ตอนที่ 1431 หลี่ จื่อเสีย, เรื่องราวเมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อน..
ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้า
หลังจากตัวตนของ หลี่ จื่อเสีย ถูกเปิดเผยในงานประมูลมืด สิ่งแรกที่หลี่ จื่อเสีย นึกถึงคือ ..การป้องกันตัวเอง
ในงานประมูลมืด เทคโนโลยีที่เธอประมูลออกไปนั้นมีมูลค่าสูงถึงหนึ่งพันล้านยูโรให้แล้ว หากการประมูลไม่ถูกขัดจังหวะ ราคานี้อาจจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หนึ่งพันล้านยูโรนี้.. ซึ่งมันเพียงพอแล้วที่จะทําให้ผู้คนเสี่ยงเพื่อคิดทําเรื่องบ้าๆ อะไรก็ได้ และยิ่งไปกว่านั้นผู้คนในห้องประมูลต่างก็ไม่เปิดเผยตัวตนทั้งหมด และการที่บุคคลหนึ่งอยู่ในสถานะเช่นนี้ก็ย่อมที่จะปลดนิสัยตัวตนของตัวเองออกมา ..ได้ง่าย
หลี่ จื่อเสีย จึงยากมากที่จะรับประกันได้ว่าคนเหล่านี้จะไม่มีความคิดชั่วร้ายใดๆ
ดังนั้น เธอจึงรีบคิดหาทางป้องกันตัวเองจากสถานการณ์ในตอนนี้..
แต่ก่อนที่จะหนีไป หลี่ จื่อเสีย ต้องทําสิ่งหนึ่งก่อน นั่นคือการปกป้องเทคโนโลยีที่เธอพัฒนาขึ้น เธอยังหวังว่าจะใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อช่วยบริษัทของครอบครัว ทั้งข้อมูลของโปรแกรมนี้เธอได้เก็บมันเอาไว้ในชิปชิ้นหนึ่ง
หลี่ จื่อเสีย จึงใช้เวลาอยู่ครู่หนึ่งในการหาที่ซ่อน เพื่อซ่อนชิปนี้ไว้ แต่ก็พลาดเวลาที่ดีที่สุดในการหลบหนีไป
เมื่อเธอกลับไปที่อพาร์ตเมนต์ของเธอ เธอก็รีบเก็บข้าวของเพื่อที่จะหนี แต่ จู่ๆ ประตูบ้านของเธอก็มีเสียงเคาะ ..ดังขึ้น
“เปิดประตู!”
เสียงของคนแปลกหน้าดังขึ้น
หลี่ จื่อเสีย หยุดมือที่กำลังเก็บของเข้ากระเป๋า และจากนั้นเธอได้เดินเขย่งเท้าไปที่ประตู พยายามแอบฟังความเคลื่อนไหวจากข้างนอก
“บางทีเธออาจจะไม่อยู่บ้าน หรือไม่ก็อาจหนีไปแล้ว?” เสียงหนึ่งได้พูดขึ้น
“แค่เปิดประตูเข้าไปดูก็รู้แล้ว” อีกเสียงหนึ่งพูดขึ้น
ปัง!
จากนั้นเสียงปังดังสนั่นที่ประตู คนข้างนอกเริ่มพังประตูเข้ามา..
หลี่ จื่อเสีย ตกใจจนหน้าซีด และตระหนักได้ว่าคนร้ายกำลังจะเข้ามาในบ้านของเธอแล้ว
เธอรีบวิ่งไปด้านข้างทันที และหยิบโทรศัพท์ออกจากลิ้นชักซึ่งเธอมีอยู่สองเครื่องด้วยกัน เป็นเครื่องหนึ่งสำหรับไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน และอีกหนึ่งเป็นเครื่องที่เอาไว้ใช้สำรอง
สิ่งที่เธอถือก็คือโทรศัพท์เครื่องสํารอง เมื่อหยิบโทรศัพท์มาแล้ว หลี่ จื่อเซี่ย ก็รีบโทรออกไปหา หลิว อวี่อิง, จริงๆ แล้วหลังจากที่เธอออกจากบ้านของ หลิว อวี่อิง เธอก็ตัดสินใจที่จะไม่รบกวน หลิว อวี่อิง ..อีกต่อไป ดังนั้นเธอจึงแทบไม่ได้ติดต่อไปหาเธอเลย แต่ในเวลานี้เธอไม่สามารถหาคนที่สามารถช่วยเธอได้อีกแล้ว ..จริงๆ
ปลายสายรับสายอย่างรวดเร็ว
“จื่อเสีย?” หลิว อวี่อิง ถามอย่างสงสัย เธอไม่คาดคิดว่า หลี่ จื่อเสีย จะโทรมาหาเธอในเวลาดึกเช่นนี้ได้
หลี่ จื่อเสีย รีบพูดอย่างกระวนกระวายใจ : “อาจารย์หลิว มาช่วยฉันที ฉันอยู่ในอพาร์ทเมนต์ มีคนต้องการจะจับตัวฉัน!”
