งหมดในโลกนินจา
แต่เขาไม่เคยเห็นและไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับความสามารถพิเศษแบบซาโตรุมาก่อน
เป็นไปได้ไหมว่าความสามารถของซาโตรุนั้นจะเกี่ยวข้องกับแม่ของเขา ซึ่งก็คือคางูยะ มารดาแห่งจักระ?
หากเป็นเช่นนี้ ในอนาคตก็จะลำบากมากแล้ว
เซ็ตสึขาวไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเซ็ตสึดำกำลังคิดอะไรอยู่
เซ็ตสึขาวมองดูสถานการณ์การต่อสู้อย่างจริงจัง และหลังจากเห็นความแข็งแกร่งของซาโตรุ เขาก็อุทานอย่างตื่นเต้นว่า "ความแข็งแกร่งของซาโตรุ...น่าทึ่งมาก พิเศษยิ่งกว่าความสามารถของโอบิโตะด้วยซ้ำ”
"แค่ก แค่ก แค่ก" ฮิดันกระอักเลือดเต็มปาก มองไปทางคาคุซึด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยวและคำรามว่า "คาคุซึ ตัดแขนของไอ้พวกนั้นออกแล้วเย็บใส่ร่างฉันเดี๋ยวนี้ ฉันจะสาปแช่งไอ้ซาโรตุให้ได้! "
คาคุซึจ้องมองอย่างระแวดระวังไปที่ซาโตรุ และเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึกว่า “เจ้าพวกนี้มันจะมีค่าก็ต่อเมื่อมันอยู่ในสภาพสมบูรณ์ นายก็รู้ไม่ใช่เหรอ?”
ถอดแขนแล้วเย็บให้ฮิดัน?
แล้วเขาจะได้เงินเต็มจำนวนได้ยังไง?
หน้าของฮิดันกระตุก เขาคำรามด้วยความโกรธ"ไอ้สารเลว ฉันก็จะสาปแช่งแกให้ลงนรก!"
“อ้าว ยังไม่ตายเหรอ? ตลกจังแฮะ” ซาโตรุลูบคางและมองฮิดันด้วยสีหน้าเรียบเฉย
เขามองเห็นได้ผ่านตาทิพย์ ถึงความสามารถของฮิดัน
ความสามารถของฮิดันคือขีดจำกัดทางสายเลือด แม้จะว่ากันว่าเป็นขีดจำกัดทางสายเลือด….แต่เหมือนกับคำสาปมากกว่า
อาจกล่าวได้ว่าเป็นขีดจำกัดทางสายเลือดที่พิเศษที่สุดในโลกนินจา
“ฮึฮึ...ฉันน่ะไม่ตายหรอก” ฮิดันเลียเลือดจากมุมปากของเขา และพูดด้วยความโกรธ "แม้ว่าฉันจะแหลกออกเป็นชิ้นๆ และเหลือแค่หัว แต่ฉันก็จะลุกขึ้นมากัดคอแกให้ขาด!"
“โอ้ย น่ากลัวจริงๆ” ซาโตรุแกล้งทำเป็นกลัว
“แล้วถ้าหลังจากกลายเป็นขี้เถ้าแล้ว นายยังมีชีวิตอยู่ได้หรือเปล่าล่ะ? ฉันอยากรู้จัง” ซาโตรุอยากรู้จริงๆ เพราะในเมื่อฮิดันตายไม่ได้ แล้วการเผาเขาให้กลายเป็นเถ้าถ่านล่ะจะเป็นยังไง?
พูดกันตรงๆ เลยนะ
ฮิดันเป็นเพียงแค่คนโง่
ในโลกนินจานั้นมีคาถาท่าต่างๆ ที่ทรงพลังและน่าสะพรึงกลัวอีกมากมาย แต่มันก็มีผลข้างเคียงตามมาด้วย
แต่ฮิดันไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย ดังนั้นเขาจึงต่อสู้แบบประชิดตัวโดยไม่มีสมอง
ถึงแม้จะมีความสามารถมากมาย แต่เขากลับมีมันโดยไม่รู้ประโยชน์
“ซาโตรุ นายแข็งแกร่งมากและคู่ควรที่ฉันจะใช้กำลังทั้งหมดของฉันเพื่อจัดการนาย” คาคุซึโยนเสื้อคลุมออกไปด้านข้าง และสิ่งมีชีวิตหน้าตาบูดบึ้งก็ปรากฏตัวขึ้นข้างหลังเขา
"เป็นไง"
“นี่แหละคือพลังที่ฉันใช้ต่อสู้กับโฮคาเงะรุ่นที่หนึ่ง!” คาคุซึระเบิดหัวใจทั้งสี่ดวงโดยตั้งใจที่จะใช้ธาตุทั้งห้าในเวลาเดียวกัน เขาคิดจะใช้กำลังทั้งหมดของเขาเพื่อจัดการกับซาโตรุ
หลังจากการต่อสู้ในช่วงสั้นๆ เขาก็รู้ว่าความแข็งแกร่งของซาโตรุดูเหมือนจะแข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้มาก
แต่ก็เอาเถอะ เพราะคาคุซึผู้นี้ก็แข็งแกร่งกว่าหลายเท่า!
เพราะครั้งหนึ่งเขาเคยต่อสู้กับโฮคาเงะรุ่นที่ 1 มาแล้ว ไม่มีทางจะมาแพ้ซาโตรุได้