ปังปังปัง!
ด้านนอก พวกอันธพาลกําลังพังประตูเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง
หลิว อวี่อิง เองก็ได้ยิน เธอรีบพูดทันทีว่า : “อย่าได้ไปไหน ฉันจะรีบไปที่นั่นเดี๋ยวนี้ เธอเองพยายามหาที่ซ่อนตัวก่อน หากถ้าถูกจับได้ก็พยายามหาวิธีถ่วงเวลาเอาไว้…”
ปัง!
หลิว อวี่อิง พูดยังไม่ทันจบ ประตูก็ถูกเตะเปิดออกจากข้างนอกแล้ว
หลี่ จื่อเสีย รีบวางสายทันที และรีบไปหาที่หลบในห้องอย่างเร่งรีบ โดยใช้ช่วงก่อนที่พวกอันธพาลจะเข้ามา
ห้องของเธอไม่ได้ใหญ่นัก มีเพียงตู้หนึ่งตู้ และเตียงหนึ่งเตียง ไม่มีที่ให้ซ่อนจริงๆ หลี่ จื่อเสีย จึงได้แต่ซ่อนตัวอยู่ใต้เตียงเท่านั้น
เธอตระหนักดีว่า.. มันเป็นไปไม่ได้สำหรับเธอที่จะหาที่ซ่อนดีๆ ถ้าเธอถูกจับได้ เธอจำเป็นที่จะต้องทิ้งเบาะแสที่มีประโยชน์ไว้ให้กับ หลิว อวี่อิง เพื่อที่จะให้ หลิว อวี่อิง ตามหาเธอเจอได้ง่าย
ดังนั้นเธอจึงเปิดฟังก์ชั่นบันทึกเสียงในโทรศัพท์ทันทีหลังจากที่เธอเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ใต้เตียง
มีเสียงฝีเท้าดังมาจากในห้องโถงด้านนอก อันธพาลสองคนนั้น ..เข้ามาแล้ว
“ไม่มีใครอยู่บ้านจริงๆ นะเหรอ?” อันธพาลคนหนึ่ง กล่าวขึ้นมา
“ก็เห็นอยู่ว่าตอนนี้ โทรศัพท์ และคอมพิวเตอร์ของเธอยังอยู่ที่นี่ ทั้งในห้องตอนนี้มันก็ดูเหมือนว่าเธอ ..กําลังเก็บของ!” อันธพาลอีกคน ได้กล่าวขึ้น
เมื่อนั้นอันธพาลทั้งสองคนก็ได้มองหน้ากันอย่างเข้าใจ
อันธพาลคนหนึ่งได้หัวเราะ และพูดว่า : “สาวน้อย.. เรารู้ว่าคุณอยู่ในบ้าน ออกมาดีกว่า.. อีกอย่างเราไม่ได้มาเพื่อทําร้ายคุณหรอกนะ”
หลี่ จื่อเสีย ที่ซ่อนตัวอยู่ใต้เตียง เธอกลัวจนตัวสั่น มือข้างหนึ่งจับมือถือเอาไว้ อีกข้างก็นำมาปิดปากตัวเองเอาไว้แน่น เพื่อควบคุมตัวเองไม่ให้ส่งเสียงใดๆ ออกไป
“สาวน้อย.. เรามาที่นี่เพื่อขออะไรบางอย่างจากคุณเท่านั้น เอาของมาให้กับเรา แล้วเราจะออกไป และ.. มันจะไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับคุณ”
“แต่หากถ้าคุณไม่ให้ความร่วมมือ งั้นก็จะมาโทษพวกเราไม่ได้แล้ว!”
พวกเขาพูดไปพลาง ก็ค้นหาภายในห้องโถงไปพลาง มันจึงทำให้เกิดเสียงรื้อค้น จนเกิดเสียงกระแทก และเสียงของบางอย่างตกหล่นลงมาแตกบนพื้น
สุดท้ายพวกเขาก็ไม่พบสิ่งที่พวกเขาตามหาอยู่ และเมื่อไม่พบสิ่งที่ต้องการ ทั้งสองก็มองหน้ากัน และขยิบตบใส่กัน แล้วพากันเดินเข้าไปในห้องนอน
หลี่ จื่อเสีย กลั้นลมหายใจตัวเองไว้ ห้องนี้เมื่อมองเข้ามาก็เห็นแต่ความว่างเปล่า ความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะไม่รู้ว่าเธอซ่อนอยู่ใต้เตียงนั้นโดยทั่วไปแล้วเป็น ศูนย์.. แต่นั่นมันเป็นสิ่งที่เธอคิดเพียงเท่านั้น
มันเป็นดังที่คาด, หลังจากอันธพาลทั้งสองคน เข้ารื้อค้นภายในห้อง จนในที่สุดพวกเขาก็เข้าล้อมเตียงเอาไว้
ทันใดนั้น.. ใบหน้าของคนคนหนึ่งก็ปรากฏต่อหน้า หลี่ จื่อเสีย
อันธพาลคนหนึ่งได้หมอบลงมา เผยให้เห็นใบหน้าที่ขาวซีดทั้งยังดูหยาบคายของอีกฝ่าย จากนั้นคนๆ นี้ก็ได้หัวเราะ แล้วพูดว่า : “สาวน้อย.. ที่ใต้เตียงนี้นอนสบายดีไหม?”
“อ่า!”
หลี่ จื่อเสีย กรีดร้องออกมา และจิตใต้สํานึกสั่งให้เธอรีบหดถอยตัวกลับไปด้านหลัง
ทันใดนั้น เท้าข้างหนึ่งของเธอก็ถูกอีกคนคว้าจับเอาไว้จากอีกด้านหนึ่ง
“ออกมาเถอะ!” อันธพาลคนนั้นหัวเราะเสียงดัง โดยใช้แรงบังคับลากเธอออกมา
หลี่ จื่อเสีย ได้พยายามดิ้นรนอย่างสุดชีวิต เธอใช้เท้าอีกข้างหนึ่งกำจัดมืออีกฝ่ายออกไป และเตะไปที่น่องขาของอีกฝ่าย
อันธพาลคนนั้รู้สึกเจ็บปวด แล้วจึงรีบปล่อยมือออก
หลี่ จื่อเสีย จึงฉวยโอกาสนี้ปีนขึ้นมาจากใต้เตียง และพยายามวิ่งออกไปที่ห้องโถงด้านนอก เพื่อจะตรงไปที่ประตู และหลบหนีไป
“อีนี่ กล้าเตะฉันเหรอ!” อันธพาลคนนั้นโกรธมาก รีบไล่ตามเธอออกไปทันที
ส่วนอันธพาลอีกคนไม่ได้รีบร้อน เขาได้รีบก้มตัวลงไปค้นหาใต้เตียงก่อน เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรเลย จึงออกจากห้องนี้ไป
ในเวลานี้ อันธพาลที่ไล่ตามออกไปได้กอดรัดตัว หลี่ จื่อเสีย เอาไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง เขาเองไม่มีทางปล่อยให้ หลี่ จื่อเสีย หนีออกไปได้
ทาง หลี่ จื่อเสีย ก็ยังคงพยายามดิ้นรนอย่างสุดชีวิต
“ปล่อยนะ ไอ้นิโกรหัวล้าน!” หลี่ จื่อเสีย ด่าออกไป
อันธพาลที่อุ้มเธอไว้ เป็นชายผิวดำหัวล้าน
“สาวน้อยคนนี้ดุร้ายจริงๆ เฮ้.. มาช่วยทางนี้ที!” อันธพาลผิวดํา กล่าวขึ้น
อันธพาลผิวขาวจึงเดินเข้ามา และช่วยกด หลี่ จื่อเสีย เอาไว้กับพื้น
“ปล่อยฉัน พวกคุณ.. พวกคุณต้องการอะไรจากฉัน?” หลี่ จื่อเสีย ตะโกนถามออกไป
“โอ้.. ฉันไม่ได้พูดออกไปแล้วหรือไงว่า เรามาที่นี่.. ก็เพื่อขอบางสิ่งบางอย่างจากคุณ?” อันธพาลผิวขาว กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
หลี่ จื่อเสีย พูดไปว่า : “มันคืออะไร ฉันไม่รู้ว่าพวกคุณนั้นต้องการอะไร?”
อันธพาลผิวขาวนั้นได้หัวเราะ และพูดไปว่า : “เราต้องการคุณยังไง”
หลี่ จื่อเสีย พูดว่า : “พวกคุณเป็นใคร ทําไมถึงต้องการจับตัวฉัน และฉันเองก็ไม่เคยไปทำอะไรให้พวกคุณไม่พอใจ ใช่ไหม?”
อันธพาลผิวขาว พูดว่า : “เรามาจับคุณ แน่นอนว่าเพราะมีคนต้องการจะพบคุณ และทางที่ดีอย่าดิ้นรนจะดีกว่า แล้วตามพวกเรามาดีๆ อย่าให้พวกเราต้องใช้กำลัง ..บังคับ”
หลี่ จื่อเสีย กล่าวว่า : “พวกคุณสองคนมีรอยสักรูปพระจันทร์เสี้ยวที่คอ พวกคุณมาจากกองกําลังใต้ดิน? ใครเป็นคนสั่งให้พวกคุณมาลักพาตัวฉัน และฉันอยากที่จะคุยกับคนคนนี้!”
อันธพาลผิวขาว พูดว่า : “แล้ว.. คุณคิดว่าเราจะบอกกับคุณเหรอไง?”
หลี่ จื่อเสีย กล่าวว่า : “ไม่ว่าใครก็ตามที่ต้องการลักพาตัวฉัน ฉันแค่อยากมีชีวิตอยู่เท่านั้น ฉันสามารถสัญญาให้ได้ว่าจะให้ของสิ่งนั้นกับเขา แต่.. ของถูกฉันซ่อนเอาไว้”
อันธพาลผิวขาว ได้ร้องโอ้.. และกล่าวว่า : “ซ่อนไว้ ..ที่ไหน?”
หลี่ จื่อเสีย กล่าวว่า : “ในคอมพิวเตอร์ของฉัน ฉันสามารถพิสูจน์ให้พวกคุณเห็นได้ พวกคุณปล่อยฉันก่อน และเดี๋ยวฉันจะเอาให้พวกคุณ”
อันธพาลผิวขาว พูดพลางใช้มือไปบีบคางของเธอ : “สาวน้อย ฉันปล่อยเธอไปนั้น ..แน่นอนว่าได้ แต่เธออย่าได้คิด ..เล่นตลก”
หลี่ จื่อเสีย พูดว่า : “ฉันไม่คิดจะโกหกพวกคุณ”
อันธพาลผิวขาวปล่อยมือ แล้วขยิบตาให้อันธพาลผิวดํา ..อีกครั้ง
อันธพาลผิวดําจึงปล่อย หลี่ จื่อเสีย ในทันที
และภายใต้การเฝ้าระวังของทั้งสองคน หลี่ จื่อเสีย เดินไปที่แล็ปท็อปของเธอ เมื่อเธอมาถึง หลี่ จื่อเสีย ก็ทำท่าทีเป็นเปิดเครื่อง แต่ทันใดนั้นก็หยิบแล็ปท็อปที่ตั้งอยู่นั้นขึ้นมา และฟาดใส่อันธพาลผิวดําที่อยู่ด้านหลังของเธอ
อันธพาลทั้งสองตั้งตัวไม่ทัน อันธพาลผิวดําถูกอีกฝ่ายทุบก็ร้องเสียงดังออกมาด้วยความเจ็บปวด
หลี่ จื่อเสีย ถือโอกาสนี้รีบวิ่งเข้าไปในห้องนอน และพยายามปิดประตูห้อง
แต่อันธพาลผิวขาวได้กระโจนเข้ามา และพุ่งชนเพื่อจะพังประตู หลี่ จื่อเสีย เองที่ถูกชนจนล้มลงไปกับพื้น และแรงที่อีกฝ่ายกระแทกเข้ามาทำให้เธอไถลเข้าไปอยู่ใต้เตียง ..โดยไม่รู้ตัว
ก่อนที่เธอจะมุดออกไปจากใต้เตียงได้ เท้าของเธอก็ถูกจับโดยอันธพาลผิวขาวที่วิ่งเข้ามา และเธอก็ได้ถูกอีกฝ่ายลากออกไปอีกครั้ง
ในไม่ช้า หลี่ จื่อเสีย ก็ถูกอันธพาลสองคนจับกดตัวลงไป และใต้เตียงพวกเขาก็ได้พบว่า ..มันมีโทรศัพท์มือถือเพิ่มเข้ามา อีกเครื่องหนึ่ง